ถนนสายนี้เป็นทางผ่าน เมื่อต่างคนต่างมา ต่างคนจึงต่างแยกย้ายกันไป ตามซอกซอยต่างๆ ที่แต่ละคนสามารถเข้ามาสร้างโลกส่วนตัว ได้ด้วยบรรยากาศหลากหลาย ตั้งแต่หวานแหวว หวือหวา วาบหวิว หวาดหวั่น หรือโหวกเหวกโวยวายก็ทำได้ทั้งนั้น ยังมีร้านแก่ๆ แต่ไม่ยักเก่าๆ อยู่ร้านหนึ่ง
ร้านนี้เปิดตัวขึ้นพร้อมความอบอุ่นของชาวซอยบ้านมิตรภาพ แล้วขยายวงกว้างให้ผู้สัญจรผ่านไปมาในถนนสายนี้ ได้เข้ามาทักทายทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนความรู้สึกดีๆ และบางคราวก็ยังเป็นที่ปรึกษาปัญหาต่างๆ ให้กับน้องๆ ที่กำลังสับสน
เพราะเจ้าของร้านใจดี ไม่เคยหลุดสีหน้าเหี้ยมเกรียม ออกมาให้ลูกค้าต้องผวาเลยสักครั้ง หรือไม่ก็เพราะพนักงานน่ารักๆ ซึ่งบางคนก็อยากโต บางคนก็ไม่ยอมโต แต่ทุกคนก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมบริการลูกค้าหน้าใหม่ๆ ที่หลงทางเข้ามาเสมอ
เขาลองผลักบานประตูเบาๆ....เหมือนอย่างที่ทำทุกครั้งเวลาผ่านเข้ามา เลยไม่ได้หวังหรอกว่า จะผ่านประตูร้านบุ๊คคอฟฟี่นี่เข้าไปได้
แต่ประตูกลับแง้มออกช้าๆ ราวกับว่าคนข้างใน ได้เห็นอาการจดๆ จ้องๆ คนใครคนหนึ่งอยู่นานแล้ว จึงออกมาเปิดประตูรับ พร้อมรอยยิ้มอันคุ้นเคย
สวัสดีครับพี่หมู โห....หายไปสองสามปีไม่ยักแก่...สงสัยแอบมาใช้บริการร้านยาดองของท่านไซโคข้างๆ นี่แน่ๆ เรย!!
หนุ่มไม่น้อย ร่างสูงตาฉ่ำ ทักทายตามวิสัยปากมหา
หวัดดีเฮียสอง
หนุ่มไม่ยอมน้อย โผล่ออกมาจากด้านหลังของเจ้าของร้านคนสวย ถึงตรงนี้คนเข้ามาใหม่ค่อยเข้าใจว่า แม้เจ้าของร้านจะหน้าตาไม่ได้ผิดแผกไปจากแต่ก่อน แต่ประสาทตอบรับคงจะช้าไปตามวัยจริงๆ เพราะพี่สาวเจ้าของร้านยังได้แต่ยืนยิ้มนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น
ดีบอล...คิดไงไปทำผมทรงนี้ล่ะ....ร้านไหนตัดให้ บอกเฮีย...เดี๋ยวเฮียจะไปถล่มมันเอง!!
เฮียสองของนายบอล ยังคงความเลือดเดือดไว้ได้เสมอต้นเสมอปลายพอๆ กับความปากมหาของตัว
แต่เจ๊เจ้าของร้านก็ยังนิ่ง....นิ่ง.....เงียบ....และเงียบ........
เธอคงคิดถึงวันเก่าๆ ตามประสาคนที่ผ่านอะไรๆ มามาก คงพยายามย้อนความทรงจำเกี่ยวกับสองหนุ่มทรงชะลูดนี้ว่ามันพลัดหลงเข้ามาใจถนน จนถึงมาเป็นลูกค้าประจำ แล้วเลยเคยมีเรื่องมีราวในร้านได้อย่างไร
จำได้ว่านายสรอง หรือ เฮียสอง หรือลุงสอง หรือปู่ซอง หรือไอ้ซ่อง ของใครๆ เดินผ่านเข้ามาในถนนอย่างเนือยๆ ไม่คล้ายคนหลงทาง มันเหมือนกับคนที่ไม่รู้จะเดินไปทางไหนมากกว่า
ในโลกส่วนตัวช่วงหนึ่ง ไฟร้ายที่เผาผลาญอยู่ในใจ ได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพอันร้าวร้าย เขาวาดมันไว้บนถนนสายนี้ บนอิฐแผ่นโตที่ใช้ปูพื้น สีสันที่ตัดกันรุนแรงบวกกับเส้นสายที่บรรจงแต่งแต้ม ทำให้เธอเผลอตัวเข้าไปพูดคุย ถามไถ่ถึงที่มา จนหลวมตัวเป็นที่ปรับทุกข์ให้เขาอยู่นาน
ส่วนอีกคน ที่เข้ามาพร้อมกับการประกาศตัวว่า พี่ชายผมเป็นซูเปอร์สตาร์ รักหมา และรักทรงผมเป็นที่ยิ่ง ตอนนั้นณัฐกรเดินเข้ามาในถนนด้วยมาดคุณชายสิบแปด เป็นหนุ่มเฉียบเนี้ยบเพียบพร้อม ดูเหมือนว่าเขารู้ตัวเองดีว่าเข้ามาในถนนสายนี้ทำไม และมีแผนอย่างไรต่อไปกับถนนสายปรารถนาเส้นนี้
แกโผล่มาก็ดี ชั้นว่าจะเปิดร้านอีกสักครั้งจะดีไหม สอง ในที่สุดเจ๊ก็พูดออกมาจนได้
เกี่ยวไรกะผมล่ะเจ๊.... คำพูดยังเป็นแค่คำถาม แต่สีหน้านั้นปฏิเสธอย่างตัดเป็นตัดตายกันไปแล้ว
ก็ชั้นยุ่งๆ ช่วงที่ผ่านมา เลยไม่รู้ว่าตอนนี้พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ เราเค้าเป็นอย่างไรกันบ้าง...เมื่อกี้น้องบอลบอกว่า เดินสวนไปสวนมากะแกบ่อยๆ คงรู้มั่งแหละว่าใครมันหายไปไหนมั่ง
อะโด่...เจ๊...ที่ไอ้บอลหละ น้องบอลๆ ทีกะผมหละ แกๆ อย่าเอาความหนิดหนมมาเป็นข้ออ้างหน่อยเลยน่ะ....ว่าแต่เจ๊มีแฟนแก่ๆ ป่ะ.....เอ๊ะ..เอ๊ย!...ว่าแต่เจ้มีแฟแก่ๆ ป่ะ คอแห้งเต็มทน ชงกะน้ำก๊อกก็ได้ น้ำตาลนมอะไรๆ ก็ไม่ต้องหรอก...แล้วเดี๋ยวเราค่อยมาว่ากัน...ถ้า...เอ่อ....ถ้าเจ๊จะเชิญผมเข้าไปนั่งในร้านอ่ะนะ
จนประโยคสุดท้ายนั่นแหละ ทุกคนจึงนึกขึ้นได้ว่า ยังยืนคุยกันอยู่ตรงประตูหน้า ณัฐกรทำท่าจะผลักบานประตูปิด เจ๊หมูเลยกำชับให้ล็อกเสียด้วย แต่เสียงแจ๋วๆ ก็ดังขึ้น
เจ๊...เจ๊...เจ๊จริงๆ ด้วย......หนูยีเองค่ะเจ๊ หนูยีเป็นสาวแล้วนะคะ...จริงๆ นะคะ....กะว่าอีกสี่ห้าปีก็จะเลิกนุ่มเอี๊ยมกะถักเปียมาเดินถนนแล้วหละค่ะ
สาวผมหน้าม้าตาใสเสียงใส และมองโลกในแง่ดีจนคนทั้งโลกอิจฉา วิ่งปุเลงๆ เข้ามาพร้อมกระเป๋าสะพายที่ถักเป็นรูปเหมียวคิตตี้สีชมพู ซึ่งมันเข้ากับรองเท้าหนังแก้วสีสดกับถุงเท้าติดลูกไม้นั่นเหลือเกิน
ระวังเหอะยี เวลาไปเลือกตั้งเค้าจะหาว่าโกงอายุ ปลอมแปลงเอกสาร ลุงสอง เชือดไม่ละเว้นแม้กระทั่งคนที่น่าจะคุ้นเคยกันที่สุด
ลุงก็ระวังๆ เหอะ เวลานับอายุน่ะ....เห็นพี่นัทบอกว่าต้องนับถอยหลังแล้วไม่ใช่เหรอคะ..แบบ.....เหลืออีกกี่ปีจะถึงฝั่ง ...
อีกสองคนได้แต่มองหน้ากัน แล้วค่อยมองมาทางคนปากเสีย สายตาที่ประสานกันทั้งหมดนั่น คือยอมรับแล้วว่า อย่างน้อยหนูยีสาวน้อยผมหน้าม้าของเราก็มีอย่างหนึ่ง ที่เก่งกล้าขึ้นตามวัย
เข้าไปนั่งข้างในกันก่อนเถอะยี....พอดีมีเรื่องจะปรึกษาเหมือนกัน.... เจ๊หมูเจ้าของร้านชิงตัดบทยุติศึกไว้ตั้งแต่ต้น
ในฐานะเจ้าร้าน เธอจึงรับอาสาเข้าไปค้นหาของว่างมาให้คนคุ้นเคย และคงเลยไปชงกาแฟเย็นใช้เฮียสองด้วยพร้อมกัน
เมื่อทุกคนเข้ามานั่ง จึงเป็นว่าตรงมุมโน้นมุมนี้ มีลูกค้าหลายคนเข้ามานั่งหลบมุม ซุ่มอ่านหนังสือที่ตนชอบอยู่เงียบๆ หลายคนเหมือนกัน
ลุงอันโต(นิโอ) นั่งละเลียด ซากุระในสายลมร้อน ข้างมีนายดิน (กริชครับผม) ดวดม๊อคค่าแก้วโต อยู่ใกล้ๆ กับน้องผึ้งรวยระรินกลิ่นชา
มีกลุ่มของน้าสือสาว คุณป้ามหาภัย กับป้าเอม รวมกลุ่มกันถัดออก
หนูเชอร์เบต จี๊ดด ด ง่วนอยู่กับแกแฟเย็นแลพายทูน่า เธอนั่งร่วมโต๊ะอยู่กับลูกค้าหน้าใหม่ คือ รียา ซึ่งเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้คนที่เข้ามาใหม่ทั้งๆ ที่วิปครีมยังเต็มขอบปาก และ coolning ที่ตั้งหน้าตั้งตาโม่ชอกโกแล็ตเย็นอย่างเอาเป็นเอาตาย
ตรงมุมเครื่องดื่ม คุณวรุณนฤมล คุณธามาดากับคุณลูนาติก คงกำลังเลือกอยู่ว่าจะดื่มอะไรดี
ฝั่งโน้นตรงหน้ากระจก น้องพีจัง(P_JUNG_PIGLET) กำลังยักแย่ยักยันเช็ดกระจกให้ใสเหมือนเก่า เพราะตั้งจะมานั่งสอดส่องเรื่องชาวบ้านข้างนอกร้อนเต็มที่ ส่วนซอมพอแดงก็กำลังหอบหิ้วของที่ตัวเองสั่งกลับเข้ามา คงต้องตะกายออกไปซื้อถึงสตาร์บั๊กหน้าปากซอยเลยหละมั้ง
อ้าว...เปิดร้านตั้งแต่เมื่อไหร่....ไมยังปล่อยให้ฝุ่นเขรอะอยู่ข้างนอก....อ้อ...หรือเจ๊จะทำแบบมัลติเพลก เป็นร้านกาแฟครบวงจร ทั้งคาสิโน ไฮโล ป๊อกเด้ง
เจ๊เขาไม่ได้ตั้งใจหรอกเฮีย นี่ยังงงกันอยู่ว่าทำไมในร้านยังสะอาดเอี่ยมเรี่ยมเร้
เฮียสองกับณัฐกรหาเรื่องคุยกันได้ทันทีที่ได้นั่งลง ตรงหน้าบาร์ ส่วนหนูยีก็ทำหน้าที่ตามถนัดคือเข้าไปทักทายเพื่อนใหม่เพื่อนเก่าที่แวะเวียนเข้ามาทันทีที่ร้านเปิด ทั้งที่บนโต๊ะเหล่านั้นมีแต่เครื่องดื่มหรือไม่ก็เบเกอรี่ของร้านกาแฟดัง
ได้ข่าวว่านิตยสาร Post happiness ของเฮียแท้งซะแล้ว แล้วณัฐกรก็เปิดประเด็นสำคัญ
อ้าว!....เอ็งก็เขียนสปายเน็ตอยู่ด้วยไม่รู้เรอะว่าเกิดไรขึ้น.... เฮียสองย้อนตากลับ
เออจิง...ผมลืมไป....พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ค่าเรื่องเลย ทำส่งไปตั้งหลายตอน
เอาเหอะวะบอล....มีสมองกะสองมืออยู่กับตัวกลัวอะไร จริงไหม
ดูเหมือนเฮียสรองคงไม่อยากพูดอะไรมากกับเรื่องนี้ บอลหรือณัฐกรจึงหันไปหัวเรื่องอื่น
แล้วเฮียสอง จะได้มีหนังสือเป็นเล่มๆ กะเค้าเมื่อไหร่ล่ะ
อุวะ ไอ้นี่....จะคุยกันดีๆ หรือจะมาหาเรื่องฟระเนี่ย........รู้ก็รู้อยู่ว่างานตูมันแนวไหนยังจะมาถามหยามกันได้ เฮียสองของบอลถึงกับออกยักษ์ แยกเขี้ยวคำรามแล้วทุบเคาน์เตอร์โครมๆ
ไม่ถามๆ ไม่ถามก็ไม่ถาม...งั้นเรามาคุยเรื่องของชาวถนนกันดีกว่า
ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้ เอ็งก็ชอบนินทาคน เฮียสองเปลี่ยนอารมณ์มาเป็นยักคิ้วให้
เขาเรียกว่าพูดถึงด้วยความคิดถึงและความเคารพว่ะครับ
เจ๊หมูเดินเข้ามาสมทบ พร้อมเสริฟกาแฟหอมกรุ่น กับมัฟฟินและคุกกี้อีกหลายอัน
โห...เจ๊....ไปเรียนเสกของมากะเจ๊พยาบาทจอมขมังเวทมาด้วยเรอะ คนปากมหาทัก
ของเหลือย่ะ...สำหรับแกน่ะ...ส่วนของน้องบอล พี่ว่ามันไม่พอ เลยออกหลังร้านไปซื้อจากสตาร์บั๊คมาเพิ่ม....บัตเตอร์เค้กเค้าสดอร่อยจริงๆ ลองชิมสิ เจ้าของร้านไขความกระจ่าง จนคนปากดีหน้าเจื่อนลงไปได้ ก่อนจะเริ่มเข้าเรื่องจริงๆ จังๆ เสียที
ที่ผ่านมาเจ๊ก็มัวแต่ยุ่งๆ เจ๊โอพยาบาลเกเรก็ติดเรียนขับรถแข่ง...ที่สนามขอนแก่น-สกลฯเซอร์กิตน่ะ คงซ้อมๆ ไว้ไปแข่งแถวดูไบกาต้าอะไรนั่น สองเจ๊ก็เลยไม่มีเวลาเข้ามาดูแลเปิดร้านเหมือนแต่ก่อน น้องๆ เค้าเรียนจบๆ กันไปก็หลายคน ที่ไม่ยอมจบก็มี พอเจ๊ไม่มีเวลา ก็เลยไม่มีที่สุมหัว...ที่ชุมนุมน่ะ ก็เลยหายกันไปคนละทิศละทาง เจ๊เริ่มเท้าความตามประสาคนแก่โลก
กลุ่มนารีหน่ายก็หายเงียบเหมือนกันแหละเจ๊...อย่างผมนี่แทบจะไปสำรวมอยู่กะพวกหนุ่มหน่ายนารีอยู่รอมร่อ....นี่ก็กะว่าจะชวนเจ้าบอลมันไปลองกันดูสักตั้ง....ส่วนเจ้าชิน (ชินตาโร่) เจ้าแวน (น้ำลายบูด) คงไปต่อโพสด๊อกเตอร์สาขาฝ่ามือเบิกฟ้าฝ่าทวารทำลายไหกันไม่กลับเมืองไทยซะแล้วหละ
นี่เฮียพีทPeterPuck ก็หอบผ้าหอบผ่อน หนีไปอยู่โน่น....เมืองผู้ชายไหม้ ...เฮียแกคงชอบเกรียมๆ น่ะเจ๊ ส่วนไอ้จ๊ะ หลังจากกินโจ๊กบูดอยู่พักหนึ่ง มันก็ว่าจะไปต่อเอกที่คานาแดนกะเค้ามั่งเหมือนกัน ส่วนหนูแพร (อชันฏา) ก็โน่น เอียตะระดิน ป่านนี้ส่งภาษาฮินดีโขมงโฉงเฉงไปแล้ว
เฮียสองช่วยต่อความ ด้วยความจริงอายุอานามก็ไม่ห่างกันสักเท่าไหร่
ตอนนี้เฮียนัณกรได้แต่นั่งฟัง พลางพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยเป็นระยะๆ เพราะกำลังเล็งแลใครคนหนึ่งที่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าร้าน
ส่วนคุณนัท เปียร์รุส เธอเปลี่ยนมาชำหน้าวัวแทนเยอเบร่าแล้ว....เธอว่าสาวเอวบางร่างน้อยอย่างเธอ เหมาะกะหน้าวัวมากกว่า คนพูดกำลังน้ำลายแตกฟอง....ฟ่อด จึงติดลม
มีแต่คนจะไปๆ แล้วคนกลับมาไม่มีมั่งเรอะสอง คนหน้าสวยใสสงสัย
ก็มีมั้ง...หนูนก (อุณากรรณ) มันกลับมาจากยันละเมอแล้ว แล้วก็ป่านนี้กลับไปอีกแล้วมั้ง ผมก็ไปมาหลายประเทศจะเจ๊ ไม่อยากรู้เรอะ เฮียสองคงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าช่วงปีสองปีที่ผ่านมาตัวเองก็ไปตะลอนทัวร์มาหลายเหมือนกัน
เจ๊ๆ โน่นแน่ะ...ใครอีกคน...เดินเข้ามาแล้วนั่นน่ะ
ทั้งสามคนหันมองตาม เห็นหนูยีกำลังกุลีกุจอต้อนรับ มิตรสนิทคนเก่าอีกคน
เห็นไหมล่ะเจ๊....มิตรภาพน่ะไม่เคยจืดจางไปหรอก ถึงมันอาจจะห่างหายกันไปบ้าง แต่ถ้าวันใดมีใครสักคนเข้ามาถามหา....พวกเราทุกคนก็พร้อมทั้งนั้นแหละ ที่จะบอกว่า....เรายังเหมือนเดิม..... เฮียสองผู้ปากดี เพิ่งจะพูดได้ดีเหมือนปากก็คงจะครั้งนี้เป็นครั้งแรก
(เชิญต่อ........)
หมดมุกอ่ะนะ...ตกหล่นชื่อใครไปบ้างก็เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจเน้อ...5555
ไปหละ...
....อ้อ....
โปรยนิ้วสดๆ บนแป้นพิมพ์เน้อ....ผิดมากผิดน้อยก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้เด้อครับเด้อ
แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 48 00:35:11
จากคุณ :
SONG982
- [
12 ต.ค. 48 00:32:05
]