CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    มาร ฟ้า เทพ หิมะ [นิยายจีน] ตอนที่ 7

    ตอนที่ 7

    ค่ำคืนหนึ่ง ภายในห้องนอนของหลินฟง

    ทันทีที่หลินฟงนอนพลิกตัวไปอีกด้านก็เหลือบไปเห็นนางมารน้อยทำหน้าเย้ายวนก็พลันสะดุ้งตกใจดีดตัวออกจากผ้าห่มฉับไวเหมือนเด็กน้อยผู้ไม่ประสา แต่ก็ไม่วายจะอดจะพิจารณาดูรูปร่างอันมีเสนห์ชวนหลงของนางมารมิได้

    “เจ้ามาทำอะไรที่นี้” หลินฟงกล่าวตะกุกตะกัก

    “อย่าเขินอายไป ข้าน้อยแค่อยากมาหามาปรณิบัตรท่าน” นางมารตอบจีบปากจีบคอ

    “ไม่ต้องมาพูดดี ข้าน่ะรู้แล้วว่าเจ้าคือมารหิมะมารร้ายภัยของยุทธภพ”

    “คำก็มารสองคำก็มาร เจ้าช่างทำร้ายจิตใจข้าเหลือเกิน” นางมารน้อยกล่าวค้อน

    “เจ้ามีอะไรว่ามา” หลินฟงพยายามกล่าวเสียงเข้มกลบเกลื่อน

    “ข้าไม่แหย่เจ้าแล้ว จริงๆ ที่ข้ามาที่นี้ก็เพียงเพื่อจะมาขอบคุณและบอกลาเจ้าเท่านั้น” นางมารน้อยกล่าวพร้อมรอยยิ้มอันทรงเสนห์

    “ถ้าเพียงแค่นี้ เจ้าก็ไปได้แล้ว” หลินฟง กล่าวด้วยน้ำเสียงเขินอาย แม้นจะรู้ว่าเธอเป็นมารร้ายแต่เสนห์ของนางช่างยากจะต่อต้านได้

    “แต่ก่อนไปข้ามีอะไรจะถามเจ้าสักเล็กน้อย” นางมารกล่าวก่อนจะพิจารณาดูใบหน้า อีกทั้งรูปร่างของหนุ่มน้อย สายตาเธอยามนี้ยิ่งทำเอาหลินฟงรู้สึกเขินอายอย่างเห็นได้ชัด

    “เจ้าไม่มีวรยุทธ์แน่หรือ” นางมารกล่าวด้วยน้ำเสียงสงสัยว่าทำไมเด็กหนุ่มชาวบ้านธรรมดา กลับมีรูปร่างเหมือนผู้ฝึกยุทธ์มานาน อีกทั้งใบหน้ายังอิ่มเอิบแจ่มใสเสมือนยอดยุทธ์ไม่ธรรมดา

    อาจจะด้วยว่าหลังจากหลินฟงได้กลืนหยกน้ำเงินลงไป อันหยกนั้นนอกจากมีคุณสมบัติต่อต้านวิชามารและพิษร้ายทั้งยังมียอดคุณสมบัติที่ไม่มีผู้ใดคาดถึง นั้นคือการปรับดุลสภาพร่างกาย

    “ข้าไม่มีวรยุทธ์ เจ้าเข้าใจถูกแล้ว” หลินฟงกล่าว

    “แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าก็น่ารักน่าชังยิ่งนัก” มารน้อยกล่าวก่อนจะลอยตัวดุจนางฟ้าเข้าไปใกล้หลินฟง ก่อนจะให้สองมือนางประสานสองมือเขา

    หลินฟงยามนั้นได้แต่อึ้งภายในหัวมีแต่ความว่าง อีกทั้งยากจะต่อต้านเสนห์นางมารตนนี้ได้  แต่ทว่าสิ่งที่นางมารทำหาได้เพราะหลงชอบหลินฟงอย่างที่กล่าวไม่ สิ่งที่นางทำนั้นคือการแอบถ่ายพลังของนางเพียงเล็กน้อยเพื่อเข้าไปซอกซอนสำรวจหาปราณภายในของตัวหลินฟง เพื่อดูว่าเขามีวรยุทธ์ มีพลังปราณหรือไม่

    แต่สิ่งที่เธอค้นพบก็เพียงว่า หลินฟงนั้นไร้ปราณฝีมืออย่างแท้จริง เพราะพลังปราณของเธอที่ส่งเข้าไปนั้นหาได้พบเจอพลังปราณอื่นต่อต้านไม่

    “คงเข้าใจผิดไป ชายผู้นี้หาได้มีปราณฝีมือแม้นเพียงน้อยไม่” มารมารลอบกล่าวในใจ

    แต่ฉับพลันก่อนที่นางจะถอนมือออกพริบตานั้นเองพลังปราณก็เธอก็แล่นไปพบกับช่องว่างบรรจุปราณของเขาเสียก่อน

    ปกติแล้วอันยอดฝีมือนั้นยิ่งฝึกยุทธ์นานก็ยิ่งจะมีพลังปราณสูงขึ้นเป็นลำดับและสัมพันธ์กับช่องว่างบรรจุปราณที่จะขยายตัวตามพลังปราณไปด้วย

    แต่หลินฟงกลับเป็นขอยกเว้น ภายในตัวเขากลับมีช่องว่างบรรจุปราณเสมือนผู้ฝึกยุทธ์ต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี ด้วยว่าแท้จริงแล้วเคล็ดสมาธิที่เขาฝึกฝนตั้งแต่เด็กจากหลวงจีนปริศนา แท้จริงแล้วเป็นสุดยอดเคล็ดวิชาในสายนี้เลยทีเดียว

    น่าเสียดายที่ หวงเย่ว์ กับ อู๋จิง เลิกฝึกไปตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว แต่หลินฟงก็ยังคงฝึกเรื่อยมา

    “เหลือเชื่อยิ่งแล้ว ชายผู้นี้มีช่องว่างลมปราณเหนือล่ำยิ่งกว่าข้าเสียอีก แต่กลับประหลาดที่มันดันไม่มีพลังปราณแม้นสักน้อย” นางมารลอบกล่าวในใจด้วยความตะลึงงัน

    “แม่นาง….” หลินฟงกล่าวด้วยว่ารู้สึกเขินๆ ที่นางมารจับมือเขาไว้แน่นทีเดียว

    “ถ้าเป็นช่องว่างลมปราณขนาดใหญ่เช่นนี้ไม่แน่ว่าอาจจะขับพิษไอเย็นที่เรื้อรังในกายข้าออกได้หมดสิ้น” นางมารลอบกล่าวในใจก่อนจะเหลือบไปมองแววตาของหลินฟงครู่หนึ่ง

    แววตาของหลินฟงนั้นช่างเป็นแววตาที่ใสซื่อยิ่งนัก และเมื่อเธอได้มองจ้องเข้าไปยิ่งรู้สึกผูกพันอย่างประหลาด อาจจะด้วยว่าครั้งหนึ่งนั้นเขาได้เคยช่วยชีวิตเธอจากตัดกระบี่เอาไว้

    เธอมองหลินฟงด้วยแววตาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวแต่แผ่วเบาต่อหนุ่มน้อยว่า

    “ขอโทษนะ ข้ามีภาระยิ่งใหญ่ต่อกระทำ หวังว่าเจ้าคงอภัยให้ข้า” สิ้นเสียงมารน้อย เธอก็เคลื่อนใบหน้าของเธอเข้าใกล้หลินฟงจนกระทั้งปลายจมูกของทั้งสองสัมผัสกัน จากนั้นเธอจึงประกบปากเข้าจูบกับหลินฟงอย่างช้า ๆ

    แต่นั้นหาใช่เพียงจูบหนึ่งไม่ เธอได้ใช้พลังปราณภายในของเธอผลักดันถ่ายโอนพิษไอเย็นภายในร่างของเธอให้เคลื่อนย้ายเข้าไปในร่างของหลินฟงผ่านทางรสจูบนั้น

    นี้อาจจะเป็นการตายที่หอมหวานอย่างยิ่ง ร่างกายของเด็กหนุ่มค่อย ๆ ชาไปเรื่อย ๆ ร่างของเขาค่อยๆ  เปลี่ยนเป็นสีขาวซีดกระทั้งเสมือนมีไอเย็น เกร็ดน้ำแข็งมาจับเกาะร่างของเขาไปทั่ว และที่สุดเมื่อพิษไอเย็นของมารร้ายก็ถ่ายเข้าช่องว่างลมปราณของหลินฟงได้หมด ร่างของหนุ่มน้อยก็เสมือนกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งไปเสียแล้ว

    แม้นพิษไอเย็นจะถูกถอนจากร่างของนางมารจนหมดสิ้นแล้ว แต่เธอหาได้รู้สึกปิติยินดีไม่เธอมองดูร่างของหนุ่มน้อยอย่างนิ่งเงียบก่อนที่น้ำตาหนึ่งหยดจากหลั่งริน และพริบตาที่น้ำตาผ่านแก้มของเธอมันก็แข็งกลายเป็นหยดน้ำแข็งไปสิ้น

    “ขอโทษนะ” สิ้นเสียงกล่าวเธอก็จากไปกับความมืด

    แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 48 05:37:01

    จากคุณ : Bluejade - [ 26 ต.ค. 48 05:24:45 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป