โลกกว้างใหญ่ ผู้คนมากมาย เจอกันเพื่อจาก จากแล้วเจอกันใหม่ เรื่อยไป
เช่นนี้
ผมพบเธอโดยบังเอิญขณะที่ไปลงทะเบียนวิชาเลือกภาษาฝรั่งเศส (แต่จะใช้คำว่าบังเอิญนั้นก็อาจจะไม่ถูกต้องนัก เพราะวันๆหนึ่งผมเดินผ่านคนตั้งมากมาย แต่เธอเท่านั้นที่ผมสนใจ) สาวผมยาวคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องลงทะเบียนพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสที่กำลังหัวเราะอย่างร่าเริงนั้น จะว่าสวยหมดจดเสียทีเดียวก็เห็นจะไม่ใช่ แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สายตาและหัวใจของผมมันถูกสะกดไว้ที่เธอแล้ว และจากวันนั้นชีวิตที่เป็นส่วนตัวของผมก็ถูกล่วงละเมิดอีกครั้ง โดยเธอคนนี้
เวลาคุณแอบชอบใครสักคน คุณเคยรู้สึกไหม ว่าทำไมเค้าคนนั้นตัวใหญ่ขึ้น แต่ตัวคุณกลับตัวเล็กลง พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายถึงขนาดร่างกายแต่อย่างใด แต่หมายความว่าเวลาวันๆหนึ่งของคุณมีคนๆนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น และเวลาส่วนตัวของคุณก็ลดลงไป ผมเองก็เช่นกัน นอกจากจะคนถึงเธอคนนั้นวันละประมาณสี่สิบห้าครั้งแล้ว เธอยังเหมือนปีศาจที่ตามหลอกหลอนผมไปทุกที่ ก่อนจะเจอกันวันๆไม่เคยพบเห็น พอเจอเธอวันนั้นแล้วไปไหนก็เจอแต่เธอคนนี้ ไปโรงอาหารก็เจอ กำลังรอเข้าห้องเลคเชอร์เธอก็เดินสวนออกมา พอนั่งเรียนเสร็จจะเดินออกมาเธอก็เดินสวนเข้าไปเรียนใหม่ ไปจ่ายตลาดก็เจออีก ผมเป็นเอามากจริงๆครับ ถ้าเธอเดินมาในระยะหนึ่งร้อยเมตรผมสามารถเห็นได้เลยหละ(ครั้งหนึ่งเดินตามหลังด้วยซ้ำ เกิดลางสังหรณ์ว่าอาจจะใช่เลยเดินแซงหน้าไปดู ...ใช่จริงๆ) เหมือนเธอตัวใหญ่ จะไปทางไหนผมก็มองเห็น แต่ถึงจะอย่างไรก็ตามทุกทีที่ได้เจอกันผมรู้สึกได้เลยว่าความสดใสของเธอนั้นทำให้วันที่ซ้ำซากของผมมันดีขึ้น เลคเชอร์ที่ชอบโดดผมก็ไปรอแต่เนิ่นๆ เผื่อจะได้เจอเธอคนนั้น
ผมมองเธออยู่คนเดียวแต่เธอไม่เคยมองผมเลย ถ้าได้สบตาบ้างก็คงจะดี บางทีความในใจมันอาจจะส่งผ่านทางสายตาไปได้บ้าง แต่ทำอย่างไรหละ เธอถึงจะมองผมบ้าง แล้ววันหนึ่งอะไรๆมันก็เหมือนจะเป็นใจให้ผมบ้าง เธอกับเพื่อนเดินเข้ามาที่โต๊ะชมรมแบดมินตันที่ผมรับผิดชอบอยู่ เธอไม่ได้ถามอะไรมากมาย เราเพียงทักกันแล้วเธอก็ลงชื่อสมัครสมาชิก ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เวลาไม่ถึงนาทีที่เธออยู้ตรงหน้า ผมรู้สึกไม่เป็นตัวเองเลย นานมาแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้ และผมก็ไม่ชอบมันเลย
แล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งไว้แค่เพียงชื่อ อีเมลล์แอดเดรส และเบอร์มือถือ และแล้วแผนการณ์ต่างๆมันเริ่มผุดขึ้นมาในสมองผม ผมจะทำยังไงนะ จะได้รู้จักกับเธอ จะโทรไปบอกว่าชอบเสียเลยก็ดูจะจริงใจไปหน่อย ส่งอีเมลล์ไปก็คงไม่ได้ เพราะเธอที่เธอให้มาก็เพราะเธออยากเข้าชมรมแบด ไม่ได้อยากรู้จักเรา ก็เหลือแต่ชื่อเธอนี่แหละ ที่ทำให้ผมต้องรีบวิ่งไปที่ดูบอร์ดห้องลงทะเบียนว่าเธอเรียนอยู่คลาสไหน น่าเสียดายที่เราไมได้เรียนด้วยกัน แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดความพยายามของผมแต่อย่างใด
มันจะดูโรคจิตเกินไปไหม ถ้าจะบอกว่าผมเปลี่ยนคลาสเพียงเพราะอยากเรียนกับเธอ เวลาเรียนของเธอตรงกับเวลาซ้อมของชมรมแบด แต่จะทำอย่างไรได้ ยังไงแบดก็ไม่ได้ซ้อมอาทิตย์ละครั้งเดียว โดดสักอาทิตย์ละครั้งจะเป็นไร สำหรับผมเองผมรู้ดีว่ามันดูไร้เหตุผลเกินไป ซึ่งโดยปกติผมไม่ชอบให้เป็นอย่างนี้ แต่จะทำอะไรได้เล่า ในเมื่อตอนนี้ความรู้สึกมันอยู่เหนือเหตุผลเสียแล้ว เป็นเวลาสองอาทิตย์ที่ผมเฝ้ารอให้วันเริ่มเรียนวิชาเลือกมาถึง ระหว่างนี้ผมก็ยังแอบมองเธอทุกครั้งที่ผมมีเรียนในห้องเลคเชอร์ต่อจากเธอ แต่เมื่อได้เรียนด้วยกันนี่แหละ หึหึ ฝันของผมมันคงจะเป็นจริง ผมฝันไว้ว่าผมจะได้พูดคุยกับเธอบ้าง ห้องเรียนภาษามันก็ต้องมีการฝึกพูดฝึกคุยกันมั่งแหละ ยิ่งคลาสที่เราเรียนก็มีแค่สิบสองคน ผมคงจะมีโอกาสใกล้ชิดและรู้จักกับเธอมากขึ้น จีบกันเป็นภาษาฝรั่งเศสก็ดีนะ อือ...คิดแล้วรอไม่ไหว
แล้ววันนั้นก็มาถึง ผมไปถึงห้องเรียนสายอย่างจงใจด้วยหวังจะเป็นจุดเด่นเวลาเดินเข้าห้อง แต่ขอประทานโทษ อาจารย์ที่สอนยังไม่มาเลยครับ มีคนนั่งอยู่ที่สี่ห้าคนเท่านั้น ที่สำคัญ...ไม่มีเธอ เธออาจจะยังไม่มา เธออาจจะโดดไปช้อปปิ้งกับแฟน(ถ้ามีแล้ว) ผมคิดไปต่างๆนานา สองชั่วโมงที่นั่งเรียนผมตั้งใจฟังที่อาจารย์พูดประมาณห้านาทีได้
หลังจากวันนั้น ผมก็แทบจะไม่ได้เจอเธออีกเลย ผมไม่คิดจะต่อความยาวว่าทำไมเธอถึงไม่มาในวันนั้น หรืออาทิตย์ต่อๆไปเธอจะมาไหม หรือเธอจะไปไหนกับใคร เพราะผมเริ่มตระหนักว่าปัญหามันอยู่ที่ตัวผมเอง ตัวเองยังเอาไม่รอด แล้วจะไปรับผิดชอบใครได้ ตั้งแต่วันที่เจอเธอเวลาช่วงเดียวที่มีความสุขคือเวลาที่เห็นเธออยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นเวลาประมาณสิบวินาทีโดยเฉลี่ยต่อวัน นอกจากนั้นผมเป็นบ้าเป็นบอคิดหาเรื่องหาวิธีการจะใกล้ชิดเธอ จะทำยังไงให้เธอชอบผม จะทำยังไงถ้าเราเวลาว่างไม่ตรงกัน จะซื้อโทรศัพท์ระบบไหนจะได้โทรไปหาได้เยอะๆ เธอจะยอมออกไปกินข้าวกับผมไหม แล้วถ้าเธอไม่ไปจะทำอย่างไร ถ้าเธอยอมไปจะไปร้านไหน ถ้าเธอกินเยอะจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย
ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกทำตัวอย่างนี้ต่อไป ผมจะไปเข้าห้องเลคเชอร์ตรงเวลา จะไม่ไปยืนรออีก ผมจะเปลี่ยนคลาสภาษาฝรั่งเศสกลับไปเป็นคลาสเดิมจะได้มีเวลากลับไปซ้อมแบด จะกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติเหมือนก่อนเจอกัน ลองมองในแง่ดี ถ้ามีโอกาสวันหนึ่งเราคงได้เจอกันอีก เราคงได้พูดกัน ถ้าเราความคิดคล้ายกัน เราอาจจะเป็นเพื่อนกัน ถ้าเรารสนิยมเหมือนกัน เราอาจจะสนิทกัน ถ้าเรามีความรู้สึกดีๆให้กัน เราอาจจะได้คบกัน และอะไรดีๆอีกหลายอย่างมันงตามมา แต่ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าเราไม่เจอกัน เธออาจจะหายไปจากชีวิตผม ผมอาจจะไปชอบใครคนอื่น เธออาจจะตัวเล็กลง จนผมมองไม่เห็นอีก แล้วผมก็จะลืมเธอไป แต่สุดท้ายจะเป็นยังไง ผมไม่รู้
โลกกว้างใหญ่ ผู้คนมากมาย เจอกันอาจไม่ได้คุยกัน คุยกันอาจไม่ได้รู้จักกัน รู้จักกันอาจไม่ได้เรียนรู้กัน ผู้คนเข้ามาในชีวิตแล้วก็จากไป เมื่อผมดึงเธอเข้ามา ผมก็จำต้องปล่อยเธอไป
กระบี่เหนือยอดหญ้า
จากคุณ :
หมูน้อยลอยล่อง
- [
16 ต.ค. 48 03:38:09
]