บทที่ 3
To: อ้อย<auanchalee@nnnm.or.th>, เป้า<srikarnchana@nnnm.or.th
From: พี่อี่<preyaporn@nnnm.or.th>
Subject: กลับก่อนนะจ้ะ
พี่กลับก่อนน้าเพราะเพื่อนเก่าโทรมานัดกระทันหัน วันนี้อ้อยกลับพร้อมเป้าแล้วกัน
Bye
พี่อี่
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งอ่านเอกสารอย่างคร่ำเคร่ง เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่ดังขึ้น บ่งบอกว่าเพื่อนเก่าที่ว่า
คงมาถึงแล้ว
อี่
เรารออยู่ที่ลานจอดรถ
แค่ประโยคเดียวแล้ววาง
เน้นเพียงความต้องการที่จะถ่ายทอดถึงสิ่งที่เขาอยากบอก
นั่นทำให้ฉันนึกถึงวันเวลาเก่าๆ เมื่อครั้งที่ตัวตนของภูชิตแสดงความเป็นเขาออกมาอย่างชัดเจน ทั้งนิสัยที่ต้องการบอกถึงสิ่งที่รู้สึก
รับรู้
หรือสัมผัส และนิสัยของความเป็นผู้นำที่ยังคงฉายแววอยู่
ที่สำคัญ
นิสัยแบบนี้เคยทำให้ฉันก้าวตามเขาเมื่อครั้งในอดีต และกลับมาย้อนให้ทำอีกครั้งในปัจจุบัน
กลับบ้านแล้ว? พี่มลโผล่หน้ามาทักทาย จากประตูห้องทำงาน
จ๊ะ
อี่มีนัดกับเพื่อนเก่า อย่าพึ่งชวนคุยนะ ไม่อยากให้เขาต้องรอ
ฉันพูดไปก็ก้มหน้าก้มตาเก็บข้าวของอย่างเร่งรีบ ก่อนจะสะพายกระเป๋าใบโตที่ข้างในบรรจุเอกสารเต็มแน่นกับกระเป๋าแลปท๊อป และหันไปโบกมือบ๊ายบายเพื่อน
แต่ยังทันได้ยินเสียงตะโกนแนะนำของพี่มลแว่วมา
แต่งหน้าหน่อยซิ โทรมไปนะ
ฉันถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม และสะกดความอยาก
ที่จะเข้าไปทาแป้ง เพื่อลบหน้ามันๆจากการตรากตรำทำงานเสียหน่อย ก็ไม่บ่อยนักนะคะที่ฉันจะมีนัดกับเพื่อน(ผู้ชาย)
ซึ่งคงไม่ดีแน่ที่จะปล่อยให้เพื่อน (ผู้ชาย) ต้องรอคนเดียวในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เพราะความรักสวยรักงามของฉัน
อ้าวคุณอี่
ให้ผมช่วยนะครับ
ลุงยามที่ประจำอยู่หน้าตึกที่ทำงานกุลีกุจอจะเข้ามาช่วยฉันยกของให้ แต่ก็ไม่ทันร่างสูงๆในชุดดำทั้งเสื้อและกางเกงที่เข้ามาฉวยสัมภาระของฉันไปถือเรียบร้อยแล้ว
อ้า
ขอบคุณค่ะลุง เพื่อนอี่ช่วยถือให้แล้ว
ฉันหันไปขอบคุณลุงยามที่กำลังทำตาเขม่นมองร่างสูงๆของภูชิต เหมือนจะประเมินว่าหมีภูนี่เป็นตัวอันตรายหรือไม่
อ่า
ภู ฉันส่งยิ้มทักทายเขาก่อน แต่อดกระดากใจเล็กน้อย ในความทรงจำอันแสนเลอะเลือนของตัวเองไม่ได้
ทำไมฉันยังลืมได้ลงนะ! ในเมื่อใบหน้านี้ฉันเคยคลั่งไคล้มาแล้วเมื่อในอดีต
รถจอดทางโน้น เขาจับข้อศอกฉันเบาๆเพื่อนำทาง
ระหว่างที่เดินคู่กับภูชิตไปที่รถ ฉันอดเหลือบมองเขาเป็นระยะๆไม่ได้ ก็เมื่อครั้งที่เห็นไกลๆในวันงานแต่งงาน ฉันคิดว่าเขาน่าจะสูงประมาณ 6 ฟุต แต่เมื่อมาเดินข้างกันจริงๆ ฉันกลับคิดว่า
เขาน่าจะมีความสูงมากกว่าที่เคยคิดไว้
สำหรับรัศมีความเป็นคนอันตรายของเขา ยังคงกระจายอยู่รอบตัวไม่เปลี่ยน และมันถูกตอกย้ำด้วยชุดสีดำล้วนที่เขาใส่ ซึ่งฉันเชื่อว่าถ้าเขาถอดเจ้าแว่นดำที่คาดอยู่บนหน้าออกซะ ภูชิตอาจจะดูอันตรายน้อยลงกว่านี้อีกมาก
อี่
มองเราทำไม
ฉันจะบอกได้ยังไงว่าเพื่อนฉันดูเป็นผู้ชายที่อันตราย แม้ว่าจะเป็นหนุ่มหล่อขนาดไหนก็ตาม
อ๋อ
อี่คิดว่ามันจะมืดแล้ว แต่ทำไมภูชิตยังใส่แว่นดำอยู่อีก ฉันเลยต้องเปลี่ยนไปแก้ตัวถึงเรื่องอื่น ที่นอกเหนือจากความคิดแทน
ภูชิตไม่ตอบว่าอะไรนอกจากหันมามองหน้า ซึ่งฉันก็ไม่สามารถแปลความหมายของดวงตาที่อยู่เบื้องหลังแว่นดำนั้นได้เลย
จนเมื่อก้าวเข้าไปนั่งใน BMW คันหรูนั่นแหละ ที่เขายอมถอดแว่นดำออก ซึ่งทำให้ความคิดของฉันที่เชื่อว่า จะช่วยลดความดุของใบหน้าคมๆนั่นลง กลับผิดไป เพราะกลายเป็นว่าดวงตาที่คมดำเมื่อประกอบเข้ากับคิ้วเข้มๆด้วยแล้ว ส่งให้เขากลับดูอันตรายมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
แต่ฉันไม่ยักกลัวเขาแฮะ
คงเป็นเพราะเราเป็นเพื่อนกันมานานแล้วมากกว่า
หิวไหม? เขาถาม เมื่อเอี้ยวตัวไปวางสัมภาระของฉันที่เบาะหลัง
กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่อวลมาเข้าจมูกฉันอย่างชัดเจน ทำให้รู้สึกตัวว่าภูชิตเข้ามาอยู่ใกล้ฉันขนาดไหน
ความตื่นเต้นทำให้ฉันตอบคำถามออกไปโดยไม่ทันคิด เอ่อ
ฮื่อ
คราวนี้ดวงตาของเขาที่เข้ามาสบกับฉัน บ่งบอกถึงความขบขันอย่างชัดเจน โดยไม่ต้องแปลความหมายให้ยุ่งยาก
งั้นไปร้านฝนพรำนะ
อาหารอร่อย เขาสตาร์ทรถเพื่อขับพาไปยังจุดหมาย
จ้ะ แต่ฉันอดไม่ได้ที่จะแก้ตัวเล็กน้อย วันนี้อี่ทำงานหนักไปหน่อยนะ
ภูชิตไม่ตอบอะไร นอกจากการพยักหน้ารับรู้ ฉันเลยไม่กล้าชวนคุยเพราะยังอดเขินๆไม่ได้ ก็เราไม่ได้พบกันนานแล้วนี่ค่ะ
ใช้เวลาไม่นานภูชิตก็ขับรถพาเรามายังร้านอาหารที่ว่านี้ ซึ่งดูจะอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานฉันเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะลักษณะการจัดร้านที่ใช้ไม้ใหญ่และไม้ใบมาเสริมทำให้ตัวร้านดูเหมือนบ้านพักหลังใหญ่ที่แสนจะร่มรื่น ฉันเลยไม่เคยสังเกตว่าบริเวณนี้มีร้านอาหารตั้งอยู่
ภูชิตคงมาที่นี่บ่อยเพราะสังเกตจากการที่เจ้าของร้านเข้ามาพูดคุยอย่างสนิทสนม และเป็นผู้พาเราเข้าไปนั่งที่โต๊ะด้วยตัวเอง ซึ่งฉันอดประหม่าไม่ได้เมื่อต้องเดินตามภูชิต
ก็แขกที่เข้ามาทานอาหารในร้านพร้อมใจกันเหลียวมามองดูเรากันหมด
ลืมไปว่าฉันมากับนักร้องคนดัง
โชคดีที่เราได้ที่นั่งซึ่งแยกออกมาเป็นสัดส่วนต่างหาก และรายรอบด้วยใบไม้ที่เล่นระดับลดหลั่นกันอย่างหน้าดู กับเสียงของน้ำตกจำลองที่ไม่ห่างจากมุมที่เรานั่ง ซึ่งฉันเดาว่านี่เป็นส่วนรับแขกที่สวยที่สุดของร้าน
บ้านอี่อยู่ไกลไหม?
ภูชิตถามขึ้นมาหลังจากที่เราสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว
แถวรังสิตนี่แหละจ้ะ พ่อกับแม่มาซื้อไว้นานแล้ว ตอนนั้นยังราคาถูกอยู่ ฉันตอบคำถามเขาก่อนและอดไม่ได้ที่จะถามกลับถึงสิ่งที่ฉันกังวลอยู่
ภูชิตหายโกรธอี่แล้วใช่ไหม? เสียงของฉันเริ่มลังเล
ต่อค่ะ
จากคุณ :
โตขึ้นจะกลายเป็นยุง
- [
4 ต.ค. 48 16:08:08
]