แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ทว่าเสียงคลื่นยังคงสาดซัดกระทบฝั่งอย่างไม่รู้เบื่อ แพรวายืนกอดอกมองที่เริ่มปรากฏดาวระยิบระยับประปรายอย่างเหม่อลอย พระจันทร์ดวงโตลอยเด่นกลางฟากฟ้าสาดส่องให้เห็นทะเลแต่เพียงรางๆ
ดึกแล้วเข้าไปนอนเถอะ แพร พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า คุณอยากกลับบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ เสียงห้าวลึกที่ดังขึ้นเบาๆทางด้านหลังทำให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์
ฉันยังไม่ง่วงเลย
ไม่ง่วงก็ต้องนอน มายืนตากลมแบบนี้เดี๋ยวก็ไข้กลับกันพอดี คราวนี้เสียงนุ่มนวลเปลี่ยนเป็นเอ็ดเบาๆ แต่คนหัวดื้อยังคงยืนเฉยอยู่เช่นเดิมราวกับว่าคำพูดเขาเป็นเพียงลมพัดผ่านมาแล้วผ่านไปเพียงเท่านั้น
ธนพัทธ์ยืนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนสาวเท้าเข้าไปอุ้มตัวหญิงสาวอย่างไม่ให้ทันได้รู้ตัว
เอ๊ะ! ทำอะไรน่ะ
จะพาไปนอน คำตอบสั้นๆหากทำให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดอ้าปากค้างอย่างตกใจ แต่ก่อนที่จะตวาดเสียงออกไป คนตัวโตก็ดักคอไว้เสียก่อน
แน่ะ! คิดอะไรอยู่ ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรๆคุณอย่างที่คุณคิดหรอกนะ
คิดอะไร! ฉันไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น คุณน่ะบ้า! พูดเองเออเอง!
โอเค! ไม่คิดก็ไม่คิด เสียงหัวเราะต่ำๆของธนพัทธ์ทำให้แพรวาถึงกับอารมณ์เสีย ค้อนใส่เขาวงใหญ่ พร้อมกับทำปากยื่นปากยาวอย่างไม่พอใจ
คุณนี่ทำตัวเด็กๆก็เป็นนะ คราวนี้เสียงหัวเราะดูจะดังขึ้นจนคนที่ถูกอุ้มใช้กำปั้นเล็กประทุษร้ายเขาอย่างโมโห แม้มันจะเบาแสนเบา แต่คนตัวโตกลับร้องโอดโอยอย่างกับจะล้มลงตรงนั้นเสียให้ได้
โอ๊ย! คู้ณ ตีผมทำไมเนี่ย มันเจ็บรู้มั้ย
ก็คุณอยากหัวเราะฉันทำไมล่ะ ธนพัทธ์ถอนหายใจเสียงดังก่อนวางร่างบางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม
เฮ้อ...เรื่องแค่นี้ก็ต้องโกรธกันด้วย ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อยๆ ขอโทษแล้วกัน ผมไม่หัวเราะคุณแล้ว แต่...ทำอย่างอื่นแทนได้มั้ย เขากางแขนคร่อมตัวแพรวาไว้ พลางโน้มหน้าลงมาใกล้ๆ จนคนที่เหมือนถูกกอดกลายๆเริ่มใจเต้นระรัว นัยน์ตาพราวระยับฉายชัดจนเธอพูดอะไรไม่ออก กว่าจะหาเสียงบตัวเองเจอ จมูกของคนตัวโตก็ใกล้เข้ามาจนแตะกับจมูกเธอเสียแล้ว หญิงสาวรีบเบี่ยงหน้าหนี
จะ...จะบ้าเหรอ ฉันง่วงแล้วคุณไปนอนเสียเถอะ!
ตอนนี้ผมยังไม่ง่วงนี่ คราวนี้คนที่ไม่ง่วงกลับกลายเป็นคนตัวโตเสียนี่! แพรวาพยายามทำตาปรืออย่างคนง่วงนอนอย่างจริงๆจัง หาวแล้วหาวอีกหลายรอบ
ฉันง่วงแล้วจริงๆนะ
โฮเค...แต่ถ้าอยากให้ผมไปนอนก็ต้อง... เขาจงใจเว้นระยะไว้ช่วงหนึ่งพลางสบตาหญิงสาวด้วยประกายตาแวววาว
อะไรล่ะ แพรวาพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นอย่างยากเย็น ละโดยไม่ทันได้รู้ตัว ชายหนุ่มก็ประทับรอยจูบบนแก้มนวลอย่างแผ่วเบา
ฝันดีนะครับ ธนพัทธ์คลี่ยิ้มกว้างก่อนลงจากเตียงไปนอนบนพื้นทั้งที่รอยยิ้มยังแตะแต้มบนใบหน้า ทิ้งให้แพรวาได้แต่อึ้งอยู่นาน ก่อนจะส่งสายตาขุ่นๆไปให้คนที่ทำท่านอนหลับฝันดี
คนฉวยโอกาส! ตะโกนว่าเบาๆพร้อมบ่นพึมพำอย่างไม่จริงจังนักไปสักสองสามคำก็ล้มตัวนอนหันหลังให้เขาอย่างเคืองๆ แต่เพียงไม่นานรอยยิ้มบางๆกลับระบายบนใบหน้าจนเจ้าตัวเองยังนึกแปลกใจ
...ชาตินี้เธอคงไม่มีวันหนีผู้ชายคนนี้พ้นเป็นแน่!...
นฤบดีและลดาค่อยๆพยุงคุณวิภาดาออกมารับลมที่ศาลาข้างบ้าน ร่างค่อนข้างเจ้าเนื้อดูจะซูบผอมลงเมื่อผู้เป็นลูกหายไปหลายวัน ดวงตาที่ดูสดใสกลับดูอิดโรย
ไม่รู้ว่ายัยแพรมันหายตัวไปไหน ทำไมไม่ติดต่อมาหาแม่บ้างเลยก็ไม่รู้
คงไปเที่ยวเพลินน่ะครับ แม่อย่าห่วงเลย ไอ้แพรมันรู้จักเอาตัวรอด ดีไม่ดีพรุ่งนี้มันอาจจะกลับบ้านก็ได้ ชายหนุ่มพยายามปลอบใจคุณวิภาดาทั้งที่ตัวเองก็ห่วงไม่แพ้กัน
แม่ก็หวังไว้อย่างนั้นเหมือนกัน คุณวิภาดาถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม พยายามปัดความคิดเรื่องร้ายออกให้หมดแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
แล้วนี่ต้นกับลดาจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ล่ะจ๊ะ เห็นบอกว่าคบกันมานานแล้วไม่ใช่เหรอ เจอคำถามนี้เข้านฤบดีถึงกับอึกอักๆ ขณะที่ฝ่ายหญิงก็เอาแต่ก้มหน้างุด แก้มนวลปรากฏรอยระเรื่อ
เอ่อ...ยัง...ยังไม่ทราบเลยครับ
แม่ว่าทั้งสองคนเหมาะกันดีนะ รีบๆแต่งเถอะจะได้มีลูกทันใช้ ชายหนุ่มได้แต่ส่งยิ้มจืดๆไปให้ พลางชำเลืองมองคนที่ก้มหน้างุด ...ใช่ว่าเขาไม่อยากจะแต่งงานหรอกนะ แต่คนตัวเล็กข้างๆเขาจะว่ายังไงถ้าเขาขอแต่งงานขึ้นมา ดีไม่ดีเขาอาจจะโดนด่าเป็นชุดเลยก็ได้.... บรรยากาศภายในศาลาเริ่มเงียบสงัดจนเขาต้องคิดหาเรื่องคุย แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกจนตัวเองก็จนใจ
เสียงกริ่งหน้าประตูทำให้นฤบดีถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาหันไปมองทางประตูที่เด็กรับใช้ที่ชื่อแจ่มรีบวิ่งไปเปิดประตู รถ 4WD คันดำเงาปลาบแล่นเข้ามาภายในบริเวณบ้านก่อนจอดนิ่งสนิท
เอ๊ะ รถใคร คุณวิภาดาชะเง้อมองอย่างสงสัยแกมประหลาดใจ เมื่อรถที่ไม่คุ้นตาแล่นเข้ามา
คนที่ก้าวลงจากรถทำให้คุณวิภาดาแย้มยิ้มออกมาอย่างยินดี ร่างบางโผเข้ามากอดผู้เป็นแม่อย่างดีใจเช่นเดียวกัน
แพร
แม่คะ ขอโทษนะคะที่หายไปหลายวัน
ไปไหนมาลูก แม่เป็นห่วงรู้มั้ย น้ำเสียงตำหนิด้วยความเป็นห่วงทำให้ผู้เป็นลูกสำนึกผิด
ขอโทษจริงๆนะคะแม่ หญิงสาวหันไปมองคนที่หิ้วกระเป๋าเดินทางเดินตามหลังมาห่างๆ
สวัสดีครับ ผมธนพัทธ์ครับ คือผมมาส่งแพรน่ะครับ
อ้อ...เชิญนั่งก่อนสิจ๊ะ คุณวิภาดาผายมือไปยังเก้าอี้เล็กๆที่เหลืออยู่อีกตัวหนึ่ง
ขอบคุณครับ แต่ผมต้องรีบกลับไปเคลียร์งานก่อน เอาไว้วันหลังผมจะมาใหม่นะครับ ลาล่ะครับ ธนพัทธ์ไหว้ลาคุณวิภาดา ก่อนหันมากระซิบถามหญิงสาวร่างเล็กกลมกลึงที่นั่งมองเขาตาแป๋ว
ลดา...มาทำอะไรที่นี่น่ะ
เอ่อ...คือ คุณแม่คะ ลดาขอตัวกลับกับพี่พัทธ์นะคะ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระด่วนน่ะค่ะ ไปก่อนนะคุณต้น ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อเย็นค่ะ ลดาไม่ตอบคำถามธนพัทธ์แต่กลับไหว้ลาคุณวิภาดา จากนั้นจึงลากตัวคนที่ยืนมองอย่างสงสัยไปขึ้นรถทันที
มีต่อค่ะ
จากคุณ :
พราวตะวัน
- [
24 ต.ค. 48 11:41:59
]