CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ระหว่างบรรทัดของความทรงจำ

    “ฉันเป็นคนแปลกๆ”
    “ฉันคิดว่าฉันเป็นคนแปลกๆ”
    “ฉันแปลกกว่าคนรอบข้าง”


    “ฉันเป็นคนแปลกๆ คิดเห็นแตกต่างจากชาวบ้านร้านช่องหลายระยะเหมือนกัน หลายสิ่งที่ผู้คนแห่แหนหลงใหล ฉันกลับรู้สึกเฝือไม่อยากใส่ใจ ความคิดของฉันวิ่งสวนทางคนละทิศกับมวลชน หลายครั้งทิศที่ฉันวิ่งไปหา สิ้นสุดลงบนทางเปล่าโล่ง ยืนโดดเดี่ยว กระชับวงแขนโอรอบตัวตนเอาไว้ มิให้เลือนละลาย

    มีบ่อยๆที่เฝ้าถามตัวเองว่า ผู้คนรอบข้างจะจดจำฉันไว้แบบไหนกัน ฉันหวังให้พวกเขาจดจำฉันได้บ้าง โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นไปในลักษณะใด ขอแค่การจดจำได้ เพียงพอแล้ว

    เพราะหากพวกเขาจำได้แล้วล่ะก็ ในบางครั้ง พวกเขาคงต้องนึกถึงฉันบ้าง ทุกๆคนย่อมอยากให้มีคนนึกถึงกันทั้งนั้น ฉันคิดว่าแม้แต่มนุษย์ที่ใจแข็งที่สุดในโลกก็ย่อมพ่ายแพ้ให้แก่ความเหงาอยู่ดี.......”


    “ผมไม่ชอบตรงคำขึ้นต้นของคุณเลย ที่คุณเขียนว่า “ฉันเป็นคนแปลกๆ” ทำไมคุณต้องประกาศตัวว่าเป็นคนแปลกประหลาดด้วยล่ะ คุณทำงานกับคณะละครสัตว์หรือ ถึงต้องเที่ยวร้องบอกคนอื่นให้มามุงดูความแปลก ผมไม่ชอบเลย มันเหมือนกับการโอ่อวดตนจนเกินงาม สมมติ ผมเริ่มต้นว่า “ผมเป็นคนรูปหล่อ” ถ้าคุณมาอ่านคงเกิดความหมั่นไส้เล็กๆเป็นแน่ ใช่ไหม”


    _ _ _ นั่นคือครั้งแรกที่เขาทักฉัน เป็นบทสนทนาแรกที่ได้คุยกัน _ _ _


    “ฉันไม่เห็นว่าประโยค “ฉันเป็นคนแปลกๆ” กับ “ผมเป็นคนรูปหล่อ” มันจะเหมือนกันตรงไหน ไม่มีอะไรเกี่ยวกันเลย”


    _ _ _ ผมเริ่มต้นทำความรู้จักกับเธอแบบนั้น มุทะลุ กระด้าง ไร้เหตุผล _ _ _


    “เอาเป็นว่า ผมไม่ชอบการป่าวประกาศ มันเหมือนเป็นการชวนเชื่อและตีกรอบให้ผู้อ่านคล้อยตามโดยไม่เว้นช่องให้ใช้ความคิดเห็นไตร่ตรอง”

    “คุณพูดเรื่อยเปื่อย วกวน ฉันว่าประโยคขึ้นต้นของฉันไม่ส่งผลอะไรขนาดนั้นหรอก คุณต่างหากที่ไปคิดแทนคนอื่น”



    .....โลกที่หยุดนิ่ง ความเศร้าคือน้ำตาที่จับตัวแข็ง นิ่งเย็น โอบล้อมอยู่รอบกาย ส่งผ่านไอหนาวให้ขดตัว สั่นยะเยือก สิ่งที่เห็นมีแต่ความลางเลือน ต่อให้จ้องมองสักเพียงไหน ก็ไม่มีวันชัดเจนขึ้นได้.....



    “ผมเป็นคนธรรมดา คุณอาจไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดของผม เพราะเป็นความคิดที่มาจากคนธรรมดาก็เป็นได้”
    “เหตุผลที่ฉันไม่เห็นด้วยกับคุณก็เพราะข้อคิดของคุณไม่เข้าท่าเอาซะเลย”

    “ผมคนธรรมดา”
    “คุณนั่นแหละ คนแปลกๆ จิตผิดปกติ”



    …..หยัดยืนเคียงข้างความอ้างว้าง ห่มกายด้วยความเศร้า เฝ้ารอฤดูกาลแห่งความหวังมาเยือน เพื่อจะถอดอาภรณ์อันหดหู่นี้ทิ้ง หากแต่วันนั้นยังมาไม่ถึง.....


    “เอาล่ะ ผมแค่อยากบอกว่า คุณไม่จำเป็นต้องกำกับบอกในสิ่งที่คุณเป็น ถ้าคุณเป็นคนใจดีคุณต้องป่าวประกาศด้วยหรือ ถ้าคุณเป็นคนโรแมนติคคุณต้องป่าวประกาศด้วยหรือ คุณไม่ต้องไปบอกใคร คุณแค่แสดงความรู้สึกออกมา คุณอาจจะซ่อนอารมณ์ในบางเวลาที่คุณต้องการ แต่เมื่อคุณไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะซ่อน คุณก็แค่แสดงออกแบบตรงไปตรงมา สิ่งที่คุณเป็น คนรอบข้างย่อมรับรู้ได้เอง”

    “ฉันว่าคุณเป็นคนช่างประชดประชัน ทำไมกันคุณโกรธแค้นชีวิตนักหรือไง ?”

    “ทำไมผมถึงชอบประชดประชันน่ะหรือ คงเพราะผมตามโลกทุกวันนี้ไม่ทัน หลายอย่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ผมวิ่งไล่ไม่ทัน ทำให้ผมต้องหันหลังกลับมาขลุกยึดกับเรื่องเก่าๆ ทั้งที่ผมนับถือศาสนาพุทธ แต่กลับทำตัวสวนทางกับหลักศาสนาโดยสิ้นเชิง”

    “คุณพูดเพ้อเจ้อ ไม่ปะติปะต่อกันเลย”

    “ผมเพียงอยากจะนึกถึงความทรงจำเก่าอย่างซื่อสัตย์ ท่ามกลางโลกอันแปรเปลี่ยน”



    …..เมื่อเหลียวหันไม่เจอใคร ทำได้เพียงก้มหน้ามองเงาตัวเองในน้ำ เริ่มต้นพูดคุย แต่เอ่ยเอื้อนได้ไม่กี่ประโยคก็กลับจมลงสู่ก้นบึ้งความเงียบ ทั้งที่อยากหนีหน้าเงาตัวเอง แต่กลับทำไม่ได้ ต้องก้มมองอยู่แบบนั้น ร้างไร้คำปราศัย ยินเพียงเสียงของความสงัดงัน.....



    “ ที่คุณท้วงฉันว่า ฉันไม่ควรแทนตัวเองด้วยประโยค ฉันเป็นคนแปลกๆ เพราะคุณเห็นว่าฉันไม่ได้แปลกไปกว่าคนทั่วไปนักใช่ไหม ?”

    “นั่นอยู่ที่ว่า คุณจะนิยามคำว่าแปลกอย่างไร แต่ถ้าให้ผมบอกล่ะก็ คุณเป็นผู้หญิงที่แปลกคนหนึ่ง”

    “คุณแน่ใจได้อย่างไร เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก”
    “ผมอยากจะตอบเชยๆว่า เหมือนกับผมเคยพบคุณมานานแสนนาน คุณอาจหลงลืม แต่ผมกลับฝังจำ”

    “คุณลืมวงเล็บท้ายประโยคว่า(ฮา)”
    “ผมลืมเพื่อให้คุณท้วง”



    .....เหตุการณ์ไม่เคลื่อนไหว มีเพียงเรื่องราวครั้งหลังหมุนวน นั่งนึกถึงความทรงจำเก่าอย่างสัตย์ซื่อ ท่ามกลางโลกภายนอกแปรผัน เธออยู่ที่นั่น ระหว่างบรรทัดของความทรงจำ.....



    “คุณบอกว่าชอบนั่งนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา แสดงว่าคุณช่างจดช่างจำ”
    “ถ้าเลือกได้ ผมไม่อยากจดจำเรื่องเลวร้าย”

    “ฉันคุยกับคุณครั้งนี้ไม่กี่ประโยค คุณจะจดจำฉันไว้แบบไหนกัน”

    “นั่นสินะ ผมจะจำคุณแบบไหนกันนะ ผมอยากจะจำครั้งแรกที่พบคุณไว้ แล้ววันหนึ่งผมจะถามคุณว่า ...เฮ้ คุณยังจำครั้งแรกที่เราพบกันได้ไหม ?...”

    “แล้วฉันก็จะตอบว่า ...ได้สิ ตอนเราคุยกันในครั้งนั้น ก็เพราะฉันเขียนคำว่า ฉันเป็นคนแปลกๆในย่อหน้าแรกของเรื่องสั้น แล้วคุณก็มาแหวใส่ฉันว่า ‘เออใช่ ผมมันคนธรรมดา ผมผิดตรงไหน ผมเพียงหมั่นไส้ พวกชอบป่าวประกาศคุณลักษณ์ของตัวเอง’ ”

    “ถูกเผงเลย ผมจะนึกถึงคุณแบบนี้”

    “คุณจะจดจำฉันถึงถึงเพียงนี้เชียวหรือ ? ฉันเป็นแค่ตัวหนังสือไร้ชีวิตเท่านั้น”

    “ผมต่างหากที่ไร้ชีวิต ไร้อารมณ์ เก็บกดและชอบประชดประชันทุกสิ่งบนโลกใบนี้”



    .....ถ่ายภาพของความทรงจำเก่า ซุกเก็บปิดซ่อน คำนึงถึงคราใด สิ่งที่ปรากฏฉาบด้วยความเศร้า น้ำตาเอ่อท้น เพียงกระพริบตาแผ่วเบา หยาดน้ำตาจะไหลซึม พาดผ่านอาบแก้ม.....



    “คุณเป็นคนแปลกๆ”
    “ผมเป็นคนธรรมดา”


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    จากคุณ : อุปกรณ์ประกอบฉาก - [ 21 ก.ย. 48 07:21:58 A:203.113.81.36 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป