เสียงกังวานกู่ร้อง ก้องในโสตประสาทยามบ่าย ในความเงียบงัน ที่ไร้ซึ่งเสียงขานรับ
พื้นดินข้างบ้านวันนี้ แลดูว่างเปล่าจนน่าใจหาย ไร้ร่องรอย ชีวิตน้อย ๆ วิ่งเล่นไปมา
เสียงแม่แมวยังครวญครางร้องเรียก เมี๊ยว เมี๊ยว หง่าว หง่าว เป็นภาษา
แม้ฟังไม่ออกแต่รู้สึกและใจหวิวทุกครั้งยามความเปล่าเงียบขานตอบอย่างไร้ชีวิต
หากแม้ย้อนเวลากลับไปเมื่อสามวันก่อน ณ สวนดินริมด้านข้าง
สี่ชีวิตคลอเคลียอาทร สามลูกน้อยกับผู้เป็นแม่
ชีวิตที่เติมเต็มให้แก่กันและกันในขณะมนุษย์อย่างผมเป็นได้เพียงผู้เฝ้ามอง
ความซุกซนตามประสาวัยเยาว์ ที่หยอกเย้ากับความเดียงสาของพี่น้องร่วมสายเลือด ชีวิตน้อย ๆ กำลังเบิกบานเริงร่า
ท่ามกลางสายตาของผู้เป็นแม่ที่เฝ้ามองอยู่ไม่ห่าง แม้ท้องฟ้าจะอืมครืม เหมือนพายุร้ายจะย่างกรายมา
ในวันนี้ ปัจจุบันคงเหลือเพียงแค่ชีวิตหนึ่ง ที่กำลังพร่ำหาอีกสามชีวิตน้อยอยู่ไม่คลาย
ไม่มีใครรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น นอกเสียจากแววตาที่อมเศร้า และน้ำเสียงที่แบกทุกข์เหลือคณาของแมวผู้เป็นแม่
สองสายตาสอดประสาน จนแทบอยากถามความรู้สึก ว่าเกิดสิ่งอันใดขึ้นในระหว่างที่ว่างของอดีต
ไร้ซึ่งคำตอบ มีเพียงคราบน้ำในดวงตาแม่แมว กับเสียงครางรับเบา ๆ อย่างไม่รู้ภาษาซึ่งกัน และกัน
ระหว่างที่ตระกองกอดแมวไว้แนบตัก แว่วสำเนียงคุ้นหูดังลอยมาจากหลังบ้าน มิ้ว.. มิ๊ว..
คล้ายเสียงเรียกร้องของวัยเยาว์ ผู้เป็นแม่ผุดลุกกระโจนไปตามเสียงในทันที นึกอยู่ในใจขณะที่แม่แมวร้องเรียก
สำเนียงโหยหาคล้ายกู่ร้องบอกลูกจ๋ากลับมาเถิด เสียง มิ๊ว มิ๊ว ยังดังสลับค่อย เหลียวหาที่มาบนปลายยอด
แท้จริงแล้วเป็นเพียงเสียงลูกนกน้อยคอยแม่จากรัง ซักพักจึงเงียบหายกลืนกินไปกับความว่างเปล่ารอบ ๆ กาย
แมวผู้เป็นแม่ เดินกลับมาอย่างอ่อนล้า ไร้ซึ่งสิ่งที่ตนตามหา และกำลังจะไร้สิ้นความหวังอันริบหรี่
ความเศร้าเข้าปกคลุมชีวิตหนึ่งชีวิตจนแทบมองไม่ออก ท่าทางเหนื่อยล้านอนแบนราบกับพื้นดินเกรอะกรัง
ไม่ขานรับ ไม่เหลียวมองยามเรียกหาเฉกเช่นแต่เก่า เหมือนนอนรอความเศร้ากัดกินหัวใจในมลายหายไปตามกัน
ช่วงเวลาที่ขาดหายไปนั้น เกิดอะไรขึ้น สาเหตุอันพอจะเป็นไปได้ ถูกหยิบยกมาไตร่ตรอง
จะเลวร้ายถึงขั้นเสียชีวิตก็ไร้ร่องรอยซากศพ จะสูญเสียจากความพลัดพรากน่าจะเป็นไปได้มากกว่า
แล้วสิ่งใดเล่าที่จะมาพรากสัมพันธ์แม่และลูกน้อยให้แยกจากกัน ไม่มีสิ่งใดให้นึกเป็นอื่น นอกจาก
น้ำมือของมนุษย์ เท่านั้นเอง
อาจเป็นผู้ที่อยู่เคียงข้าง ให้ข้าวให้น้ำตามประสาความน่าเอ็นดูของเด็ก ๆ เอ่ยเรียก แก้ว แก้ว
มากินโดยเร็วไว และรับความไว้วางใจจากสัตว์ที่หวังจะพึ่งพิง แต่กลับตอบแทนด้วยความเศร้าและน้ำตาของผู้เป็นแม่
เฉกเช่นตน
เราผู้เฝ้ามอง เพียงทำได้แค่เอื้ออาทรต่อกัน ไม่ทำร้าย ไม่จำพราก เพราะมนุษย์ไม่มีสิทธิตรงนั้น
หากแต่อีกหลายคนมิได้คิดตริตรองเช่นเดียวกัน วันนี้จึงหลงเหลือเพียงความเศร้าอันเดียวดาย
และเสียงกู่ร้องเรียกลูกน้อยอย่างทำใจไม่ได้ และสงสัยในทีว่า เพศภัยสิ่งใดหน๊อจำพรากลูกน้อยจากอกแม่ไป
จากคุณ :
นาลาญา
- [
25 ต.ค. 48 17:04:44
]