CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    - - - - - - "คนกลัวหนู" - - - - - -

    คืนนี้นริศมีความสุขมากกว่าคืนไหนๆ ยำวุ้นเส้นจานใหญ่ในห้องครัวกับนิสัยกินจุของเขาดูช่างจับคู่กันได้เหมาะเจาะเหลือเกิน ชายหนุ่มน้ำหนักตัวร่วมร้อยกิโลกรัมโปรดปรานอาหารรายการนี้มาตั้งแต่เด็ก สำหรับนริศแล้ว ยำวุ้นเส้นเหนียวนุ่มรสจัดประดับด้วยกุ้งแห้ง ขึ้นฉ่าย หัวหอม และเห็ดหูหนูดำครบครันจานนี้เป็นเหมือนขุมทรัพย์ที่ตักกินได้ดีๆนี่เอง

    กำลังเพลิดเพลินเอร็ดอร่อยกับอาหารจานโตไปได้ครึ่งเดียวชายหนุ่มก็รู้สึกผิดสังเกตเหมือนมีอะไรบางอย่างแปลกปลอมอยู่ในยำวุ้นเส้นจานนี้ นริศขมวดคิ้วพยายามมองรอบจานอย่างละเอียด แต่แรกคิดว่าตาคงฝาดไป แต่เมื่อลองเพ่งดูดีๆเขาก็เบิกตากว้าง เห็ดหูหนูดำชิ้นหนึ่งกำลังเคลื่อนไหวยุกยิกอยู่ใต้กองวุ้นเส้นทางซ้าย เขาพยายามใช้ส้อมเขี่ยอาหารจุดนั้นดู ปรากฎว่าทันทีที่ปลายส้อมแตะเข้ากับวัตถุต้องสงสัยเท่านั้น เจ้าเห็ดหูหนูดำตัวการก็ทะลึ่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว รูปร่างปราดเปรียวที่ปกคลุมด้วยขนดกหนา หนวดเส้นเล็กยาวขยับไปมาข้างฟันแหลมคู่นั้น ดวงตาดำแวววาวใต้ใบหูกลมบานนั้นแม้จะมีโอกาสได้เห็นเพียงแวบเดียว แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้นริศเย็นวาบไปทั้งตัว แม้แต่เด็กอนุบาลก็รู้ว่านี่ไม่ใช่เห็ดหูหนู....แต่เป็นหนู หนูจริงๆ

    นริศอ้าปากร้องตกใจ และยิ่งตกใจสุดขีดเมื่อหนูตัวนั้นกระโดดผางเข้ามาในปากของเขาจนเต็มขากรรไกร ชายหนุ่มผงะหงายหลังตกจากเก้าอี้ลงนอนดิ้นทุรนทุรายบนพื้นครัวทั้งๆที่ยังมีหนูตัวเขื่องอยู่ในปาก ไม่นานนักร่างที่เกร็งกระตุกก็ค่อยๆแน่นิ่งไป ส่วนหนูตัวนั้นก็ค่อยๆมุดหายเข้าไปในปากของเขาทุกทีจนเหลือแต่หางเรียวเล็กกระดิกไปมาลอดผ่านริมฝีปากและหดหายเข้าไปในร่างของเขาในที่สุด


    นริศสะดุ้งลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนและสำลักไอติดกันหลายครั้ง มือที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อทั้งสองข้างพยายามง้างและล้วงเข้าไปในปากเพื่อหาร่องรอยของหนูว่ายังอยู่ข้างในหรือไม่ แต่เมื่อรวบรวมสติและลำดับเหตุการณ์อยู่ครู่หนึ่งตลอดจนสำรวจร่างกายแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ ร่างอ้วนใหญ่ของนริศก็กดโทรศัพท์มือถือให้สว่างเพื่อดูเวลา เลขดิจิตอลสี่หลักบอกเขาว่าขณะนี้เป็นเวลาตีสามครึ่ง หลังจากนั่งพักจนเริ่มคลายความตื่นเต้นเขาก็ค่อยๆเอนตัวลงนอนอีกครั้ง พยายามข่มตาหลับเหมือนเดิมและบอกตัวเองว่ามันก็เป็นแค่ฝันร้าย แต่เสียงแหลมเล็กจี๊ดหนึ่งที่ปลายเตียงทำให้เขารีบลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นริศผงกหัวขึ้นมองซ้ายขวาในความมืดจนมองเห็นว่าที่ปลายเท้าของตัวเองมีดวงตาสีทับทิมคู่เล็กคู่หนึ่งกำลังจ้องมาที่เขาก่อนจะกระโดดหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้แต่เพียงเสียงจี๊ดสำทับเบาๆให้เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ชายหนุ่มร่างอ้วนอุทานตกใจเสียงสั่นแล้วรีบยกผ้าห่มขึ้นคลุมโปง ในชีวิตนี้เขาไม่เคยกลัวอะไรมากไปกว่าสัตว์สี่ขาขนดกนี้อีกแล้ว ผีที่เคยกลัวมาตั้งแต่ยังเด็กยังทำให้เขาเกลียดกลัวได้ไม่เท่าหนูเลยด้วยซ้ำ

    เสียงจี๊ดๆยังแว่วมาจากใต้เตียง นริศตัดสินใจเด็ดขาดทั้งๆที่ยังนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มว่าอย่างไรก็ต้องหาทางจัดการขั้นเด็ดขาด หนูกับเขาจะอยู่ร่วมบ้านเดียวกันไม่ได้ พรุ่งนี้แหละที่จะได้เห็นดีกัน


    เช้าวันถัดมานริศถือไฟฉายเดินย่องไปรอบบ้าน มองหาจุดที่น่าจะเป็นรังหนูก็พบว่ามีหลายที่ในบ้านที่หนูน่าจะอาศัยอยู่ จากนั้นก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปร้านของชำปากซอย ซื้อกรงเหล็กดักหนูมาสามกรง กำลังจะออกจากร้านแต่ก็ชะงักเท้าไว้แล้วหันมาถามซื้อถาดกาวดักหนูจากเถ้าแก่อีกสองจาน ยาเบื่อหนูอีกสองห่อ นริศยอมเสียเงินเพิ่มและแบกอุปกรณ์กำจัดหนูพะรุงพะรังกลับบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอเพียงให้หนูหมดไปจากบ้านเขาเท่านั้น

    เมื่อกลับถึงบ้านชายหนุ่มรีบวางข้าวของแล้วปรี่มาที่ตู้เย็นทันที หยิบปลาหมึกแห้งมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ควานหาผักและเนื้อที่ใกล้หมดอายุจนได้มะละกอสุกจัดจนกลิ่นฟุ้งมาครึ่งลูก นริศรีบเอาปลาหมึกไปเกี่ยวตะขอกรงดักหนูและง้างปากกรงออก ลองใช้ไม้แหย่ตะขอเหยื่อล่อดูจนแน่ใจว่าบานพับสปริงของกรงทำงานได้ผลก็เอามะละกอนิ่มกลิ่นแรงไปวางไว้กลางถาดกาวดักหนูทั้งสองถาด จากนั้นแกะห่อยาเบื่อหนูมาคลุกกับเศษอาหารที่เหลือวางบนกระดาษหนังสือพิมพ์หลายชุด นริศปาดเหงื่อภูมิใจกับผลงานตรงหน้า เสียงจี๊ดเล็กแหลมยังดังมาจากมุมใดมุมหนึ่งของบ้านแต่ชายหนุ่มกลับกระหยิ่มยิ้มย่อง คอยดูเถอะ ต่อจากนี้จะมีหนูสักกี่กองทัพเขาก็มีอุปกรณ์กำจัดไว้พร้อมแล้ว

    นริศยกกับดักหนูไปวางไว้ตามมุมต่างๆของบ้านตามที่สังเกตไว้เมื่อเช้า กรงดักหนูไว้ที่ห้องรับแขกกับหน้าห้องน้ำ ถาดกาวดักหนูวางไว้ข้างตู้เย็นในห้องครัว ยาเบื่อคลุกวางกระจายตามท่อน้ำรอบตัวบ้าน ส่วนบนห้องนอนของเขามีทั้งกรงดักหนูหน้าตู้เสื้อผ้าและถาดกาวดักหนูที่พื้นปลายเตียงอีกชุดหนึ่ง เท่านี้บ้านของเขาก็กลายเป็นสนามรบระหว่างคนกับหนู นริศแอบซุ่มเงียบอยู่ที่โซฟาในจุดที่มองเห็นกับดักหนูตามห้องต่างๆได้มากที่สุดและรอคอยให้มีหนูโชคร้ายสักตัวมาติดกับ สายตาจ้องสลับไปมาระหว่างห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัวและท่อระบายน้ำนอกหน้าต่าง รอคอยแบบไม่ให้คลาดสายตาว่าเมื่อไหร่จะมีหนูสักตัวมาติดกับ ไม่กล้าแม้แต่จะลุกไปห้องน้ำเพราะกลัวว่าหนูที่กำลังจับจ้องอาหารในกับดักอยู่อาจจะไหวตัวทันหลบหนีไปได้

    เขานั่งมองกับดักหนูอย่างใจเย็นแบบเดียวกับนักตกปลารอคอยปลาฮุบเหยื่ออยู่อย่างนั้นหลายชั่วโมง หลายครั้งที่หัวใจเขาเต้นระทึกเมื่อได้ยินเสียงจี๊ดใกล้และหางตาเห็นอะไรบางอย่างดำๆวิ่งผลุบหายไปมาตามมุมบ้าน แต่จนแล้วจนรอดเริ่มมืดค่ำก็ยังไม่มีหนูตัวใดหลงกลเข้ามา นริศถอนหายใจอย่างผิดหวังก่อนจะตัดสินใจเดินขึ้นห้องนอน อาจเป็นเพราะเขาเพิ่งวางกับดักวันแรก หนูอาจเห็นผิดสังเกตเลยยังไม่กล้ามากินเหยื่อก็เป็นได้ แต่เอาเถอะ วันพรุ่งนี้อาหารที่ใช้เป็นเหยื่อจะมีกลิ่นแรงขึ้นไปอีก หวังว่าหนูคงเข้ามาติดกับสักตัว

    นริศยังนอนคลุมโปงอยู่บนเตียง หูคอยเงี่ยฟังเสียงจากมุมต่างๆของห้องเพื่อลุ้นว่าจะมีเสียงจากกรงดักหนูหรือถาดกาวบ้างหรือไม่ แต่ในที่สุดเขาก็หลับไปท่ามกลางความเงียบและเสียงจี๊ดเบาๆรอบห้อง

    จากคุณ : ธามาดา - [ 6 ต.ค. 48 15:12:08 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป