ตอนที่11
โครม ตามด้วยเสียงร้องของผู้หญิง โอ๊ย!
คุณเป็นอะไรหรือเปล่าชยันต์ถามหญิงสาวที่ตอนนี้ถูกทั้งเขาและจักรยานล้มทับ
โอ๊ย! เสียงลูกกวาดร้องด้วยความเจ็บปวด
คุณน้าเป็นอะไรหรือเปล่าคะฟ้าสางวิ่งเข้าไปหาลูกกวาด
ฟ้าสางชยันต์รีบลุกเข้าไปกอดฟ้าสางโดยลืมผู้หญิงที่เขากำลังนอนทับอยู่บนตัวหล่อน ลูกกวาดกำลังมองชยันต์ด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าทั้งโกรธ ทั้งเจ็บ
นี่นาย ช่วยเอารถจักรยานสับปะรังเคของนายออกไปจากตัวฉันด้วยลูกกวาดตะคอกเสียงดัง ทั้งๆที่หล่อนรู้สึกเจ็บระบบไปทั้งตัว
อ้าว ลืมเลยชยันต์พูดพร้อมกับรีบลุกไปเอาจักรยานออกจากตัวหล่อนทันที
ชยันต์มองหญิงสาวและนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ เขาปั่นจักรยานมาด้วยความเร็ว และเขาก็เห็นหล่อนนั่งขวางอยู่กลางถนน เขาจึงหักหลบแต่มันไม่พ้นทำให้เขาเสียหลักล้มลงมาทับบนตัวหล่อนนั่นเอง
มาจ้องมองฉันทำไม ไม่คิดที่จะช่วยฉันเลยใช่ไหมลูกกวาดตะคอกเสียงดัง
ชยันต์ได้ยินเสียงตะคอกของหญิงสาวก็ทำให้เขาไม่อยากที่จะช่วยให้หล่อนลุกขึ้นมาเลยจริงๆ แต่ด้วยความที่เขาเกิดมาเป็นผู้ชายเขาจึงต้องยื่นมือส่งให้หล่อน
ลูกกวาดเห็นสายตาของชยันต์ที่มองมาที่หล่อนมันไม่ได้บ่งบอกว่าเขาเต็มใจที่จะช่วยหล่อนเลย
ฉันไม่ได้หมายความว่าให้นายมาช่วยฉันด้วยวิธีนี้ แต่ฉันหมายความว่าให้นายไปช่วยใส่โซ่รถจักรยานให้ฉันหน่อยหล่อนตอบด้วยท่าทางหยิ่งยโส พร้อมกับลุกขึ้นนั่ง หล่อนรู้สึกจุกที่หน้าอกด้วยน้ำหนักตัวของชยันต์ที่ล้มลงมาทับหล่อน และหล่อนก็รู้สึกเจ็บที่ข้อศอกและก็พบว่าข้อศอกของหล่อนมีรอยแผลถลอก ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใหญ่มากนักแต่มันก็ทำให้มีเลือดไหลออกมาซิบๆ หล่อนเห็นรอยแผลก็เริ่มที่จะโมโหมากขึ้นเพราะว่าหล่อนไม่ต้องการให้ร่างกายของหล่อนมีรอบแผลเป็นแม้แต่น้อย
นายขี่รถภาษาอะไรไม่ดูทางเลยเหรอ
ผมต้องรีบปั่นจักรยานมาตามหาลูกของผมครับ เพราะว่าผมไม่ทราบว่ามีคนมาพาลูกผมไปไหนโดยไม่บอกพ่อของเขาเลย
หล่อนอยากจะบอกว่าหล่อนไม่ได้เป็นคนพาฟ้าสางมาเอง แต่ฟ้าสางอยากตามหล่อนมาเองมากกว่า แต่หล่อนก็ไม่รู้ว่าหล่อนจะโยนความผิดไปที่เด็กที่ไม่รู้ภาษาทำไม หล่อนจึงได้แต่นิ่งเงียบ
ชยันต์เดินไปทำการซ่อมจักรยานให้หญิงสาว โดยไม่ได้สนใจว่าหล่อนจะได้รับบาดเจ็บอะไรบ้าง เขารู้สึกโกรธหล่อนมากที่หล่อนแทบจะทำให้เขาแทบจะเป็นบ้าเที่ยวตามหาฟ้าสาง
เสร็จแล้วชยันต์หันไปบอกหญิงสาวที่กำลังก้มมองข้อศอกของตนเอง
คุณพ่อคะ คุณน้าเลือดออก
เหรอคะ แต่คุณน้าเขาเป็นคนเก่ง คงไม่เป็นอะไรมากหรอกลูก คุณคงลุกไหวใช่ไหมชยันต์หันไปถามหญิงสาวเสียงเรียบ
ไหว แต่ฉันไม่อยากปั่นจักรยานกลับไปเองแล้ว นายจำไม่ได้เหรอว่านายต้องรับใช้ฉันตลอดการมาพักที่นี้ลูกกวาดเชิดหน้าตอบชยันต์ที่ทำท่าทางเหมือนว่าหล่อนเป็นคนก่อเรื่องนี้เอง
ได้ครับ เอาเป็นว่าคุณซ้อนท้ายจักรยานผมไปแล้วกันนะครับ แต่คุณคงต้องให้ฟ้าสางนั่งด้วยนะครับชยันต์พยายามพูดกับหญิงสาวให้เสียงเรียบที่สุด
ชยันต์เดินไปที่จักรยานของหญิงสาวและเขาก็ขึ้นไปนั่งเพื่อรอให้หญิงสาวและฟ้าสางขึ้นมานั่ง
ฟ้าสางกระโดดขึ้นนั่งซ้อนท้ายจักรยานของชยันต์ ลูกกวาดค่อยๆลุกขึ้นมาช้าๆเนื่องจากว่าหล่อนรู้สึกว่าร่างกายหล่อนเริ่มที่จะระบม
ชยันต์รอจนกระทั่งหญิงสาวขึ้นมานั่งเรียบร้อยแล้ว หล่อนนั่งไม่ค่อยถนัดมากนักเนื่องจากว่าพื้นที่ของเบาะเหลือไม่ค่อยมากนัก เนื่องจากว่าฟ้าสางขึ้นไปนั่งอยู่ก่อนแล้ว เขารอจนกระทั่งลูกกวาดขึ้นนั่งเรียบร้อยแล้ว เขาก็ปั่นจักรยานออกไปจากที่นั่นทันที
ขณะที่ลูกกวาดนั่งซ้อนท้ายจักรยานชยันต์มาก็ไม่มีเสียงคุยกันเลย หล่อนมองแผ่นหลังของชยันต์ก็ทำให้หล่อนนึกถึงเหตุการณ์ที่หล่อนล้มลงและชยันต์ล้มลงมาทับบนตัวของหล่อน โดยที่ปากและจมูกของชยันต์มันมากระทบกับแก้มของหล่อนอย่างแรง หล่อนรู้สึกถึงความแข็งแรงของหน้าอกของชยันต์ที่มันทาบทับลงมาบนตัวหล่อน ทำให้หล่อนรู้วาบหวิวอย่างบอกไม่ถูก
ลงได้แล้วคุณชยันต์พูดเสียงดังจนทำให้หล่อนสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันที
ผมจะให้ดอกแก้วทำแผลให้คุณ คุณไปรอที่บ้านพักก่อนแล้วกันชยันต์หันไปบอกลูกกวาดที่ลงมายืนอยู่บนพื้นเรียบร้อยแล้ว
ไปทานข้าวกันดีกว่านะชยันต์จูงมือฟ้าสางตรงไปยังรีสอร์ท
เดี๋ยวลูกกวาดออกคำสั่ง
มีอะไรอีกหรือเปล่าครับชยันต์ถามด้วยน้ำเสียงรำคาญ
ฉันต้องการไปดูพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิว นายต้องพาฉันไปเพราะว่านายต้องคอยดูแลฉัน และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือว่าฉันรู้สึกว่าร่างกายฉันมันจะระบบจนขี่จักรยานด้วยตัวเองไม่ไหว นายต้องพาฉันไปลูกกวาดออกคำสั่ง
ได้ครับชยันต์บอกด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มอารมณ์เต็มที่
ขอบใจหญิงสาวยิ้มที่มุมปากน้อยๆเหมือนเป็นการกระตุกยิ้มมากกว่าที่จะยิ้มแบบจริงใ
ชยันต์มายืนรอหญิงสาวที่หน้าบ้านพักของหล่อน เพื่อพาหล่อนไปดูพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิวตามที่หล่อนออกคำสั่ง
ลูกกวาดออกจากบ้านพักด้วยหน้าตาที่สดชื่นกว่าเดิม หล่อนมาในชุดกางเกงขายาวสีขาวซึ่งหล่อนคงจะใช้ใส่นอน กับเสื้อกล้ามสีแดง พร้อมด้วยผ้าพันคอ หน้าตาของหล่อนดูเกลี้ยงเกลากว่าเมื่อตอนกลางวัน มีเพียงปากของหล่อนที่ถูกทาทับด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนๆ
มาตรงเวลาดีนี่ลูกกวาดทักทายชยันต์ที่กำลังยืนล้วงกระเป๋าหันหลังให้บ้านพักของหล่อน
ชยันต์หันมาตามเสียงทักทายและมองหล่อนด้วยสายตาชยันต์มองหญิงสาวสวย
ลูกกวาดรู้สึกว่าหล่อนจะเขินจนเกรงว่าหน้าหล่อนจะแดงจนทำให้เขาจับได้ว่าหล่อนอายสายตาของเขาที่มองมายังหล่อน หล่อนจึงเสพูดว่า
รีบไปกันได้แล้วหล่อนออกคำสั่งเสียงเข้ม
สายตาของชยันต์แปรเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินคำสั่งของหญิงสาว พร้อมกับผายมือเชิญหล่อน
หล่อนเดินตามหลังชยันต์มาจนถึงลานจอดรถจักรยานเมื่อตอนกลางวัน หล่อนรอจนชยันต์เลือกจักรยานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาเลือกที่จะไม่ใช้จักรยานแม่บ้านคันเดิม
เขาขึ้นคร่อมจักรยานและรอให้ลูกกวาดขึ้นซ้อนท้ายจักรยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็ปั่นจักรยานออกจากที่นั่นเพื่อมุ่งตรงไปจุดชมวิวทันทีก่อนที่พระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าไปก่อน
ลูกกวาดรู้สึกถึงไออุ่นจากแผ่นหลังของชยันต์ที่กำลังปั่นจักรยานอยู่ในขณะนี้ หล่อนรู้สึกอยากที่จะใช้มือของหล่อนโอบกอดรอบเอวของชยันต์ไว้
ท่าจะบ้าแล้วเรา ลูกกวาดคิดและก็รีบมองชมวิวไปรอบๆ
ชยันต์ปั่นจักรยานจนมาถึงจุดชมวิว แสงทองของพระอาทิตย์ที่อยู่เบื้องหน้าหล่อนเป็นสิ่งที่สวยงามมาก หล่อนนั่งลงที่ก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่งและเฝ้ามองไปเบื้องหน้าเพื่อรอพระอาทิตย์ค่อยๆลาขอบฟ้าไปทีละน้อย ๆ
นานไหมกว่าที่พระอาทิตย์จะตกลูกกวาดถามชยันต์เมื่อชยันต์มายืนอยู่ข้างๆ
ไม่นานหรอก แสงแบบนี้แสดงว่ากำลังจะตกแล้วชยันต์ตอบ
นั่งลงก็ได้ ยืนไม่เมื่อยหรือไงลูกกวาดบอกชยันต์
มันไม่เหลือที่ให้ผมนั่งแล้วนี่ชยันต์พูด
ฉันเขยิบให้ก็ได้ ฉันไม่ได้แล้งน้ำใจอะไรขนาดนั้นหรอกลูกกวาดพูดแล้วก็เขยิบให้ชยันต์นั่งข้างๆหล่อน
ชยันต์นั่งลงข้างๆหญิงสาว ซึ่งจ้องมองพระอาทิตย์เหมือนว่าไม่เคยเห็นมันมาก่อน เขารู้สึกว่าพระอาทิตย์ในวันนี้ไม่เหมือนเช่นทุกๆวันที่เขาเคยเห็น หรือว่าเป็นแม่สาวปากจัดคนนี้กันแน่ที่ทำให้เขารู้สึกว่าพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกในวันนี้มันสวยงามกว่าทุกวัน
นี่คุณพระอาทิตย์กำลังจะตกแล้วลูกกวาดหันมาบอกชยันต์ที่นั่งข้างๆ
ชยันต์หันมามองหน้าหญิงสาว ซึ่งดวงหน้าของหล่อนอยู่ไม่ห่างจากเขามากนัก ดวงตาของหล่อนเปล่งประกายแจ่มใสราวกับจะแข่งกับแสงของดวงดาวที่กำลังจะโผล่ขึ้นมาบนฟ้าเพื่อเข้ามาแทนที่พระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับไป
ลูกกวาดจ้องหน้าชยันต์ที่มีไรหนวดบางๆที่พึ่งจะได้รับการโกนมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หล่อนยังคงได้กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำยาโกนหนวดโชยเข้ามากระทบจมูกของหล่อน ดวงตาของชยันต์ที่มองมายังหล่อนมันช่างทำให้หล่อนรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก
ชยันต์ค่อยๆโน้มหน้าของเขาเข้าไปหาหญิงสาวโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกว่าแรงโน้มถ่วงของโลกมันกำลังจะโน้มถ่วงไปยังใบหน้าของหญิงสาวอย่างรุนแรง เขาเห็นหล่อนหลับตาพริ้มเหมือนกำลังจะรอคอยอะไรบางอย่าง
ริมฝีปากของชยันต์สัมผัสกับริมฝีปากของหล่อนเบาๆ และมันกำลังจะกดทับลงไปแรงขึ้น ทันใดนั้นลูกกวาดก็ได้สติและรีบหันไปดูพระอาทิตย์ทันที แต่มันไม่ทันเสียแล้ว พระอาทิตย์ได้ลาขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียงความมืดที่เข้ามาปกคลุมอย่างรวดเร็วในยามที่อากาศหนาวแบบนี้
โธ่ อดดูเลยลูกกวาดบ่นเบาๆ หล่อนคิดแต่เพียงในใจว่าเขาคนเดียวที่ทำให้หล่อนไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตก แต่หล่อนก็ไม่กล้าพูดออกมาตามความคิดเพราะนั่นแสดงว่าหล่อนกำลังทำอะไรอยู่จนทำให้หล่อนไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตก หล่อนรู้สึกอับอายขึ้นมาเล็กน้อยเนื่องจากว่าหล่อนปล่อยให้บรรยากาศพาหล่อนไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควร
วันนี้ไม่ได้ดูแล้ว กลับกันดีกว่าลูกกวาดชวนชยันต์
ชยันต์ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย เพราะเขาเองก็รู้สึกอับอายเช่นกันที่ปล่อยอารมณ์ไปกับหญิงสาว ที่ปากจัด เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด ซึ่งเขาควรจะหลีกหนีให้ไกลมากกว่าที่จะมาสนิทสนมด้วย เพราะมันอาจจะทำให้เขาได้รับความเดือดร้อนอีกก็ได้
จากคุณ :
ทรายสีรุ้ง
- [
5 ต.ค. 48 13:11:44
]