หลังจากที่ฉันทราบข่าวการตายของแม่จากอาจารย์ประจำชั้น ฉันก็ช็อกด้วยความตกใจสุดขีด และนอนซมไม่ได้สติอยู่ที่บ้านหลายวัน ไม่รู้ว่าฉันไม่สบายอย่างนี้มากี่วันแล้ว แต่เพื่อนๆที่มาเยี่ยมบอกกับฉันว่าฉันขาดโรงเรียนไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ และพวกมันก็มาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับนำขนมของกินที่ฉันชอบกับการบ้านกองเท่าภูเขามาให้
ฉันแปลกใจที่ทุกสิ่งรอบๆตัวฉันถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ ทั้งๆที่ฉันจำได้ว่าก่อนที่ฉันจะล้มป่วยนั้นมันรกจะตาย ฉันมองหน้าเพื่อนๆฉันทีละคน จะว่าพวกมันเป็นคนทำก็ใช่ที่ ขณะที่ความคิดของฉันกำลังจะไปไกล ประตูห้องก็เปิดออกแล้วคนๆหนึ่งก็ก้าวเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้ม
คนๆนั้นเดินเข้ามาใกล้เตียงที่ฉันนอนอยู่ รอยยิ้มที่เขาส่งมาทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ผู้ชายหน้าตาแบบนี้ ร้อยยิ้มแบบนี้ฉันเคยเห็นมาจากที่ไหนนะ คุ้นมากเหลือเกินเหมือนเคยเห็นมานานแสนนานแล้ว
ฉันกำลังใช้สมองส่วนความทรงจำอย่างหนัก พลันภาพผู้ชายคนที่เคยไกวชิงช้าให้ฉันในสนามเด็กเล่นก็ผุดขึ้นมาในมโนความคิด ฉันดีใจแทบกระโดดออกจากเตียง แขนขาที่เคยอ่อนปวกเปียกเมื่อครู่นี้ก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที
พ่อ! ฉันเรียกคนตรงหน้าดังๆจนเกือบตะโกนด้วยความลิงโลด เมื่อพ่อนั่งลงบนเตียงข้างๆ ฉันก็โผเข้ากอดพ่อแน่น
หนูคิดถึงพ่อจัง...พ่อจ๋า กลับมาอยู่กับหนูกับแม่นะ เรามาอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก เป็นครอบครัวที่มีความสุขนะคะ ฉันพูดไปน้ำตามาจากไหนไม่รู้เริ่มไหลนองหน้า ตลอดสิบปีที่ผ่านมาฉันเฝ้ารอวันนี้มาตลอด วันที่พ่อกลับมาเพื่ออยู่พร้อมหน้าเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์
ครอบครัวที่สมบูรณ์หรือ...มันจะสมบูรณ์ได้อย่างไรเมื่อแม่ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่มีแม่อยู่อีกแล้วฉันก็ปล่อยโฮเสียงดังกับอกกว้างของพ่ออย่างไม่อายเจ้าพวกเพื่อนซี้ที่ยืนกันอยู่ล้อมรอบเตียง พ่อกอดฉันแน่น ลูบหัวฉันอย่างนุ่มนวลเพื่อปลอบใจ อ้อมกอดอบอุ่นที่ห่างหายไปนานแสนนานของพ่อกลับคืนสู่ฉันอีกครั้ง
ไม่เป็นไรนะลูก...ถึงแม่ไม่อยู่แล้วพ่อจะดูแลหนูอย่างดี จะไม่หนีหนูไปไหนอีกแล้ว สิบปีแล้วสินะที่ฉันไมได้ยินเสียงของพ่อ เสียงของพ่อไม่เปลี่ยนไปเลยแม้ว่าผมบนศีรษะของพ่อจะเริ่มเปลี่ยนสีและริ้วรอยของกาลเวลาที่ผิดไปบ้างจากอดีต สัมผัสและเสียงอันอบอุ่นของพ่อช่วยฉุดดึงฉันจากอารมณ์เศร้าโศกที่สูญเสียแม่ไป แม้จะไม่มีแม่แล้วแต่ฉันก็ได้พ่อกลับคืนมา พ่อที่ฉันได้แต่เฝ้าคิดถึงกลับมาหาฉันแล้วและจะอยู่ดูแลฉันตลอดไป
ฉันนึกย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาสิบปีที่ผ่านมา สิบปีที่ไม่มีพ่อ แม่เลี้ยงดูฉันอย่างเข้มงวดจนฉันไถลออกนอกลู่นอกทางไม่ได้ เมื่อเริ่มเรียนชั้นมัธยม แม่ส่งฉันเข้าโรงเรียนสตรีชื่อดังแห่งหนึ่ง ไปรับไปส่งฉันทุกวันไม่ให้ฉันได้มีโอกาสกลับบ้านเอง วันหยุดเสาร์อาทิตย์ฉันก็ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ออกไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนเหมือนคนอื่นๆเขา แม่สั่งห้ามฉันทำทุกอย่างที่ไม่ได้อยู่ในสายตาแม่ ที่สำคัญ แม่ไม่ยอมให้ฉันคบเพื่อนผู้ชาย
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องสั่งห้ามฉันในเรื่องที่ไม่เข้าท่าอย่างนี้ด้วย ในเมื่อผู้ชายและผู้หญิงต่างก็ต้องอยู่ร่วมกันในสังคม แม่ให้เหตุผลโง่ๆกับฉันว่า ฉันเรียนโรงเรียนหญิงล้วนไม่เห็นจำเป็นต้องมีเพื่อนผู้ชาย เอากับแม่สิ แม่ต้องประสาทไปแล้วแน่ๆ
ถึงฉันจะไม่เห็นด้วยกับแม่ขั้นรุนแรง แต่ฉันก็ได้แต่เก็บความดื้อรั้นของตัวเองเอาไว้ในใจ ฉันทำเป็นเชื่อฟังแม่ทั้งๆที่ข้างในอยากต่อต้านใจแทบขาด ฉันไม่อยากจะเถียงหรือขัดแย้งกับแม่ เพราะครั้งหนึ่งเราเคยโต้เถียงกันอย่างรุนแรง แม่ร้องไห้หนักอย่างกับผิดหวังเสียใจที่ฉันทำผิดร้ายแรง ฉันรู้สึกผิดที่ทำให้แม่ต้องร้องไห้และเลิกเถียงกับแม่มาตั้งแต่บัดนั้น
เมื่อปีที่แล้วนี้เองตอนฉันอยู่ม.5 แม่ก็จับได้ว่าฉันมีแฟน แม่โกรธฉันมาก ฉันไม่เคยเห็นแม่โกรธแล้วมีอารมณ์รุนแรงอย่างนี้มาก่อน แม่อาละวาดเสียงดังใส่ฉัน พร่ำด่าว่าฉันต่างๆนานาว่าฉันเป็นลูกอกตัญญูไม่เชื่อฟังแม่บ้างล่ะ หาว่าฉันแรดร่านไม่รักดีบ้างล่ะ แน่นอนฉันไม่ปริปากตอบโต้แม่สักคำ ฉันนิ่งให้แม่ดุด่าฉันจนกว่าจะพอใจ แต่หัวใจของฉันถูกคมคำพูดด้วยอารมณ์ของแม่บาดกรีดทำร้ายเสียจนยับเยิน
แล้วสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดว่าแม่จะทำกับฉันได้ก็เกิดขึ้น เมื่อแม่คว้าเข็มขัดหนังเส้นหนึ่งที่แขวนอยู่ใกล้มือแล้วกระหน่ำฟาดลงมาที่ฉันไม่ยั้ง ฉันทั้งกลัวทั้งตกใจแต่ก็ไม่กล้าลุกหนี ได้แต่ใช้แขนปัดป้องรองรับแรงฟาดที่แม่ระดมใส่มา ทั้งแม่และฉันต่างร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด แรงฟาดแต่ละทีบนผิวหนังทำให้ฉันแสบร้าวไปหมด แต่ใจของฉันมันเจ็บแสบกว่าหลายเท่า
แค่ฉันมีแฟนและเราก็ไม่มีอะไรเกินเลยกัน รักกันคบกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทำไมแม่ต้องตีฉันอย่างหนัก ทั้งๆที่ตั้งแต่เกิดมาแม่ไม่เคยตีฉันมาก่อน แม่ทำอย่างกับฉันไปฆ่าคนตายมา
เมื่อพายุอารมณ์สงบลง แม่ก็เข้ามากอดปลอบโยนฉัน แล้วหายามาทาให้ตามรอยช้ำรอยแตกที่เกิดจากฝีมือแม่ สัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยนราวกับเป็นคนละคนกับคนที่ตีฉันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ แม่บอกกับฉันว่า แม่หวังดีกับฉันไม่อยากให้ฉันเข้าใกล้พวกผู้ชาย ผู้ชายทุกคนไว้ใจไม่ได้และเป็นอันตรายกับผู้หญิง
คืนนั้นฉันหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลียทางร่างกายและความเหนื่อยล้าทางจิตใจ แต่ก็ต้องตกใจตื่นเพราะรู้สึกเจ็บแปลบที่แก้มซ้าย ฉันลืมตาสบกับสายตามุ่งร้ายของแม่ แม่กำลังกดคมมีดคัตเตอร์ลงบนแก้มของฉัน ฉันตกใจดึงมือที่ถือมีดของแม่ออก มีดกระเด็นตกอยู่ข้างเตียง แม่ร้องไห้อย่างคลุ้มคลั่ง ฉันเจ็บปวดทั้งกายและใจไม่เข้าใจแม่เลย ทำไมแม่ต้องทำอย่างนี้กับฉัน
ตลอดเวลาที่ฉันและแม่อยู่ด้วยกันโดยไม่มีพ่อ แม่เป็นทั้งนางฟ้าที่แสนดีและนางปีศาจร้ายคลุ้มคลั่ง ถึงแม่จะร้ายกับฉันและไร้เหตุผลเพียงใด แต่ฉันก็รับรู้ได้ด้วยความรู้สึกว่าแม่รักฉันมากที่สุด และฉันก็รักแม่มากเหลือเกิน รักมากจนเกลียดแม่ไม่ลง คงเป็นเพราว่าแม่เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวของฉัน เป็นคนเดียวที่ฉันอยู่ใกล้แล้วรู้สึกมั่นคงอบอุ่น
แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 48 13:53:20
จากคุณ :
ใบไม้ปลิว
- [
29 ก.ย. 48 13:51:40
]