CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    (เรื่องแรกครับ) กาเหว่า ตอนที่1

    นี่เป็นเรื่องแรกที่ผมแต่ง นอกจากแฟนฟิคชั่นหัวขโมยแห่งบารามอสนะครับ หวังว่าจะได้รับความเมตตาคอมเม้นท์จากนักอ่านในพันทิพย์ทุกท่านเลยนะครับ
    ปล.ที่กำหนดไว้ว่าอื่น ๆ เพราะว่ายังมองไม่ออกเลยว่าเรื่องของตัวเองมันแนวไหนกันแน่ ช่วยตัดสินกันหน่อยนะครับ ^^

    *****************************************

    ท้องฟ้าสีเทาค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละนิด เสียงนาฬิกาปลุกเริ่มทำหน้าที่ของมันอย่างขะมักเขม้น
    มือลึกลับเอื้อมไปกดสลักห้ามเจ้านาฬิกาปลุกผู้น่าสงสารให้หยุดส่งเสียง ‘ฉัน’ ยังไม่อยากตื่น
    เพราะวิญญาณของ ‘ฉัน’ กำลังโลดแล่นเสพสุขกับนิทานอยู่ในอีกมิติหนึ่ง

    เวลาผ่านไปไม่นานนัก ‘คน’ ที่โลกโน้น ก็ออกปากไล่

    “ไปโรงเรียนก่อนไป๊ คืนนี้กลับมาใหม่ จะเตรียมเรื่องใหม่มาเล่าให้ฟัง” ‘เธอ’ ปิดหนังสือ ‘การแก้แค้นของกระต่าย’
    ‘ฉัน’ ผงกหัวรับ กล่าวลา ‘แม่’ ในอีกมิติ เดินทางกลับโลกเดิม

    สายตาจับจ้องไปที่นาฬิกาปลุกอย่างมึน ๆ ‘ตีห้าครึ่งแล้ว นอนต่อมาตั้งครึ่งชั่วโมง แต่ทำไมมันดูแปบเดียวเอง’
    ‘ฉัน’ ปรารภกับตนเองในใจ พลางพลิกตัวลุกขึ้นยืน และด้วยความเคยชิน ‘ฉัน’ หลับตาเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัว จากนั้นก็ให้ความมืดโอบไล้ และฉุดกระชากไปอาบน้ำอย่างโดยดี

    ขณะกำลังแต่งตัว ‘ฉัน’ ก็ได้ยินเสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดเจือน้ำเสียงเศร้าของ ‘ใคร’ บางคน

    “กาเหว่า ก๊าเหว่า ก่าเหว้า ก๋าเหว้า กาเหว่า” นี่คือเสียงของ ‘ใคร’ ที่ว่า แต่อีกเสียงที่ไม่ลดละความดังก็แทรกขึ้น

    “แกว๊ก แกว้ก กว๊าก แกว๊ก แกว่ก” ‘ใคร’ พวกนั้น น่าจะโกรธกันพอดู ในใจ ‘ฉัน’ ว่าเสียงนี้น่ารำคาญจริง ๆ
    ถ้าเปิดประตูมุ้งลวดนี่ออกไป ยิงปืนอัดลมขึ้นสักนัดพอตกใจ ‘ฉัน’ จะสบายหูขึ้น
    แต่ก่อนจะได้กระทำกรรม เสียงอ่อย ๆ ของ ‘ใคร’ อีกคนก็ดังขึ้นใกล้เคียง โทนเสียงเหมือนกับเสียงที่สอง แต่ห้าวกว่า ทุ้มนุ่มกว่า

    ด้วยความกระหายใคร่รู้ ‘พวกเขา’ ทะเลาะอะไรกัน ‘ฉัน’ เปิดใจ รับภาษาของพวกเขา เพื่อแปลเสียงเมื่อครู่  

    “กาเหว่า ก๊าเหว่า ก่าเหว้า ก๋าเหว้า กาเหว่า” “แม่ไม่เข้าใจหนูเลย ไม่เคยแม้แต่จะพยายามเข้าใจ ! ” กาเหว่า
    วัยแรกแตกรุ่นแสนสวยกำลังน้ำตานองหน้า

    “แกว๊ก แกว้ก กว๊าก แกว๊ก แกว่ก” “แกจะให้ฉันเข้าใจแกเหรอ ไอ้ลูกนอกคอก ! ไม่เคยอยู่
    ในโอวาท ! ” ผู้ตอบคือ
    แม่กระสาหญิงวัยกลางนก และเสียงทุ้มนุ่มก็เอ่ย อย่างอ่อย ๆ ตามมา “ใจเย็น ๆ กันหน่อยซี”

    “เย็นยังไงไหว ดันไปเที่ยวลืมรังซะหลายวัน ไปกับพวกตัวผู้รึเปล่าก็ไม่รู้ รู้อยู่ว่าสมัยนี้พวก
    ตัวผู้เลว ๆ มันเยอะ” สายตาจับจ้องยังร่างของสามี ถ้อยคำกระแทกแดกดัน

    “หนูบอกแล้วว่าไปติวที่รังเพื่อน โรงเรียนจะสอบแล้ว แม่ไม่เคยเชื่อหนู แม่ไม่เคยฟังหนูเลย”

    เผียะ ! ปีกใหญ่สีน้ำตาลตบลงบนหน้าของนกกาเหว่าสาว จนหน้าหัน น้ำตาซึม

    “เอ่อ อย่ารุนแรงกันเลย” พ่อนกผู้แสนอ่อนแอเอ่ยห้าม

    “นังลูกนอกรัง แกรู้ไหม ทำไมตัวของแก สีของแกถึงไม่เหมือนฉัน ไม่เหมือนพี่ ๆ น้อง ๆ ของแก”

    “ทำไม สีของหนูแตกต่างแล้วมันมีเหตุผลอะไรมากกว่านั้น ? ” กาเหว่าสาวสงสัย สะกิดใจในคำพูดของมารดา

    “แกน่ะ เป็นลูกกาเหว่าไงล่ะ พ่อแกน่ะ มันเคยมีเมียน้อยเป็นกาเหว่า แม่แกน่ะไข่ทิ้งไว้ก่อนที่จะบินหนีไปหาตัวผู้ตัวใหม่ แล้วฉันต้องมารับภาระเลี้ยงชีวิตเน่า ๆ ของแกไงล่ะ แกน่ะทำตัวไม่ผิดกับแม่แกเลยจริง ๆ ฉันรู้ ว่าแกแอบไปมีตัวผู้ ไปนอนกับพวกตัวผู้มาแน่ ๆ ” นางกระสาเผยธาตุแท้ ความเกลียดชังล้นทะลัก ไหลพรูออกมาเป็นคำพูด

    “ที่แท้ … หนูก็เป็นเพียงลูกกาเหว่า … ที่ไม่มีใครรัก … ” ดวงจิตไหววูบกับประโยคที่ได้ยิน
    ‘ชีวิตเน่า ๆ ’ อย่างนั้นหรือ ?
    เธอมันก็แค่กาเหว่า พันธุ์ที่ถือว่าไร้ค่า เป็นแกะดำ พฤติกรรมเลวทรามที่สุดในหมู่ปักษา …

    เธอเคยได้ยินเขาพูดกัน กาเหว่าตัวนั้นไปไข่ทิ้งที่นั่น ที่นี่ อีกแล้ว แต่เธอบอกกับตัวเองว่าไม่เห็นเกี่ยวกับเธอ เธอเป็นลูกนกกระสา แม้สีจะแผกเพี้ยน แต่เธอก็เป็นลูกของพ่อแม่ แต่สิ่งที่เธอได้รับฟังในเช้านี้ ทำให้ดวงใจเธอแหลกสลาย

    “หนู … ขอบคุณ … ที่ … พ่อ … แม่ … เลี้ยงหนูมา ต่อไปนี้ … หนูคงต้องออกเผชิญโลกกว้าง
    เพียงลำพัง … หนูขอลา” กาเหว่าสาวกล่าวอำลาและก้มลงกราบพ่อ และนกตัวที่เธอเรียกว่า … แม่ ใบหน้าเต็มใบด้วยน้ำตา ก่อนจะโผบินสู่ฟ้ากว้าง ไม่กลับมาอีก …

    “โธ่ … ลูกพ่อ ไปซะแล้ว …” พ่อนกกระสาคราง ใจแทบสลายเมื่อลูกสาวสุดรักจากไป

    “ฮ้า สบายใจจังเลย ทีนี้ก็ไล่มารคอหอยไปได้อีกตัว เหมือน ‘ตอนนั้น’ ที่ ‘นังกาเหว่าโง่’ … ”
    เมื่อรู้ตัวว่าหลุดอะไรออกมานางกระสาก็รีบหยุดปาก ก่อนจะหลุดอะไรมามากกว่านั้น

    ความโกรธเข้าครอบงำ ดวงตาของเจ้ากระสาตัวผู้ส่องแสงวิบวับอย่างน่ากลัว พร้อมกับบันดาลโทสะกระชากปีกนางกระสามาเขย่าเค้นเอาความอย่างแรงจนขนหลุดรุ่ย ก็ยังไม่ยอมหยุดกระชาก

    “กรี๊ด ! หยุดเดี๋ยวนี้ ไอ้บ้า หยุดเดี๋ยวนี้ โอ๊ย ! เจ็บ ฉันเป็นเมียแกนะ ทำยังงี้ได้ยังไง ! ”
    ด้วยความตกใจที่ไม่เคยถูกปฏิบัติเยี่ยงนี้ ร่างที่บอบบางจึงถูกกระทำได้ง่ายนัก ไม่เคยถูกกระทำ เคยแต่กระทำตัวอื่น !

    “นังนกใจร้าย แกบอกมานะ ตอนนั้น เมียกาเหว่าของข้าทำไม บอกมาให้หมดเดี๋ยวนี้ บอกมา
    ให้หมด” เจ้ากระสาไม่หยุด ยังคงเค้นความจริงที่ไม่ยอมหลุดออกจากปากเมียของมัน จนเจ้าตัวเมียปีกหักลง และร่วงหล่นจากลูกกรงที่เกาะสู่พื้นซีเมนต์ด้านล่าง

    “ตุ้บ ! ” เนื่องจากปีกใช้การไม่ได้ ร่างที่ร่วงหล่นลงมาจากตึกชั้นสองนั้นก็เปรียบได้กับก้อนหินหนักที่ถูกขว้างลงมาสู่พื้นแข็ง อนิจจา นางกระสาท่าทางจะบาดเจ็บสาหัสเกินเยียวยาเป็นแน่แท้

    เจ้าตัวผู้ที่ธรรมดาจะเฉื่อยชากลับเดือดดาลได้ถึงขนาดนี้แสดงว่าถึงขีดสุดมาก ๆ จริง ๆ ไม่ต่างอะไรไปกับช้างป่าที่กำลังตกมัน พอบ้าได้ที่ก็ไล่เหยียบควาญช้างผู้เลี้ยงดูจนแบน ไส้ปลิ้นออกแผ่หรากับพื้นดิน

    ดูท่าเจ้าพ่อนกจะยังไม่หายแค้น มันพุ่งตัวเร็วจี๋ลงจิกอย่างบ้าดีเดือดจนอีกฝ่ายที่กำลังบาดเจ็บไม่มีทางได้อุทธรณ์ฎีกาแต่อย่างใด มีเพียงเสียงร้องขอชีวิตของนางกระสากับเสียงกราดด่าและเค้นถามของเจ้ากระสาตัวผู้สลับไปมาอยู่โหวกเหวก จนคนข้างบ้านทนรำคาญไม่ไหว เขวี้ยงกระป๋องน้ำอัดลมเปล่า ๆ ข้ามรั้วมาโดนเจ้าตัวผู้ จนตกใจกระพือปีกหนีไป เหลือเพียงนางกระสาที่นอน
    รอให้ความตายค่อยๆ คืบคลานเข้ามากัดกินชีวิตของเธอ
    ถึงเวลาชดใช้บาปกรรมที่ตามมาทันเสียแล้ว !

    ‘ฉัน’ เองก็ตื่นจากภวังค์เพราะเสียงกระป๋อง ‘ฉัน’ มองดูนาฬิกาปลุกเรือนเก่าว่าเวลาผ่านไปเท่าใดแล้ว ตายล่ะ !
    นี่มันเจ็ดโมงครึ่งแล้วนี่ ‘ฉัน’ เผลอตัวเฝ้าดูละครชีวิตของ ‘พวกเขา’ อยู่นานขนาดนี้เชียวหรือ
    ไม่ได้การแล้ว !
    ‘ฉัน’ รีบคว้ากระเป๋านักเรียน วิ่งออกจากบ้านจับรถเมล์ไปโรงเรียนในทันที

    วันนี้ ‘ฉัน’ มาสาย จึงถูกทำโทษเสียยกใหญ่ แต่ผู้คนรอบข้างก็ช่วยได้แค่หัวเราะเย้ยในความโชคร้ายของ ‘ฉัน’ ให้อับอายมากขึ้นเท่านั้น

    ตลอดทั้งวัน ‘ฉัน’ เรียนไม่รู้เรื่องเลย คงจะเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อเช้าประกอบกับคำพูดของกาเหว่าสาวที่พูดทั้งน้ำตาก่อนจะร่ำลา แต่ถ้าพูดไปคงไม่มีใครเชื่อ คงหาว่า ‘ฉัน’ ฝันเป็นตุเป็นตะแน่ ๆ แต่มันก็ทำให้ ‘ฉัน’ ได้คิด
    ไม่ใช่แต่มนุษย์ที่มีความขัดแย้ง นกเองก็ยังมีความขัดแย้งภายในหมู่คณะ ในครอบครัวของพวกมัน มีการแก่งแย่งชิงดี มีความอาฆาต พยาบาท แก้แค้นทำร้ายกันไม่รู้จักจบสิ้นอย่างมนุษย์
    และที่สำคัญ นกก็มีน้ำตา !!!

    ************************************

    ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านนะครับ จะรีบแต่งตอนต่อไปมาลงครับ

    TBC...

    จากโจรผู้ที่ยัง.....โง่เขลา

    จากคุณ : gataring - [ 4 ต.ค. 48 16:34:10 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป