CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    *****************จดหมายสีชมพู********************(ขอความเห็นด้วยครับ)

    วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่มีจดหมายสีชมพูอยู่ในตู้รับจดหมาย ฉันได้รับจดหมายสีชมพูมาสี่อาทิตย์ติดกันแล้ว ในจดหมายบรรยายถึงความรักที่ต้องแอบซ่อนของชายผู้ไม่กล้าเปิดเผยตัวตั้งแต่เมื่อครั้งยังเรียนโรงเรียนเดียวกันเมื่อร่วมสิบปีก่อน และรักนั้นยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน




    แม้ว่าจะรู้สึกแปลกใจเพราะไม่เคยได้รับจดหมายในลักษณะนี้ แต่อดที่จะภูมิใจและดีใจไม่ได้ที่คนธรรมดาอย่างเราจะมีคนมาแอบชอบ


    จดหมายฉบับนี้บอกว่าอยากให้ฉันเขียนตอบจดหมายบ้าง หากมีใจ… ลงท้ายด้วยที่อยู่ของเขา วิธีการเขียนจดหมายก็ทำให้ทุกอย่างดูโรแมนติกดี แต่นี่ก็เป็นโอกาสดีที่จะตามไปดูหน้าตาว่าเป็นเช่นไร ความรักที่หยาดเยิ้มในซองจดหมายฉบับก่อนๆ เหมือนไฟกระตุ้นให้อยากรู้จักผู้ชายคนนี้มากขึ้น



    พอกลับจากบริษัทเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว จึงไม่รอช้าที่จะนั่งรถไปยังจุดหมายที่ระบุไว้ในซอง การเดินทางค่อนข้างใช้เวลานาน เพราะหนทางไกลเหลือเกิน เมื่อฟ้าเริ่มมืดลงแต่ไม่สนิท ก็มาถึงหมู่บ้านหนึ่งที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ดูไปคล้ายกับบ้านของพวกฝรั่งในต่างประเทศที่มักจะมีสนามหน้าบ้านแต่ไม่มีรั้วกั้น คาดว่าเขาคนนั้นน่าจะมีเงินพอตัว



    บ้านเลขที่ 15/2 ห่างออกสักหน่อย แต่เดินเข้าไปไม่ยาก บนทางเท้ามีพ่อแม่เข็นรถเด็กทารก เด็กผู้ชายผู้หญิงเล่นกระโดดเชือกกัน หรือวิ่งซนกันอยู่ตลอดทาง ดูแล้วเป็นหมู่บ้านที่น่าอยู่มาก



    พอถึงบ้านเลขที่ 15/1 ฉันจึงหยุดเฝ้ามองบ้านหลังถัดไป มันเหมือนกับบ้านหลังอื่นๆ ที่สะอาดสะอ้านและตกแต่งอย่างดี มีแสงไฟลอดออกมาแสดงว่ามีคนอยู่บ้าน อีกทั้งมีเงาของการเคลื่อนไหวไปมา เมื่อมองมาที่หน้าบ้านก็เห็นรถสีดำจอดอยู่



    เมื่อเดินไปหยุดที่หน้าบ้านจึงเห็นชายคนหนึ่งกำลังเดินออกมา สายเกินไปที่จะหลบหน้า เมื่อเราสบตากันไม่มีใครพูดอะไร เขาดูไม่คุ้นตา แต่หน้าตาดี ร่างกายมีมัดกล้าม และรูปร่างสูงใหญ่

    อาจจะไม่ใช่คนนี้ก็เป็นได้… ดูดีเกินไป


    ชายคนนี้เดินผ่านไป ไม่มีปฏิกิริยาตกใจที่เห็นฉัน ในบ้านไฟก็มืดสนิท บางทีนี่อาจเป็นน้องชายของเขา


    เมื่อยืนมองเขาเดินจากไปจึงตัดสินใจกลับบ้าน พร้อมพบจดหมายสีชมพู เขียนมีใจความว่า เขาจะมาหาที่ทำงานตอนพักเที่ยงพรุ่งนี้ไม่ว่าฉันอยากจะพบเขาหรือไม่ก็ตาม



    เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงของวันรุ่งขึ้น ฉันจึงไปรอเขาที่หน้าบริษัท ผู้คนแถวนั้นผ่านไปมาพลุกพล่าน ไม่กล้าเดาว่าเป็นคนไหนที่กำลังเดินมา ถ้าหากเมื่อวานเป็นน้องชาย หน้าตาคงไม่ต่างกันมากนัก ก็แสดงว่าอาจจะหน้าตาดี คงไม่ผ่าเหล่าผ่ากอมากนัก



    และฉันก็เห็นผู้ชายเมื่อวานตรงรี่เข้ามาอย่างมั่นใจ วันนี้ใส่ชุดสูทสีดำ ดูท่าทางภูมิฐานและดูดีมาก เขาหยุดอยู่ข้างๆ ไม่มีการกล่าวเอ่ยคำทักทาย และหันหน้าไปยังถนน บางทีอาจไม่เห็นผู้หญิงที่ยืนข้างๆ เขาเลยก็ได้



    สิ่งที่ผุดขึ้นมาในสมองก็คือ นี่อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด คนเราชื่อซ้ำกันได้ บางทีเขาอาจจะเช็คชื่อนามสกุลจากที่ไหนสักแห่งแล้วคิดว่าใช่ผู้หญิงคนที่เขาแอบชอบ แต่บังเอิญชื่อและนามสกุลเหมือนกัน จดหมายจึงอยู่ถูกส่งไปถึงฉัน และนี่เป็นโอกาสที่จะแก้การเข้าใจผิด


    "ขอโทษนะคะคุณคือคุณมาณพหรือเปล่าคะ"

    "ใช่ครับ"

    "ดิฉันบัวแก้วค่ะ"

    "ครับ"

    "เอ่อ… คุณมารอคนชื่อบัวแก้วหรือเปล่าคะ"

    "ใช่ครับ"

    "บางทีนี่อาจเป็นการเข้าใจผิดแต่จดหมายของคุณส่งไปถึงที่บ้านดิฉันน่ะค่ะ"

    "เหรอครับ"

    "ค่ะ"

    "งั้นคุณก็คือคุณบัวแก้วสินะครับ คงจะเป็นการเข้าใจผิดจริงๆ ด้วยนะครับ เพราะคุณไม่ใช่คนที่ผมรู้จัก"

    "ค่ะ ดิฉันก็คิดอย่างนั้น คนชื่อนามสกุลซ้ำกันก็มีพอสมควร"


    จากนั้นเขาก็ขอโทษขอโพย แล้วจากไป หลักจากนั้นสามเดือนระหว่างทางกลับบ้าน จึงได้เห็นเขายืนรอรถประจำทางอยู่หน้าสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ฉันจึงเข้าไปทัก

    "สวัสดีค่ะ จำดิฉันได้หรือเปล่าคะ"

    "จำได้สิครับ แบบคุณจำไม่ยากหรอก
    ……


    เอ่อ… ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดกระทบอะไรคุณนะครับ ขอโทษด้วย"

    "ดิฉันเข้าใจค่ะ"


    "ขอบคุณครับ"


    "ว่าแต่คุณเจอผู้หญิงในจดหมายหรือยังคะ"


    "ผมไปเจอมาอีกสองคนครับ แต่พวกเขาก็ยังไม่ใช่เธออยู่ดี"


    "คุณคงอยากเจอเธอมากสินะคะ"


    "ใช่ครับ เธอเป็นรักครั้งแรกของผม บางทีอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายหากผมมีวาสนาได้เจอ"


    "เธอมีอะไรที่ทำให้คุณประทับใจเหรอคะ"

    "ไม่มีอะไรเลยครับ ไม่มีเหตุผล"


    "อ๋อ.. ที่เขาบอกกันว่ารักไม่มีเหตุผลคงจะเป็นอย่างนี้สินะคะ"


    แล้วเราก็หัวเราะกัน แล้วฉันจึงถามถึงว่าเขาและเธอคนนั้นจบโรงเรียนอะไรกันมา ปรากฏว่าเป็นโรงเรียนเดียวกับฉัน และเธอคนนั้นก็อยู่ในห้องเดียวกับฉันอีกด้วย


    "เอ่อ… ดิฉันขอเบอร์โทรศัพท์คุณได้มั๊ยคะ คือดิฉันคิดว่าสามารถจะพาผู้หญิงคนนั้นมาหาคุณได้น่ะค่ะ แต่ว่าในอีกหนึ่งปีข้างหน้านะคะ"


    "ทำไมต้องอีกหนึ่งปีล่ะครับ"


    "มีเหตุจำเป็นน่ะค่ะ"


    ถึงแม้เขาจะทำท่าทางไม่เข้าใจนักแต่เราก็แลกเบอร์โทรศัพท์กัน เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งปี ฉันจึงนัดเขาไปเจอที่หน้าสวนสาธารณะที่เดิมเพื่อให้เธอคนนั้นไปพบ



    "สวัสดีครับ คุณจริงๆด้วย ผมไม่คิดว่า เธอจะทำได้"


    "สวัสดีค่ะ เธอคนไหนเหรอคะ"



    "ก็เพื่อนของคุณบอกผมไว้เมื่อปีก่อนว่าจะพาคุณมาพบผม ไม่น่าเชื่อหลังจากที่ผมตามหาคุณมานาน ผมก็ได้พบคุณ ต้องขอบคุณเพื่อนคุณจริงๆ แล้วคุณคนนั้นไม่มาด้วยเหรอครับผมจะได้ขอบคุณเขา"


    "เพื่อนคนไหนเหรอคะ"


    "ก็เพื่อนคุณคนที่อ้วนๆ ไงครับ ผมไม่แน่ใจ แต่อาจอ้วนถึงร้อยสามสิบกิโลก็ได้ นึกออกยังครับ"


    "อ๋อ.. ฉันไม่มีเพื่อนอย่างนั้นหรอกค่ะ เพียงแต่…"


    "เพียงแต่.. อะไรเหรอครับ"








    "คนนั้นเป็นฉันเองน่ะค่ะ"

    จากคุณ : Cool_loop - [ 17 ต.ค. 48 22:37:21 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป