ตอนที่ 19
นี่นายพาฉันมาเที่ยว หรือว่านายมาเที่ยวเองกันแน่ลูกกวาดเดินเข้าไปพูดกับชยันต์เมื่อเห็นว่าทั้งชยันต์และหญิงสาวผู้มาใหม่ไม่ได้สนใจหล่อนเลย
อ้าว ขอโทษนะคะ แฟนคุณมาตามแล้วคะหญิงสาวผู้มาใหม่พูดกับชยันต์ด้วยน้ำเสียงแสดงความผิดหวัง
อ๋อ เธอไม่ใช่แฟนผมหรอกครับ เธอเป็นลูกค้าที่รีสอร์ทนะครับ วันนี้ผมพาเธอมาเที่ยวชยันต์แก้ตัว
ใช่คะ เราสองคนไม่ใช่แฟนกัน แต่ตอนนี้ฉันไม่สนุกแล้ว ฉันอยากกลับแล้วลูกกวาดพูดออกไปด้วยน้ำเสียงปะชดปะชัน
อ้าวจะกลับแล้วเหรอครับ ถ้างั้นผมต้องขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะครับชยันต์หันไปพูดกับหญิงสาวผู้มาใหม่
แหมทำเป็นพูดครับด้วย เวลาอื่นไม่เห็นพูดเพราะแบบนี้เลย ลูกกวาดคิดในใจด้วยความหมั่นไส้
ลูกกวาดเดินกลับไปที่รถก่อน เมื่อหล่อนหันหลังมามองหล่อนก็พบว่าชยันต์กำลังยื่นกระดาษอะไรบางอย่างส่งให้หญิงสาวคนนั้น หล่อนจึงสะบัดหน้ากลับไปพร้อมกับเดินกลับไปที่รถอย่างรวดเร็ว
มัวยืนทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นเสียนานเชียวนะ
ผู้หญิงคนนั้น อ๋อ คุณส้มหวานนะเหรอ ก็เผอิญว่า.....
นี่นายจะยืนพูดอีกนานไหมเนี่ย ฉันอยากกลับที่พักแล้วลูกกวาดพูดตัดบทเพราะหล่อนไม่ต้องการฟังอะไรทั้งนั้น
ชยันต์มองลูกกวาดด้วยความไม่เข้าใจ ที่จู่ๆหล่อนก็มาทำท่าทางปั่นปึ่งใส่เขา โดยไม่มีสาเหตุ แต่ชยันต์ไม่สนใจ เขาจึงขึ้นรถและเตรียมที่จะสตาร์ทรถแต่เขายังไม่ได้ขับออกไปเพื่อรอให้ลูกกวาดขึ้นรถเรียบร้อยเสียก่อน
ทำไมยังไม่ขึ้นมาอีกละคุณชยันต์หันไปถามลูกกวาดเมื่อลูกกวาดยังไม่ขึ้นมาบนรถ
ลูกกวาดไม่ตอบว่าอย่างไร มีเพียงสายตาเท่านั้นที่มองมายังชยันต์ด้วยสายตางอนๆ หล่อนใช้มือพยายามโหนตัวเองขึ้นรถแต่มันก็ไม่ได้ทำได้ง่ายๆเหมือนตอนแรก
ขึ้นไม่ได้เหรอคุณชยันต์ถามลูกกวาดหลังจากที่เห็นว่าหล่อนพยายามที่จะเหวี่ยงตัวเองขึ้นมาบนรถ
ลูกกวาดยังคงไม่ตอบ ชยันต์จึงลงจากรถและเดินมาหาลูกกวาดที่กำลังพยายามขึ้นรถด้วยตัวเองด้วยความลำบากยากเย็น
มาผมช่วยชยันต์ช่วยจับเอวลูกกวาดและดันขึ้นเบาๆ หล่อนก็สามารถขึ้นไปนั่งบนรถได้อย่างสบาย
ตอนขามา ทำไมคุณขึ้นรถเองได้ แล้วทำไมตอนนี้ขึ้นเองไม่ได้ชยันต์บ่นหลังจากที่เขาขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว
ก็ตอนที่นายจอดรถไว้ที่รีสอร์ทพื้นถนนมันเท่ากันนี้ แต่ที่นี้พื้นถนนมันไม่เท่ากัน แล้วใครใช้ให้นายมาจอดในที่ลาดชันแบบนี้ลูกกวาดเถียง
คุณก็พูดแปลกๆคุณลืมไปแล้วเหรอว่าที่นี้มันเป็นภูเขา ไม่ใช่ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมลูกกวาดเถียงไม่ออก หล่อนจึงได้แต่มองค้อนชยันต์
ทั้งสองคนมาถึงรีสอร์ทในตอนบ่ายแก่ๆ โดยลูกกวาดแวะทานอาหารที่ร้านค้าก่อนที่จะกลับเข้าที่พัก ส่วนชยันต์ก็เข้าไปทำงานที่ห้องทำงานตามปกติ
ลูกกวาดถึงที่พัก หล่อนก็จัดการเก็บของใช้บางอย่างลงกระเป๋าเพื่อพรุ่งนี้หล่อนจะได้ไม่ต้องฉุกละหุก พรุ่งนี้แล้วซินะที่หล่อนต้องกลับกรุงเทพฯเพื่อไปพบกับความสับสนวุ่นวาย
หลังจากที่ลูกกวาดกลับจากการปั่นจักรยานเล่นรอบรีสอร์ทหล่อนก็แวะเข้าไปหาดอกแก้วที่เคานเตอร์
คุณดอกแก้ว ช่วยคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยนะคะ เพราะว่าพรุ่งนี้ฉันจะได้มาชำระค่าใช้จ่ายได้เลยลูกกวาดบอกดอกแก้ว
อ๋อ ได้คะ เกือบลืมว่าคุณลูกกวาดจะกลับในวันพรุ่งนี้แล้ว มาอยู่กับเราตั้งหลายวันนะคะ ถ้าคุณลูกกวาดกลับไปแล้ว ดิฉันคงจะคิดถึงแย่เลย
คิดถึงฉันแน่เหรอคะ ดิฉันมาสร้างความวุ่นวายให้มากกว่าลูกกวาดบอก
ไม่หรอกคะ แล้วแผลคุณลูกกวาดหายหรือยังคะ
อ๋อ ค่อยยังชั่วแล้วคะ ขอบคุณนะคะที่คอยดูแลฉันมาตลอดลูกกวาดพูดพร้อมกับยิ้มให้ดอกแก้ว
ไม่เป็นไรคะ เออ แล้วคุณลูกกวาดจะออกจากที่นี้ประมาณกี่โมงคะ ดอกแก้วจะได้นัดเวลาให้คนมารับคุณลูกกวาดดอกแก้วถาม
อ๋อ ประมาณสักเก้าโมงเช้าแล้วกันนะคะ เออ ดิฉันขอถามอะไรนิดนึงนะคะ คือดิฉันสงสัยนะคะ เมื่อกี้ดิฉันไปปั่นจักรยานมา เห็นมีบ้านพักหลังหนึ่งอยู่เกือบท้ายๆรีสอร์ทนะคะ แต่ดิฉันไม่เห็นมีใครไปพักเลย ไม่เปิดให้เช่าหรือคะ
ใช่คะ เราไม่เปิดให้ใครเช่าคะดอกแก้วบอก
อ้าวทำไมละคะ เสียดายแย่เลย บ้านก็ยังดูดีและก็สวยด้วยนะคะ เงียบสงบดีด้วยคะ เสียดายจังเลย
ดอกแก้วก็ไม่ทราบเหมือนกันคะ ตอนที่ดอกแก้วมาทำงานที่นี้ ก็ไม่มีรายชื่อบ้านพักหลังนั้นอยู่แล้วดอกแก้วตอบ
เหรอคะ เออ งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะลูกกวาดบอกพร้อมกับเดินกลับไปยังบ้านพักของหล่อน
พรุ่งนี้แล้วที่หล่อนจะต้องไปจากที่นี้ หล่อนรู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะว่าตั้งแต่กลับจากชมทุ่งดอกบัวตองแล้วหล่อนก็ไม่พบหน้าชยันต์เลยแม้แต่น้อย หล่อนอยากที่จะไปลาฟ้าสางเพราะว่าหล่อนก็ไม่ได้เจอฟ้าสางอีกเช่นกันตั้งแต่ฟ้าสางออกจากโรงพยาบาลหล่อนก็ไม่ได้พบฟ้าสางอีกเลย
เช้านี้ลูกกวาดตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ หล่อนออกมาชมพระอาทิตย์ขึ้นอีกวันซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หล่อนจะกลับกรุงเทพฯ วันนี้พระอาทิตย์ก็สวยเหมือนทุกวัน แต่หล่อนรู้สึกว่าใจหล่อนมันเศร้าๆบอกไม่ถูก
เมื่อวานหล่อนตั้งใจปั่นจักรยานเที่ยวรอบรีสอร์ทเพราะหล่อนคิดว่าหล่อนอาจจะได้เจอฟ้าสางบ้างแต่หล่อนก็ไม่ได้เจอฟ้าสางเลย
หล่อนขนสัมภาระของหล่อนออกมาที่เคานเตอร์เพื่อเตรียมคืนห้องและชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ
สวัสดีคะ คุณลูกกวาดมาตรงเวลาเลยนะคะดอกแก้วทักทายเมื่อเห็นลูกกวาดเดินมาถึงที่ๆดอกแก้วยืนอยู่
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่คะลูกกวาดถามดอกแก้ว
ทั้งหมด 40,000 บาทคะ ตามรายละเอียดในใบเสร็จนะคะดอกแก้วบอกพร้อมกับส่งใบเสร็จให้ลูกกวาดตรวจ
ลูกกวาดตรวจรายการต่างๆ
ถูกต้องคะลูกกวาดบอกพร้อมกับหยิบกระเป๋าถือขึ้นมาเพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์
ลูกกวาดควานหากระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าถือของหล่อน แต่ก็ไม่พบหล่อนจึงหยิบของออกจากกระเป๋าถือทั้งหมดแต่ก็ไม่พบ
มีอะไรหรือเปล่าคะดอกแก้วถามหลังจากที่เห็นว่าลูกกวาดทำหน้าตาเหมือนกำลังมีปัญหาอะไรบางอย่าง
ฉันหากระเป๋าเงินไม่เจอนะคะ แต่รอสักครู่นะคะ ฉันจะลองไปรื้อกระเป๋าใส่เสื้อผ้าดู อาจจะอยู่ในนั้น รอสักครู่นะคะลูกกวาดบอกพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟาและเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าค้นหากระเป๋าเงินของหล่อน หล่อนค้นหาจนทั่วแต่ก็ไม่พบ หล่อนเริ่มใจคอไม่ดี
ลูกกวาดเดินไปหาดอกแก้วอีกครั้งหนึ่ง
ดิฉันหากระเป๋าเงินไม่เจอคะ ดิฉันขอกลับเข้าไปหาในห้องอีกครั้งแล้วกันนะคะลูกกวาดบอกอย่างมีความหวัง ทั้งๆที่หล่อนก็ไม่แน่ใจว่าหล่อนจะพบหรือไม่
หล่อนรีบเปิดประตูเข้าไปค้นหากระเป๋าเงินของหล่อนตามที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นในห้องน้ำ บนโต๊ะ ข้างเตียง ซอกห้อง บนเตียงนอน หล่อนก็หาไม่เจอ หล่อนแทบจะรื้อห้องอยู่แล้วแต่หล่อนก็หาไม่พบ หล่อนจึงตัดสินใจเดินออกมาหาดอกแก้วอีกครั้งหนึ่ง
คุณดอกแก้วคะ ดิฉันหากระเป๋าเงินของดิฉันไม่เจอจริงๆคะ ดิฉันไม่ทราบว่ากระเป๋าเงินของฉันหายไปไหนคะ
อ้าวกระเป๋าสตางค์ของคุณลูกกวาดหายไปเหรอคะดอกแก้วถามด้วยความตกใจ
ใช่คะ กระเป๋าเงินฉันหายไป ฉันหาจนทั่วแล้วก็ไม่พบเลยคะลูกกวาดตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ
เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ใบนั้น
ใบไหนคะลูกกวาดถามดอกแก้ว
คือว่าเมื่อหลายวันก่อนนะคะ พนักงานของรีสอร์ทเขาเจอกระเป๋าสตางค์แล้วเอามาให้ดอกแก้ว แต่ดอกแก้วก็ให้คุณชยันต์ไปคะดอกแก้วบอก
กระเป๋าสีอะไรคะลูกกวาดถามอย่างมีความหวัง
ดอกแก้วจำไม่ได้หรอกคะ เพราะว่าดอกแก้วรับมาจากพนักงานก็ส่งให้คุณชยันต์ไปเลย ดอกแก้วก็เลยจำไม่ได้จริงๆคะ
อ้าวเหรอ งั้นช่วยถามชยันต์ให้หน่อยได้ไหม ว่าเขาให้กระเป๋าสตางค์ใครไปหรือยังดอกแก้วถาม
คุณชยันต์ยังไม่มาเลยคะ
แล้วจะให้ฉันทำไงคะ ตอนนี้ฉันไม่มีเงินเลยนะลูกกวาดถาม
เอาอย่างนี้แล้วกัน ดิฉันจะโทรศัพท์ไปถามคุณชยันต์ให้แล้วกันคะดอกแก้วเสนอ
ขอบคุณคะลูกกวาดกล่าวขอบคุณดอกแก้ว
ชยันต์เข้าไปในห้องนอนฟ้าสางก่อนที่เขาจะออกไปทำงาน และเขาก็พบว่าฟ้าสางยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงนอนลายหมีพูห์ ซึ่งก็เป็นผ้าปูที่นอนที่เขาเป็นคนซื้อให้เช่นกัน ทุกอย่างในห้องเขาจะเป็นคนเลือกเอง แม้กระทั่งเสื้อผ้าเขาก็เป็นคนที่เลือกซื้อให้ฟ้าสาง แต่ตั้งแต่ฟ้าสางโตขึ้นมาพอที่จะรู้อะไรเป็นอะไร ฟ้าสางก็จะเป็นคนเลือกทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยที่เขาไม่มีส่วนร่วมอีกต่อไป
ขณะที่เขาลูบศีรษะฟ้าสางเบาๆ พลันสายตาเขาก็มองไปเห็นกระเป๋าสตางค์สีขาววางอยู่ที่หัวเตียงของฟ้าสาง เขาจึงหยิบขึ้นมาดูและมันก็ทำให้เขาจำได้ว่าวันที่ฟ้าสางป่วยดอกแก้วได้ส่งกระเป๋าสตางค์ที่พนักงานของเขาเก็บได้มาให้เขาและเขาก็ได้หยิบกระเป๋าสตางค์ใบนี้ขึ้นมาบนห้องฟ้าสางด้วยก่อนที่เขาจะพาฟ้าสางไปโรงพยาบาล
เขาเปิดกระเป๋าสตางค์ดูเพื่อจะได้รู้ว่าเจ้าของกระเป๋าใบนี้เป็นใครและเขาก็พบบัตรประชาชนซึ่งอยู่ด้านหน้ากระเป๋าพอดี เขาตกใจเพราะว่าภาพที่เห็นเป็นภาพของผู้หญิงที่หน้าตายังดูเป็นเด็กสาวใสๆ ผมยาวตรงสลวยซึ่งอายุคงจะราวๆยี่สิบเอ็ดปี เพราะเขาดูจากวันที่ทำในบัตรประชาชน ซึ่งแตกต่างจากสาวแสนเปรี้ยวในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
อนามิกา คุณานนท์ชยันต์อ่านชื่อในบัตรประชาชนช้าๆ
ตืด ตืด ตืด ................................
แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 48 13:52:09
จากคุณ :
ทรายสีรุ้ง
- [
20 ต.ค. 48 13:45:52
]