เหล่าดอกไม้ในสวน
คุณลุงจ๋า ทำไมดอกไม้ถึงมีหลายสี
แม่หนูน้อย คนยังมีสูงมีต่ำไม่เท่าเทียม ประดาดอกไม้ก็ไม่ต่างจากคนหรอก
แล้วทำไมดอกไม้จึงสวยงาม คุณลุงตอบได้ไหมคะ
ที่งามนั้นมิใช่ดอกไม้หรอกแม่หนูน้อย ความงามมาจากความรู้สึกของคุณที่มองมันต่างหาก หากเราพูดภาษากับสัตว์อื่นๆ ได้ มันจะบอกเรา ถึงความงามของดวงดอกที่มองเห็นนี่หรือไม่ ไม่เลย มันมองก็เป็นเพียงแค่ต้นพืชต้นหนึ่งเท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++
เสียงดังจอแจดังขึ้นทั่วบริเวณ ในขณะที่เธอกำลังมองไปยังสวนดอกไม้อย่างไม่สนใจ เสียงย่ำเดินของเท้าคู่หนึ่งดังเข้ามาใกล้ จนหยุดเดินอยู่ข้างๆ เธอ
ดอกไม้สวยนะครับ เขาชวนคุยขึ้นก่อน
เป็นเพราะคุณลุงมาดูแลมันประจำค่ะ เธอตอบโดยไม่เหลียวไปมอง หวังเพียงให้เขาเดินจากไป
แล้วไม่ไปสนุกกับคนอื่นๆ เหรอครับ ผมพาไปไหม เขาพูดชวนขึ้น ขณะเดียวกันก็ถือวิสาสะนั่งลงบนม้านั่งหินอ่อนข้างๆ เธอ
ขอบคุณค่ะ ฉันนั่งดูดอกไม้ดีกว่า เธอพูดปฏิเสธอย่างนิ่มนวล เมื่อเงยหน้าจากสวนดอกไม้ ก็พบนัยตาสีน้ำตาลคู่หนึ่งเข้มจ้องมองมา เธอสบตาเขา
แล้วทำไมคุณไม่ไปสนุกกับคนอื่นๆ ล่ะ
ผมเป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้น ไม่มีใครสนใจหรอกครับ ไปก็ได้ไม่ไปก็ได้ เขายิ้มขึ้นจนเห็นฟันขาวเรียงเป็นซี่
ถ้าอย่างนั้น ฉันก็คงเป็นเพียงตัวประกอบเหมือนกัน เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้า
เขายังคงอยู่คู่กับเธออย่างเงียบๆ ครู่หนึ่งจึงมีเสียงคนร้องเรียกชื่อเขาขึ้น
มานพ มาช่วยยกของหน่อย
เขาผุดลุกขึ้น ก่อนจะหมุนตัวจากไปก็หันมาชวนเธออีกครั้ง
เขาแจกของแล้วนะครับ ตุ๊กตาก็มี เดี๋ยวเสร็จแล้วก็จะเล่นเกมส์งูกินหาง ไปเล่นด้วยกันนะครับ
เธอเหลียวมามองหน้าเขา ซึ่งยังยิ้มแย้ม ในขณะที่สีหน้าเธอเรียบเฉยจนคล้ายจะโกรธอยู่ในที
ฉันคงเล่นด้วยไม่ได้หรอก เพราะว่าฉันเดินไม่ได้
เขาเพิ่งสังเกตว่าข้างม้านั่งหินอ่อนนั้น มีรถเข็นที่ว่างเปล่าอยู่ใกล้ๆ เขากล่าวขอโทษอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเดินจากไปด้วยสีหน้าที่ปราศจากรอยยิ้ม
+++++++++++++++++++++++++++++
หยดน้ำหลายหยดค้างอยู่บนใบไม้ในสวน มันสะท้อนแสงเหมือนอัญมณี สุกใสสวยงาม แต่ว่าจะลับหายไปเมื่อโดนแสงตะวัน เสียงเรียกดังแว่วมาตามลม
น้ำฝน มีคนมาหา เสียงเรียกมาจากเด็กหนุ่มผิวคล้ำสวมแว่นกันแดดสีดำสนิท ในมือถือไม้เคาะเปะปะไปตามทาง ใช่แล้วเขาตาบอด สิ่งที่ประหลาดกว่านั้นก็คือ เขายังเดินนำหน้าชายคนหนึ่ง กลับเป็นชายนัยตาสีน้ำตาลเข้มคนเมื่อวานนั่นเอง
น้ำฝนพี่คนนี้เขามาหา เอ
พี่ชื่ออะไรนะผมลืมไปแล้ว
พี่ชื่อมานพครับ เรียกนพเฉยๆ ก็ได้
ครับพี่นพ ผมไปก่อนนะ ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินกลับ เสียงไม้เคาะพื้นค่อยจากหายไปอย่างช้าๆ
เธอยังคงนั่งนิ่ง มองดอกไม้นานพันธุ์ที่เบ่งบานในสวนขนาดเล็ก เขาเดินเข้ามาใกล้ยืนเหม่อมองเงาหลังของเธอ หากไม่บอกใครจะรู้ว่าหญิงสาวรูปร่างบอบบางคนนี้ เดินไม่ได้
บางทีอาจจะเป็นความผิดของเขาเอง ด้วยความที่ไม่ได้เฉลียวใจ ผู้ที่อยู่ใน บ้านพักพิเศษ แห่งนี้ล้วนแล้วแต่แตกต่างจากคนปกติทั่วไป และที่สำคัญจุดมุ่งหมายในการเดินทางมาเมื่อวาน ก็ทำให้เขารู้สึกผิดไปด้วย การเดินทางมาแจกขนมของเล่น เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ มีการถ่ายภาพเอาไปออกรายการทีวี ในตอนแรกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกเกณฑ์มาที่นี่ทำไม นั่นก็คงจะไม่มีใครบอกเขาหรอก เพราะว่าเขาก็เป็นเพียงแค่ตัวประกอบในภาพยนตร์ คนหนึ่งเท่านั้น
มองอะไรคะ เสียงของเธอดังขึ้นปลุกให้เขาตื่นจากห้วงความคิด
เปล่าครับ มองดอกไม้ในสวน ขอผมนั่งด้วยคนได้ไหมครับ
นี่ไม่ใช่ที่ของฉัน คุณจะนั่งก็ได้ไม่มีใครว่าหรอก เธอตอบมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เขาดูออกว่าเธอยังคงไม่พอใจเขา อาจเป็นเพราะเรื่องเมื่อวาน หรือเพราะเขายืนมองเธอที่ด้านหลัง เรื่องนั้นไม่อาจรู้ได้
คือผมมาขอโทษเรื่องเมื่อวาน แล้วก็ซื้อของมาฝากด้วย พลางยื่นถุงพลาสติกสีขาวให้เธอ
นั่นไม่จำเป็นหรอกคะ ฉันชินกับมันแล้ว แล้วของฝากก็ไม่ต้องหรอกเปลืองเงินเปล่าๆ เธอยังคงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามเดิม แต่ลดท่าทีลงมา
ไม่รับก็ไม่เป็นไรครับ ไม่ลองเปิดดูก่อนเหรอ จะได้รู้ว่าผมเอาอะไรมาฝาก เขาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่มุ่งหวัง
เธอล้วงมือเข้าไปในถุง หยิบสิ่งที่เขาซื้อขึ้นมาดู เพียงแวบแรกที่เห็น ดวงตาแสนเศร้าคู่นั้นก็เปล่งประกายเจิดจ้า ร้องอุทานด้วยความดีใจ
ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์!
เขายิ้มด้วยความยินดีที่เห็นสีหน้าพอใจของเธอ เพราะว่าเมื่อวานนี้เขาสอบถามเด็กหนุ่มตาบอดซึ่งเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอ ที่อยู่ในบ้านพักหลังนี้ ว่าเธอต้องการอะไร เขาได้จะได้หามาไถ่โทษ ตอนแรกเขาก็แปลกใจเหมือนกันกับคำตอบที่ได้รับ แต่เมื่อเห็นสีหน้าดีใจของเธอความสงสัยก็หายไป
ฝนมีหนังสือเล่มนี้อยู่เล่มหนึ่ง ได้มาจากกองหนังสือเก่าที่คนเอามาบริจาค แต่ว่าหนังสือเล่มนั้นมันมีแค่ครึ่งเล่ม ฝนอ่านให้ชิดฟังหลายครั้งแล้ว เคยคุยกับชิดว่าตอนจบมันจะเป็นอย่างไร นึกว่าจะไม่รู้เสียแล้ว ขอบคุณมากค่ะ
ชิดคือเด็กหนุ่มตาบอดคนนั้นนั่นเอง เขามองเธอด้วยความชื่นชมในใจ ขณะที่เด็กสาวในวัยของเธอหลายๆ คน อยากได้ของขวัญเป็นเครื่องประดับสวยๆ หรือของใช้ที่มีราคาค่างวด แต่สำหรับเธอแล้ว กลับต้องการเพียงหนังสือเล่มเดียว ทั้งยังไม่ได้ต้องการเพื่อตัวของเธอเอง กลับเป็นความต้องการที่จะแบ่งปันให้เพื่อนตาบอดของเธอมีความสุข
ผมยังมีหนังสือที่อ่านสนุกอีกหลายเล่มนะครับ ถ้าคุณต้องการผมจะเอามาให้อีก
เธอหันมายิ้มให้เขา ยิ้มนั้นเฉิดฉายจริงใจ กว่ายิ้มไหนๆ ที่เขาเคยเห็น
คุณเรียกฉันว่าฝน ก็ได้ค่ะ ขอบคุณสำหรับหนังสือนะคะ
เรียกผมว่านพก็แล้วกันนะครับ อย่าเรียกว่าคุณเลย
ค่ะ งั้นฝนเรียกว่าพี่นพเหมือนกับชิดเรียกก็แล้วกัน
กำแพงที่เคยขวางกั้นระหว่างเธอและเขาได้ถูกทำลายไปแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โลกมิได้หยุดนิ่ง มันเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แต่จะมีใครบ้าง รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวนั้น
เขามาเยี่ยมเธอเกือบทุกอาทิตย์ ตามแต่เวลาจะเอื้ออำนวย ในทุกครั้งล้วนมีหนังสือเล่มใหม่มาให้ หนังสือเหล่านี้เป็นหนังสือที่เขาเก็บไว้ทั้งสิ้น และมันก็เป็นการจงใจ เขาไม่ได้หยิบหนังสือมาให้เธอทั้งหมด เพียงครั้งละเล่ม เพื่อเป็นข้ออ้างจะมาพบพูดคุยกับเธอในการพบครั้งต่อไป
ฝน พี่ต้องไปถ่ายหนังที่ต่างจังหวัดเดือนหน้าถึงจะเข้ามาใหม่นะครับ เขาพูดขึ้นมาหลังจาก คุยกับเธอเรื่องหนังสือที่นำมาฝาก
คราวนี้ ทำไมไปนานจังพี่นพ เธอถามขึ้นด้วยความสงสัย อีกหนึ่งก็รู้สึกใจหายที่ไม่ได้พบกับเขาอีกหลายวัน
จำคราวก่อนที่พี่เคยบอกฝนไว้ได้ไหม พี่ได้แล้วนะ
เธอแสดงสีหน้าครุ่นคิด พักหนึ่งก็ร้องออกมาด้วยความดีใจ
ไชโย พี่นพ ได้เล่นเป็นพระเอกแล้ว พลางจับมือเขาเขย่าไปมาอย่างแรง จนทำให้เขาเสียหลักตัวล้มมาหาเธอ
ชั่วขณะ เวลานั้นทุกอย่างในรอบตัวของเขาและเธอ ดูจะหยุดนิ่งไป มีเพียงเสียงหายใจหอบถี่ หน้าอกสะท้อนขึ้นลงตามลมหายใจ และสายตาสองคู่ที่จ้องมองกัน สัมพันธ์อันรัดรึงก็โอบน้อมเข้าหากัน เธอหลับตาลง ใช้สองมือโอบกอดแผ่นหลังของเขา เธอหยุดหอบหายใจแล้ว เป็นเพราะสายลมที่มาจากริมผิวปากของเขาประทับแนบสนิทกับปากของเธอ ช่วยให้เธอผ่อนคลายความตื่นเต้นลง
เสียงเคาะไม้ดังเปาะแปะมาตามทางเดิน พร้อมกับเสียงร้องของเด็กหนุ่มตาบอด
เย
พี่นพได้เป็นพระเอกแล้ว
เอะ! น้ำฝนเป็นอะไร ทำไมหายใจแรงจัง สิ่งที่ทดแทนมาจากสายตาที่บอดมืด กลับกลายเป็นประสาทหูที่ดีเยี่ยม หากเขามีดวงตาที่มองได้ ก็จะเห็นว่าเธอมีใบหน้าที่แดงซ่านเพราะความเขินอาย
ฝนดีใจที่พี่ได้เป็นพระเอกไง เขารีบแก้ตัวให้เธอ แต่ไม่รู้ว่าจะปิดบังเด็กหนุมตาบอดได้หรือไม่ พราะนอกจากเขามีประสาทหูที่ดีแล้ว สัมผัสทางอารมณ์ความรู้สึกก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน เขายิ้มแปลกๆ ให้กับทั้งคู่ เหมือนจะบอกว่าเขารู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น
งั้นพี่นพ ก็จะดังแล้วซิ ถ้าดังแล้วอย่าลืมลายเซ็นต์ด้วยนะ เด็กหนุ่มย่อมไม่เปิดโปงทั้งคู่ พาหันเหไปคุยเรื่องอื่น
ไม่หรอกชิด หนังที่พี่จะเล่น มันเป็นหนังทุ่นต่ำ พระเอกค่าตัวสูงๆ เขาไม่เล่นกัน พี่เล่นยังไงมันก็ไม่ดังหรอก
เขาพูดโดยไม่ตั้งความหวัง เพราะว่ามันหวังไม่ได้ หนังทุ่นต่ำ ผู้กำกับโนเนม อย่างดีก็แค่ลงโรงไม่กี่วัน และก็ถูกถอดออก และไม่ช้าก็กลายเป็นแผ่นซีดีราคาไม่ถึงร้อย
แต่ใครเล่าจะกล้าพูดได้ ในโลกนี้มีอะไรที่เที่ยงตรงตามคำนวณ แม้แต่หมอดูที่ว่าแน่ เที่ยวบอกบอกชาวบ้านว่าแผ่นดินจะไหว น้ำจะท่วม พอถึงเวลาจริงๆ มันก็ไม่เกิดขึ้น ก็ได้แต่มุดเข้ารูหนีหายไป รอให้คนลืมๆ แล้วก็ออกมาทำนายบ้าๆ บอๆ อีก
แล้วทีนี้ สิ่งที่ไม่ได้คาดหวัง กลับกลายเป็นทางตรงข้าม หนังของเขากลับดังในชั่วข้ามคืน ทำให้เขาผงาดขึ้นเป็นพระเอกแถวหน้า งานเข้ามาไม่ขาดสาย เพียงชั่วพริบตานั้น เหตุการณ์ก็ผ่านมาสามเดือนแล้ว
++++++++++++++++++++++++
ฝน เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังขึ้น ปลุกให้เธอละสายตาจากแปลงดอกไม้ ดวงตาเป็นประกายมุ่งหวัง แต่แล้วก็สลายไป เขามาเยี่ยมเธอ แต่ไม่ได้มาคนเดียว หญิงสาวสวยผู้มาเคียงข้าง เพียงมองผ่านก็รู้ว่าเป็นดาราหญิงยอดนิยม
นี่หรือจ๊ะ น้องน้ำฝน ที่เล่าให้ฟัง ขอพี่กอดหน่อยนะ อืม
น่ารักจริงๆ เสียดายนะที่เดินไม่ได้
ผู้หญิงคนนั้นเข้ามากอดเธอพร้อมหอมแก้เธอหลายครั้ง แต่เธอกลับนั่งนิ่งเหมือนคนที่ไร้ชีวิต
ฝน นี่วิภาดาไง จำได้ไหมที่แสดงหนังเรื่องล่าสุดกับพี่ไง เขาพูดอย่างยิ้มแย้ม พร้อมกับนั่งลงข้างเธอ
อุ๊ย
เกือบลืมไป พี่ดา เอาหนังสือมาฝากด้วยนะจ๊ะ ว่าแล้วก็เอาส่งหนังสือถุงใหญ่ให้กับเธอ คงอ่านได้เป็นปีเลยนะ กว่าจะจบหมด ใช่ไหมค่ะ นพ
นำฝนเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมดูเงียบๆ เขาถามเธอด้วยความห่วงใย
ฝนไม่ค่อยสบายคะ แต่ทานยาแล้ว ขอฝนนั่งคนเดียวได้ไหมคะ ขอบคุณสำหรับหนังสือด้วย เธอตอบเขาด้วยเสียงตะกุตะกัก
งั้นเราไม่กวนน้องน้ำฝนดีกว่านะคะ นพ นี่ก็ใกล้ถึงเวลาฉายหนังแล้ว เดี๋ยวไปไม่ทันนะ ผู้หญิงคนพูดแล้วก็ดึงแขนของเขาให้ลุกขึ้นมา
งั้นพี่ ไปก่อนนะฝน ดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่ เขาบอกกับเธอ ซึ่งตอนนี้แทบจะไม่รับรู้อะไรแล้ว
หลังจากนั้นเขาก็กลับมาเยี่ยมเธออีกหลายครั้ง แต่ละครั้งล้วนพามาแต่เพื่อนหญิงคนใหม่ทั้งสิ้น ทุกอย่างก็ดำเนินไปเช่นนี้หลายเดือน ในขณะที่การพบกันแต่ละครั้ง เธอก็แทบจะไม่ได้ปริปากพูดอะไรกับเขาเลย
++++++++++++++++++
แมลงบนดอกไม้
คุณลุงจ๋า ทำไมต้องถอนต้นดอกไม้ทิ้งด้วย
กิ่งไม้นี้มีแมลงมากิน ลุงเลยถอนมันทิ้ง ไม่ให้มันลามไปต้นอื่นนะแม่หนูน้อย
แล้วต้มไม้ ต้นนั้นไม่เห็นมีแมลงมาเกาะกินเลย ทำไมคุณลุงถึงถอนมันล่ะ
ก็ต้นไม้นี้ มันไม่สมบูรณ์นี่ กิ่งหักลำต้นก็บิดเบี้ยว ปลูกต่อไปก็ไม่สวย ลุงเลยก็ต้องถอนมันทิ้ง ไงจ๊ะ
ต้นไม้ไม่สมบูรณ์ก็ต้องถอนทิ้ง แต่ถ้าคนไม่สมบูรณ์ ทำไมเขายังเก็บมันไว้
ข้อนี้คุณลุงไม่ต้องตอบหนูหรอกนะ หนูรู้คำตอบแล้ว
++++++++++++++++++++++++
<<อ่านต่อด้านล่างครับ>>
จากคุณ :
egotech
- [
12 ต.ค. 48 11:22:00
]