ความคิดเห็นที่ 1
หลังจากที่วิชชุดาตัดสินใจที่จะลองเปิดหัวใจตัวเองดูอีกครั้งด้วยการลดอคติที่มีต่อ เจษฎาลงนั้น เธอก็ได้พบว่าเขาเป็นผู้ชายปกติธรรมดาทั่วไปที่ผิดกับหน้าตาของเขาลิบลับ นอกจากกิจวัตรประจำวันทั่วๆ ไปที่เขาขับรถไปรับไปส่งเธอทุกเช้าเย็นแล้ว พอเข้ากลางเดือน ที่สอง ทั้งเขาและเธอก็ดูเหมือนจะมีกิจกรรมระหว่างกันเพิ่มขึ้นแม้ว่าในตอนแรกเธอจะไม่ ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ก็ตาม อาทิ เช่นการไปดูหนังโปรแกรมเด่นๆ ที่เข้าฉายในโรง นั่งดูบอล ด้วยกันที่ห้องเธอในคืนที่มีคู่บิ๊กแมตช์ หาอะไรอร่อยๆ ทานหรือตามวิชชุดาไปก๊งกับพรรคพวก ในทุกวันเสาร์ และปิดท้ายสัปดาห์ด้วยการออกไปวิ่งกับชายหนุ่มในเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งก็แน่ นอนว่าในบางอาทิตย์เธอก็ไม่อาจไปวิ่งกับเขาได้เพราะอาการเมาค้างที่ต่อเนื่องมาจากคืนวัน เสาร์ และอาทิตย์นี้ก็เช่นกัน แต่ทว่าสาเหตุที่เธอไม่ไปนั้นไม่ใช่อาการเมาค้างอย่างที่เคย
ขอโทษนะ วันนี้ฉันขอตัว... หญิงสาวกรอกเสียงใส่หูโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงแหบ แห้งและอ่อนแรงจนคนได้ฟังรู้สึกได้ในทันที
เป็นอะไรหรือเปล่าดา น้ำเสียงของคุณฟังดูไม่ดีเลย พอพูดจบเขาก็ได้ยินเสียง ไอโขลกๆ สองสามทีก่อนที่ปลายสายจะตอบกลับมา
เป็นหวัดน่ะ...เวียนหัวด้วย
ไปหาหมอมั้ย เดี๋ยวผมไปส่ง
เธอรีบปฏิเสธทันควัน ไม่ต้องหรอก ก็แค่หวัดธรรมดา...นอนพักเดี๋ยวก็หาย
แล้วทำไมจู่ๆ ถึงเป็นหวัดได้ล่ะ เอ...ปกติแล้วเขาว่าคนบ้ามักจะไม่เป็นหวัดไม่ใช่ หรือไง?
เพียงเท่านั้นแหละ คนที่เสียงแหบโหยเมื่อครู่กลับเปลี่ยนโหมดเป็นเวอร์ชั่นดุแบบ เดิมได้ทันที
เอ๊ะ! นี่คุณหลอกด่าฉันเหรอ
เจษฎาหัวเราะเบาๆ กับข้อพิสูจน์ที่ว่า ถึงแม้จะป่วยไข้แต่วิชชุดาก็ยังคงความดุ ห้าว โหด ได้อย่างไม่มีตกหล่นเลยแม้สักกระผีกเดียว เหมือนกับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ใน ร่างกายที่เธอก็ไม่เคยให้มันเจือจางลงด้วยการหมั่นเติมมันลงในเส้นเลือดเกือบทุกอาทิตย์ (บรรยายซะเห็นภาพเลย -__- : ตัวZ)
เปล่า...ผมก็แค่ยกคำพูดของคนเฒ่าคนแก่มาก็เท่านั้นเอง เขาเอ่ยปนหัวเราะก่อน ที่จะปรับเปลี่ยนน้ำเสียงให้จริงจังขึ้น
แล้วคุณอยู่คนเดียวได้มั้ย ผมพาคุณไปหาหมอไม่ดีกว่าเหรอ?
ปลายสายเงียบไปชั่วครู่ ซึ่งถ้าหากโทรศัพท์นี้ส่งสัญญาณภาพได้ เจษฎาคงจะรับรู้ ได้ว่าเธอกำลังแอบยิ้มอยู่ ก่อนที่เธอจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งดังเดิม
ก็แค่เมื่อคืนนั่งก๊งเหล้าตากน้ำค้างกับไอ้วิทย์นานไปหน่อย พอตื่นมาตอนเช้าหวัด เลยเล่นงานเข้าน่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันดูแลตัวเองได้
แต่น้ำเสียงคุณฟังดูแย่กว่านั้นอีกนะ
ไม่เป็นไรหรอกน่า... เดี๋ยวนอนสักงีบก็คงหายแล้ว
ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพอผมไปวิ่งเสร็จแล้วจะแวะซื้ออะไรมาให้กินนะ ซื้อยาด้วย
โอ๊ย...ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกน่า ไอ้ยาน่ะ ฉันมีแล้ว ถ้าจะซื้อก็ซื้อแต่ของกินมาก็ แล้วกัน หญิงสาวขึ้นเสียงสูงห้ามเขาก่อนที่จะไออีกรอบ (แน่ะ ยังไม่วายห่วงกินนะเจ๊)
ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นผมซื้อเกาเหลามาให้นะ เขาเสนอ
ไม่เอา ไม่ชอบเกาเหลา
คราวนี้ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หากแต่ไม่วายที่จะทะเล้นเข้าใส่
อ้าว ไม่เอาเกาเหลาแล้วจะเอาอะไรล่ะ เอาผมเหรอ?
ถ้าจะมาทะลึ่งแถวนี้ล่ะก็แค่นี้นะ แล้วก็ไม่ต้องซื้ออะไรมาให้ด้วย วิชชุดาเอ่ยเสียง เย็นเยียบและทำท่าจะวางหูไปจริงๆ จนชายหนุ่มต้องรีบแก้ตัวพัลวัน
โว้วๆ ใจเย็นๆ สิคร๊าบ... ผมแค่ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง แล้วคุณจะกินอะไรล่ะ โจ๊ก มั้ย?
อือ โจ๊กก็ได้
โอเค งั้นเดี๋ยวผมซื้อไปให้นะ
อื้อ งั้นก็แค่นี้นะ
ครับ เดี๋ยวผมวิ่งเสร็จจะขึ้นไปหาที่ห้อง
ค่าๆ รู้แล้ว แล้ววิชชุดาก็กดปุ่มตัดสายด้วยใบหน้าที่ดูซีดเซียวด้วยพิษไข้หวัดแต่ก็ กระจ่างใสด้วยรอยยิ้มที่แตะแต้มอยู่
ตาคนผีทะเลเอ๊ย... จ้างให้ก็ไม่ใจอ่อนหรอกย่ะ!
ยัยดาเอ๋ย... ไอ้ปากว่าไม่ใจอ่อน แต่ทำไมถึงได้ยิ้มไม่หุบอย่างนั้นล่ะจ๊ะ (ฮา...)
*******************
เข้ากลางเดือนงานของวิชชุดาก็เริ่มเยอะขึ้นตามลำดับ ความจริงโดยปกติมันก็เป็น แบบนี้ทุกๆ เดือนอยู่แล้ว ซึ่งงานในส่วนคอลัมน์ที่เธอรับผิดชอบอยู่นั้นก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะ เหลือก็แค่เพียงงานถ่ายภาพแฟชั่นประจำเล่มที่ต้องนำมาทำเป็นปก ที่โดยปกติแผนงานใน ส่วนนี้มักจะเริ่มต้นช่วงกลางเดือนเสมอ
แฟชั่นเล่มนี้เป็นของห้องเสื้อไหนล่ะพี่ วิชชุดาชะโงกหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ที่เธอ นั่งรีทัชภาพอยู่มาเอ่ยถามอนัญญาหลังจากที่เห็นรุ่นพี่เดินฉับๆ ออกมาจากห้องของเจ้านาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อนัญญานั่งลงตรงเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงานของหญิงสาวก่อนจะถอนใจยาว
เดี๋ยวค่อยตอบนะ ขอพี่พักหายใจหายคอก่อนเถอะ เพิ่งเข้าไปรับบรีฟงานจากอาร์ตมาเมื่อกี้ ยังมึนไม่หายเลย
หญิงสาวขมวดคิ้ว มันวุ่นวายขนาดนั้นเลยเหรอพี่
ก็นะ เหล่าเจ๊ๆ เจ้าของห้องเสื้อทั้งหลายพากันตบตีแย่งชิงลงแฟชั่นของเดือนนี้น่ะสิ แกก็รู้ว่าเดือนนี้มันเป็นช่วงเปลี่ยนเทรนด์แฟชั่นพอดี คุณๆ ทั้งหลายก็เลยงัดกลยุทธ์กำลังภาย นอก กำลังภายใน งัดข้อกันอยู่นาน ไอ้อาร์ตมันก็ปวดเศียรเวียนเกล้าอยู่เป็นอาทิตย์กว่าจะ หาข้อสรุปได้
วิชชุดาไม่แปลกใจที่อนัญญาเรียกเจ้านายของเธอได้สนิทสนมแบบนี้ เพราะเธอ ทราบมาว่า อนัญญาและเจ้านายของเธอ (ความจริงไม่อยากใช้สรรพนามแบบนี้เลยแต่ยังคิด ชื่อตาคนนี้ไม่ออกอ่ะค่า T-T) เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันสมัยเรียนปริญญาตรี และเป็นเพื่อสนิทกัน เสียด้วย
สรุปแล้วห้องเสื้อไหนมาวินล่ะพี่
ร้าน....ของพี่พิงค์ไง อนัญญาเอ่ยถึงห้องเสื้อชื่อดังที่ติดอันดับท็อปไฟว์ของไทย
เฮ้ย! พี่พิงค์น่ะเหรอ? วิชชุดาตีหน้าปูเลี่ยนขึ้นมาในทันใด เพราะพี่พิงค์ที่ว่านั้น แม้ชื่อจะออกหวานแหววสีชมพู หากแต่ตัวจริงนั้นกลับเป็นสาวประเภทสองรุ่นน้องแม่ที่มีชื่อ เต็มๆ ว่า นายพิสิษฎ์ ต่างหาก
เฮ้อ...งั้นก็เป็นแฟชั่นเสื้อผ้าผู้ชายล่ะสิ เวรกรรมจริงๆ ต้องมาเจอพวกนายแบบเจ้า ชู้อีกแล้ว หญิงสาวบ่นงึมงำ
อนัญญามองกริยาของรุ่นน้องแล้วอดขำไม่ได้ ไม่ว่ายังไงคติที่วิชชุดาถือไว้ประจำใจ ก็ยังไม่เคยขาดตกบกพร่อง ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีหนุ่มหล่อดีกรีผู้บริหารบริษัทโฆษณามาคอย ป้วนเปี้ยน (ส่วนหนึ่งก็ฝีมือหล่อนแหละย่ะ : ตัวZ) รอบๆ ตัวเธออยู่ก็ตาม
อย่าเพิ่งบ่นสิ แฟชั่นของพี่พิงค์เซ็ตนี้มีเสื้อผ้าผู้หญิงด้วยนะ แต่ยังไงก็น้อยกว่าของ ผู้ชายอยู่ดี
วิชชุดาพยักหน้า แต่ก็ดีกว่าถ่ายผู้ชายล้วนๆ นะพี่ แล้วนายแบบนางแบบที่จะถ่าย มีใครบ้างล่ะ?
เออว่ะ พี่เองก็ยังไม่รู้เลย แต่รายชื่ออยู่ในแฟ้มนี่แหละ แล้วอนัญญาก็เปิดแฟ้ม งานดู นางแบบผู้หญิงมีคนเดียว ส่วนนายแบบ... พออ่านมาถึงหน้านายแบบอนัญญาก็มีสี หน้าเปลี่ยนไปพร้อมกับปิดแฟ้มอย่างรวดเร็วคล้ายกลัวว่าหญิงสาวจะเห็น
วิชชุดาขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทางของรุ่นพี่ของตนแปลกไป เป็นอะไรไปพี่เอี๋ยว ใคร เป็นนายแบบเหรอ?
อนัญญารีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะเอ่ย ดา พี่ว่าแฟชั่นเล่มนี้แกลองให้ไอ้นุ หรือไอ้ป๋องลองถ่ายเองดูดีมั้ย?
ไอ้นุไอ้ป๋องมันยังจับงานจริงๆ ไม่ได้หรอกพี่ ต้องฝึกฝีมืออีกเยอะเรื่องถ่ายคนน่ะ วิชชุดาส่ายหน้า ก่อนที่จะหรี่ตามองรุ่นพี่ที่ทำท่าอึกอักมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว
ก็แกไม่ให้มันลองทำดูแล้วแกจะรู้ได้ยังไงว่าฝีมือมันเข้าขั้นรึยัง
คราวนี้สีหน้าขี้เล่นของวิชชุดาหายไป เปลี่ยนกลับมาเป็นจริงจังขึ้นเมื่อรู้ว่ารุ่นพี่ของ เธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่าง
ทำไมพี่เอี๋ยวถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา พี่ไม่รู้เหรอว่าดาลองให้พวกมันถ่ายงานของ คอลัมน์ New wave มาแล้ว ดาถึงพูดได้หรอก... แล้วพี่เอี๋ยวมีอะไรปิดบังดากันแน่ ถ้าไม่บอก ดาโกรธจริงๆ ด้วยนะ
อนัญญากลืนน้ำลายอย่างฝืดคอเมื่อเห็นสายตาคมกริบจากรุ่นน้อง ก่อนที่จะยื่น แฟ้มให้กับเธอ
พี่หวังดีกับแกหรอกถึงได้พูดแบบนั้นไป แกดูเอาเองก็แล้วกันว่าเพราะอะไร
วิชชุดามองหน้ารุ่นพี่แบบไม่เข้าใจก่อนที่จะเปิดแฟ้มดู และเมื่ออ่านไปได้ไม่กี่หน้า เธอก็นิ่งงันไปและพึมพำออกมาเบาๆ กับรูปภาพตัวอย่างของนายแบบที่แนบมาในแฟ้ม ใบ หน้าหล่อคมที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี...
เต้ย...
***************************
บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนที่มักจะเกิดในช่วงเปลี่ยนฤดูทำให้บรรยากาศโดยรอบดู หดหู่ขึ้นมาถนัดตา เหล่าใบไม้แห้งที่ร่วงกราวอยู่ตามโคนต้นต่างปลิวว่อนด้วยแรงลมที่พัดพา แต่ถึงกระนั้น ร่างโปร่งบางที่ยืนพิงเสาป้ายรถเมล์อยู่กลับไม่ได้สนอกสนใจกับสภาพแวดล้อม สักเท่าใดนัก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนภายใต้กรอบตายาวรีเหม่อมองไปทางไหนไม่รู้คล้ายกับคน ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง แม้กระทั่งรถเก๋งสีน้ำเงินเข้มคันหรูที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี มาจอดเทียบเธอก็ยังไม่สนใจ จนกระทั่งเสียงแตรดังเบาๆ นั่นแหละ เธอจึงหลุดจากภวังค์แล้ว ก้าวขึ้นรถเก๋งคันนั้นได้
คิดอะไรอยู่หรือเปล่า ท่าทางดูเหม่อๆ ชอบกล เจษฏาเอ่ยถามเธอหลังจากที่เขา ออกตัวรถกลับไปทางถนนเลนหลักแล้ว
วิชชุดาชะงักมือที่กำลังวางกระเป๋าสะพายใบโตไว้ตรงเบาะหลังแว่บหนึ่งก่อนจะทำ ท่าเป็นปกติ
ก็ไม่มีอะไรหรอก เรื่องงานน่ะ หญิงสาวเอ่ยตอบเขาก่อนที่มือจะหยิบซีดีเพลงจาก ที่เก็บตรงคอนโซลหน้าสอดเข้าในเครื่องเสียงภายในรถเป็นการตัดบทสนทนา
เพลงพ็อพเบาๆ ทำนองฟังง่ายที่เปิดคลออยู่ ช่วยให้บรรยากาศภายในรถซึ่งแม้จะ เงียบกริบ หากแต่ไม่ได้อึดอัด มันคล้ายกับว่าคนหนึ่งนั้นต้องการอยู่กับตัวเองเงียบๆ ส่วนอีก คนหนึ่งก็ยังไม่คิดที่จะเข้าไปรบกวนความเป็นส่วนตัวของอีกคนแต่ประการใดภายในชั่วโมง เร่งด่วนที่รถติดกันเป็นแพแบบนี้
รถคงติดอีกนาน... ผมว่าเดี๋ยวเราแวะหาอะไรทานแถวนี้ก่อนดีมั้ย ถ้าขืนมาติด แหง็กอยู่แบบนี้กว่าจะถึงคอนโดคงจะไส้ขาดตายเสียก่อน เจษฎาเอ่ยเสนอความคิดขึ้นมา หลังจากเห็นว่ากว่ารถจะขยับแต่ละหนนั้น กินเวลาหลายสิบนาที และคงใช้เวลาหลายชั่วโมง กว่าจะฝ่าดงรถเหล่านี้กลับไปถึงคอนโดได้ในชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้
วิชชุดาเหลือบมองเขาอยู่แว่บหนึ่งก่อนจะพยักหน้า ก็แล้วแต่คุณก็แล้วกัน ฉันยังไง ก็ได้อยู่แล้ว แล้วเธอก็เงียบไปอีก จนเจษฎาเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของเธอได้บ้างแล้ว หาก แต่เขาเลือกที่จะเงียบ เพราะเขาคิดว่า ถ้าหากเธอต้องการอยากจะให้ใครสักคนรู้ เธอก็คง บอกเขาไปตั้งแต่ก้าวเข้ามานั่งในรถแล้ว แม้ว่าภายในใจของเขาจะอยากรู้มากเท่าใดก็ตาม...
**************** (ติดตามครึ่งหลังอีกไม่กี่วันข้างหน้านะคะ)
จากคุณ :
ตัว(Z)
- [
4 ต.ค. 48 15:25:30
]
|
|
|