CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เรื่องประหลาด

    นายชัยและนายยุทธใช้เวลาว่างช่วงเย็นโดยการดูหนังจีนกำลังภายใน ทุกคืนในเวลา 1 ทุ่ม ทั้งสองก็จะมานั่งดูหนังด้วยกันตรงโซฟาสีน้ำตาลที่อยู่ติดหน้าจอทีวีมากที่สุด ซึ่งมันก็อยู่ในห้องนอนรกๆ ของชายโสดทั้งสองเอง

    นายยุทธคลั่งไคล้ในหนังจีนเรื่องนี้มาก ถ้าไม่ได้ดูแม้แต่เพียงช่วงเสี้ยวตอนเดียว เขาก็แทบจะออกอาการ “ลงแดง” ใกล้ตาย เพราะเรื่องนี้สนองตัณหาชาวหนังบู๊สุดๆ ถ้าวันไหนไม่มีฉากรบ วันนั้นหนังก็จะดูจืดชืดไปทันที และดูเหมือนว่าผู้ทำหนังเองก็รู้จุดขาย ถึงได้ทำให้ตลอดทั้งเรื่องมีแต่ฉาก รบๆๆ ต่อเนื่องยาวนานราวกับเรื่อง “สามก๊ก” และศึกที่ว่านี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมยุติลงง่ายๆ ถ้ามันยังไม่ถึง “ตอนอวสาน”

    และคืนนี้มันก็เป็นตอนจบด้วยสิ

    ฝ่ายธรรมะกับฝ่ายมารต่างก็แลกเพลงดาบกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะพระเอกของเรื่อง จอมยุทธชุดขาวผมยาวหน้ามน ที่ฟาดฟันกระบี่ไปยังสมุนปลายแถวอย่างไม่หยุดหย่อน และฝีมือของเขาก็ถึงขั้นที่เรียกได้ว่า “ไร้เทียมทาน”

    แค่ปลายดาบของจอมยุทธชุดขาวสะกิดเนื้อผ้าของฝ่ายศัตรูเพียงนิดเดียว คลื่นรังสีอำมะหิตจากปลายดาบก็พิฆาตฆ่าศัตรูให้ล้มตายทีเดียวเป็นสิบเป็นร้อย นอนตายกันเป็นเบือ
    และดูเหมือนว่าฝ่ายมารเองก็เมามันในการรบไม่แพ้กัน พวกสมุนปลายแถวต่างก็ยกพวกชักดาบออกมาจากฝัก หมายปลิดชีพจอมยุทธชุดขาวอยู่เป็นระรอกๆ

    “แกเคยสงสัยบ้างมั๊ย ว่าทำไมพวกจอมยุทธในหนังจีนถึงชอบชักดาบ” ชัยรุกถามยุทธในระหว่างที่จอมยุทธชุดขาวฟันกระบี่ลู่ลมเป็นว่าเล่น

    “ชักดาบก็เพื่อฆ่าคนน่ะสิ ถามทำไมวะ คนกำลังมันๆ อยู่”

    ยุทธตอบเพื่อนอย่างหงุดหงิด ในขณะที่กินมันฝรั่งทอดกรอบรสโนริสาหร่ายเพื่อเพิ่มอรรถรสในการชม สายตาของเขายังคงจดจ่ออยู่แต่ในหน้าจอทีวี ดูเหมือนว่ามันใกล้จะถึงบทสรุปไปทุกทีแล้ว เมื่อพวกสมุนปลายแถวนอนตายเกลื่อนสำนัก
    จอมยุทธชุดขาวหน้ามนชี้กระบี่ไปยังหน้าจอทีวี หันหน้าไปทางผู้ชมแล้วเอ่ยสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่นทรงอำนาจดุจราชสีห์ว่า

    “ใครอยากตายก็เข้ามา!”

    หยดเลือดสีแดงข้นหยดยงยังปลายกระบี่ ก่อนที่จะไหลลงพื้นเสียงดังติ๋งๆ ช่างกล้องซูมภาพที่ปลายกระบี่นั้นใกล้ๆ อีก ให้เหมือนกับผู้ชมกำลังนั่งจ้องมองดูปลายกระบี่ของจอมยุทธผู้นั้น จนมองเห็นทุกอณูของเลือดแต่ละหยดที่ไหลลงเป็นทาง
    มันเหมือนผีดิบที่กำลังดื่มด่ำหยดเลือดอย่างสุดกระหาย
    แต่ชัยเห็นแล้วกลับรู้สึกเสียดายแทน

    “ข้าว่า เลือดนั่นนำไปบริจาคให้สภากาชาดเพื่อช่วยชาวใต้ยังจะดีกว่า” ชัยออกความคิดเห็นด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเบื่อหน่ายเต็มที

    แต่ยุทธผู้ซึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังจีนกำลังภายในกลับยังคงจดจ้องอย่างไม่ละสายตา ราวกับกำลังจะตอบคำถามของคุณปัญญาเพื่อพิชิตตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้แห่งปีว่า

    จอมยุทธชุดขาวหน้ามนผู้นี้ฆ่าคนไปแล้วกี่คน…

    และในระหว่างที่จอมยุทธของทั้งสองฝ่ายกำลังประลองเพลงดาบ ฟาดฟันกระบี่กันอย่างเมามันจนหูแทบชานั้นเอง

    หูของยุทธก็ได้ยินเสียงของตกดัง แกร๊ง!

    เพียงเสียงเดียวสยบทุกสรรพเสียงในชั่วพริบตา

    เสียงฟาดฟันวุ่นวายของปลายดาบเงียบลงอย่างกะทันหัน ราวกับว่าจอมยุทธชุดขาวพาศัตรูส่งไปช้าไปหมดรอบทัวร์แล้ว

    ยุทธมองไปหาต้นเหตุของเสียงนั้น เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของความเงียบงัน แล้วก็ค้นพบคำตอบว่า

    ชัยเพื่อนสนิทของเขาเป็นคนปิดทีวีชิงตัดบทกระบี่ไปซะเอง

    มือซ้ายของชัยถือรีโมตอยู่ ส่วนมือขวาถือชามสีฟ้า มีกลิ่นมาม่าหอมโชยออกมาจากชาม กลิ่นนั้นหอมหวนรัญจวนใจไปถึงกระเพาะอันกลวงเปล่า

    “อยากฟังเรื่องของข้าบ้างมั๊ย” ชัยพูดอย่างหน้าตาเฉยในขณะที่มือซ้ายยื่นรีโมตคืนเพื่อน (ที่ทำหน้าบึ้งเหมือนเส้นมาม่าบูดเพราะความเคือง)

    โดยไม่รอคำตอบ ชัยก็นั่งลงตรงที่ว่างของโซฟาข้างๆ ยุทธ ในมือยังคงถือชามใส่มาม่า แต่สายตาของเขากลับจ้องจรดไปยังหน้าจอสีดำสนิท ราวกับคิดจินตนาการถึงความเคลื่อนไหวของตัวละครในหน้าจอนั้น เหมือนภาพแอนนิเมชั่นที่ต่อเนื่องกันเป็นฉากๆ
    ชัยใช้ส้อมม้วนเส้นมาม่าใส่ปาก ทำเหมือนกำลังกินเส้นสปาเก็ตตี้ ส่วนน้ำที่ใส่เครื่องปรุงนั้นกลับปล่อยให้เจิ่งนองในชาม เพราะเขาไม่ชอบกินน้ำที่ใส่เครื่องปรุง มันทำให้ท้องเขาอืด

    และเมื่อยุทธเพื่อนสนิทตัดสินใจที่จะไม่ดูทีวีต่อ ชัยก็เล่า “เรื่องประหลาด” ให้ยุทธฟัง แน่นอน มันเป็นเรื่องที่ใส่จินตนาการล้วนๆ (และไม่ใส่ผงชูรส)

    *************************************

    กาลครั้งโน้นที่นานมาก(จนเกือบลืม)

    ณ โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่รายล้อมไปด้วยหอนางโลมอันเลื่องชื่อ ในค่ำคืนกลางเดือนสี่ก็มีสาวงามหน้าอ่อนใส ใส่ชุดฟ้าบางเบาย่างก้าวเข้ามา สายตาอันคมกริบของสาวงามนางนั้นจ้องมองไปยังที่ว่างกลางร้าน ตรงโต๊ะไม้ทรงกลมขัดมันแกะสลักลายวิจิตรสีทองซึ่งสงวนสำหรับแขกชั้นเลิศของร้านเท่านั้น แต่แม่สาวงามก็ไม่ได้ใส่ใจ เห็นโต๊ะว่างก็รีบสาวเท้าเข้าไปนั่งทันที โดยไม่สนใจในสายตาแทะโลมของบรรดาเศรษฐีผู้มากตัณหาที่อยู่รายล้อมเลย

    ทุกคนที่เห็นสาวงามชุดฟ้าต่างก็ตกตะลึงในความงาม จนลืมสาวที่นั่งอยู่ข้างกายไปทันที
    บอกได้คำเดียวว่า “งามเหมือนเทพธิดาบนสรวงสวรรค์จริงๆ”

    ใบหน้าของสาวงามนางนั้นไม่มีเครื่องสำอาง หรือแม้แต่เครื่องประทินผิวใดๆ เลย มีเพียงแต่ความงามที่ธรรมชาติสรรสร้างมาล้วนๆ เส้นขนคิ้วโค้งบางเฉียบออกแบบมาราวกับเจาะจงแต่งรับดวงตาอันกลมโตเป็นประกายดั่งตากวาง ริมฝีปากสีชมพูบางของแม่นางสอดรับอยู่ใต้จมูกอันเรียวเล็ก รวมอยู่ในโครงสร้างใบหน้าทรงวงรียาวเรียว สีผิวของแม่นางงดงามราวไข่มุก โดดเด่นรับกับผมสีน้ำตาลเข้มยาวสยายสะท้อนแสงเปล่งประกายราวแสงดาวในยามราตรี ความงามทั้งหมดของสาวงามที่อยู่ในโลกนี้รวมอยู่ในแม่นางชุดฟ้า เป็นบุญตาแก่สายตาชาวประชาชายแท้ๆ

    แต่อย่าลืมว่าในความงามของสตรีนี้มีพิษ เหมือนกุหลาบที่มีหนามแหลมคม ถ้าตัดคมหนามนั้น ความงามของดอกไม้คงไม่สมบูรณ์

    พิษร้ายของสาวชุดฟ้าก็แรงไม่แพ้กัน

    หลายคนที่เห็นอาวุธที่เหน็บข้างกายของสาวงามต่างก็พากันหดหัว หลบสายตาของแม่นางอย่างสุดฤทธิ์ อาวุธข้างกายแม่นางนั้นคือหนามอันแสนคมกริบ ฝักเก็บดาบนั้นสลักลายหงส์เหินอย่างแสนวิจิตร ถ้าใครเห็นสัญลักษณ์นี้แล้วก็รู้ ได้ทันทีว่าแม่นางผู้นี้เป็นใคร
    แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่าอาวุธคู่ใจของแม่นางที่พกติดตัวไว้อยู่ตลอดเวลา เป็นที่รู้กันดีในแวดวงชาวยุทธว่า ดาบคู่ใจของแม่นางนั้นกระหายโลหิต ถ้าถูกชักออกจากฝักเมื่อใดเป็นต้องตัดหัวคนทุกครา

    แต่ครานี้แม่นางมิได้มาตัดหัวใคร ถึงแม้ว่าดาบนั้นจะโหยหาแต่โลหิตสักแค่ไหนก็ตาม
    เพราะกระเพาะของแม่นางหิวข้าว ถึงได้มาที่นี่

    “เสี่ยวเอ้อ! หมูแดงจาน ไม่ใส่แตงกวา” แม่นางประกาศเสียงดังฟังชัด ในขณะที่บรรดาอาเสี่ยกำลังเอร็ดอร่อยกับรสชาติของหูฉลามน้ำแดง และเนื้อนวลของสาวงามข้างกาย

    แต่ก็มีชายเศรษฐีต่างเมืองมาหลงรักเสน่ห์ของแม่นางชุดฟ้าเข้าจนได้ ชายผู้นี้มีนามว่า นายหวัง แซ่หลี ซึ่งหน้าตาก็หล่อพอออกงานได้

    “แม่นางคนสวย เชิญนั่งที่โต๊ะข้าเป็นเกียรติ์แก่ข้าสักหน่อยเถิด อาหารมื้อนี้ข้าขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงแม่นางเอง”

    นายหวังเชื้อเชิญอย่างไม่กลัวตาย ในขณะที่นายลุ้น แซ่เหลียวเพื่อนสนิทสะกิดแขนนายหวังเบาๆ

    “อะไรวะ”

    “เตรียมเผ่นเหอะ!” นายลุ้นพูดเสียงสั่นๆ

    “แล้วจะเผ่นทำไมวะ ที่นี่ไม่มีเสือสักหน่อย มีแต่แม่สาวสวย หมวย X”

    “ก็แม่สาวสวย หมวย X ของเอ็งนะ มันเสือโคร่งตัวเบ้อเริ่ม แม่เสือเชียวนะเอ็ง!”

    นายลุ้นกระซิบข้างๆหู ขณะที่เถ้าแก่เจ้าของโรงเตี๊ยมเป็นคนเสิร์ฟข้าวหมูแดงให้แม่นางชุดฟ้าด้วยตัวเอง แล้วก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว (ด้วยความเสียวต้นคอ)

    และเพราะความเร่งรีบของเถ้าแก่ จึงลืมสิ่งสำคัญไปประการนึง

    ในอาหารจานนั้นมีข้าว หมูแดง น้ำราด กับถ้วยใส่ซุปร้อนๆ

    แต่ขาด “อุปกรณ์ในการกิน”

    จะให้แม่นางใช้มือหยิบกินข้าวเหมือนนางนาค หรือจะให้ใช้ดาบตักกินล่ะ

    ครั้นแล้วสายตาของแม่นางก็สบเข้าลูกตาของนายหวังเข้าอย่างจัง แม่นางส่งยิ้มน้อยๆให้ (แต่นายลุ้นเพื่อนสนิทกลับขอตัวเข้าห้องน้ำอย่างกะทันหัน เพราะกลัวจนฉี่ราดแล้ว)
    เท้าน้อยๆ หุ้มด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวปักลายดอกเหมย ย่างก้าวเข้ามาใกล้ๆ โต๊ะของนายหวังในระยะที่น่าลุ้น

    “ตามองตา สายตาเราจ้องมองกัน รู้สึกเสียวซ่าน...หัวใจ”

    ดวงตากลมโตสดใสดั่งตากวางสบตานายหวังอย่างมีความนัยแอบแฝง นายหวังผู้ซึ่งไม่รู้ประวัติความเป็นมาของแม่นาง (เพราะอยู่หลังเขา) ก็ยิ้มโชว์ฟันหมดปากเพราะคิดว่าตัวเองหล่อเสียเต็มประดา

    แม่นางมองโต๊ะกลมขัดมันอันว่างเปล่าของนายหวัง สลับกับมองตาของหนุ่มเศรษฐีหลังดอยเหมือนค้นหาอะไรบางอย่าง

    นายหวังหวังลุ้นเต็มเปี่ยม แต่ไอ้ลุ้นเพื่อนของมันกลับร้องเพลงแช่งเพื่อนด้วยความเสียว

    “ไอ้หวังตายแน่ ตายแน่ไอ้หวัง ไอ้หวังตายแน่ ตายแน่…ไอ้หวัง!”

    นัยน์ตาแม่เสือโคร่งสบตานายหวัง(ลุ้น) ไม่มีท่าทีว่าแม่นางจะทำร้ายเขาแต่อย่างใด

    “ไม่มี...” แม่นางพูดด้วยน้ำเสียงอันผิดหวังเล็กน้อย แล้วก็เดินจากโต๊ะของนายหวังไป ทิ้งให้หนุ่มหน้าหล่อปานกลางรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง

    “นี่ข้ายังหล่อไม่พออีกหรือ แม่นางถึงได้ปฏิเสธข้า”

    รอดตายก็บุญโขแล้ว นายหวังเอ๋ย…

    ครั้นแล้วแม่นางชุดฟ้าก็เดินจากหนุ่มหลังเขา ไปยังโต๊ะวางหม้อต้มน้ำร้อนที่อยู่ไม่ไกลโต๊ะนายหวังมากนัก ซึ่งข้างๆหม้อต้มนั้นก็มีตะแกรงพลาสติกสีชมพูอ่อนวางเคียงอยู่ ข้างในนั้นมีสิ่งที่แม่นางต้องการ

    แม่นางเลือกหยิบ “สิ่งนั้น” จากตะแกรงพลาสติก

    แล้วศึกวันแดงเดือดก็เริ่มเปิดฉากขึ้น!

    เมื่อเจ้าสิ่งนั้นอยากลองดีกับแม่นาง มันสวมวิญญาณนักกระโดดร่มหลบหนีไปจากฝ่ามืออย่างท้าทายความตายเป็นอย่างยิ่ง

    “ไม่รู้จักฝีมือข้าซะแล้ว!”

    จากคุณ : รัตน์ดา - [ 26 ต.ค. 48 13:36:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป