CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    กลรัก...ร้อยเล่ห์ ตอนที่ 12(ขอโทษนะคะที่หายไปนาน)

    แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ทว่าเสียงคลื่นยังคงสาดซัดกระทบฝั่งอย่างไม่รู้เบื่อ แพรวายืนกอดอกมองที่เริ่มปรากฏดาวระยิบระยับประปรายอย่างเหม่อลอย พระจันทร์ดวงโตลอยเด่นกลางฟากฟ้าสาดส่องให้เห็นทะเลแต่เพียงรางๆ

    “ดึกแล้วเข้าไปนอนเถอะ แพร พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า คุณอยากกลับบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ” เสียงห้าวลึกที่ดังขึ้นเบาๆทางด้านหลังทำให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์

    “ฉันยังไม่ง่วงเลย”

    “ไม่ง่วงก็ต้องนอน มายืนตากลมแบบนี้เดี๋ยวก็ไข้กลับกันพอดี” คราวนี้เสียงนุ่มนวลเปลี่ยนเป็นเอ็ดเบาๆ แต่คนหัวดื้อยังคงยืนเฉยอยู่เช่นเดิมราวกับว่าคำพูดเขาเป็นเพียงลมพัดผ่านมาแล้วผ่านไปเพียงเท่านั้น

    ธนพัทธ์ยืนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนสาวเท้าเข้าไปอุ้มตัวหญิงสาวอย่างไม่ให้ทันได้รู้ตัว

    “เอ๊ะ! ทำอะไรน่ะ”

    “จะพาไปนอน” คำตอบสั้นๆหากทำให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดอ้าปากค้างอย่างตกใจ แต่ก่อนที่จะตวาดเสียงออกไป คนตัวโตก็ดักคอไว้เสียก่อน

    “แน่ะ! คิดอะไรอยู่ ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรๆคุณอย่างที่คุณคิดหรอกนะ”

    “คิดอะไร! ฉันไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น คุณน่ะบ้า! พูดเองเออเอง!”

    “โอเค! ไม่คิดก็ไม่คิด” เสียงหัวเราะต่ำๆของธนพัทธ์ทำให้แพรวาถึงกับอารมณ์เสีย ค้อนใส่เขาวงใหญ่ พร้อมกับทำปากยื่นปากยาวอย่างไม่พอใจ

    “คุณนี่ทำตัวเด็กๆก็เป็นนะ” คราวนี้เสียงหัวเราะดูจะดังขึ้นจนคนที่ถูกอุ้มใช้กำปั้นเล็กประทุษร้ายเขาอย่างโมโห แม้มันจะเบาแสนเบา แต่คนตัวโตกลับร้องโอดโอยอย่างกับจะล้มลงตรงนั้นเสียให้ได้

    “โอ๊ย! คู้ณ ตีผมทำไมเนี่ย มันเจ็บรู้มั้ย”

    “ก็คุณอยากหัวเราะฉันทำไมล่ะ” ธนพัทธ์ถอนหายใจเสียงดังก่อนวางร่างบางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม

    “เฮ้อ...เรื่องแค่นี้ก็ต้องโกรธกันด้วย” ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อยๆ “ขอโทษแล้วกัน ผมไม่หัวเราะคุณแล้ว แต่...ทำอย่างอื่นแทนได้มั้ย” เขากางแขนคร่อมตัวแพรวาไว้ พลางโน้มหน้าลงมาใกล้ๆ จนคนที่เหมือนถูกกอดกลายๆเริ่มใจเต้นระรัว นัยน์ตาพราวระยับฉายชัดจนเธอพูดอะไรไม่ออก กว่าจะหาเสียงบตัวเองเจอ จมูกของคนตัวโตก็ใกล้เข้ามาจนแตะกับจมูกเธอเสียแล้ว หญิงสาวรีบเบี่ยงหน้าหนี

    “จะ...จะบ้าเหรอ ฉันง่วงแล้วคุณไปนอนเสียเถอะ!”

    “ตอนนี้ผมยังไม่ง่วงนี่” คราวนี้คนที่ไม่ง่วงกลับกลายเป็นคนตัวโตเสียนี่! แพรวาพยายามทำตาปรืออย่างคนง่วงนอนอย่างจริงๆจัง หาวแล้วหาวอีกหลายรอบ

    “ฉันง่วงแล้วจริงๆนะ”

    “โฮเค...แต่ถ้าอยากให้ผมไปนอนก็ต้อง...” เขาจงใจเว้นระยะไว้ช่วงหนึ่งพลางสบตาหญิงสาวด้วยประกายตาแวววาว

    “อะไรล่ะ” แพรวาพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นอย่างยากเย็น ละโดยไม่ทันได้รู้ตัว ชายหนุ่มก็ประทับรอยจูบบนแก้มนวลอย่างแผ่วเบา

    “ฝันดีนะครับ” ธนพัทธ์คลี่ยิ้มกว้างก่อนลงจากเตียงไปนอนบนพื้นทั้งที่รอยยิ้มยังแตะแต้มบนใบหน้า ทิ้งให้แพรวาได้แต่อึ้งอยู่นาน ก่อนจะส่งสายตาขุ่นๆไปให้คนที่ทำท่านอนหลับฝันดี

    “คนฉวยโอกาส!” ตะโกนว่าเบาๆพร้อมบ่นพึมพำอย่างไม่จริงจังนักไปสักสองสามคำก็ล้มตัวนอนหันหลังให้เขาอย่างเคืองๆ แต่เพียงไม่นานรอยยิ้มบางๆกลับระบายบนใบหน้าจนเจ้าตัวเองยังนึกแปลกใจ

    ...ชาตินี้เธอคงไม่มีวันหนีผู้ชายคนนี้พ้นเป็นแน่!...


    นฤบดีและลดาค่อยๆพยุงคุณวิภาดาออกมารับลมที่ศาลาข้างบ้าน ร่างค่อนข้างเจ้าเนื้อดูจะซูบผอมลงเมื่อผู้เป็นลูกหายไปหลายวัน ดวงตาที่ดูสดใสกลับดูอิดโรย

    “ไม่รู้ว่ายัยแพรมันหายตัวไปไหน ทำไมไม่ติดต่อมาหาแม่บ้างเลยก็ไม่รู้”

    “คงไปเที่ยวเพลินน่ะครับ แม่อย่าห่วงเลย ไอ้แพรมันรู้จักเอาตัวรอด ดีไม่ดีพรุ่งนี้มันอาจจะกลับบ้านก็ได้” ชายหนุ่มพยายามปลอบใจคุณวิภาดาทั้งที่ตัวเองก็ห่วงไม่แพ้กัน

    “แม่ก็หวังไว้อย่างนั้นเหมือนกัน” คุณวิภาดาถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม พยายามปัดความคิดเรื่องร้ายออกให้หมดแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย

    “แล้วนี่ต้นกับลดาจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ล่ะจ๊ะ เห็นบอกว่าคบกันมานานแล้วไม่ใช่เหรอ” เจอคำถามนี้เข้านฤบดีถึงกับอึกอักๆ ขณะที่ฝ่ายหญิงก็เอาแต่ก้มหน้างุด แก้มนวลปรากฏรอยระเรื่อ

    “เอ่อ...ยัง...ยังไม่ทราบเลยครับ”

    “แม่ว่าทั้งสองคนเหมาะกันดีนะ รีบๆแต่งเถอะจะได้มีลูกทันใช้” ชายหนุ่มได้แต่ส่งยิ้มจืดๆไปให้ พลางชำเลืองมองคนที่ก้มหน้างุด ...ใช่ว่าเขาไม่อยากจะแต่งงานหรอกนะ แต่คนตัวเล็กข้างๆเขาจะว่ายังไงถ้าเขาขอแต่งงานขึ้นมา ดีไม่ดีเขาอาจจะโดนด่าเป็นชุดเลยก็ได้.... บรรยากาศภายในศาลาเริ่มเงียบสงัดจนเขาต้องคิดหาเรื่องคุย แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกจนตัวเองก็จนใจ

    เสียงกริ่งหน้าประตูทำให้นฤบดีถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาหันไปมองทางประตูที่เด็กรับใช้ที่ชื่อแจ่มรีบวิ่งไปเปิดประตู รถ 4WD คันดำเงาปลาบแล่นเข้ามาภายในบริเวณบ้านก่อนจอดนิ่งสนิท

    “เอ๊ะ รถใคร” คุณวิภาดาชะเง้อมองอย่างสงสัยแกมประหลาดใจ เมื่อรถที่ไม่คุ้นตาแล่นเข้ามา

    คนที่ก้าวลงจากรถทำให้คุณวิภาดาแย้มยิ้มออกมาอย่างยินดี ร่างบางโผเข้ามากอดผู้เป็นแม่อย่างดีใจเช่นเดียวกัน

    “แพร”

    “แม่คะ ขอโทษนะคะที่หายไปหลายวัน”

    “ไปไหนมาลูก แม่เป็นห่วงรู้มั้ย” น้ำเสียงตำหนิด้วยความเป็นห่วงทำให้ผู้เป็นลูกสำนึกผิด

    “ขอโทษจริงๆนะคะแม่” หญิงสาวหันไปมองคนที่หิ้วกระเป๋าเดินทางเดินตามหลังมาห่างๆ

    “สวัสดีครับ ผมธนพัทธ์ครับ คือผมมาส่งแพรน่ะครับ”

    “อ้อ...เชิญนั่งก่อนสิจ๊ะ” คุณวิภาดาผายมือไปยังเก้าอี้เล็กๆที่เหลืออยู่อีกตัวหนึ่ง

    “ขอบคุณครับ แต่ผมต้องรีบกลับไปเคลียร์งานก่อน เอาไว้วันหลังผมจะมาใหม่นะครับ ลาล่ะครับ” ธนพัทธ์ไหว้ลาคุณวิภาดา ก่อนหันมากระซิบถามหญิงสาวร่างเล็กกลมกลึงที่นั่งมองเขาตาแป๋ว

    “ลดา...มาทำอะไรที่นี่น่ะ”

    “เอ่อ...คือ คุณแม่คะ ลดาขอตัวกลับกับพี่พัทธ์นะคะ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระด่วนน่ะค่ะ ไปก่อนนะคุณต้น ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อเย็นค่ะ” ลดาไม่ตอบคำถามธนพัทธ์แต่กลับไหว้ลาคุณวิภาดา จากนั้นจึงลากตัวคนที่ยืนมองอย่างสงสัยไปขึ้นรถทันที

    มีต่อค่ะ

    จากคุณ : พราวตะวัน - [ 24 ต.ค. 48 11:41:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป