CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ผู้หญิงใจง่าย

    “ใช่ ชั้นคงเป็นแค่ผู้หญิงใจง่ายคนหนึ่ง ”
           ทั้งๆที่เจอเขาเพียงแค่สองสามวัน หัวใจชั้นวาบหวิวอย่างไม่รู้ตัว ทั้งๆที่เขาไม่ใช่คนรูปหล่อ ท่าทางซื่อๆ ไม่ใช่หนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่สาวๆเห็นแล้วต้องกรี๊ด ผิวก็คล้ำ ตาก็ไม่โตมาก จมูกก็ไม่โด่ง ปากก็ไม่สวย แต่พอเอามารวมกันก็พอดูได้ แต่งตัวก็แสนเชย ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มในดวงใจของชั้น จะต้องหล่อ เปอร์เฟ็ค แต่งตัวเท่ห์ เครื่องประดับและพาหนะต้องหรูหราดูดี ประเภทขี่มอเตอร์ไซค์เก่าๆมาละก็ อย่าหวังว่าสาวสวยอย่างชั้นจะหันไปมอง ชั้นไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงมีความรู้สึกกับเขาได้ อาจจะเป็นสีหน้าและแววตาของเขาที่ดูมีความสุขตลอดเวลา หรือเป็นเพราะการสนทนากับเขาวันก่อนในห้องสมุดประชาชน ที่พักหลังชั้นชอบแอบมานั่งสงบใจอยู่คนเดียว
           “เออ ขอโทษครับ” เขาเข้ามาทัก ทำท่าขวยเขิน คงไม่เคยคุยกับสาวสวยอย่างชั้นมาก่อน นี่คงแกล้งเข้ามาจีบชั้นแน่ๆ
           “หือ” ชั้นตอบอย่างขอไปที ทำหน้าเชิดใส่
           “หนังสือที่คุณกำลังอ่าน ผมอ่านค้างอยู่ “ ได้ยินคำพูดของเขา ชั้นไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี “ตรวจภายใน สิ่งที่ผู้หญิงควรรู้” หนังสือนี่นะที่เขาอ่าน โรคจิตหรือเปล่า เขาคงเดาจากสีหน้าของชั้นออกว่าชั้นคิดยังไง เลยยิ้มอย่างอายๆ ก่อนบอกความจริง “พอดีผมจะเอาข้อมูลไปเขียนเรื่องสั้นนะครับ”
           อีม เขาเป็นนักเขียนหรือนี่ เหมือนชั้นเลย แต่อย่างชั้นนี่เรียกว่าเป็นนักเขียนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่เคยได้ตีพิมพ์ เขียนเพราะอยากเขียน เขียนเพราะต้องการปลดปล่อยวิญญาณของตัวเองผ่านทางจินตนาการ ชั้นชักอยากคุยกับเขาแล้วซิ
           “คุณเป็นนักเขียนหรือคะ”
           “ครับ ผมอนุเทพครับ ผมเพิ่งเขียนได้สองสามปี มีผลงานนิดหน่อยครับ ช่วงนี้กำลังฝึกหนัก“ เขาพูดไปยิ้มไป ดูจริงใจ
           “ดิชั้น ปัญญาพร คะ ดิชั้นก็กำลังหัดเขียนอยู่” ชั้นเผลอยิ้มอย่างเขินๆ
           “ดีครับ ดีกว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นๆ น้องสาวผมวันๆเอาแต่เที่ยว เดี๋ยวผมมานะครับ”
           อ้าวไปซะแล้ว เขาเดินไปอีกมุมหนึ่งของห้องสมุด สักพักก็กลับมาพร้อมหนังสือสองสามเล่ม
           “หนังสือวิธีการหัดเขียนผม ตอนผมหัดใหม่ๆก็ได้หนังสือพวกนี้แหละครับ” เขาพูดพร้อมยื่นหนังสือพร้อมรอยยิ้มมาให้ชั้น
           “ขอบคุณคะ” รอยยิ้มที่จริงใจของเขา ทำให้ความหยิ่งของชั้นหายไปโดยไม่รู้ตัว
           ชั้นหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาอ่าน อ่านไปก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดถึงความปวดร้าวที่ชั้นต้องเจอะเจอที่วี่วัน ชั้นไม่รู้ว่าต้องทนอีกนานแค่ไหน
           “คุณปัญญาพร คุณปัญญาพร ครับ”
           “ค่ะ” ชั้นตื่นจากภวังค์
           “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ผมเห็นคุณเปิดหน้านั้นอยู่หลายนาทีแล้ว ดูเหมือนน้ำตาคุณไหลซึมออกมานะครับ” เขาพูดพร้อมทั้งส่งผ้าเช็ดหน้าให้ชั้น
           “เปล่าคะ” ชั้นรู้สึกแปลกใจที่เขาเป็นคนช่างสังเกต สังเกตแม้แต่ความรู้สึกของคนอื่น
           “ถ้าคุณไม่มีสมาธิก็ค่อยอ่านก็ได้ครับ ฟังเพลงก่อนไหมครับ” เขาพูดพร้อมทั้งส่งเครื่องเล่นเอ็มพีสามอันเล็กมาให้ ทันทีที่ชั้นเสียบหูฟัง ชั้นต้องพยายามเก็บอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้
           “ผมไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะเสกประสาทงามให้เธอ ไม่มีฤทธิ์เดช ไม่มีราชรถเลิศเลอ แต่ผมมีใจพิเศษ จะพาเธอผ่านคืนนี้ไป “ นี่มันเพลงสุดโปรดของชั้นนี่ และมีเพลงที่ชั้นชอบอีกหลายๆเพลง ชั้นแอบมองดูเขา เขากำลังตั้งตาเขียนอะไรของเขาลงในกระดาษ ตลกที่บางทีเห็นเขายิ้มกับข้อความที่เขาเขียน บางทีก็เอามือกุมหัว จนผมยุ่งไปหมด ไม่สนใจความหล่อของตัวเองเลยหรือนี่ ทั้งๆที่นั่งต่อหน้าคนสวยอย่างชั้น หรือความสวยไม่มีความหมายสำหรับเขา งั้นก็เหมือนกับใจชั้นในตอนนี้ ความหล่อหรือเปลือกนอก ไม่มีความหมายกับชั้นอีกต่อไป
           เสียงโทรศัพท์มือของชั้น ชั้นกดเบอร์ทิ้ง เสียงริงโทนที่ตั้งเอาไว้เฉพาะเบอร์ ชั้นรู้แล้วว่าใครโทรมา
           “พร กลับก่อนนะคะ ขอบคุณมากคะ” ชั้นเอ่ยลา ยื่นหนังสือที่เขาหยิบมาให้คืนกลับไปให้เขา
           “ไม่เอาไปอ่านที่บ้านหรือครับ”
           ชั้นไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มแห้งๆ
           “ไม่เป็นไร ถ้าไม่มีบัตร ผมยืมให้ก็ได้ ผมอยากให้คุณเอาไปอ่าน คุณจะได้พัฒนาฝีมือในการเขียน” เขาหยิบหนังสือไปจัดการยืมให้ชั้น
           “ขอบคุณมาก อีกสองวัน พรจะเอามาคืน คุณมาที่นี่ทุกวันใช่ไหม”
           “ครับ แต่คืนกับบรรณารักษ์ก็ได้ครับ ไม่ต้องคืนกับผม” ใช่ ชั้นรู้ แต่ชั้นอยากเจอคุณอีก

           อีกตั้งสองวัน กว่าที่ชั้นจะฝันฝ่าอุปสรรคมาที่ห้องสมุดได้อีกครั้ง ชั้นเข้ามาในห้องสมุดด้วยความร้อนรน โล่งอก เขานั่งอยู่ที่เดิม ชั้นไม่รักษาฟอร์มสาวสวย เดินเข้าไปหาเขา ทักทายเขาก่อน เขายิ้มอย่างขวยเขิน คงคิดว่าชั้นคงไม่มาหาเขาแล้ว
    วันนั้นทั้งวัน เราแทบจะไม่ได้อ่านหนังสือหรือทำอะไร เพราะเราได้แต่คุยกัน เราคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องหนังสือ เรื่องเพลง เรื่องหนัง ดูเหมือนเราชอบอะไรที่เหมือนๆ ชั้นยังนึกขำ ตอนที่เห็นเขานั่งน้ำตาซึม เมื่อชั้นเล่าเรื่องถึงตอนเศร้าๆของหนังที่ชั้นชอบ บางครั้งชั้นก็เผลอร้องเพลงโปรดของชั้นให้เขาฟัง เขากลับร้องคลอตาม บอกว่าเป็นเพลงโปรดของเขาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเราคุยกันนานแค่ไหน แต่ชั้นรู้ว่าเป็นเวลาที่ชั้นมีความสุขมากที่สุด หลายปีมาแล้วที่ชั้นไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ ชั้นมองหน้าเขา นี่ ชั้น รักเขาเข้าแล้วนี่ ชั้นถามตัวเองว่าชั้นเป็นผู้หญิงใจง่ายใช่ไหม ไม่ ไม่ ชั้นปฏิเสธตัวเอง คงไม่ ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย ในเมื่อเขาเป็นผู้ชายที่ชั้นโหยหามาตลอดสามปีที่ผ่านมา ผู้ชายที่แสนจะฉลาดและโรแมนติก ผู้ชายที่เข้าใจหัวอกและความรู้สึกของคนอื่น ผู้ชายที่ทำให้ชั้นรู้สึกอบอุ่น ผู้ชายที่ชั้นคิดว่าถ้าได้ใช้ชีวิตคู่กับเขา เขาจะรักและไม่ทอดทิ้งชั้นอย่างแน่นอน นี่ ชั้นคิดเตลิดไปไกลถึงนั่นเชียวเหรอ ไม่ ไม่ มันคงเป็นไปไม่ได้
           “ติ๊ด ติ๊ด” เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ชั้นก้มลงไปดูเบอร์ที่โชว์อยู่ กดเบอร์นั้นทิ้งไป บอกเขาว่าต้องรีบกลับ
           “แล้วเจอกันนะครับ” เขาพูดลา แต่ชั้นไม่รู้ว่าจะได้เจอเขาอีกไหม
           “ค่ะ แล้วเจอกัน”
           “ได้คุยกับคุณ แล้วผมมีความสุขมาก”
           “เช่นกัน พรก็มีความสุขมากที่สุด” ชั้นไม่น่าตอบไปตรงๆเลย เขาอาจจะคิดว่าชั้นเป็นเพียงผู้หญิงใจง่ายคนหนึ่ง
           เราลาจากกัน ชั้นรีบขับรถออกจากห้องสมุด

           ทันทีที่มาถึงบ้าน ชั้นก็ได้รับการต้อนรับอย่างคุ้นเคย
           “หายหัวไปไหนทั้งวัน” เสียงของชายหนุ่มที่ชั้นเคยคิดว่าเป็นเทพบุตรในใจของชั้น คนที่เป็นชายหนุ่มสุดหล่อ แต่งตัวสุดเริ่ด พาหนะสุดหรู คอยพร่ำเพ้อด้วยคำหวาน จนชั้นใจอ่อน
           “ห้องสมุด”
           “มัวไปทำอะไรอยู่ทั้งวัน ทำไมไม่รีบมาเฝ้าร้าน” เขาพูดขณะที่กำลังรีบแต่งตัวในชุดสุดหล่อ หวีผมเรียบแปล้ ใส่โคโลญกลิ่นหอมฟุ้ง “น่าจะรู้นะ ว่าวันนี้วันนี้วันเสาร์ ผมต้องไปดูบอลกับเพื่อน เดี๋ยวโต๊ะเต็มหมดพอดี”
           “วันนี้คุณน่าจะพาชั้นไปกินข้าวที่ร้านโปรดของเรานะ”
           “ไว้วันหลัง เธอก็รู้ว่าวันนี้ชั้นไม่ว่าง” เขาตอบอย่างเฉยเมย
           “แต่..วันนี้”
           “นี่เธอ พูดไม่รู้เรื่องหรือยังไง บอกว่าวันหลังก็วันหลังซิ” เขาทำเสียงดุ “ แล้วไปทำไมห้องสมุด นัดเจอกับผู้ชายหรือเปล่า อย่าทำตัวเป็นผู้หญิงใจง่าย คบใครไม่เลือก” เขาพูดดูถูก แต่มันอาจจะจริงก็ได้ ใครจะรู้
           เขารีบขับรถออกไป ปล่อยให้ชั้นนั่งอยู่อย่างเดียวดาย หยิบรูปถ่ายวันแต่งงานที่ใส่กรอบอย่างดีขึ้นมาดู
           “ปัญญาพร - ชัยชนะ   14 มีนาคม 2545 “
           ชั้นดูรูป ทำได้แค่นั่งรำพึงรำพันกับตัวเอง
           “ชัยชนะ ชั้นไม่แปลกใจเลย ที่คุณจะจำวันครบแต่งงานของเราไม่ได้   ใช่ จริงอย่างที่คุณพูด ชั้นเป็นผู้หญิงใจง่าย   ใจง่ายที่รักและแต่งงานกับคุณ”
                     *********** ******** ***************

    จากคุณ : raksakul - [ 21 ต.ค. 48 02:18:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป