ขอเริ่มด้วยการทักทายก่อนเช่นเคยค่ะ o^^o
- ต่าย (tai shi 66) ตอนนี้ไม่เศร้าแล้วนะคะ o^^o ยิ้มๆ กันดีกว่าน้า
- scottie เนอะ คิดมากไปได้นางเอกนี่ (เข้าข้างคนอ่านเห็นๆ ค่ะ ฮา)
- เนตรนภัส ขอบคุณสำหรับกำลังใจจ้า ว่าแต่ตอนต่อไป ^^" ฮา (หมดคำตอบซะงั้น)
- nongwin ถูกต้องนะค้าบบบ เห็นด้วยค่ะ ฮา
- ลูนาติก อ่า ถ้าถามคนรอบๆ ตัว เค้าคงตอบว่าคนเขียนนี่ล่ะค่ะมารที่สุด แหะๆ
- สายลมโชยเอื่อย จุ๊ๆ อย่าเอะอะไปจิตัวเอง ^^"
- Wild Monkey เป็นไม้โศกไปก่อนละกันนะจ๊ะ ว่าแต่หนูจ๋อไม่ทำแล้วใครจะทำดีล่ะจ๊ะ ฮา
- นู๋โมจัง ขอบคุณมากๆ สำหรับคำชมและกำลังใจค่ะ o^^o
ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ นะคะ น้อมรับทุกความคิดเห็น และคำติชมเช่นเคยค่ะ
ตอนเก่าค่ะ
ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3718487/W3718487.html
ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3725598/W3725598.html
ตอนที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3739354/W3739354.html
ตอนที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3757306/W3757306.html
==========================================
ความรักของนางมารร้าย (5)
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชีวิตประจำวันและเหตุการณ์รอบๆ ตัวของเธอก็ยังดำเนินไปเป็นปกติ จนอัยยาค่อนข้างมั่นใจว่าความรู้สึกผิดแปลกที่เกิดขึ้นหลายวันก่อนนั้นเป็นเพียงอาการข้างเคียงชั่ววูบจากโรคอกหัก ซึ่งมีสาเหตุมาจากรุ่นพี่ในที่ทำงานเดียวกันเท่านั้น เมื่อได้ยารักษาอันมีชื่อเรียกสามัญว่า เวลา และ งานยุ่งๆ เข้ามาช่วยบรรเทา ความทุรนทุรายเหล่านั้นก็เบาบางลง
ด้วยเหตุนี้คำสันนิษฐานที่เธออนุมานขึ้นหลังจากได้บทสรุปข้างต้น และได้ถ่ายทอดให้เพื่อนฟังก็คือประโยคสุดสวยหรูที่ภูมิใจนำเสนออย่างยิ่ง
...เขาอาจจะเป็นคนที่เข้ามาได้ถูกที่ถูกเวลา แต่ไม่จำเป็นนี่ว่าจะเป็นคนที่ถูกต้องสำหรับเราเสมอไป
ไม่ว่าคำพูดนี้จะเป็นความจริง หรือเป็นเพียงคำปลอบใจตัวเองอย่างที่น้ำทิพย์ดักคอแบบทีเล่นทีจริง แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอสบายใจขึ้น และหันไปใส่ความทุ่มเทลงกับงานเหมือนเดิม
เอ๋ย โทรศัพท์
เสียงเพื่อนร่วมงานโต๊ะข้างๆ ตะโกนมาจากที่นั่งประจำ ในขณะที่เธอกำลังหอบเอกสารกองใหญ่เดินแกมวิ่งผ่านประตูเข้ามา
ช่วยรับที ป๊อก
อัยยาร้องบอก อีกฝ่ายจึงยกหูขึ้นตอบรับสัญญาณเรียกเข้านั้น
เมื่อเดินเข้าไปถึงโต๊ะ กระบอกโทรศัพท์จึงถูกยื่นมาให้พร้อมคำบอกกล่าว
จากนารา
นารา?
อัยยาทวนคำอย่างงุนงง ก่อนจะนึกได้ว่าเป็นชื่อบริษัท
อ๋อ...นาร่าต่างหากล่ะ
อ้าว ก็เค้าบอกว่านารานี่หว่า
หญิงสาวหัวเราะในลำคอกับท่าทางค้อนของเพื่อน แล้วรับโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู พลางวางกองเอกสารในมือลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง
สวัสดีค่ะคุณนุช
สวัสดีครับ ผมเอง
เฮ้ย!!!
...ปัง!!!
กระบอกโทรศัพท์ที่อยู่ในมือเมื่อครู่ลงไปกลิ้งอยู่บนพื้นทันทีที่เสียงอุทานสิ้นสุด
เอ๋ย เป็นอะไร
พิชยะซึ่งเพิ่งกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตนชะโงกขึ้นมาจากฉากที่กั้นโต๊ะทำงานให้เป็นสัดส่วน
อัยยายืนอึ้งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะสั่นศีรษะพร้อมตอบคำถามอีกฝ่าย
เอ่อ เปล่าๆ โทรศัพท์มันหลุดมือ
...จะให้บอกได้ยังไงว่าตกใจ เพราะคาดไม่ถึงว่าที่ปลายสายจะเป็นใครคนนั้น หาใช่หญิงสาวซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการของเขาอย่างที่ควรจะเป็น ก็มีผู้บริหารที่ไหนโทรนัดประชุมเองเล่า!
แน่ใจนะ ทำไมหน้าแดงๆ
ไม่เป็นไรจริงๆ
คนหน้าสีจัดรีบเอามือลูบแก้มเพื่อกลบเกลื่อนความผิดปกติ และสูดลมหายใจลึกเพื่อเรียกสติพร้อมสัมปชัญญะที่เผ่นหายไป ราวกับโดนเสียงที่ปลายสายนั้นหลอกหลอนให้กลับคืนมา
...ไหนว่าไม่มีอะไร แล้วทำไมแค่ได้ยินเสียงมาจ่ออยู่ข้างหูถึงต้องออกอาการกระเจิงจนเหวี่ยงโทรศัพท์ไปกองอยู่กับพื้นขนาดนั้น
แล้วนี่จะไม่รับโทรศัพท์เหรอ
เพื่อนหนุ่มท้วงขึ้นอีก เมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนจ้องโทรศัพท์ด้วยสีหน้าพิลึกพิลั่นเหมือนกำลังมองสัตว์ประหลาด โดยไม่มีทีท่าจะหยิบมันขึ้นมาแต่อย่างใด
ได้ยินแล้วอัยยาจึงนึกขึ้นได้ แล้วรีบคว้าหูโทรศัพท์ที่น่าสงสารนั้นขึ้นมาจากพื้น แอบถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนยกขึ้นจ่อหูอย่างหวาดๆ
ฮัลโหล
ครับ คุณเป็นอะไรรึเปล่าฮะ
เสียงทุ้มที่ปลายสายถามกลับมาทันที
เอ่อ เปล่าค่ะ พอดีดิฉันทำโทรศัพท์หลุดมือ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
หญิงสาวตอบพลางหย่อนร่างลงนั่งบนเก้าอี้เพื่อสงบชีพจรที่ทำงานหนักกว่าปกติด้วยความตระหนกเมื่อครู่
ไม่มีปัญหาครับ แค่คุณไม่เป็นไรก็พอ
โครม!!!
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญ หรืออาการกระตุกกะทันหันของคนนั่งจึงทำให้เก้าอี้ล้อเลื่อนไถลลื่นไปด้านหลัง เป็นเหตุให้ร่างที่เพิ่งทิ้งตัวนั่งหล่นลงไปอยู่กับพื้นแทนที่จะเป็นเบาะนุ่ม
เฮ่ย ยัยเอ๋ย นั่งยังไงให้ตกเก้าอี้
เพื่อนร่วมงานพูดแล้วเดินมาช่วยพยุงคนที่ยังแอ้งแม้งอยู่บนพื้นให้ลุกขึ้นมานั่งในที่ถูกที่ควร
นี่มันอะไรกันนักหนา เพียงคำพูดธรรมดาๆ ถึงกับทำให้มีปฏิกิริยาได้ขนาดนี้...แค่เขาพูดเหมือนว่าห่วงใย แค่น้ำเสียงอ่อนโยนที่ฟังแล้วอบอุ่นใจ
เมื่อเธอยังคงนิ่ง มือของคนข้างตัวจึงเปลี่ยนจากการพยุงเป็นผลักศีรษะเบาๆ อย่างหยอกเย้า
นี่ ช็อคตายไปแล้วเหรอ
อัยยาถอนใจยาว
...สงสัยเมื่อคืนนอนไม่พอ วันนี้สมองเลยออกนอกลู่นอกทางเหลือเกิน ถ้าไม่รับกลับเข้าที่ คงได้เสียงานไปกว่านี้แน่
เธอกล่าวขอบคุณเพื่อน แล้วหยิบโทรศัพท์ที่พลัดหลุดจากมือไปอีกรอบกลับมาแนบหู
ฮัลโหล คุณปาณัทคะ
ครับ คุณ...
หญิงสาวไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายกล่าวจนจบ ด้วยเกรงว่าคำพูดของเขาอาจจะสร้างความปั่นป่วนให้เธอมากไปกว่านี้
ดิฉันไม่เป็นไรค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ว่าแต่ไม่ทราบว่าคุณปาณัทมีธุระอะไรรึเปล่าคะ
เอ่อ ครับ ผมอยากคุยเรื่องประชุมที่นัดไว้ว่าเป็นวันมะรืนน่ะครับ
ค่ะ ทำไมเหรอคะ
พอดีมีงานด่วนเข้ามาวันนั้น ผมเลยอยากขอเลื่อนประชุมออกไปอีกสัก 2 วันน่ะครับ ไม่ทราบว่า...
อ๋อ ไม่มีปัญหาค่ะ มีเวลาทำงานเพิ่มขึ้น เรายินดีเสมอ
เธอตอบไปตามความจริง...เลื่อนกำหนดส่งงานออกไป ใครๆ ก็ชอบทั้งนั้นแหละ
ว้า งั้นก็มีแค่ผมที่เสียดายสิครับ
...นิ่ง...
เขาต้องไม่รู้ตัวแน่ๆ ว่าพูดอะไรออกมา หรือไม่ก็เป็นเธอที่ควรเลิกตีความเข้าข้างตัวเอง...ใช่ มันจะต้องเป็นอย่างนั้น เขาคงเสียดายที่ไม่ได้งานตามกำหนด
ไม่ต้องเสียดายหรอกค่ะ เวลาเพิ่มงานก็ได้เพิ่มค่ะ สรุปว่าเลื่อนไปเป็นวันศุกร์นะคะ เวลาเดิมสะดวกมั้ยคะ
คิดว่าได้ครับ
งั้นเดี๋ยวดิฉันขอเช็คคิวทางทีม แล้วจะคอนเฟิร์มไปทางคุณนุชอีกครั้งนะคะ
ครับ แล้วพบกัน
ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ
เธอวางโทรศัพท์ลง แล้วนั่งนิ่งด้วยความรู้สึกหมดแรงกะทันหัน
...แค่คุยโทรศัพท์ มันใช้พลังงานมากขนาดนี้เลยหรือนี่ สงสัยจะแก่แล้วจริงๆ เฮ้อ!!!
(มีต่อค่ะ)
จากคุณ :
nyx
- [
1 ต.ค. 48 19:53:43
]