ตอนนี้สมองของผมมันตื้อชาไปหมด หลังจากที่ใช้งานอย่างหนักมานานหลายสัปดาห์ แล้วที่แย่กว่านั้น บางครั้งผมก็รู้สึกว่าผมเริ่มมีอาการทางประสาทควบคู่ไปด้วย วันดีคืนดีผมก็ได้ยินเสียงกระซิบของใครบางคนที่ไม่มีตัวตนอยู่บนโลก พูดง่ายๆ ประสาชาวบ้านคือ ผมได้ยินเสียงของผี มันเป็นเสียงของผู้หญิง เธอเฝ้าพูดอยู่เสมอว่าผมเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องตาย และเธอจะมาแก้แค้นผม
ใช่! ผมเป็นคนฆ่าเธอเอง แต่ทำไงได้ มันเป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำ ถ้าผมไม่ฆ่าเธอ ผมก็ไม่ได้เงินมายาไส้แห้งๆ ของผมน่ะสิ อาชีพของผมเป็นอาชีพที่ทำเงินไม่มากนัก เมื่อเทียบกับนายธนาคาร หรือแม้แต่พนักงานบริษัท แต่ผมก็พออยู่ได้ ตราบเท่าที่ความตายยังคงอยู่บนโลกใบนี้ ผมหากินกับความตาย
สิ่งที่ผมทำไปอาจจะฟังดูโหดร้าย และน่าตื่นเต้น แต่สำหรับผม มันเป็นเพียงความเคยชิน มันเป็นหน้าที่ที่ผมทำมาตลอด 13 ปี กับอาวุธคู่กายที่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจ
ผมใช้มันฆ่าคนไปนับร้อย ยิ่งเห็นรอยเลือดสีแดงฉานยิ่งกระตุ้นให้ผมทำการฆาตกรรมต่อไปเรื่อยๆ เหมือนฆาตกรต่อเนื่อง แต่อย่าหาว่าผมใจร้ายเลย มันเป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำ
เหยื่อรายล่าสุดที่ถูกอาวุธของผมสังหาร เป็นสาวใจแตกอายุยี่สิบต้นๆ เธอเป็นหญิงขายบริการอยู่ที่ใต้สะพานลอยใจกลางเมืองกรุง เธอเป็นคนหน้าตาดี อาจจะดีกว่านางเอกหนังบางคนด้วยซ้ำ แต่ด้วยเหตุผลเพียงประการเดียว ที่ทำให้ความงามของเธอนั้นดูไร้ค่ากว่าที่ควรจะเป็น เพราะคามงามของเธอซื้อขายได้ด้วยเงินเพียงไม่กี่พันบาทเท่านั้น เพื่อแลกกับความสุขเพียงชั่วข้ามคืน
เธอเป็นนางฟ้า หรือซาตานในยามราตรี ผมก็ไม่ทราบ และผมก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคิดถึงเธอในแง่นั้นด้วย มันไม่จำเป็น ด้วยหน้าที่ ผมจึงตัดสินใจจัดการกับเธออย่างเด็ดขาด เพราะว่าชีวิตของเธอถูกลิขิตแล้วว่ามันถึงฆาต เธอต้องตาย!
เพราะผมเป็นพระเจ้าของเธอ ผมเป็นคนสร้างเธอมา แล้วผมก็ทำลายเธอด้วยเช่นกัน
ผมใช้อาวุธที่มีอยู่ในมือ อาวุธราคาถูกที่มีค่าแค่ 5 บาทเท่านั้น มันเป็นปากกา
ผมเขียนบทให้เธอตายด้วยวิธีที่น่ารังเกียจที่สุด
แล้วในค่ำคืนนี้ ผมกำลังตัดสินชะตาชีวิตของใครอีกหลายคนด้วยวิธีเดียวกัน ทำการฆาต กรรมตัวละครที่ผมสร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ผมพยายามคิดวิธีฆ่าพวกเขาให้แปลกประหลาดพิสดารกว่าเดิม แต่ให้ตายเถอะ ตอนนี้ผมกลับเขียนอะไรไม่ออก แค่เริ่มต้นประโยคของเรื่อง ผมยังคิดไม่ได้เลย เพราะความกดดันที่ว่ามันเป็นเรื่องสุดท้าย (เรื่องลำดับที่ 13) มันต้องเป็นเรื่องดีที่สุด และน่าตื่นเต้นที่สุด
แต่ผมคิดพล็อตเรื่องไม่ออกจริงๆ
เพราะทุกครั้งที่ผมจับปากกา ผมก็ได้ยินเสียงของเธอตามมาหลอกหลอนทุกที แล้วที่สำคัญ วันพรุ่งนี้ผมต้องส่งต้นฉบับไปให้สำนักพิมพ์แล้ว แต่เรื่องนี้ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหน
แล้วผมจะทำยังไงดี
ผมมองดูแผ่นกระดาษสีขาวว่างเปล่าที่อยู่บนโต๊ะทำงาน ปล่อยให้ตัวหนังสือนับพันวิ่งอยู่ในหัว แต่ปากกายังไม่ขยับไปไหน
แล้วผมก็ได้ยินเสียงกระซิบของเธอ เสียงที่ตามหลอกหลอนผมตั้งแต่ตอนที่ปากกาของผมได้คร่าชีวิตของเธอไป เธอยังคงจองเวรจองกรรมกับผมไม่ยอมเลิก
เอาชีวิตของฉันคืนมา! เธอพูดประโยคนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ผมจำไม่ได้ แต่ก็บ่อยมากจนผมชักรำคาญ
คุณก็รู้ ผมทำไม่ได้ เรื่องมันจบไปแล้ว ผมคงแก้ไขอะไรไม่ได้อีก ผมตอบในฐานะที่เป็นพระเจ้าของเธอ ถ้าหากผมยอมเปลี่ยนบทตามความปรารถนาของตัวละครทุกตัว ผมก็ตายสิ
อย่ามาแก้ตัว ที่จริงแกทำได้ แต่แกไม่ทำ!
และผมก็ไม่อยากทำด้วย
ดี! เธอเริ่มขึ้นเสียงในเมื่อแกกำหนดชีวิตของฉันได้ วิชัย คราวนี้ฉันจะกำหนดชีวิตของแกบ้าง ดูสิว่าแกจะทำยังไง!
พอสิ้นเสียงของเธอ ผมก็รู้สึกว่าผมไม่สามารถบังคับร่างของตัวเองได้อีกต่อไป ขาของผมมันไม่เชื่อฟังคำสั่งผมอีกต่อไปแล้ว มันพาผมกลับไปยังห้องนอนที่อยู่ไม่ไกลนัก มือของผมก็ดื้อ มันหมุนกลอนประตูทั้งที่ผมไม่ได้สั่ง ประตูไม้ถูกเปิดออก เห็นเตียงนอนสีขาวอยู่ในห้องนั้น มันเป็นห้องนอน ผมพยายามสั่งให้ขาก้าวหลังถอยกลับ มันดันยิ่งเดินหน้า ตอนนี้ร่างกายมันไม่ใช่ของผมอีกต่อไป
ผมกลับไปยังห้องนอน ทิ้งร่างบนเตียงนอนใหญ่สีขาว นาฬิกาที่แขวนบนผนังบอกเวลาว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสอง เวลาที่เธอตายพอดี
ผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามหลังผมมา ผมหลับตา มันเป็นส่วนเดียวในร่างกายที่บังคับได้ ขณะที่ทั้งร่างของผมถูกอำนาจมืดของเธอสะกดเอาไว้ นอนนิ่งเป็นเหยื่อรอความตาย
ผมรู้สึกเย็บวาบ เมื่อปลายเท้าของผมสัมผัสอะไรบางอย่าง ผมไม่อยากรับรู้ว่ามันคืออะไร แต่มันทำให้ผมขนลุก เธอยืนอยู่ที่ปลายเตียงของผมในตอนนี้แน่ๆ ผมหลับตาแน่นกว่าเดิม จนกระทั่งมืออันแสนเย็นเฉียบของเธอคว้าหมับที่ปลายเท้า
เธอจะทำอะไรผม!
ผมสะดุ้ง เผลอลืมตาขึ้นมาจนได้
เธอยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ ในชุดเดียวกันกับที่เธอตาย เสื้อเกาะอกที่โชกด้วยเลือด ส่วนท่อนล่างเป็นกระโปรงสั้นเหนือเข่าผ่าข้าง แต่รอยหยดเลือดก็ไหลหยดตามขาเป็นแนวยาว กลิ่นสาบสางโชยมาตามลมที่มักจะมามีบทตอนผีปรากฏตัวเสมอ ตามมาด้วยเสียงหมาหอน แต่มันไม่น่ากลัวเท่าดวงตาของเธอที่แดงก่ำเหมือนกับเส้นเลือดฝอยในดวงตาแตก มันแดงฉานจนน่ากลัว เธอใช้ตาปิศาจนั่นมองผมอย่างอาฆาตแค้น เธอกำลังแก้แค้น!
วิมล จะทำอะไร!
หญิงสาวที่ผมตั้งชื่อว่าวิมลมองผมเหมือนเหยื่อบนเตียงนอนนับร้อยของเธอแล้วก็ยิ้ม ผมพยายามขยับตัว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย ผมถูกมนต์ ผีอำ เข้าซะแล้ว
แกเขียนให้ฉันถูกพวกชายใจทรามนับสิบรุมโทรม แทนที่แกจะเขียนบทให้มีพระเอกมาช่วยชีวิตฉัน ทำให้ฉันกลับตัวกลับใจเป็นคนดี แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สดใส แต่แกไม่ทำ เพราะแกอยากให้ฉันตาย เหมือนกับใครอีกหลายๆ คนที่ถูกแกฆ่าอย่างเลือดเย็น!
แล้วเธอก็หัวเราะเหมือนคนบ้า ใช่! อาจจะเป็นผลกระทบหลังจากที่เธอถูกผมทำร้ายจิตใจ ผมไม่เคยเมตตากับใคร โดยเฉพาะตัวละครที่ผมสร้างมากับมือ ไม่ตายก็พิการ เพราะ...
เรื่องที่แกเขียนเป็นเรื่องผี แกต้องการให้ฉันหลอกหลอนพวกชายใจโฉดพวกนั้น เพื่อความสนุกสนานของแกและคนอ่าน แล้วพวกมันก็ถูกฉันแก้แค้น ตายโหงกันหมดตามบทที่แกเขียน พ่อนักเขียนคนดี แกระบายความปรารถนาอันมืดดำของตัวเองลงบนแผ่นกระดาษมามากพอแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้ใครตกเป็นเหยื่อของแกอีกต่อไป
แล้วเธอก็โน้มตัวคร่อมบนร่างของผม หัวใจผมเต้นถี่รัว ผีที่ชื่อวิมลมันจะทำอะไรกับผม ผมมองดูมือที่เต็มไปด้วยคราบเลือดอย่างหวาดผวา กลัวว่าเธอจะเอามือมาบีบคอผม แต่เธอกลับเอามือมาลูบบนแผ่นอกอันแบนราบของผมแทน หัวใจจะวายซะให้ได้
ฉันจะทำความปรารถนาของคุณให้เป็นจริง ที่รัก ฉันรู้ว่าทำไมคุณถึงต้องเขียนบทให้ฉันตาย มันไม่ใช่แค่เอาสนุกอย่างเดียวหรอก
เธอพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แล้วก็โน้มตัวลงต่ำลงไปอีก เสื้อเกาะอกสีแดงเปื้อนเลือดของเธอไม่ได้ช่วยปกปิดส่วนสงวนของเธอเลย ผมรีบเบนสายตาหนี ปะทะใบหน้าของเธอ ความงามของปิศาจปรากฎอยู่บนใบหน้านั้น
ดวงตาของเธอเป็นสีแดงเลือด เช่นเดียวกันกับริมฝีปากเฉียบบาง เธอค่อยๆ ยื่นหน้าใกล้ๆ หน้าของผม มันใกล้มากขึ้นทุกที ผมขนลุกซู่ ปลายผมสีดำขลับปล่อยลู่บนแผ่นอกที่เธอเอามือลูบมันไปมา
ความปรารถนาสุดท้ายใกล้จะเป็นจริงแล้ว มือของเธอเลื่อนสูงจากแผ่นอกไปยังใบหน้าอย่างแผ่วเบา ผมพยายามขยับตัวหนี แต่ก็ทำไม่ได้เหมือนคนเป็นอัมพาต
มันเป็นความต้องการส่วนลึกของผู้ชายอย่างคุณ คือการได้ครอบครองร่างกายของหญิงสาวที่หมายปอง คุณระบายความปรารถนานี้ผ่านตัวละครของคุณ ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นความปรา รถนาของคุณเองที่อยากจะทำแบบนั้นกับผู้หญิงสักคน แล้วฉันจะทำให้มันเป็นจริง...ก่อนที่คุณจะตาย
ริมฝีปากของหญิงสาวแนบจรดปากของเหยื่อรายสุดท้าย พร้อมกับดูดวิญญาณออกจากร่างนั้น หัวใจที่เต้นถี่รัวค่อยๆ ผ่อนจังหวะแผ่วลง...แผ่วลง...จนนิ่งสงบเช่นเดียวกันกับลมหายใจสุดท้าย
นาฬิกาบอกเวลาตีสอง
แผ่นกระดาษสีขาวมีรอยจารึกอักษร เรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์แล้ว
-----------------------------------------------------------
จากคุณ :
รัตน์ดา
- [
21 ต.ค. 48 10:18:14
]