ความคิดเห็นที่ 1 จำได้ว่าฉันได้ดู Before Sunrise ตั้งแต่วัยที่ยังไม่รู้จักความรัก (ซึ่งอาจจะเป็นคนละเรื่องกับที่จริงๆก็อยากจะรู้จัก แฮ่ ^^ แก่แดดตั้งแต่เด็กว่างั้นเถอะนะคะ) แต่กระนั้นคำสัญญาระหว่างสองหนุ่มสาวในเรื่อง ก็ยังประทับอยู่ในความทรงจำ อีกหกเดือน เราจะกลับมาพบกัน.. Before Sunrise จบเรื่องของคนทั้งคู่ไว้เพียงแค่นั้น ให้เราคนดูได้นึกต่อเอาเองในจินตนาการ ซึ่งก็แน่ล่ะว่า สำหรับฉัน-ผู้นิยมบริโภคความหวาน- ทั้งคู่จะได้กลับมาเจอกันอีกครั้งตามคำสัญญา ซึ่งทั้งคู่ก็ได้กลับมาเจอกันจริงๆ..แต่ในอีกเก้าปีต่อมา ในหนังภาคต่อที่มีชื่อว่า Before Sunset แม้หนังจะเต็มไปด้วยพลังจากบทสนทนาที่สมจริง และการแสดงของตัวละครเอก (พ่อหนุ่มอีธาน ^^) แต่สิ่งที่ติดอยู่ในใจฉันตลอดเรื่อง กลับเป็นช่วงเวลาเก้าปีก่อนหน้านั้น ..ช่องว่างของความทรงจำ ถนนบางสาย..ที่ไม่มีปลายทาง หลังจากหกเดือนผ่านไป เมื่ออีกคนกลับมาตามสัญญา แต่อีกคนกลับไม่ได้รออยู่ที่นั่น ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ ไม่มีที่อยู่ ไม่รู้แม้แต่นามสกุลของอีกฝ่าย ไม่สามารถหาทางติดต่อกันได้ตลอดกาล.. ต่างคนจะผ่านวันเวลาที่เหลือต่อไปอย่างไร..นับจากวันนั้น จะยังคิดถึง หรือจะพยายามลืมกัน จะมองหาอีกคนในทุกที่ที่ไป เพื่อหวังว่าโชคชะตาจะทำให้ได้กลับมาพบอีกฝ่าย อีกสักครั้ง.. จะหวังอยู่นานไหม จึงจะหมดหวัง หนังบีบหัวใจคนดูเล่นๆ ด้วยการทำให้รู้ว่ามีหลายครั้งเหลือเกิน ที่โชคชะตานำพาทั้งคู่ให้ได้กลับมาเดินอยู่บนถนนสายเดียวกัน ใกล้..แต่ก็ไม่อาจจะได้พบกันเลยสักครั้ง ต่างฝ่ายต่างมีชีวิตติดอยู่ในความทรงจำ พร้อมกับคำถาม จะเป็นอย่างไรถ้า.. เรื่องราวเหล่านี้ถูกเล่าผ่านทางบทสนทนา ที่ทั้งคู่ต่างพูดคุย คุย คุย และคุยกัน ให้สมกับที่อยากจะได้เจอกันอีกครั้ง ..ทุกคืนทุกวัน ตลอดเก้าปีที่ผ่านมา ฉันชอบการแสดงของคนทั้งคู่ ที่ผ่านท่าทาง น้ำเสียง และสายตา มันดูคุ้นเคยอยู่ในความเหินห่าง ให้ความรู้สึกถึงช่องว่างที่ยิ่งทำให้ชิดใกล้ เราไม่รู้ ไม่เคยรู้ว่าแท้จริงแล้ว โชคชะตานำพาคนคนหนึ่งมาให้พบคนอีกคนหนึ่งเพื่ออะไร และบางทีโชคชะตายังเล่นตลก ให้ใครบางคนพบคนที่ใช่ ในเวลาที่ไม่ใช่ ! ถนนบางสาย ตัดผ่านกัน เพียงเพื่อที่จะผ่านไป คำถามว่า 'จะเป็นอย่างไรถ้า'นั้น ไม่มีใครเคยให้คำตอบที่แท้จริงได้ ไม่มีใคร..ไม่มี ตะวันตกดินในตอนเย็นและจะขึ้นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ชีวิตย่อมดำเนินต่อไป :) Sunset..and Sunrise and life must  Go on จากคุณ : เ จ้ า ห ญิ งน้ อ ย - [ 26 ก.ย. 48 23:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 what if  you had a second chance with the one who got away ? จากคุณ : เ จ้ า ห ญิ งน้ อ ย - [ 26 ก.ย. 48 23:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากการเฝ้ารออาทิตย์ขึ้นอย่างใจจ่อ สู่การเหม่อมองอาทิตย์ตกอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เพราะรู้ว่ามันต้องไป ใน Sunrise หนังแสดงภาพ ความรักของวัยรุ่น(รักแบบอุดมคติเสียด้วย) วัยรุ่น หนุ่มสาวเปี่ยมพลัง เริ่มก่อร่างความเป็นตัวของตัวเอง การลองผิดลองถูก สะสมความคิดความเชื่อ เหมือนคลำทางในความมืดรอเวลาเช้ามาเยือนหวังว่าเมื่อเวลาแบบนั้นมาถึง สายตาเราคงแจ่มชัดการมองเห็นโลกใบนี้มากขึ้น แล้วเวลาแบบนั้นก็มาถึงใน Sunset ตัวเอกไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในตอนกลางคืนอีก แต่พบเจอในเวลากลางวัน กลางวันทุกสิ่งย่อมเห็นชัดเจน มองเห็นโลกในแบบที่โลกนี้เป็น พวกเขาโตขึ้น ต่างคนต่างมีชีวิตในแบบที่ตัวเองเลือก การเจอกันในตอนกลางวันเห็นตัวตนของกันและกันชัดขึ้น ไม่จำเป็นต้องรอเวลาเช้าให้มาถึง(เพื่อจะเห็นหน้ากันชัดๆแบบครั้งก่อน) มีเพียงอาทิตย์ตกเท่านั้นที่จะมาถึง อาทิตย์ตกไปก็ขึ้นใหม่ได้ มันเป็นแบบนั้น ก็เราโตๆกันแล้ว ขออภัยหากเขียนเพ้อเจ้อ เรื่องBefor sunset โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบเท่าไร ทั้งที่น่าจะชอบ หนังเขาก็โอเชเลย บางที2-3ปี ข้างหน้าหากผมกลับมาดูมันใหม่อาจชอบมากขึ้นก็เป็นได้ จากคุณ : อุปกรณ์ประกอบฉาก - [ 27 ก.ย. 48 00:53:12 A:203.113.81.36 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ชวนให้อยากดู แต่ไม่ดูดีกว่า เดี๋ยวเศร้า อยากดูหนังใหม่ของโจดีจัง จากคุณ : scottie - [ 27 ก.ย. 48 13:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 .^ _ _ __ _ _ __ _ _ _ _ __ _ ^ ทำไมน้อ พี่พิมถึงชอบเอาหนังโปรดของเรามาเขียนทุ๊กทีสิน่า แล้วมันก็อดไม่ได้ที่ต้องแวะเข้ามา ได้ดู before sunset เมื่อเดือนที่แล้วนี่เองค่ะ ดูกี่รอบก็ยังยิ้ม ที่ยิ้มไม่ใช่เพราะเขาคุยกันนะ แต่...ท่าทางของคนทั้งสอง น่ารักอ่ะ เหมือนเพื่อนเก่า ที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่คราวนี้ชักไม่อยากเป็นเพื่อนอีก อิอิ ชอบประโยคท้ายเรื่อง ที่บอกว่า "คุณกำลังจะตกเครื่องนะ พ่อหนุ่ม" แล้วพระเอกก็ยังนั่งเฉยอย่างอารมณ์ดี แล้วก็ตอบ "ผมรู้" ..... แค่นั้นล่ะค่ะ เล่นเอาหนูกรี๊ดลั่นเลย เพราะคำว่า the end ฮึ้ยยยยยยย ... (วัยรุ่นเซ็ง) จากคุณ : เอ่อ่อ่ะนะคะ - [ 27 ก.ย. 48 13:23:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณอุปกรณ์ประกอบฉาก :) ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า พิมจำเรื่อง Before Sunrise แทบไม่ได้แล้วล่ะค่ะ อย่างที่เขียนบอกเอาไว้ ว่าจำได้แค่ในส่วนของคำสัญญา กับความรู้สึกที่ว่า หนังเรื่องนี้ออกแนวรักแหววหวาน จึงเห็นด้วยกับคุณในการเปรียบเทียบหนังสองเรื่องนี้ในแง่ของความแตกต่าง เมื่อพวกเขาโตขึ้น มองโลกผ่านสายตาของความเป็นจริง ในแสงแห่งกลางวัน แม้ในใจลึกๆจะยังโหยหาวันเวลาของวัยเยาว์ ที่เปี่ยมไปด้วยความฝัน แต่พวกเขาก็รับมือกับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ด้วยการพยายามมองให้เห็นความเป็นจริงของชีวิต ซึ่งนี่แหละค่ะที่ทำให้พิมชอบหนังเรื่องนี้จริงๆ ชอบแม้แต่ตอนจบที่เหมือนอยู่ๆหนังก็ถูกตัดทิ้ง ..ก็ใครเลยจะสร้างต่อไปจนจบได้ ในเมื่อชีวิต ย่อมดำเนินต่อไป พี่รักษ์ :) ดูเถอะค่า รับรองว่าไม่เศร้า ก็จบอย่างทุกคนเหงาฯนั่นไง ^^V น้องกานต์ จริงๆพี่ชอบบทสนทนาในเรื่องนี้มากๆ ไม่มีคำรัก แต่บ่งบอกความรู้สึกได้มากกว่าคำนั้น มันแสดงให้เห็นถึงคนสองคนที่อาจมีทัศนคติเหมือนหรือต่างกัน แต่มีความลงตัวอยู่ในนั้น ที่บอกเราว่าพวกเขาเข้ากันได้ ยากนะคะที่จะเขียนบทสนทนาในลักษณะนี้ ให้เต็มไปด้วยความสมจริงและลื่นไหล และก็อาจจะใช่ ที่มันรวมไปถึงการแสดงออกของสายตา ท่าทาง ที่บอกว่าเขาคิดถึง เขาผูกพันกัน มากแค่ไหน ที่สำคัญที่สุดเลยนะ ..ช่วยเก็บเป็นความลับอย่าให้คนข้างๆตัวพี่รู้ล่ะ พ่อหนุ่มอีธานนั่นล่ะที่น่ารักเหลือใจ ^^ แค่มองเฉยๆอิฉันก็รู้สึกเหมือนมีแผ่นดินไหว สักหกเจ็ดริคเตอร์ในหัวใจแล้ว ^^V จากคุณ : เ จ้ า ห ญิ งน้ อ ย - [ 27 ก.ย. 48 16:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดูเรื่องแรกเมื่อนานมาแล้ว จำอะไรไม่ค่อยได้เหมือนกัน จำได้แต่ว่า ตอนนั้นยังละอ่อนมาก มองโลกเป็นสีขาว และรู้สึกว่า แง่ม... ไม่น่า "นอน" กันเลย ไม่งั้นจะรู้สึกดีกว่านี้ ฮ่าๆๆ เรื่องใหม่ยังไม่ได้ดูครับ แต่ผมเป็นคนดูหนังช้าอยู่แล้ว ยังไงคงได้ดูซักวัน แวะมาทักคุณหมอเพื่อนเก่า บายดีนะครับ จากคุณ : คุณพีทคุง (PeterPuck) - [ 27 ก.ย. 48 19:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 น่าดูจังค่ะ ชอบเรื่องที่มีบทสนทนา ที่มีความพริ้วไหวและสื่อความได้อย่างลึกซึ้ง อืมม์จดๆ กันลืมอ่ะค่ะ จากคุณ : วรานนท์ - [ 28 ก.ย. 48 17:29:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ้าว พิมกลายมาเป็นคนแนะนำหนังซะแล้ว เหอๆ จากคุณ : ลูนาติก - [ 28 ก.ย. 48 19:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ปีนี้ยังไม่ได้ดูหนังอะไรเลยค่ะ จากคุณ : รสา รสา - [ 28 ก.ย. 48 20:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ คงจะหาดูเอาทีหลัง จากคุณ : coolning - [ 30 ก.ย. 48 07:49:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ยังไม่ได้ดูค่ะ...ไปหามาดูดีกว่า จากคุณ : รวยระรินกลิ่นชา - [ 20 ต.ค. 48 17:58:21 ]