ความคิดเห็นที่ 1 “เอ๊ะ พี่อี่นี่แปลกจริงเค้าชมกลายๆนะว่าหน้าเด็กยังไม่พอใจอีก” เป้าอดไม่ได้ที่จะหันมาแขวะฉัน นอกจากเรื่องหน้าตาที่ฉันไม่ค่อยภูมิใจแล้วยังมีเรื่องใบหน้าที่ดูเหมือนเด็กได้ถูกรวมเข้าไปด้วยอีก   จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้อยากมีหน้าตาที่ดูสมอายุนักหรอก   แต่เอาให้มันดูพอดี...พอดีจะดีกว่า   ไม่ใช่ให้ยัยผู้หญิงที่หน้าตาคุ้นๆนั่นมาเรียกว่าน้อง น้อง อยู่ได้ ตอนนี้พวกเรากลับมารวมกลุ่มในงานตอนเย็นอีกครั้ง   และครั้งนี้รติดูเหมือนจะยอมใส่กระโปรงรัดรูปสวยสีขาวงาช้างให้เจ้าสาวได้เห็นเป็นบุญตาจนได้ และเหมือนทุกครั้งที่เมื่อพวกเราเมื่อได้มารวมกลุ่มกันละก็   ไม่มีซะหรอกที่จะหยุดคุยได้   จนเป้าต้องสะกิดให้ทุกคนเงียบลงหน่อย   ก็เธอตั้งใจอยากฟังนักร้องคนโปรดที่เป็นเพื่อนสนิทของเจ้าบ่าว   และจะมาร้องเพลงอวยพรในงานแต่งงานนี้โดยเฉพาะ “มาแล้ว‘ภูชิต’ ” เป้ายื่นหน้ายื่นตามองหนุ่มร่างสูงที่กำลังก้าวขึ้นเวที   ซึ่งดูจะสร้างความขัดหูขัดตาแก่เจ้าโอ-แฟนมันยิ่งนัก เอ๊ะ หมอนั่นมันตาหมีที่ฉันแข่งกันจ้องตาที่หน้าห้องน้ำหญิงนี่   โอ้ว ฉันคงเรียนหนักมากเกินไปแน่เลยจำไม่ได้ว่าอีตาเนี่ยแจ้งเกิดมาเป็นนักร้องกับเขาเมื่อไหร่กัน แต่เมื่อฉันเอียงตัวไปถามเรื่องนี้กับอ้อยก็ได้คำตอบมาว่า “ภูชิตเขาออกอัลบั้มอยู่ซัก 3 ชุดได้มั้ง   แล้วถึงหยุดไปเข้าหุ้นมาทำค่ายเพลงกับคุณภาวินไง” อันคุณภาวินนี้คือเจ้าบ่าวที่ยืนยิ้มแก้มปริอยู่ข้างเจ้าสาวนั่นไงคะ “อ้อยว่าพี่อี่ต้องเคยได้ยินซิเพลงพวกนี้นะ ” ว่าแล้วเธอก็สาธยายชื่อเพลงที่ฟังแล้วคุ้นหู(อีกแล้ว) ฉันถึงบางอ้อ ก็เพลงเหล่านี้เป็นเพลงที่แม่ส่งไปให้ฉันฟังที่อังกฤษแล้วทั้งนั้น   แล้วฉันก็ชอบมากเสียด้วยแต่ทำไมฉันถึงจำไม่ได้ว่าร้องโดยเขานะ แต่เมื่อฉันได้ยินเสียงเพลง I  SAY  A  LITTLE  PRAYER*  ที่ตาหมีร้องคลอไปกับการดีดเปียโนด้วยนั้น   ทำให้ฉันรู้สึกซาบซึ้งไปกับเพลงอวยพรนั้นด้วย   เสียงทุ้ม   นุ่ม   ที่รับกับฝีมือเล่นเปียโนส่งให้เพลงดูโดดเด่นจนสามารถสะกดทุกคนให้อยู่ในพะวังและเคลิบเคล้มตามคนร้องที่เพียง I  SAY  A  LITTLE  PRAYER*  จริงๆ   แล้วฉันก็เจ็บใจตัวเองอีกครั้งที่อดปรบมือให้ตาหมีนั่นดังๆไม่ได้   ไม่รู้ว่าตัวเองอุปทานไปหรือเปล่า   เพราะฉันยังรู้สึกว่าสายตาดุนั่น   ที่ยังคงจับจ้องมองฉันอยู่ตลอดทั้งงาน   และเมื่อฉันหันกลับไปดู   ก็จะได้สบตากับตาหมีนั่นอยู่เรื่อย   ทำไมนะ แค่ฉันเดินชนหน้าห้องน้ำถึงกับต้องอาฆาตพยาบาทอะไรนักหนา “เฮ่อ ได้เห็นตัวจริงของภูชิตที่คุ้มจริงๆ” เป้ายังคงรำพันถึงนักร้องคนโปรด “แต่ตัวจริงนี่หล่อกว่าในทีวีจริงๆแฮะ” พี่มลอดเสริมกับสามีไม่ได้ ฉันจำรูปลักษณ์ตอนตาหมีเข้าวงการไม่ได้   แต่บอกได้ว่าตอนนี้ด้วยความสูงระดับ 6 ฟุตนั่นกับมาดกวนๆที่เข้ากันได้ดีกับเคราครึ้มๆที่ข้างแก้ม   ประกอบเข้ากับส่วนประกอบบนใบหน้าที่ทั้งคมเข้มตามแบบนักร้องที่จำเป็นต้องขายหน้าตาด้วยนั้น   คงทำให้ตาหมีนี่ไม่เพียงแต่เป็นนักร้องได้แต่ยังสามารถกระโดดเข้าไปเป็นพระเอกได้อย่างสบายๆ   แต่ต้องเป็นแนวพระเอกแบบเถื่อนๆเท่านั้น   ก็ตานั่นแสนจะโดดเด่นด้วยบุคลิกที่ดูไม่ยอมคนและดวงตาที่ทั้งคมทั้งดุด้วยนั่นแหละ “ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะ   แต่อ้อยรู้สึกว่าภูชิตมองมาทางนี้บ่อยจริง” อ้อยหันมากระซิบกับฉัน “มาบอกพี่ทำไม” ฉันกระซิบตอบ “ก็ดูเหมือนเขามองเฉพาะแต่กับพี่อี่นะซิ” อ้อยยังกระซิบไม่เลิก นั่นไงมองมาอีกแล้ว ต่อค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 48 09:31:51 แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 48 08:42:40 จากคุณ : โตขึ้นจะกลายเป็นยุง - [ 23 ก.ย. 48 08:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 To: รัตน์ <จำรัสรัตน์@nnnm.or.th>, แต้ว<เนริชา@nnnm.or.th >, ลูกน้ำ <สราวรรณ@nnnm.or.th> From: พี่อี่<ปรีญาภรณ์@nnnm.or.th> Subject: พี่นึกออกแล้ว!! ใช่...ในที่สุดพี่ก็นึกออกว่าทำไมตาหมีภูนั่นถึงมองพี่จัง   ไม่ใช่เพราะเขาอาฆาตที่พี่เดินชนที่หน้าห้องน้ำหรอก   และก็ไม่ใช่เพราะเขาโดนศรรักปักอกด้วย   แต่เป็นเพราะเขาเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายของพี่ต่างหาก   เฮ่อ...กว่าจะจำได้   มันติดอยู่ในใจไม่ลืมซักทีนี่   ถ้าไม่ใช่เพราะต้องถ่อไปเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้รติตั้งแต่เช้าละก็พี่คงคิดออกตั้งนานแล้ว   แต่นับว่าเขาความจำดีกว่าพี่มากเลยนะที่ยังอุตส่าห์จำกันได้   แล้วก็ไม่มาทักกันให้เป็นเรื่องเป็นราวเสีย...ปล่อยให้เราคิดว่าเป็นคนโรคจิตอยู่ได้ตั้งนาน . ต้องเป็นเพราะว่าพี่ไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยแหง   พี่ถึงไม่รู้ว่าเขาเป็นนักร้องแล้ว   แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนๆจะเคยส่งข่าวว่ามีเพื่อนห้องเดียวกันมาเป็นนักร้องอยู่คนหนึ่ง   อ๋อ...เป็นเขานี่เอง พี่อี่ ป.ล. รติเล่าถึงชะตากรรมอันแสนรันทดแล้วใช่มั้ย   ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีที่รติจะได้กันชนรถใหม่   หรือโชคร้ายที่ต้องมาลำบากพาหมอนั่นไปโรงพยาบาลกัน   ก็น้า ดันมาปวดท้องไส้ติ่งพร้อมกับขับรถชนเนี่ย   พี่นับถืออ่ะ ทำได้ไงหว่า ... เช้าวันใหม่ของสาวๆในเรื่องนี้มักเริ่มต้นขึ้นที่ทำงาน ก็วันนี้เป็นเช้าวันจันทร์นี่น่า   ดังนั้นปรีญาภรณ์นางเอกของเราจึงกำลังขะมักเขม้นทำงานและเขียนอีเมล์หาเพื่อนด้วยความง่วงงุนงง   รติรัตน์นางเอกของเราในตอนที่แล้วกำลังร่างอีเมล์บรรยายบุพเพอาละวาดที่เกิดขึ้นกับเธอให้เพื่อนได้อ่าน   หรือ อ้อยที่กำลังเมาท์แตกถึงเหตุการณ์ฉุกละหุกที่เกิดขึ้นกับรติรัตน์ให้เป้าและพี่มลฟังอย่างออกรสออกชาตินั้น แต่เช้าวันเดียวกันบนคอนโดหรูริมแม่น้ำกลับมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป “หนิงตื่นได้แล้ว...เช้าแล้ว” เขาหันไปปลุกหญิงสาวที่นอนหลับอย่างอ่อนระโหยโรยแรงด้วยกิจกรรมบนเตียงที่ต่อเนื่องยาวนานเกือบตลอดคืน   “ขอหนิงค้างอีกคืนไม่ได้เหรอ” เธอลืมตามาถามเขา   แต่ก็เพียงข้างเดียวเท่านั้นนะ “ไม่ได้...เราตกลงกับพี่แล้วไง” เขามองดูหญิงสาวที่นอนบนเตียง   แล้วต้องลอบถอนหายใจ   เมื่อตอนที่เธอคนนี้ถูกฉาบไว้ด้วยเครื่องสำอางก็ดูสวยดีหรอกแต่ก็แค่นั้น ความสวยนะมองไม่นานก็เบื่อ เหมือนที่กำลังเบื่อผู้หญิงที่กำลังเกาะเขาอยู่บนเตียงนี่ไง “โอ๊ยเหนื่อยจะตายยังใจร้ายไล่หนิงกลับอีก” คนพูดไม่สนใจแถมยังดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าเพื่อจบการสนทนาเสียอีก “ตามใจ!   งั้นพี่กลับก่อนแล้วกัน” เขาถอนใจด้วยความเบื่อหน่าย “ ถ้าหนิงจะกลับเมื่อไหร่ก็เอากุญแจไปคืนข้างล่างนะ   เค้าจะเก็บไว้ให้พี่เอง” จากนั้นร่างสูงเพรียวที่ประกอบด้วยกล้ามเนื้อ   จากการออกกำลังกายเป็นประจำรีบผลักผ้าห่มออกจากตัวอย่างรวดเร็ว   แล้วเขาจะได้ไปจากห้องบ้าๆนี่ซักที ภาวินพูดถูก...เขาชักแก่ตัวลงไปทุกทีแล้ว   ที่จะมาทำแบบนี้   ด้วยอายุ 32 ปีของเขาทำให้ต้องรู้จักละวางจากวงการนี้บ้าง   แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนวันเสาร์ละก็เขาคงไม่หวนคืนสู่ยุทธจักรนี้อีกหรอก ... ตอนนี้ พวกเรามารวมตัวกันอีกแล้ว   อาจจะขาดขาประจำที่หนีไปฮันนีมูน(ลูกน้ำ), ลาคลอด(รัตน์),    และไปเรียนต่อ(แต้ว)   แต่ไม่อาจหยุดยั้งความอยากรู้อยากเห็นของสมาชิกที่เหลือได้   เรื่องอะไรหรือ? ก็เรื่อง ที่ฉันเผลอยอมรับว่ารู้จักอีตาหมีภู   ซึ่งเป้ายอมไม่ได้ที่จะข้ามเรื่องนี้ไป คุณเธอจึงต้องการซักถามถึงรายละเอียดที่ฉัน(มักจำไม่ค่อยได้) “แล้วทำไมภูชิตถึงอายุมากกว่าพี่อี่ละ   ในเมื่อเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน?” เป้าเอ่ยปากถามเมื่อทราบว่านักร้องในดวงใจของตน   เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับพี่สาวคนสนิท “คงเป็นเพราะพี่เข้าเรียนไว   ในขณะที่ภูชิตเข้าเรียนช้ากว่าพี่นะ” ฉันอธิบายให้เป้าฟัง “แล้วเป้ารู้ได้ยังไงว่าภูชิตอายุมากกว่าอี่” พี่มลอดสงสัยไม่ได้ แล้วประวัตินักร้องคนโปรดของเป้าก็ถูกถ่ายทอดให้ทุกคนได้ฟัง   เริ่มจากการเข้าวงการจากแมวมองที่ชักชวนให้ภูชิตเข้ามาถ่ายแบบ   เมื่อครั้งที่เขากลับมาจากอเมริกาช่วงสั้นๆเพื่อมาซัมเมอร์   หลังจากนั้นก็เริ่มถูกชวนให้เข้ามาเทสเสียงเพื่อเป็นนักร้อง   ซึ่งอัลบั้มแรกก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามนั่นทำให้อัลบั้มที่สองและสามก็ตามออกมา   และยังไม่นับรวมชุดเฉพาะกิจต่างๆที่ออกมาเรียกเงินจากวัยรุ่นและวัยไม่รุ่นทั้งหลายได้เป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากภูชิตเลือกเรียนทางด้านดนตรีที่อเมริกา   ทำให้เขาได้มีโอกาสลองความสามารถในทางดนตรีกับอัลบั้มชุดต่อมาด้วย   เมื่อเริ่มคร่ำหวอดกับวงการที่อยู่มากว่า 10 ปี    ภูชิตถึงได้เริ่มขยับขยายมาลงทุนทำค่ายเพลงในเครือเดียวกับค่ายเพลงที่เขาออกเทปประจำอยู่   โดยร่วมลงหุ้นกับเพื่อนสนิทเขาที่ชื่อภาวิน   และผันตัวเองมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับนักร้องในสังกัด   ซึ่งก็โด่งดังและทำกำไรให้กับค่ายเทปกันเกือบทุกคน “อื้อหือ...เป้านี่เก่งไปเลย” อ้อยมองด้วยความนับถือ “ก็คนโปรดของฉันนี่...ตอนที่รู้ว่าเป็นเพื่อนพี่วินนะก็อยากจะร้องกรี๊ดดด   แล้วฝากพี่วินขอลายเซ็นให้ด้วยซ้ำ” “แล้วทำไมไม่ทำละ” ฉันอดถามต่อไม่ได้ “มันน่าเกลียด...ก็เค้าออกจากเบื้องหน้า   มาเป็นเบื้องหลังอย่างเต็มตัวแล้ว...จะมาขอลายเซ็นตอนนี้มันช้าๆยังไงไม่รู้” เป้าสารภาพอย่างอ่อยๆ นั่นทำให้ฉันย้อนนึกไปถึงหนุ่มน้อยผมซอยสั้น-นักร้องประจำโรงเรียน   ที่ชื่อภูชิต   อิศรวงศ์   จะว่าไปเขาเป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือด้วยกันแล้ว   นั่นรวมถึงฉัน ที่ในบ้างครั้งก็ยังแอบฝันถึงบ้างตามประสาสาววัยรุ่น   แต่เมื่อห่างกันออกไป   ด้วยความยุ่งยากในการเรียนอย่างหนัก   ทำให้ฉันเกือบลืมเรื่องของเขาเสียสนิท จะยกเว้นก็บางเรื่องที่ทำยังไงฉันก็ไม่สามารถลืมได้   และมันเริ่มจะย้อนกลับมาให้นึกถึงอีกครั้งเมื่อได้เจอหน้าเขา ... แต่ ดร. ปรีญาภรณ์ขา ไม่ใช่มีแต่คุณเท่านั้นนะที่กำลังคิดถึงตาหมีภูอยู่ฝ่ายเดียว เพราะภูชิตก็กำลังนอนก่ายหน้าผากคิดถึงดวงหน้ารูปหัวใจที่เขาไม่ยอมลืมซักทีแม้ว่าจะนานมากว่า 10 ปีแล้ว   ...หรือที่เขาไม่ยอมลืมเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่หักอกเขากันแน่?   ใช่เขายังจำได้ถึงความแจ่มใสร่าเริง   ประกายตาและการเป็นจุดศูนย์กลางของเพื่อนๆเสมอ   ก็เธอเป็นคนเก่งของห้อง   ของชั้นปีที่อาจารย์ภาคภูมิใจว่าจะต้องนำชื่อเสียงมาให้กับโรงเรียน แม้แต่เขาก็ยังอุตส่าห์หลงไปในวังวนของประกายตาใสนั่น   จนอดไม่ได้ที่จะสารภาพมันออกมาให้เธอได้รับรู้   แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมามีเพียงความเงียบ   และเสียงขอโทษจากเธอเท่านั้น   นั่นคือการอกหักครั้งแรกที่ลืมไม่ลงสำหรับเขา จากการไม่ได้ข่าวคราวมานาน   ทำให้เขาเกือบจะลืมผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว   ถ้าไม่ใช่เพราะงานแต่งงานของ ‘ภาวิน’ คงไม่มีโอกาสที่เส้นทางของเขาและเธอจะมาเจอกันได้เลย แต่เมื่อได้พบกับเธอเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน   นั่นต่างหากที่ทำให้เขาอดโกรธไม่ได้   ก็ท่าทางที่บ่งบอกว่าจำเขาได้นั้น   ไม่เกิดขึ้นบนหน้ารูปหัวใจนั่นเลย   และถึงแม้ว่าเขาจะแวะเวียนสายตามาหยุดที่เธอบ่อยแค่ไหน   เขาก็ยังคงว่างเปล่าในความทรงจำของเธออยู่ดี +++ จากคุณ : โตขึ้นจะกลายเป็นยุง - [ 23 ก.ย. 48 08:41:36 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มาเป็นคนแรกเลย สนุกดีค่ะจะรออ่านตอนต่อไปนะคะแล้วก็ขอส่งคำทักทายค่ะคุณ"โตขึ้นจะกลายเป็นยุง" เข้ามาอ่านงานของเหล่านักเขียนที่นี่มานานแล้วแต่ก็เสียมารยาทไม่ได้แสดงตัวเสียที คราวนี้ขอส่งเสียงทักทายและขอฝากตัวในที่นี้ด้วยค่ะ จากคุณ : lyra_lynx - [ 23 ก.ย. 48 09:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แหม เรียกพระเอกว่าอีตาหมีเลยนึกภาพออกแฮะ หุ หุ หล่อ ล่ำ ดำถึก ชัวร์ๆ ใช่ป่าวค๊า จากคุณ : รินจัง - [ 23 ก.ย. 48 09:13:48 A:203.151.46.234 X: TicketID:108130 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีค่ะ ข้างล่างคือเนื้อเพลง I SAY A LITTLE PRAYER ค่ะ   เป็นเพลงที่ลูกน้ำชอบจากการดูหนังเรื่อง MY  BEST   FRIEND   WEDDING   ตอนที่ครอบครัวเจ้าสาวร้องเพลงเพื่ออวยพรงานแต่งงานให้พระเอกไงค่ะ   มีหลายเวอร์ชั่นมาก   แต่เวอร์ชั่นนี้ลูกน้ำชอบที่สุด   และขอได้รับความขอบคุณจากน้องชายสุดที่รัก   ที่อุตส่าห์แนะนำเพลงนี้มาให้ ตอบกระทู้ค่ะ ตอบคุณ ชมสิจ๊ะ – ขอบคุณค่ะที่มาตามอ่าน ตอบคุณ หมูน้อยแก้มแดง – ไม่มีหรอกค่า แต่งยาก ตอบคุณ โอเลี้ยงแก่ๆ – ขอให้รักคนเขียนนานๆด้วยนะ ตอบคุณ scottie – ลูกน้ำกำลังกังวลในเรื่องนี้อยู่พอดี   จะลองปรับดูน่ะค่ะ ตอบคุณ :::อาราเร่::: - ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ ตอบคุณ มิรันตี – เฉลยแล้วค่า ตอบคุณ คุณพีทคุง (PeterPuck) – แง โหดจัง   ตอบคุณ ลูนาติก – ขอบคุณค่า ตอบคุณ nongwin – มาแล้วค่ะ ตอบคุณ ถังแป้งเด็กเล็ก - อย่ารุ่งริ่งแล้วกันค่ะ I SAY A LITTLE PRAYER (Dionne Warwick) The moment I wake up Before I put on my makeup I say a little prayer for you While combing my hair, now And wondering what dress to wear, now I say a little prayer for you Forever, forever, you'll stay in my heart And I will love you Forever, forever, we never will part Oh, how I'll love you Together, together, that's how it must be To live without you Would only be heartbreak for me I run for the bus, dear While riding I think of us, dear I say a little prayer for you At work, I just take time And all through my coffee break-time I say a little prayer for you Forever, forever, you'll stay in my heart And I will love you Forever, forever we never will part Oh, how I'll love you Together, together, that's how it must be To live without you Would only be heartbreak for me I say a little prayer for you (X2) Forever, forever, you'll stay in my heart And I will love you Forever, forever we never will part Oh, how I'll love you Together, together, that's how it must be To live without you Would only be heartbreak for me My darling, believe me For me there is no one But you .... จากคุณ : โตขึ้นจะกลายเป็นยุง - [ 23 ก.ย. 48 09:16:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 กรี๊ด...ลืมว่ายังไม่ได้ลงตอนเก่า   เผื่อจะมีแฟนใหม่เข้ามาอ่าน... และสวัสดีค่ะ คุณlyra_lynx กับคุณรินจัง นะคะ เฮ่อ...ช่วงนี้ป้ำเป๋อตลอด  ข้าน้อยขออภัยด้วยค่ะ สวัสดีความรัก (เรื่องของรติรัตน์)ตอนเก่าคะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3679679/W3679679.html http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3688760/W3688760.html http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3697453/W3697453.html http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3708381/W3708381.html http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3725432/W3725432.html http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3740456/W3740456.html http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3750307/W3750307.html แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 48 09:29:09 จากคุณ : โตขึ้นจะกลายเป็นยุง - [ 23 ก.ย. 48 09:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เงิ่มมม เรื่องใหม่มาแล้ววววว หนุกค่ะ ชอบๆๆๆ มาเร็วๆนะคะ จากคุณ : ต่าย (tai shi 66) - [ 23 ก.ย. 48 12:48:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 (อีเมล์เนี่ย ไม่น่าจะให้ใช้ภาษาไทยในที่อยู่ได้นะ) ตาหมีเนี่ย ดำด้วยปล่าว? ชอบตัวใหญ่ๆ :) จากคุณ : scottie - [ 23 ก.ย. 48 15:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องใหม่มาแล้ว มารออ่านต่อค่ะ จากคุณ : nongwin - [ 23 ก.ย. 48 16:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตาหมีแห้วตอนเด็ก มาคราวนี้ลองใหม่อาจไม่แห้วนา เหอๆ จากคุณ : ลูนาติก - [ 23 ก.ย. 48 20:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ความทรงจำสีจ๊างจาง 55+ ^ ^ จะรออ่านตอนต่อไปนะฮับ V >.< จากคุณ : มิรันตี - [ 23 ก.ย. 48 21:57:41 A:58.10.115.61 X: TicketID:104283 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ชอบภาคที่แล้วมากค่ะ มาช่วยลุ้นคนนี้ต่อ จากคุณ : nasa nasa - [ 24 ก.ย. 48 10:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตาหมีนี่แปลว่าตัวใหญ่ใช่เปล่า หรือว่าตาดำเป็นแพนด้าล่ะ ^ ^ จากคุณ : หมูน้อยแก้มแดง - [ 24 ก.ย. 48 20:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แห้วตอนเด็ก แต่ตอนโตคงไม่แห้ว เอิ้กก จากคุณ : โอเลี้ยงแก่ๆ - [ 25 ก.ย. 48 22:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณนะคะที่เอาตอนเก่ามาลง ตามไปอ่านจนครบแล้ว น่ารักดี แล้วก็จะตามลุ้นความรักของตาหมีกับนักเคมีสาว ต่อไปค่ะ จากคุณ : lyra_lynx - [ 26 ก.ย. 48 09:24:07 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบเพลงเดียวกันเลยค่ะ คุณโตขึ้นจะกลายเป็นยุง จากคุณ : noisy pitta (noisy pitta) - [ 28 ก.ย. 48 11:56:11 ]

ความคิดเห็นที่ 18 น่ารักจังค่ะ ชอบเวลาเรียก ตาหมี อิอิ นางเอกนี่ ไม่ค่อยสนใจใครจริง ๆ จากคุณ : coolning - [ 30 ก.ย. 48 06:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 19 จากคุณ : คุณพีทคุง (PeterPuck) - [ 1 ต.ค. 48 10:03:01 ]