CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    "เมาค้าง. . ."

    ผมเมา โลกหมุน งงงวย เช้าวันถัดมา แขนข้างซ้ายมีรอยบาดเป็นทาง มันไม่ลึก ผมกำลังคิดว่า ตอนเมาผมคงไม่พยายามจะฆ่าตัวตายหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นคงน่ากลัวเต็มที่ หลายครั้งผมมักจำไม่ได้ว่าเคยทำอะไรลงไปขณะเมามาย

    คืนที่ผ่านมา ผมจำไม่ได้แล้วว่าเคยบอกรักใคร

    ความชัดเจนกับความไม่แน่ชัด อารมณ์ค้างๆคาๆจุกเสียดความเป็นไปของชีวิต


    ผมจำเหล้าแก้วแรกในชีวิตไม่ได้ แต่จำการเมาครั้งแรกได้ วันนั้นโลกหมุน ทำให้ผมเข้าใจว่าโลกหมุนรอบตัวเองที่กล่าวไว้ในวิชาวิทยาศาสตร์เบื้องต้นนั้นเป็นอย่างไร (แม้ว่าสิ่งที่ผมเข้าใจ จะไม่ได้มาจากการพิสูจน์สมมติฐานก็ตาม)

    ผมจำไม่ได้ว่าแอบชอบใครเป็นคนแรกในชีวิต และความรู้สึกชอบแบบเด็กๆตอนนั้นเป็นอย่างไร แต่ผมจำได้ว่าอกหักครั้งแรกเป็นอย่างไร มันลืมไม่ลง วันนั้น เหมือนกับโลกไร้สมดุล ชั้นบรรยากาศถูกทำลาย ผมเหมือนคนขาดอากาศหายใจ อย่างกับมันเพิ่งเกิดได้ไม่นาน ใช่มันยังไม่นาน ถ้านานจริง ผมคงเป็นที่ทำให้มันยืดขยาย จนคล้ายว่าเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน

    ผมเป็นพวกบื้อๆ หน้ามึน นิ่งงั่ง เป็นอย่างนี้มานานแล้ว เป็นคุณลักษณ์และรูปลักษณ์เฉพาะตัว ปรับแก้มิได้

    ผมมักนั่งนึกถึงความรักครั้งแรกๆ แอบรักเขาข้างเดียว วันๆได้แต่แอบมอง สมัยนั้นผมเป็นไอ้งั่งเต็มรูปแบบ จนมาบัดนี้ ผมก็ยังเป็นไอ้งั่งอยู่ เผลอๆจะงั่งมากขึ้นกว่าตอนนั้นเสียอีก

    ผมจำได้ว่าตอนอายุ 15 เคยตกหลุมรักใคร ผมมักชอบแอบมองดูเธอไม่ว่าจะใกล้ไกล เพียงได้เห็นผมจำได้ทันทีว่าเป็นเธอ ในระยะ 400 เมตร ผมไม่เคยจำเธอพลาด

    เธอเรียนชั้นเดียวกับผม แต่อยู่คนละห้อง ผมได้แต่มองเธอเดินผ่านไปผ่านมา แต่ทุกเย็น ผมจะได้เฝ้ามองดูเธอในระยะใกล้ เธอเรียนพิเศษที่เดียวกับผม ผมมักนั่งอยู่ข้างหลังเธอ ลอบมองดูตลอดเวลาเรียน กิ๊บติดผมของเธอสีฟ้า เธอชอบยกมือถามอยู่บ่อยๆ เธอต้องการคำอธิบายซ้ำให้กระจ่างชัดที่สุด เธอไม่อยากสงสัยในสิ่งใด

    ผมไม่เคยยกมือถามเลย เพราะผมไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น

    หลังเลิกเรียน กลุ่มเพื่อนของเธอชอบนั่งรับประทานไอศกรีมก่อนกลับบ้าน


    ตอนอายุ 15 ผมดูเป็นเด็กกว่าคนอื่น สรีระเติบโตไม่ทันใคร หนวดผมยังไม่ขึ้น ตัวผมเล็กกว่าใคร ผู้หญิงรุ่นพี่มักเอ็นดูในแบบน้องชายตัวเล็กๆน่ารัก กับผู้หญิงครานั้น ผมรู้สึกประหม่าอายเป็นที่สุด นั่นทำให้ผมวางตัวไม่ถูกกับเพศตรงข้ามเสมอมา พวกเธอดูมีความซับซ้อนกว่าผม เป็นผู้ใหญ่มากกว่า

    ตอนนั้นผู้หญิงรอบข้างร่วมชั้นมักมองหาผู้ชายที่ดุโตกว่าพวกเธอ หากเป็นผู้ชายร่วมรุ่น ก็มักเจาะจงพวกที่ดูโตกว่าคนอื่นๆ แต่พอเวลาผ่านไป พวกเธอเหล่านั้น ส่วนหนี่งกลับเมียงมองผู้ชายรุ่นน้องแทน

    การโตช้าทำให้ไม่มีสาวมาเหลียวแล ผู้คนรอบข้างมักจดจำความเป็นเด็กของผมขณะนั้นได้เสมอมา มันเป็นภาพติดตาอย่างหนึ่ง ไม่ว่าขณะนี้ผมจะโตขึ้นเพียงใดก็ตาม

    เมื่อความครุ่นคำนึงในหัวเป็นแบบนั้น ผมจึงหลบๆซ่อนๆทั้งตัวตน ทั้งความรู้สึกเสมอมา เวลาชอบใครสักคนผมจึงไม่กล้าบอก เป็นความเคยชินกระทั่งทุกวันนี้

    เวลาเมาเป็นช่วงเวลาที่ผมแสดงออกมามากที่สุด เหมือนการเปิดประตูให้สิ่งที่อัดอั้น ทะลักล้นออกมาแบบพรวดพราด ซึ่งหลายสิ่งเป็นความพลาดพลั้ง


    ข้อห้ามในการดื่มมีหลายอย่าง ข้อหนึ่งในนั้น “ห้ามบอกรักใครเวลาดื่มเข้าไปแล้ว” มีความจริงอยู่อย่างคือ คนเมาไม่เคยพูดโกหก แต่พอหายเมาอาจจำอะไรไม่ได้เลย การบอกรักใครสักคน ควรพูดในขณะมีสติที่สุด การใช้แอลกอฮอล์มาเป็นตัวช่วยเรื่องความกล้า เป็นวิธีขี้ขลาดสิ้นดี

    ใช่! แต่ผมไม่เคยจีบหรือโทรหาผู้หญิงคนใดเลยหากไม่มีเหล้าเข้าปาก ผมเป็นไอ้ทึ่มทุกทีเวลาแอบรักผู้หญิง

    มีคู่รักแอลกอฮอล์คู่ไหนบ้างนะ ที่ยืนยาว... คู่ของผมไม่ใช่

    ผมจำตอนบอกรักเธอไม่ได้ แต่ลืมความเจ็บช้ำจากเธอไม่ลง

    ในวันที่เมาค้าง สติเบลอลับ ขมับมึนตึง ผมควรดื่มน้ำมากๆ แล้วนอนนิ่งๆ แต่ผมกลับยืนเอ๋อ ลุกๆนั่งๆ จ้องมองโทรศัพท์ เฝ้าดูประตูห้อง

    เธอไม่เคยโทรเข้าหรือเปิดประตูห้องเข้ามาอีกเลย มีเรื่องอีกตั้งมากที่ผมไม่เข้าใจเกี่ยวกับตัวเธอ ผมอยากเรียนรู้ต่อ

    อารมณ์ค้างคา โลกชะงักงัน การหมุนสั่นกระตุก ในวันเมาค้างผมนอนไม่หลับ ปวดแปลบทุกระบบประสาท โดยเฉพาะส่วนลึก ที่นั่น ตรงนั้น.......


    คำถามของเธอ
    “คุณรักฉันที่ตรงไหน ?”
    “ไม่รู้สิ ผมตอบไม่ได้ ไม่รู้ ผมไม่รู้จริงๆ”
    “เมื่อวานฉันถามคนที่มาจีบว่า เขาชอบฉันตรงไหน เขามีคำตอบให้ฉัน”
    “อย่างไร?”
    “เขาบอกว่า เขาชอบคนหมวยๆ แถมยังบอกว่าคุยกับฉันแล้วสบายใจ”
    “อืม ตอบได้สำเร็จรูปดี”
    “แต่เขาก็มีคำตอบให้ฉัน แต่คุณไม่มี”
    “ผมตอบไม่ถูกหรอก ผมรู้เพียงว่าคุณทำให้ตัวผมเป็นตัวผมอยู่ทุกวันนี้ ผมรู้ว่าผมรักคุณ แต่บอกไม่ได้หรอกว่ารักคุณที่ตรงไหน”

    “คุณไม่มีคำตอบคุณแน่ใจได้อย่างไรว่ารัก”
    “............” ผมเก็บคำถามของเธอมาคิด หาคำตอบสวยหรู แต่ผมก็ไม่เคยมีคำตอบดีๆให้เธอเลย

    ผมรู้สึกเพียงว่า คนเราก็เหมือนกับสถานที่ คนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เหมือนที่ที่เราอยู่แล้วสบายใจ การพบเจอใครสักคนที่อยากอยู่เคียงข้างเรื่อยไป เหมือนสถานที่ที่เราอยากลงหลักปักฐาน

    เธอเป็นสถานที่ที่ผมอยากใช้ชีวิตอยู่ตลอดไป แต่เธอไม่คิดแบบผม

    “คุณมันเย็นชืดเหมือนแกงจืดที่ลืมอุ่น”
    พอเธอพูดแบบนั้น ทุกสิ่งรอบข้างช่างเย็นชืดเหมือนแกงจืดที่ลืมอุ่นจริงๆ ความรักที่เคยแดดาล ดับลับเสียแล้ว

    ผมไม่เคยเข้าใจในบางสิ่งที่เธอเป็น บางค่ำคืน เธอนอนร้องไห้โดยไม่มีสาเหตุ

    “พอเถอะน่า หยุดเป็นแบบนี้เสียที” ผมตะคอกเธอ
    “ก็ได้ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ร้องไห้ให้คุณเห็น” เธอกลั้นกลืนน้ำตา สะอึกสะอื้นตอบ
    “ผมขอโทษ ผมแค่ไม่อยากเห็นคุณเป็นแบบนี้” ผมสำนึกอะไรๆได้ช้าเกินทุกที


    ห้วงโศกศัลย์ ผมไม่ได้ดื่มเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เพราะผมดื่มในปริมาณมากพออยู่แล้ว

    แต่ความเมาที่ทำให้หลับลงทุกครั้งกลับไม่สามารถช่วยอะไรได้ในยามนี้ ผมเมามากแล้วแต่นอนไม่หลับ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่มีสาเหตุ
    “พอเถอะน่า หยุดเป็นแบบนี้เสียที” ผมตะคอกตัวเอง


    คำถามของผม
    “คุณรักเขาที่ตรงไหน ?”
    “ฉันก็ไม่รู้ ฉันบอกไม่ได้”
    “ต้องเป็นอย่างนั้นสินะ คุณคงเจอที่ของคุณแล้ว”
    “ใช่ แล้วคุณเจอที่ของคุณหรือยัง ?”
    “แก้วเหล้ามั้ง”

    เธอไม่ได้ไปชอบคนที่มาจีบคนก่อน แต่เธอชอบอีกคน คนที่เธอไม่สามารถบอกได้ว่า รักเขาที่ตรงไหน


    ผมเลิกเฝ้ามองประตูแล้วว่า จะมีใครเปิดเข้ามา บ่ายวันที่ผมไม่ได้สนใจ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผู้หญิงคนหนึ่ง เธอบอกว่าชอบผม ในภาวะที่ไม่พร้อมรักใคร ผมไม่รู้จะทำอย่างไร

    “วันนี้คุณมีนัดกับฉันนะ คุณต้องมานะ ฉันเลี้ยงเหล้าคุณก็ได้”
    “ผมแฮงก์”
    “คุณก็แฮงก์อยู่ทุกวัน แต่ก็ดื่มไหวทุกวัน”
    “เลี้ยงเหล้าผมมันเปลือง”
    “ฉันคอยคุณนะคืนนี้”

    ฝนตกตลอดบ่าย ถ้าเป็นตอนอายุ 12 ผมคงขลุกอยู่ในห้อง งัดหนังสือโป๊ใต้เตียงออกมาดู ตอนอายุ 12 ผู้หญิงเป็นสิ่งลี้ลับน่าค้นหา เป็นเรื่องตื่นเต้นที่จะเข้าไปทำความรู้จักเพื่อเรียนรู้ในความแตกต่าง ผมอยากกลับไปตอนนั้น ตอนอายุ 12 ผมยังไม่เคยดื่มเหล้า และไม่รู้จักอาการเมาค้าง

    “แล้วคุณก็มาตามนัดจริงๆ”
    “ผมขี้เมาก็จริง แต่ยังมีมารยาทอยู่นะ”
    “คุณคงรักเธอมากสินะ คุณถึงทำใจได้ยากเย็น”
    “เปล่าหรอก ผมเพียงแต่เป็นคนใจเสาะ ใจเสาะ แล้วก็ใจเสาะ เวลาอกหักทีใจจะแตกดังเป๊าะ เปาะๆๆๆ”

    “เมื่อไหร่ถึงจะเลิกเป็นแบบนี้ อีกนานไหม?”
    “ผมไม่ใช่หมาเซื่องๆ ที่ต้องการเจ้าของอีกแล้ว ผมเป็นแมวหง่าวที่ไม่ต้องการใคร คอยแต่ฉกชิง ยามเจ้าของบ้านเผลอต่างหาก”
    “ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ชอบแมว”
    “สืบมาดีนี่ คุณสืบมาได้ยังไง และสืบมาเพื่ออะไร?”
    “ฉันมักอึดอัดหากไม่รู้ในสิ่งที่อยากรู้”
    “ผมไม่มีอะไรให้คุณรู้นักหรอก ชีวิตผมไม่มีอะไรเป็นองค์ประกอบมากมาย ผมเป็นแกงจืดเย็นชืดที่ลืมอุ่น”


    ในวันเมาค้าง ปวดหัวเคว้งคว้าง ขื่นเหงา นั่งอยู่ริมหน้าต่าง พาดแขนบนขอบหน้าต่าง มองเหม่อดูผู้คนเบื้องล่าง แฮงก์โอเวอร์เนิ่นนาน ภายหลังบานประตูปิดสนิทในครั้งเธอเดินจาก

    “คุณเป็นสถานที่แบบไหน?”
    “แล้วคุณล่ะ”
    “ผมเป็นเมืองล่มสลาย พังพาบจากไต้ฝุ่นลูกยักษ์ ทุกสิ่งแตกหัก ผู้คนขวัญกระเจิง เป็นเมืองไร้ชีวิต รอการเยียวยา”
    “ฉันเป็นสถานที่ที่คุณไม่อยากเดินเข้าไป”
    “ผมไม่เคยบอกคุณอย่างนั้นเลย”

    สิ่งที่ท่วมท้นในตัวผมขณะนี้ นอกจากความเมาแล้วยังมีอะไรอีกนะ ?


    ผมรู้สึกอยากกอดเธอเหลือเกินในคืนนี้ หรือว่าขณะนี้ ผมกำลังกอดเธออยู่กันแน่นะ เพียงโอบรอบตัวเธอ ผมเมาเกินกว่าจะทำอะไรเธอได้ ไม่ใช่สิ ผมเพียงแค่อยากกอดเธอจนถึงเช้าเทานั้น สติมึนชา โลกหมุนป่วน ผมอยากกอดเธอให้ถึงเช้าของวันพรุ่งนี้ ผมพยายามตั้งสติ ผมกลัวว่าถ้าเผลอหลับ ตื่นมาพรุ่งนี้เธออาจไม่อยู่เคียงข้างอีกแล้ว พรุ่งนี้ผมคงเมาค้าง ส่วนเธอ หายไป

    เวลาเช้าพรุ่งนี้ การมาถึงช่างเนิ่นนาน ผมเพียงอยากบอกความรู้สึกที่มีต่อเธออย่างตรงไปตรงมา ซึ่งไม่ใช่เวลานี้ ตอนนี้ผมเมา เมาเกินไป...........


    ........................................................



    เชิญทักท้วงโดยมิต้องเกรงใจ

    จากคุณ : อุปกรณ์ประกอบฉาก - [ 17 ต.ค. 48 14:27:53 A:203.113.81.38 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป