เรื่อง (ยังไม่ได้ตั้งชื่อ...จริงจัง) อ่านแล้วช่วยวิจารณ์ ความรู้สึกหลังอ่าน และหากกรุณาตั้งชื่อให้ด้วย จะขอบคุณมาก
..........................
ริบบิ้นสีขาวยาวประมาณศอก ถูกพับครึ่งทำมุมเก้าสิบองศา ริบบ้นสเนที่อยู่ด้านล่างทบขึ้นมาด้านบนสลันกันไป โดยมีจุดที่พับเป็นแกนกลาง
.....ซ้ายทับขาว ขาวทับซ้าย ผมพับริบบิ้นเส้นเล็กไปเรื่อยท่ามกลางเสียเล็กแหลมทำนองอย่างฮาร์ทคอลล์ ไม่รุนแรงนักแต่ออกจะเสียดแทง ทุกคำที่ได้ยินมันทำให้หัวใจของผมรู้สึกปวดแปลบเล็กๆ ทั้งที่เสียงเดียวกันนี้เคยเปล่งออกมาด้วยนองอย่างเพลงป็อปที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกสบายใจทุกครั้งมา เวลา 1 ปีที่รู้จักกับเธอมา ผมคิดว่ารู้จักเธอดีแล้วเชียว แต่จริงๆ แล้วมีอีกหลายเรื่องที่ผมยังไม่รู้อย่างเรื่องวันนี้
********
เราคบกันหลังจากที่รู้จักกันมาประมาณ 3 เดือน เธอเป็นเพื่อนของเพื่อนสาวของเพื่อนชายของผม เราได้คุยกันและเริ่มสนิทกันตั้งแต่วันนั้น ผมมีบางอย่างน่าสนใจในสายตาเธอในขณะที่ผมก็คิดว่าเธอมีนิสัยดีน่าจะเข้ากับผมได้ ในช่วงแรกเธอทำให้ผมเห็นว่า เธอไม่ถือสาในความไม่โรแมนติกของผมและนั่นก็ทำให้ผมชอบเธอมากขึ้น เธอรู้ว่าผมขี้อายมาก โดยเฉพาะกับเรื่องรักหวานซึ้งแบบนี้ ผมไม่เคยจีบเธออย่างเป็นทางการ สิ่งที่ผมทำก็เพียงแค่แสดงความห่วงใยต่างๆ นานา ที่ผมมีส่งไปให้เธอด้วยวิธีธรรมดาๆ แต่เธอก็รับรู้ความรู้สึกอื่นๆ ที่ส่งไปพร้อมกับความห่วงใยอันนั้นได้ นั่นคงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรามาคบกัน
*********
ริบบิ้นในมือผมถูกพับจนสุดเส้นในบรรยากาศที่ผมไม่เคยได้รับจากเธอมาก่อน ผมใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งมือซ้ายจับที่ปลายริบบิ้นทั้งสองข้างไม่ให้มันหลุด ริบบิ้นสีขาวตอนนี้มองดูคล้ายสปริงสี่เหลี่ยมเส้นยาว มองคล้ายส่วนที่ใช้เก็บลมของหีบเพลง ผมปล่อยปลายริบบิ้นอีกฝั่งที่เป็นแกน สปริงริบบิ้นเด้งขึ้นเด้งลงตามความยืดหยุ่นที่มันมี
..........ในตอนนี้ความหวังของผมคือ สปริงริบบิ้นสีขาวเส้นเล็กน่าจะทำให้เธอได้คลายอารมณ์บ้างในเวลานี้ ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กแล้วที่จะมาตื่นเต้นกับเรื่องธรรมดาไร้สาระแบบนี้ แต่ถึงอย่างไรผมก็ต้องลอง
ผมยื่นมือที่ถือริบบิ้นสีขาวเส้นนั้นไปที่เธอ เธอปัดริบบิ้นสีขาวเส้นนั้นออกไปอย่างไม่สนใจ
***********
ในเวลาที่ผมได้อยู่กับเธอเราเข้ากันได้ดีอย่างแปลกประหลาด หลายครั้งที่ผมทำเรื่องที่คนอื่นๆ ไม่ทำกัน เช่น
พกผ้าห่มเข้าไปในโรงหนัง
อ่านหนังสือตลกแล้วหัวเราะออกมาอย่างลืมตัวในรถไฟฟ้า
ถอดรองเท้าเดินในที่ทำงาน
เธอยอมรับผมได้ในเรื่องพวกนี้และบางครั้งก็มีคนเห็นเธอทำเหมือนกับที่ผมทำ ผมเคยแซวเธอว่า "เลียนแบบทำไม" เธอตอบกลับมาว่า เรื่องที่ทำมันเป็นเรื่องผิดหรือเปล่า เธอมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ใครเดือดร้อน เพราะฉะนั้นเธอก็น่าจะมีสิทธิที่จะทำได้เหมือนกัน
********
ผมเก็บสปิงริบบิ้นสีขาวเส้นเล็กนั้นขึ้นมาจากพื้น เธอมองตามอย่างอารมณ์เสีย ผมคลี่ริบบิ้นเส้นนั้นออก แล้วค่อยๆ พับแบบเดิมใหม่อย่างช้าๆ ในขณะที่เธอเริ่มบรรเลงเพลงฮาร์ทคอลล์ของเธออีกครั้ง
เธอพูดถึงเรื่องหลายๆ เรื่องที่เธอไม่ชอบให้ผมทำ
"โตแล้วนะยังเล่นเกมส์อยู่ได้" "ใช้เงินฟุ่มเฟือย" "หนวดทำไมไม่โกน สกปรก" รวมทั้งรื้อเรื่องที่เคยทะเลาะกันออกมาเกือบทุกเรื่อง แต่เธอไม่ได้บอกว่าที่แล้วสาเหตุที่ทำให้อารมณ์ของเธอเสียวันนี้เป็นเรื่องอะไร
*********
เธอชอบว่าผม "เจ้าเล่ห์" เธอรู้ว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จ 1 ลังที่ผมให้เธอไปเมื่อเดือนที่แล้ว โดยอ้างว่าให้เธอช่วยกินผมจะเอาซองไปชิงโชค ที่จริงแล้วผมเป็นห่วงเธอว่าจะไม่มีอะไรกินในช่วงที่เราทั้ง 2 คนเงินหมดตั้งแต่กลางเดือน เธอเจอใบเสร็จที่ผมซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ลังบนรถของเธอ
หลายครั้งที่ผมบอกเธอว่าแก็สที่บ้านหมด เพื่อที่จะไปขอเธอกินข้าวด้วยและเธอก็ยอมทั้งๆที่รู้ว่าบ้านผมมีแต่เตาถ่าน.....ครั้งหนึ่งผมเคยชวนเธอไปซื้อของขวัญให้เพื่อนผู้หญิงที่สนิทมากคนนึง โดยบอกว่าผมไม่รู้รสนิยมของผู้หญิง เธอเลือกไปบ่นไปว่า ทีกับเธอยังไม่เคยได้ของขวัญอะไรจากผมเลย ...... 1 เดือนต่อมา เธอได้รับของขวัญช้นที่เธอเลือกส่งไปที่บ้าน โดยมีการ์ดเขียนว่า "ของที่ถูกใจ จากคนที่รู้ใจ" พร้อมแนบใบเสร็จวันซื้อ เมื่อ 1 เดือนก่อนไปให้เธอด้วย
*******
ผมรู้ว่าเธอโกรธผมและก็รู้ด้วยว่าเธอโกรธผมเรื่องอะไร วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ เป็นวันวาเลนไทน์ครั้งแรกของเรา ตั้งแต่เรา 2 คนรู้จักกันมาเกือบปี ผมเป็นคนขี้อาย โดยเฉพาะกับเรื่องแนวโรแมนติกหวานซึ้งอะไรทำนองนี้
ผมไม่กล้าเดินไปซื้อดอกกุหลาบแล้วเดินถือจนมาส่งถึงเธอได้ แต่ผมมีของขวัญอย่างอื่นมาให้เธอ เป็นสมุดเล่มสวยเล่มหนึ่ง ผมรู้ว่าเธอชอบบันทึก แต่บนสมุดนั้นไม่ได้มีรูปหรือลวดลายที่เป็นดอกกุหลาบ หัวใจ หรืออะไรก็ตามที่มีความหมายว่า "รัก ชอบ" เลยแม้แต่นิดเดียว
เธอบอกว่าเธอไม่ได้ต้องการของขวัญที่มีราคาแพง เธอต้องการของแค่ชิ้นเดียว เธอถามผมว่ารู้มั้ย ว่าเธอต้องการอะไร ผมตอบไปว่า "ไม่รู้" หลังจากนั้นบรรยากาศในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาครึ่งชั่วโมงของเรา 2 คน ก็กลายเป็นบรรยากาศในวันปฏิวัติอะไรซักอย่างไป ผมไม่รู้ว่าเธอจะโกรธถึงขนาดนี้ ผมยอมรับว่า ผมยังไม่รู้จักเธอดีพอจริงๆ แต่เธอก็ยังไม่รู้จัก "ความเจ้าเล่ห์" ของผมดีพอเหมือนกัน
*********
ริบบิ้นเส้นเล็กสีขาวกลายเป็นสปริงริบบิ้นสีเหลี่ยมอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมไม่ได้ยื่นให้เธอ ผมถือริบบิ้นไว้ในมือแล้วจ้องหน้าเธอ....เธอค้อนใส่แล้วทำท่าจะพูดอะไรต่อไป
แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ผมก็ชิงพูดกับเธอก่อน
"ผมคงเป็นคนขี้อายเกินกว่าที่จะเดินถือดอกกุหลาบไปไหนมาไหน แต่ถ้าเป็นริบบิ้นสักเส้นแล้วละก็ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เรารู้จักกันครั้งแรก ด้วยความรู้สึกที่ราบเรียบธรรมดา เมื่อเราได้มาอยู่ใกล้ชิดกันเหมือนริบบิ้นที่ถูกพับเอาปลายทั้ง 2 ข้างเข้ามาหากัน เราผูกพันกันอย่างช้าๆ ถึงจะยังไม่แน่นหนาอย่างเกลียวเชือก แต่ก็ผูกพันกันอย่างที่ไม่หลุดจากกันง่ายๆ"
มือซ้ายจับริบบิ้นเส้นเล็กที่ปลายทั้ง 2 ข้าง ปล่อยส่วนที่เป็นแกนลง มือขวาเลือกจับหลายริบบิ้นที่สั้นกว่าแล้วค่อยๆ ดึง สปริงริบบิ้นค่อยๆ เปลี่ยนไปมันมองดูคล้ายกับทรงกรวย มันดูคล้ายกับพายุหมุนที่ดูดทุกสิ่งลงสู่ในกลาง....ริบบิ้นส่วนหนึ่งถูกดึงลงข้างล่าง ในขณะที่ส่วนหนึ่งยังคงอยู่ที่เดิม
"ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ คุณรู้สึกอย่างไรกับผม แต่ผมรู้ว่าความผูกพันของเราเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามเวลา อย่างเป็นขั้นตอน ถ้าดอกกุหลาบแสดงถึงความรัก และสีขาวแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ ผมก็อยากจะมอบดอกกุหลาบสีขาวดอกนี้ให้คุณ"
ริบบิ้นสีขาว ตอนนี้ดูคล้ายกับ ดอกกุหลาบสีขาวดอกหนึ่ง "Happy Valentine ครับ"
************ 15/10/48 เวลา 16.30 น.
จากคุณ :
mu-in-hong
- [
15 ต.ค. 48 16:52:39
A:203.155.114.177 X:
]