CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    บ า ด

    เรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นจริง และไม่มีเจตนาจะพาดพิงผู้ใด แต่เรื่องนี้อาจมีโอกาสเกิดขึ้นจริง




    --------------------------------------------------------------------------------






    บนทางหลวงสายหนึ่ง เชื่อมต่อระหว่าง กรุงเทพ – ชลบุรี


    เป็นเวลาหลังเลิกงาน ปกติเธอจะเดินทางโดยลำพัง


    แต่เย็นนั้น ไม่ปกติ เพราะ เขาอาสาไปส่งเธอกลับบ้าน


    ระหว่างทางเขาชวนเธอคุยสารพัด ที่จะสรรหาเรื่องมาคุย


    เป็นเรื่องไม่ปกติอย่างยิ่ง เพราะเขาไม่ใช่คนช่างพูด



    เขาบอกว่า ดีใจที่ได้ร่วมงานกับเธอ และเสียใจ


    ที่วันนี้เธอลาออกจากงาน แต่ก็เข้าใจเพราะมันจำเป็น


    .
    .
    .
    .
    .



    หมดเรื่องคุย เขาหันมาสนใจเรื่องส่วนตัวของเธอ เธอตอบเขาเท่าที่จะตอบได้


    เขายังถามถึงเรื่องส่วนตัวมากมายไม่ยอมเลิก คำถามหนึ่งทำเธอ เจ็บหัวใจ


    “คุณ ไม่ใช่ คนสวย แต่เป็นคนน่ารัก อยากรู้จังคุณมีใครหรือยัง? “


    “มีแล้วค่ะ ปีหน้าเราจะแต่งงานกัน” เธอโกหก และตัดบทว่าใกล้แต่งงาน


    เพราะไม่อยากให้เขาถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อ เธอเพิ่งเลิกกับแฟน


    และ งานแต่งงานไม่มีวันเกิดขึ้นจริง อันนี้ต่างหากคือเรื่องจริง


    มันช่วยได้เพราะดูเหมือนเขาจะหมดเรื่องพูดคุย


    .
    .
    .
    .
    .




    “เฮ้อออออออออออออ. . .” อยู่ๆ เขาก็ถอนหายใจยาวนาน


    เธอเงียบและไม่เข้าใจ ความอึดอัดเข้าแทรก พร้อมๆ กับ


    ความกลัว เพราะ เขาขับรถช้าเหลือเกิน


    แสงสุดท้ายจากฟากฟ้านี้ไปแล้ว ความมืดเข้าครอบงำถนนสายนี้ และสองข้างทาง


    เมื่อไหร่จะถึงบ้านสักทีเธอคิด


    .
    .
    .
    .
    .
    .




    ไม่นานนัก เขาก็ตั้งคำถามให้เธอตอบอีก


    “ถ้าเกิดว่า . . .”


    “ถ้าเกิดว่า ผมจะบอกว่า ผมชอบคุณล่ะ คุณคิดยังไง”


    ((ห๊า...อะไรนะ!!! เธอตั้งสติ 2 วินาที))

    (( และตอบคำถามของเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ บนใบหน้าที่เย็นชา))


    “อืม...ก็ดีค่ะ มีคนชอบก็ยังดีกว่า มีคนเกลียด”


    “แต่ไม่ใช่อย่างนั้นนะที่ผมรู้สึก ผมรู้สึกชอบคุณ ฉันท์ชู้-สาว”


    คราวนี้ไม่มีคำตอบจากใบหน้าเย็นชาของเธอ ทีนี้เธอไม่เพียงแต่หน้าชา


    แต่เธอชาไปทั้งตัวแล้ว ความรู้สึกของเธอใกล้จะ เย็นชาไปด้วย



    ยังดีอยู่หน่อยที่ เธอยังมีความรู้สึก


    กลัว

    เสียใจ

    รัดทดใจ

    เศร้าใจ

    หวาดผวา



    ความหวาดกลัวเพิ่มพูนเมื่อเขาเอื้อมมือ มาจับมือเธอ


    “ผมขอจับมือคุณไว้อย่างนี้ได้ไหม”


    เอาเอ่ยขอ หลังจากได้ทำมันไปแล้ว ทุเรศสิ้นดี



    ((เออ...ออออ จับไปเถอะ นะ แต่อย่าจับอย่างอื่นก็แล้วกัน))



    สมองบอกให้ยอม ให้เขาจับมือไป ดีกว่า ที่เขาจะทำอย่างอื่น ถ้าเกิดขัดขืน


    และ คิดหนทางที่จะให้เขาปล่อยมือสวะ ๆ ของเขาจากมือเธอ


    น้ำตาไหลอยู่ในหัวใจ


    .
    .
    .
    .
    .



    ทำไมระยะทางวันนี้เหมือนเพิ่มขึ้นอีก เป็น 100 กิโลเมตรนะ เธออยากให้ถึงบ้านไวไว


    “บอกผมได้ไหม คุณคิดยังไง กับผม ? “ เขาตั้งคำถามไม่เลิก



    “อย่าได้กังวลใจไปนะค่ะ ฉันไม่รู้สึกอย่างที่คุณรู้สึก"

    "และเฉยๆ ค่ะ เพราะ ฉันไม่เคยคิดอะไรฉันท์ชู้-สาว กับคุณเลย”



    คำตอบของเธอได้ผล เขาคลายมือ


    เธอรีบดึงมือกลับ แล้วซุกมือข้างนั้นลงในกระเป๋าใบโตที่เธอชอบสะพาย


    อาศัยความมืด เอามืออีกข้างหนึ่งถูความสกปรกที่ติดมาจากมือเขาออก


    ความเงียบเข้าครอบงำ บรรยากาศในรถคันนี้อีกครั้ง


    มีเพียงเสียงถอนหายใจยาวนาน และ หลายเฮือก ของเขาเท่านั้น


    เธอเบนหน้ามองข้างทาง ที่เริ่มสว่างขึ้น ใจชุ่มใจชื้นขึ้น ใกล้ถึงบ้านแล้ว


    .
    .
    .
    .
    .



    เขาขับเลี้ยวซ้ายออกจากถนนสายนั้น อีกไม่กี่ร้อยเมตร จะถึงบ้านเธอแล้ว


    รถจอดสนิท รถจอดสนิท แต่ไม่ใช่หน้าบ้านเธอ . . .


    เขาเลี้ยวอีกทีตรงทางแยกนั่นก่อนถึงบ้านเธอ


    ข้างทางที่มืดสนิท . . .ประตูถูกล๊อก . . .เธอหวาดหวั่นและสั่นกลัว


    เขาทำมัน. . .การกระทำแบบนี้เรียกว่ารู้สึกดีกับเธอแน่ใจหรือ ??? ..


    ปากอันน่าขยะแขยง มือ. . .หยาบกร้านเปร่อเปื้อนบาป กำลังรุกรานร่างกายเธอ


    สติ สมอง เท่านั้นที่จะช่วยเธอ . . .ดิ้นรนไปรังแต่จะรัดแน่น


    เธอผ่อนปรน และ พูดคำหนึ่งออกมา


    "พ่อจ๋า . . .ช่วยหนูด้วย " เพียงแผ่วเบาพร้อมหยาดน้ำตา


    . . .เหมือนคำศักดิ์สิทธิ์ เขาผงะหงายหลัง . . .


    ((("ลูกสาว ลูกสาวเรา เรามีลูกสาว . . .เธอคนนี้กะลูกสาวเราเป็นเพื่อนกัน ")))


    ((("เราเคยห่วงใยเธอเหมือน ลูกสาว ลูกสาว ใช่แล้ว ลูกสาว ")))



    . . . ความคิดนี้แวบเข้ามา . . .


    ร่างกาย ที่ห่มด้วยอาภรณ์ฉีกขาดตรงหน้า เป็นลูกสาวใคร หากเป็น ลูกสาวของเขาเองร่ะ


    ดวงหน้า และ แววตาเขาสับสน







    ตอนนี้เธอ คว้ากระเป๋าใบใหญ่ . . .กอดมันแน่นแนบอก. . .หลังจากวิ่งหนีออกมาจากรถคันนั้น


    แสงไฟ แสงไฟ แสงไฟ ตรงนั้น วิ่งไปสุดแรงเท่าที่มี แสงไฟตรงนั้นคงช่วยเธอได้





    ของเหลว สีแดง ที่หล่อเลี้ยงกายเธอ ขณะนี้ หล่อเลี้ยง ถนนสายนี้ อีกสักพัก มันจะเริ่มแห้งกรัง


    ร่างที่ห่มด้วยอาภรณ์ฉีกขาดของเธอ . . . ขณะนี้ ถูกคลุมด้วยผ้าขาว


    ของเหลว สีแดง ไม่อาจหล่อเลี้ยงร่างเธอ . . . มันพยายามหล่อเลี้ยง และย้อมสีผ้าขาว ผืนบาง





    ...

    จากคุณ : WhaT iT'S W๐l2tH - [ 10 ต.ค. 48 00:35:18 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป