CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    7 วันที่ศรีสะเกษ ตอนที่ 1

    4.45 น. ฉันตื่นเตรียมตัวเดินทางไปศีรษะอโศก  ขึ้นรถแล้วพอได้ที่ทางเหมาะ ๆ ก็หลับตามเคย  เวลา 9.00 น. แวะพักกินข้าวที่สวนสุรนารี  อากาศดีมาก  สัมผัสได้ถึงไอเย็นของแม่น้ำ  ช่วงบ่ายจนถึงศีรษะอโศกโม้กันตลอดทาง  พอไปถึงก็หาที่พัก  สร้างบ้านกลางกลดเสร็จก็ไปซื้อของ  ปีนี้ขี้ลืมจัง  เสื่อไม่ได้เอามา  แต่เอาผ้ายางมาหลายผืน  แปรงสีฟันก็ลืมเอามา  ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยลืมเลยนะ  ซื้อของเสร็จไม่รู้เป็นไง  ง่วงมาก  เลยหลับไปครึ่งชั่วโมง  ตื่นมาไปอาบน้ำซักผ้า  แล้วไปดูหนังที่ลานปลุกเสก  ก่อนฉายหนัง  ฉายสารคดี  คนค้นคน  ตอน  “ปู่เย็น”  ดูแล้วซาบซึ้งในชีวิตเรียบง่าย  มักน้อยสันโดดของปู่  อายุ 106 ปี  อยู่คนเดียว  ไม่ชอบพึ่งพาใคร  ใครจะช่วยเหลืออะไรก็ไม่เอา  ไม่เอาเปรียบใคร  น่าชื่นชมมาก ๆ

    คืนนี้ฉายหนังฝรั่งเรื่อง  หน่วยผจญเพลิงฝ่าไฟนรก  หรือ เรื่อง  The leader 49  (ใครเคยดูบ้างคะ  ยกมือขึ้น!!)  เป็นหนังเกี่ยวกับนักดับเพลิงที่คอยผจญเพลิงฝ่าอันตรายเพื่อช่วยเหลือคนที่ประสบภัย  ซาบซึ้งความมีน้ำใจ  ความกล้าหาญที่อยากช่วยเหลือชีวิตคนอื่น  ความเป็นเพื่อน  ความเสียสละชีวิต  เพราะตอนสุดท้าย  พระเอกอยู่หน่วย 49  เข้าไปช่วยผู้ประสบภัยที่ไฟไหม้  หลังจากหย่อนผู้ประสบภัยลงไป  มีกระเช้ารอรับอยู่   ชั้นที่พระเอกยืนอยู่เกิดระเบิดอย่างรุนแรง  เขาร่วงหล่นด้วยแรงระเบิดจากชั้น 12  ลงไปที่ชั้นล่างสุด  แต่ยังไม่ตาย  หัวหน้าหน่วยวอร์มาเรียก  แล้วพยายามส่งทีมเข้ามาช่วยเหลือ  สั่งให้นำตัวหน่วย 49  ออกมาให้ได้  กว่าจะฝ่ากองอิฐซากกรงเหล็ก  ซากปรักหักพังที่ทับถมกันเข้าไปได้  ตึกบางส่วนก็ระเบิด  และถล่มตลอดเวลา  พอเข้าไปถึงปรากฏว่ามีไฟลุกท่วมอยู่ในระหว่างใจกลางตึก  พระเอกมองเห็นไฟแล้ว  ถอดใจ วอร์ไปบอกหัวหน้าให้ถอนกำลัง  มันไม่ทันแล้ว  หัวหน้าจึงต้องตัดใจสั่งถอนกำลังทั้งหมด  

    ฉันลุ้นตลอด  อยากให้มีปาฏิหาริย์มาช่วยเขา  แต่….ชีวิตจริงมันไม่มีปาฏิหาริย์เลย  เพราะเขามีจิตใจที่ดีงาม  เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  จิตใจที่อยากช่วยเหลือชีวิตของคนอื่นให้ปลอดภัยของเขาทำด้วยอะไร  แฮะ แฮะ  ดูไป  เสียน้ำตาไปเยอะเลย  ในขณะที่คนอื่นเขาแค่คลอ ๆ  คงเพราะฉันคงซาบซึ้งมากไปหน่อยนะ   แล้วนึกถึงชีวิตจริง  ที่เพิ่งมีหน่วยดับเพลิงเสียชีวิตจากตึกถล่ม  ใจหาย   สงสารเขา  เพราะเขาจะเข้าไปช่วยเหลือคนอื่น  แต่ต้องมาตายแบบนี้  เสร็จก็โม้หนังกับพี่ขวัญ (ตอนโม้ถึงหนัง  ยังน้ำตาคลอไปด้วยเลย  แฮ่…) แล้วสวดมนต์  นั่งสมาธิ  เข้านอน  วันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบาย  พรุ่งนี้คงดีขึ้น

    3-4-48
    ตื่นสายเกือบ 6 โมงเข้าแหนะ  เป็นไปได้ยังไงกัน  ฉันไม่เคยตื่นสายขนาดนี้  ในงานแบบนี้เลย  ฉันจะได้ยินเสียงระฆังตลอด   หรือรู้สึกตัว  เพราะคนข้าง ๆ  ต่างลุกเตรียมตัวไปทำวัดกัน  แต่วันนี้…ทำไม…ไม่ได้ยินนะ   ตื่นแล้วรีบไปซื้อของใส่บาตร  ใส่เสร็จไปกับน้อง ๆ พากันไปออกกำลังกายที่หลังสวนผัก  ไปวิ่งกัน  อากาศดีมาก  ค่อนข้างเย็น  แล้วมาขึ้นศาลาฟังพ่อท่านเทศน์

    ภาคบ่าย  รายการหวนรำลึกถึงปลุกเสกฯ  โดยสมณธัมมาวุธโธ  ท่านสิริเตโช  ท่านปพโล  สิกขมาตจินดา  และคุณขวัญดิน  คุณขวัญดินเล่าถึงงานปลุกเสกปีแรก คือปี 2519  หม้อยังไม่มี  ใช้ปี๊บแทน  เตาไม่มี  ต้องขุดหลุมทำเป็นเตา  ทัพพีก็ไม่มี  ใช้ก้านมะพร้าว  ส้วมก็เป็นส้วมหลุม  น้ำประปาก็ไม่มี  ต้องตักน้ำจากบ่อ  โยกเอา  สมัยนั้นจึงมีคนตั้งตบะไม่อาบน้ำ  เพราะน้ำมีน้อย

    ท่านปพโล  ท่านเล่าว่า  ท่านฝึกใช้เสื้อผ้าชุดเดียว  กะลาใบเดียว  นอนในที่คนพลุกพล่าน  นั่งข้างหน้า  ฝึกทำสิ่งที่ทำไม่เป็น  ปีนี้ที่ศีรษะอโศกแล้ง  ญาติธรรมจากที่ต่าง ๆ ก็ขนอาหารมาให้เยอะมาก

    ภาคค่ำ  รายการให้ได้เลยชาติหนึ่ง  โดยสมณะตถพาโว
    คนแรก คุณย้ำยืน  อายุ 72 ปี  ท่านยังแข็งแรงมาก  ไม่เหมือนคนอายุ 70 แล้วเลย  พูดชัดเจน  เดิมเป็นแม่ค้าขายของ  ขายทุกอย่าง  ทำนา  เลี้ยงหมู  ยิ่งทำมากก็ยิ่งเป็นหนี้  พ่อท่านเดินบิณฑบาตรผ่านมา  รู้สึกว่าท่านเดินแปลกไม่เหมือนพระทั่วไป  รีบไปหาข้าวมาใส่บาตร  แต่มีแต่ข้าวที่ตักไปทานบ้างแล้ว  แต่อยากใส่บาตรมาก  ได้ฟัง เทศน์ท่านเกี่ยวกับศีล 5 ครั้งเดียวเลิกหมากได้เลย  ลดละมาเรื่อย ๆ มานอนวัดบ้าง  ไป ๆ มา ๆ เลิกขายของที่ผิดศีล (น่าทึ่งมาก  แสดงว่ามีสัมมาทิฐิมาก ๆ  ไม่เกรงว่ารายได้จะหายไป  มีไม่กี่คนหรอกที่ทำได้  บางคนสนใจศาสนาก็จริง  แต่ที่บ้านยังขายเหล้าบุหรี่อยู่เลย  ไม่สามารถเลิกขายสิ่งที่ผิดศีลได้)

    คุณหนึ่งเดียว  อยู่ปฐมอโศก  ตั้งแต่ปี 30  บ้านเกิดอยู่สุพรรณบุรี  ได้รู้จักอโศกตอนอายุ 51  วันที่ 16-1-24  มีอาชีพเป็นครู  พาชาวบ้านสร้างโรงเรียนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ  อยากรวยเลยซื้อ 10 ล้อ  แต่พอได้เงินก็กินเหล้าหมด  ได้อ่านหนังสือแสงสูญของชาวอโศก  เคยบวช 13 ปี  พอได้อ่านหนังสือรู้สึกว่าไม่ได้เป็นพระที่แท้จริงเลย  คงบาปมาก  เลยเลิกกินเนื้อสัตว์ทันที  ให้ลูกอ่านหนังสือแสงสูญให้ครอบครัวฟัง  ทำให้เลิกกินเนื้อสัตว์ทั้งครอบครัว  เขียนจดหมายไป  พ่อท่านก็ตอบจม.ให้ตลอด(สมัยก่อนพ่อท่านมีเวลาตอบจม.)  ถือศีล 5 กินมื้อเดียว  หนี้สินก็หมด  ปลูกไม้สักเป็นไร่ ๆ มีอายุ 12 ปี  ถวายพ่อท่านหมดเลย  แทนที่จะขายได้เงินเป็นแสน ๆ ก็ไม่เอา

    คุณเย็นฟ้า  อายุ 84 ปี  เจอชาวอโศก ปี 2519  เพราะพ่อท่านกับหมู่สมณะไปบิณฑบาตร  รู้สึกเลื่อมใสศรัทธา  อยากใส่บาตร  แต่พ่อท่านไม่รับเนื้อสัตว์  ก็รู้สึกแปลกใจ  แล้วก็ได้ช่วยงานชาวอโศก  ทำอาหาร  เสียสละ จนถึงทุกวันนี้  

    เสร็จรายการก็กลับไปนอน  แต่ไม่รู้ทำไฟฉายหายไปไหน  หาไม่เจอเลย  

    4-4-48
    ทำวัตรเช้า  พ่อท่านแจ้งการจัดงานวิสาขบูชา  ที่จะจัดขึ้นที่พุทธมณฑลร่วมกับองค์กรศาสนาจากทั่วประเทศ  จัด 9 วัน  ได้มีการฉายวีดีโอให้ดู  ที่ชาวอโศกได้ไปจัดงานวิสาขบูชา  ณ สวนลุมพินี  ปี 2524  ชาวอโศกก็จะไปจัดโรงบุญมังสวิรัติ  นิทรรศการ  แจกหนังสือธรรมะ  ไปเป็นผู้รับใช้  ทำความสะอาด  ไปทำ 5ส  

    หลังจากนั้น  ฉันก็ไปเฝ้าพญานาคที่เมืองบาดาล  อิอิ  เลยไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว  แหะ แหะ  ทำวัตรเสร็จไปซื้อของใส่บาตร  ออกกำลังกาย  แล้วขึ้นศาลาฟังเทศน์ก่อนฉัน  โดยสมณศีลวัณโณ  กับสมณถิรจิตโต  รายการโพธิกิจตอน  ขูดขัดอัตตา  ฉายภาพพ่อท่านไปขูดพิษจนตัวแดงไปหมด(เป็นวิธีการรักษาแบบจีน)  ต่อด้วย  พ่อท่านได้ไปขัดฟัน  หือ…แค่ฟังเสียงเครื่องมือทำฟันก็เสียวแล้ว  หมอที่มาทำให้คือ  แพทย์ประจำพระองค์ของในหลวงเชียวนะ  ตามด้วยการไปเขี่ยดวงตาตามหลักแพทย์สมุนไพร  

    ธรรมะมาฝาก   -เมื่อเกิดปัญหา  ต้องโทษตัวเองก่อนคนอื่น  เพื่อลดอัตตาตัวเอง

    ตอนบ่าย  รายการระดมสมอง  เหลียวหลังแลหน้า  จากรากหญ้าสู่รากแก้ว  เป็นการประเมินผลโครงการพลังกู้ดินฟ้าประชาเป็นสุข  ที่มีการอบรมสัจจะธรรมชีวิตให้กับเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ ธกษ.  ผลการประเมิน  ชาวบ้านที่ผ่านการอบรมแล้ว  จะเกิดการเปลี่ยนแปลง 80% จาก 30 หมู่บ้านทั่วประเทศ  การเปลี่ยนแปลงมี 2 แบบ

    1. เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตให้เป็นวิถีธรรมมากขึ้น  มีการลดละเลิกอบายมุข
    2. เปลี่ยนแปลงวิธีผลิตมาสู่การพึ่งตนเองมากขึ้น

    การอบรมใช้หลักศรัทธา และศาสนาเป็นตัวนำ  คือ
    1. รูปแบการถ่ายทอดธรรมะของสมณะ  ใช้ความรู้จริง  ของจริงมาถ่ายทอด
    2. พี่เลี้ยง
    3. ความมุ่งมั่นของทีมงาน
    4. ผู้นำศูนย์อบรม
    5. ตัวอย่างชุมชนที่มองเห็นผลได้จริง

    เป้าหมายเพื่อพัฒนาชุมชน

    ทุกแห่งที่อบรมแล้วจะมีการลดบุหรี่  เหล้า  ให้น้อยลงอย่างเด่นชัด  ด้านเยาวชน  ทำให้เยาวชนตระหนักถึงบุญคุณของพ่อแม่  ช่วยงานการมากขึ้น

    ข้อเสนอแนะ
    1. พัฒนาผู้ปฏิบัติงาน
    2. สร้างประสบการณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้

    ภาคค่ำ  รายการทายาทบุญนิยม
    คุณกระบี่พุทธ  อายุ 28 ปี  เป็นศิษย์เก่าสัมมาสิกขารุ่นแรกจากศีรษะอโศก  มาตั้งแต่ยังไม่มี ร.ร. สัมมาสิกขา  เรียน ป.โท  อยู่  ทำงานเกี่ยวกับระบบ VDO บอสแคสติ้ง  เปิดบริษัทของส่วนตัวด้วย  เสาร์-อาทิตย์  ไปเรียน ป.โท  มีความรู้สึกว่า  อายุมากขึ้น  ใจหาย  ต้องรีบทำอะไรมากขึ้น  เขาเป็นผู้ก่อตั้ง  สมาคมศิษย์เก่าสัมมาสิกขา  พยายามจะเชื่อมเด็ก และผู้ใหญ่ให้เข้าหากัน

    คุณก๊อฟ  นักเรียนรุ่นแรกของปฐมอโศก  ประทับใจความเมตตาของพ่อท่านที่พ่อให้เวลามาพบทุก 2 อาทิตย์  ได้ทำเกี่ยวกับสื่อ  ทำประวัติโรงเรียน  เกิดสงสัยว่า  รุ่นเราเป็นรุ่นบุกเบิกหายไปไหนกันหมด  พอจบก็อยู่ทำงานช่วยวัด 1 ปีเพื่อตอบแทนบุญคุณบ้าง  ไปอยู่บ้านราช 3 ปี  เกิดความสงสัย  เพราะอยู่วัดมา 10 ปี  แล้วเลยลองออกไปทำงาน  เรียนเอกนิเทศเกี่ยวกับภาพยนตร์  พอไปทำงานในโรงถ่าย  เป็นช่างไฟ  ต้องกินเจเขี่ย ทำงานอยู่ 3 ปี  แต่มีกรอบให้ตัวเอง  ไม่ตกต่ำ  พยายามทำตัวให้ดี    การทำงานต้องทำงานตลอดไม่มีวันหยุด  ไม่มีจุดหมาย  นอนดึก  ตื่นเช้า  ไม่เจอใครเลย  พอมางานศิษย์เก่า  ได้เจอพี่น้อง  เพื่อนฝูง  รู้สึกสบายใจ  และรู้สึกว่า  ตัวเองกร้าวร้าวขึ้น  หยาบคายขึ้น  ได้รู้ข่าวว่าพ่อท่านสุขภาพไม่ค่อยดี  เลยกลับมาอยู่วัดเพื่อตอบแทนบุญคุณ  พอกลับมาทำงานในวัด  รู้สึกดี  รู้สึกถูกต้องมาก  ใช่เลย  เคยคิดอยากจะลืมว่าไม่ใช่อโศก  แต่ก็ทำไม่ได้

    ประทับใจน้องคนนี้มาก ๆ ในแง่ความคิดที่มีความกตัญญูอยากอยู่วัดช่วยงานวัดเพื่อตอบแทนบ้าง

    คุณศศิธร  อายุ 29 ปี  เคยเป็นเด็กพุทธธรรม  จบครูมา  เพราะอยากได้ครูที่เข้าใจเด็ก  ได้อ่านหนังสือพิมพ์  มีโครงการศึกษาพิเศษที่สอนเด็กดาวชินโดม  และได้เจอหม่อมดุษฎี  ต้องมาฝึกใหม่หมด  การกินการพูด  บุคลิกภาพต่าง ๆ ประทับใจครูพุทธธรรม  เพราะว่าอ่อนโยน  ตอนออกไปทำงาน  เคยไปลองกินเนื้อสัตว์ดู  ก็จะเกิดอาการแพ้ ขึ้นผื่น  ถ้ากินไข่  ก็จะเป็นผื่นเป็นคางทูม  พอกลับมากินมังสวิรัติอีกครั้งก็หาย  การเป็นครูต้องเพ่งที่ตัวเราก่อน  ถ้าตัวเราเองไปสัมผัสสิ่งนั้น  เรารับได้หรือเปล่า  จะได้ไม่เกิดผลเสีย

    คุณอรุณ  อายุ 20 ปี  เป็นมวช.(นักศึกษามหาลัยวังชีวิต)  อยู่ที่ศาลีอโศก  เดิมอยู่ จ. ตาก  มีพระที่เคยมาอโศกไปชักชวนเด็กที่จบ ป.6 ให้มาเรียนที่ศาลีอโศก มีรุ่นพี่ชื่อชวาอยู่ที่ศาลี  อยู่หมู่บ้านเดียวกันมาชวนให้เรียน  ช่วงแรกที่มาเรียนคิดถึงบ้าน  เบื่อ  เซ็งบ้าง  แต่มีพี่ชวาคณะครูคอยให้กำลังใจ  เลยมีกำลังใจมากขึ้น  มีพี่ชวาเป็นตัวอย่างที่ดีคือ  ทำงานลุย  ตอนแรกไม่ชัดเจนในเป้าหมาย  เลยชัดเจนมากขึ้น  ว่าเราไม่ได้มาเรียนอย่างเดียว  เรามาฝึกตัวเองด้วย  ที่เรียน  มวช.  อยู่วัดต่อ  เพราะรู้สึกผูกพันที่นี่  ได้ฟังคำสอนสมณะ คณะครูด้วย  ไม่อยากออกไปลองอะไรมากมาย  กลับไปขออนุญาตพ่อแม่เพื่อขออยู่วัดอธิบายให้พ่อแม่เข้าใจ  ต้องประมาณ  ประกอบกับพ่อแม่เห็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองของเรา  ความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่  เป็นตัวอย่างที่ดี  พ่อแม่เลยเข้าใจให้มาอยู่วัด  ตอนนี้มีหน้าที่รับผิดชอบการทำเห็ด  ดูแลน้อง ๆ  สิ่งที่ประทับใจที่สุด  คือ  สมณะ และคุรุที่คอยเมตตาให้ความรู้ทางจิตวิญญาณ  ตอนไปขออนุญาตพ่อแม่  พ่อพาเดินดูไร่นา  บอกว่า จะแบ่งที่นาให้  เขาบอกว่า  

    “ไม่ต้องแบ่งให้ผมนะ ผมจะอยู่วัด  ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะ”

    คุณปรีชา  จบจากศีรษะอโศก  ทานมังสวิรัติตั้งแต่ ป. 3  มาวัดกับพ่อ  มีเพื่อน  มีที่เล่น  ก็เลยชอบ  ขอพ่อมาเรียนที่ศีรษะอโศก  รู้สึกสนุก  ไม่ได้ทุกข์อะไร  ตอนเด็ก  ทำดีเพราะอยากได้หน้า  ได้คำชม  แต่ตอนหลังรู้สึกว่า  ไม่อยากได้แล้ว  ทำก็คือทำ  อยากทำจริง ๆ  สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ  สถานที่ตรงนี้สอนเราให้คิดอะไรได้มากมาย  เป็นผู้ประสานงานในงานปลุกเสกนี้มา 2 ปีแล้ว  

    คุณเรืองตะวัน  พ่อพามาพบที่บ้านราช  ประทับใจวัฒนธรรมที่มีการเจริญธรรมสำนึกดี  พ่อให้มาอยู่เสาร์อาทิตย์  ช่วงปิดเทอม  พ่ออยากให้มาเรียน  พอจบ ม. 3  พ่อขายหมด   ที่บ้านเลี้ยงหมูร้อยกว่าตัว  ทำโรงสี  มาเรียนที่บ้านราช  ก็ไม่แตกต่างจากที่บ้าน  เพราะโดนพ่อสั่งให้ทำตลอด  ประทับใจตัวเองที่จบ ม. 6 ได้  ประทับใจสิ่งแวดล้อมที่ดี  ไม่คิดจะออกไป  เอ็นทรานไว้  ปรากฏว่า  วันสอบชนกับวันรับกลดจากพ่อท่าน  ก็เลยตัดสินใจเลือกรับกลดจากพ่อท่าน  เป็น มวช.  เพราะว่า อยากมีกรอบมาบังคับตัวเอง  อยู่ราชธาธีอโศก  ทำหน้าที่ช่วยโรงสี  ทำทุกอย่าง  แบกข้าว(ผู้หญิงนะคะ ขอบอก  ตัวก็ไม่โตเท่าไหร่เลย)  ทำความสะอาด  ช่วยพ่อแม่ที่ฐานโรงสี  ช่วยสอนน้อง  ขอขอบคุณสมณะและญาติธรรมที่ได้สร้างอโศกขึ้นมา  ทำให้มีวันนี้  ทำให้รู้จักอะไรดี ๆ ได้จนทุกวันนี้

    คุณเต็มบาท  จากสันติอโศก  พ่อเป็นทหาร  เป็นคนใต้  มีน้องชายชื่อ  เต็มเต็ง  แม่มาพบชาวอโศก  ก็พามาวัดก็มา  มาเรียนพุทธธรรม (ฉันเห็นเขาวิ่งเล่นตั้งแต่ยังเด็ก ๆ อยู่เลย สองคนพี่น้อง)  จนเข้าเรียนสัมมาสิกขา  พอจบ ม. 6  อยากออกไปเรียนข้างนอก  แต่สู้ความคิดที่อยากอยู่วัดไม่ได้  เพราะอยู่วัด  สบาย  เงินก็ไม่ต้องพก  มีกินอยู่แล้ว  ถ้าออกไปข้างนอก  ก็ต้องลำบากหาอยู่หากิน  ถ้ามีลูกก็ต้องเอาลูกมาเรียนที่นี่อีก  ถามว่า  อยากมีแฟนไหม  น้องเขาบอกว่า  เขาเป็นคนหลายใจ  ถ้ามีแฟนก็ต้องให้ความรักกับแฟนคนเดียว  ให้คนอื่นได้ไม่เต็มที่  ก็เลยไม่มีแฟน  ฝากข้อคิดให้ด้วยว่า  “มีศัตรูเป็นบัณทิต  ดีกว่ามีมิตรเป็นคนพาล”

    คุณชิดตะวัน  เคยเรียนพุทธรรมตั้งแต่ 3 ขวบ  ตอนนี้เรียนปริญญาโทอยู่ที่เยอรมัน  มีหนุ่ม ๆ มาจีบ  แต่วางตัวเป็นเพื่อนหมด  มีแต่คนชมว่าน่ารักมาก  จะวางตัวดี  คนต่างประเทศที่มีการศึกษาจะมีคุณธรรมสูงด้วย  จะไม่มีการกอดจูบกันในที่สาธารณะ  คนที่ทำอย่างนั้นเป็นคนชั้นต่ำ  สงสัยว่าคนไทยทำไมไปรับวัฒนธรรมชั้นต่ำนั้นมา  อยู่ต่างประเทศก็ทานมังสวิรัติด้วย  แม้จะแพงมาก เพราะผักปลูกยาก  และอากาศหนาวถึง 6 เดือน  มีความตั้งใจจะช่วยงานศาสนาให้ได้

    ===========  

    สวัสดคค่าาา  สบายดีกันหรือเปล่า   พิมพ์ทิ้งไว้นานไปหน่อยค่ะ  ตอนนี้เหตุการณ์คงกลายเป็นอดีต  ที่ไม่ทันยุคสมัยซะแล้ว   หวังว่า  คงสบายดีกันทุกคนนะคะ

    แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 48 00:10:13

    จากคุณ : ริเศรษฐ์ - [ 12 ต.ค. 48 00:01:51 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป