แสงจ้าจากไอแดดที่เร้นกายเข้ามาจากช่องว่างของม่านหน้าต่างภายนอกแยงสู่ลูกนัยน์ตาของหญิงสาวที่กำลังอยู่ในห้วงนิทรารมย์ ทำให้คุณหนูชื่นต้องตื่นขึ้นมานั่งกระพริบตาปริบๆ พร้อมกับคำถามที่ประดังขึ้นมาในหัวสมองตั้งแต่ยังไม่ได้สติดีด้วยซ้ำ
ที่นี่ที่ไหน...
แล้วเมื่อวานหลังจากที่สลบไป เหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วที่สำคัญ ดาหวันอยู่ที่ไหน...
หากแต่คำถามทั้งหลายทั้งมวลที่ปะทุขึ้นในสมองราวกับดอกเห็ดก็ไม่สามารถหาคำตอบจากใครได้อยู่ดี ในเมื่อหล่อนเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงสิ่งเดียวที่อยู่ในห้องนี้ หญิงสาวจึงทำได้แต่เพียงสังเกตสภาพภายในห้องนอนประหลาดตาที่เมื่อคืนหล่อนใช้เป็นที่พำนักอาศัยโดยไม่รู้ตัวชั่วคราว
ห้องนอนสีเข้มเน้นที่ดูเน้นโทนสีน้ำเงินเป็นหลัก ดูท่าเจ้าของห้องคงจะชอบสีน้ำเงินเป็นพิเศษ เพราะไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน ผ้าห่ม หรือตู้เสื้อผ้า และเครื่องประดับตกแต่งห้อง(ที่มีน้อยมากถึงมากที่สุด)ภายในห้องดูจะมีสีน้ำเงินซะเป็นส่วนใหญ่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ตัวห้องมืดเท่าใดนัก หรอก เมื่อมีส่วนผสมผสานของสีขาวปะปนอยู่บ้างประปราย เมื่อประกอบกันอย่างลงตัวแล้ว ดูจะทำให้ผู้ที่นั่งมองอยู่ตรงนี้รู้สึกผ่อนคลายลงไปบ้าง
เตียงนอนที่ตั้งอยู่ชิดติดผนังค่อนไปทางขวามือของห้อง ซึ่งติดกับตู้ลิ้นชักเล็กๆที่ตั้งอยู่ ขยับไกลออกไปอีกนิดเป็นตู้เสื้อผ้าตู้ใหญ่ ส่วนทางด้านซ้ายมือมีโต๊ะสีน้ำตาลขนาดใหญ่โดยมีคอมพิวเตอร์ตั้งไว้ทางขวามือ ด้านทางซ้ายข้างๆบนโต๊ะตัวเดียวกันเต็มไปด้วยกองเอกสารมหึมา คล้ายกับกองงานบนโต๊ะ แต่ถ้ามองเลยออกไปคงได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามกว่ากองงานบนโต๊ะตัวนั้นจากบานหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ตอนนี้ถูกปิดไว้ด้วยผ้าม่านสีขาวสะอาดตา แต่ทว่าเวลานี้ใช่เวลาจะมาวิจารณ์สภาพห้องของคนไม่รู้จักหรือนี่
หญิงสาวเอี้ยวตัวลงจากที่นอน แล้วยันตัวลุกขึ้นยืน แต่ก็ต้องล้มตัวลงบนเตียงอีกครั้งหนึ่งเมื่อรู้สึกปวดตรงกลางช่วงท้องอย่างหนัก มือทั้งสองข้างกุมบริเวณดังกล่าวพลางนิ่วหน้าคิดว่าอาการปวดนี้มาจากสาเหตุใด มานึกได้ว่าไอ้ที่เจ็บปวดนี่มาจากไอ้สารเลวเมื่อวานที่ตุ๊ยท้องเธอ แล้วพยายามจะลากไปข่มขืนพร้อมกับดาหวัน ราวกับภาพเหตุการณ์ที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาอีกรอบ
ร่มหทัยกัดฟันลุกขึ้นยืนอีกครั้งในสภาพที่น่าดูเป็นที่สุด โดยมือหนึ่งใช้ยันขอบเตียงเพื่อพยุงตัวเองขึ้น ส่วนอีกมือก็กุมช่วงท้องด้วยใบหน้าที่เหยเกแสดงความเจ็บปวด เมื่อยืนได้เป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วก็สาวเท้าเดินตรงไปที่ประตูด้านตรงข้ามของเตียงทันที
แต่ก่อนจะทันจับลูกบิดประตูเปิดออก ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ด้านนอกก็เปิดผลั๊วะเข้ามาเสียก่อน!
อ้าว คุณตื่นแล้วเหรอ
ใบหน้าและเสียงของผู้ชายแปลกหน้าแสดงความประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าเดินผ่านเธอเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับถาดอาหารที่ร่มหทัยต้องมองตามอย่างงงๆ
คุณจะยืนทำไมตรงนั้นล่ะ มาทานข้าวต้มสิ ผมยกมาให้แล้ว
คงเพราะคำชวนนั้นทำให้คุณหนูชื่นรู้ตัวว่าตัวเองหิวจัดขนาดไหน แล้วหญิงสาวผู้หิวโหยก็เดินตามมาอย่างที่เขาบอกแล้วรับถ้วยข้าวต้มฟาดเข้าปากหมดภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที
อ่ะ... นี่ยาหลังอาหาร ชายหนุ่มแปลกหน้าเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไม่พูดไม่จาไปนานระหว่างที่เธอกำลังทานอาหารอยู่
ยาอะไร คู่สนทนาถามเสียงห้วนแสดงความไม่ไว้วางใจคนตรงหน้าเต็มที่
ยาสลบมั้งคุณ ปวดท้องอยู่ไม่ใช่เหรอไง
แล้วเขาก็ถือวิสาสะมาจับข้อมือเธอให้แบมือออกรับเม็ดยาแล้วยื่นน้ำเปล่าตามมาให้
นายรู้ได้ไงว่าฉันปวดท้อง
ก็ช้ำออกปานนั้นไม่ใช่เหรอไง... เอาน่า อย่าเรื่องมากนักเลยนะคุณ เดี๋ยวผมต้องเข้าประชุมต่อนะ
นายรู้ได้ไงว่าชะ... เฮ้ย! นายเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันเรอะ เสียงบ่งบอกดีกรีความโกรธของหญิงสาวตรงหน้าเต็มที่
จะบ้าเหรอคุณ ผมไม่ใช่พวกชอบฉวยนะ เพื่อนคุณ คุณหวันนั่นแหละที่บอกผม
เมื่อได้ยินคำว่าคุณหวัน หญิงสาวก็หูผึ่งถามต่อทันที
แล้วตอนนี้หวันอยู่ไหน เกิดอะไรขึ้น แล้ว...
คำถามที่ยาวตามมาอีกเป็นกระบุงไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มเอ่ยตอบได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงเข้าทำงานสายเป็นแน่ ณัธรายกข้อมือดูนาฬิกาสุดเรียบหรูของตนเองก็พบว่าเข็มสั้นกำลังจะชี้ไปที่เลขแปดอยู่มะรอมมะร่อแล้ว นั่นหมายความว่าหากเขาไม่รีบไป มีหวังโดนคุณอาหญิงควบตำแหน่งประธานบริษัทด่าเช็ดเลยล่ะ(แม้ว่าจะเป็นลูกเป็นหลานก็เถอะนะ)
คุณกินยาเสร็จก็นอนพักไปแล้วกัน อยากรู้อะไรก็โทรถามเพื่อนคุณเถอะ ผมอนุญาตให้คุณใช้โทรศัพท์ก็ได้
แล้วเขาก็ทิ้งหญิงสาวให้อ้าปากค้างกับคำตัดบทที่ไม่มีคำตอบที่หล่อนอยากรู้ผสมเจือปนเลยแม้แต่คำตอบเดียว แต่ก่อนที่ชายหนุ่มนิรนามก้าวจากไป เขาก็หันมาพูดกับหญิงสาวเป็นประโยคสุดท้ายอีกครั้ง
ถ้าจะอาบน้ำล่ะก็... เสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวแขวนไว้ในห้องน้ำให้แล้วนะคุณ
แล้วก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงแต่สายตามึนงงของอีกฝ่ายที่ยังไม่สามารถขยับตัว(ด้วยสมองยังไม่สั่งการ)อยู่ภายในห้อง
อะไรวะเนี่ย... สั่งเอาๆ... แล้วก็ไป...
หลังจากเมื่อคืนที่ณัธราเข้ามาช่วยหล่อนกับร่มหทัยแล้ว วรรญาก็ขอให้เขาช่วยพาร่มหทัยไปส่งโรงพยาบาล เพื่อให้คุณหมอตรวจเช็คสภาพร่างกายเป็นที่แน่นอนก่อน เพราะเพื่อนสาวโดนหนักหน่วงกว่าหล่อนทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างมาก โชคยังดีที่คุณหมอตรวจพบว่าไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่ผิดปกติ นอกจากการที่เกิดอาการการตอบสนองจากแรงอัดกระแทก ทำให้เกิดรายการฟกช้ำดำเขียวหลายบริเวณไม่น้อยเลยทีเดียว แต่คุณหมอก็ให้ยาทาภายนอกและยาเม็ดรับประทานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คำขอสุดท้ายจากเพื่อนของณัธราคือ การขอให้ณัธราช่วยดูแลร่มหทัยในคืนนั้นไปก่อน วรรญาอ้างว่า ถ้าหากณัธราไปส่งเธอทั้งสองคนที่บ้านด้วยสภาพร่างกายของร่มหทัยที่บอบช้ำอย่างนั้น คุณชายคุณหญิงท่านต้องรู้เรื่องแน่ หรือบางทีอาจใหญ่โตด้วยความเข้าใจผิด แม้ว่าทางผู้ใหญ่จะเกี่ยวดองด้วยความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนสนิทก็ตามที แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็ยังไม่อยากให้คุณชายและคุณหญิงท่านรู้เรื่องดังกล่าว และที่สำคัญหล่อนไม่รู้ว่าร่มหทัยต้องการให้หล่อนเล่าเรื่องให้คุณชายและคุณหญิงทราบหรือเปล่าก็ไม่รู้ ครั้นจะหันหน้าไปพึ่งคนรู้จักในยามวิกาลที่ล่วงเลยเข้าวันใหม่ไปแล้วก็คงไม่สู้ดีเท่าใดนัก แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ วรรญามั่นใจว่า... เขาจะต้องช่วยเธอแน่นอน
หลังจากที่หล่อนจัดแจงเช็ดตัวให้เพื่อนสาวที่นอนหลับอุตุไม่รู้เรื่องรู้ราวถึงความวุ่นวายของอีกสองคนที่เหลือภายในห้องนอนของณัธราแล้ว หญิงสาวก็ให้ณัธราวนรถกลับไปส่งเธอที่บ้านตระกูลพิบูลย์กิจไพศาลอีกที ด้วยเหตุผลที่ว่า
หวันไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะคุณธรา เสื้อผ้าอาจจะยับยู่ยี่นิดหน่อย แต่ดึกๆดื่นๆอย่างงี้คงสังเกตเห็นยากหน่อยล่ะค่ะ ถ้าหวันไม่กลับมาใครจะเป็นคนไปบอกคุณท่านล่ะคะว่ายัยร่มหายไปอยู่ซะที่ไหนกัน
แต่คุณหวันมั่นใจแล้วเหรอครับ ว่าจะให้คุณร่มมานอนในห้องผมน่ะ ผมก็ผู้ชายทั้งแท่งนะคุณ
แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้เขาอึ้งไม่น้อยเลยล่ะ จริงๆนะ
หวันเชื่อใจคุณธราค่ะ
เมื่อกลับเข้ามาในห้องนอนตัวเองแล้ว ความแข็งแกร่งที่เพียรสร้างเป็นเกราะขึ้นกำบังความอ่อนแอหลังจากเกือบได้ประสบเคราะห์กรรมอันเลวร้ายเพื่อกันผู้อื่นจะมองเห็นแล้วแสดงความสงสารก็พังทลายลง จนหญิงสาวถึงกับประคองตัวเองไว้ไม่อยู่ แล้วทรุดกายลงร้องไห้หลังปิดบานประตูห้องนอนทันที
จากคุณ :
ศราภณ
- [
20 ต.ค. 48 15:29:36
]