เมื่อหัวใจพร้อมจะไปอย่างมั่นคง
โดย สายลมอิสระ
บรรยากาศยามเย็นหลังเลิกเรียน ภายในโรงอาหารของหอพักมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ทุกวันศุกร์ค่อนข้างจะเงียบเหงาอยู่ซักหน่อย อาจจะเป็นเพราะนักศึกษาบางส่วนกลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะช่วงที่มีวันหยุดยาวในสุดสัปดาห์เช่นนี้ แต่กระนั้นก็ยังมีนักศึกษาบางกลุ่มที่ยังนั่งร้องเพลงอย่างสนุกสนานอยู่ในโรงอาหาร เสียงดีดกีตาร์จังหวะเร็ว ๆ กับเสียงเคาะขวดเคาะชามดังประสมร่วมกันเคล้าไป
กับเสียงร้องที่ปนเสียงหัวเราะโห่ฮา ฟัง ๆ ดูเหมือนกับการพูดคุยเข้าจังหวะมากกว่าจะเป็นการร้องเพลง
แล้วสายตาของเด็กหนุ่มผมยาวก็จับอยู่ที่กลุ่มของเด็กสาวสามคนที่เดินผ่านมาบริเวณนั้น เขามองเด็กสาวคนหนึ่งที่เธอรวบผมยาวงามอย่างง่าย ๆ แต่ที่สะดุดใจเขามากที่สุดก็เห็นจะเป็นใบหน้าใส ๆ ที่ไร้การแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง เว้นไว้ก็แต่เพียงแก้มที่ถูกพรมด้วยแป้งบาง ๆ ดูแล้วมันช่างเข้ากับริมฝีปากที่ได้รูปซึ่งคลี่ยิ้มอยู่ตลอดเวลาที่เธอพูดคุยกับเพื่อนสาวอีกสองคน
ธันวา ชายหนุ่มผมยาวมองใบหน้าของเธอเพลินจนลืมเล่นกีตาร์ที่ตนเองนั่งกอดอยู่จนเพื่อน ๆ จับพิรุธได้จึงพากันมองตามสายตาของเขา แล้วทั้งหมดจึงเห็นว่าหญิงสาวในชุดชมพูอ่อนหวานคนนั้นนั่นเองที่ทำให้เพื่อนของเขาเอาแต่นั่งมองดูด้วยแววตาซ่อนเศร้า
ไปง้อสิ...มองอย่างเดียวจะได้อะไรขึ้นมา เสียงเพื่อนที่ชื่อต้นพูดขึ้นอย่างเข้าใจในสายตาของเพื่อนซี้ร่วมห้องพัก อีกฝ่ายฝืนยิ้มขืน ๆ แล้วหันกลับมาเกากีตาร์ด้วยท่วงทำนองเหงา ๆ
ไม่ลองเข้าไปทักดูหละน้องกลิ่นเขาไม่ใจร้านอะไรหรอก เพื่อนร่างอ้วนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เอื้อมมือมาตบเบา ๆ ที่ไหนของเขา
ธันวาได้แต่ยิ้มให้กับความมีน้ำใจของเพื่อน เขาเองก็ใช่ว่าไม่อยากเข้าไปหา เข้าไปทักทาย เพียงแต่เขากลัวความเจ็บปวดที่ครั้งหนึ่งเขาเคยสร้างให้กับเธอคนนั้น มันไม่ใช่เรื่องเล็กนักที่ผู้หญิงอย่าง กลิ่นฝัน จะรับได้ เขารู้ว่าเธอเสียน้ำตาและร้องไห้ให้กับความใจง่ายของเขามาหลายครั้งแล้ว จวบจนนาทีนี้ หัวใจเขาไม่สามารถมีเธอได้อีก ในเมื่อเธอเดินจากลาเขาไป...ในวันนั้น เขาเหมือนดั่งคนดวงตามืดบอดเห็นความหลงเป็นความรักอันหอมหวาน สุดท้าย ตัวเขาเองก็ถูกสลัดทิ้งอย่างง่าย ๆ จากผู้หญิงที่เขามองผิดไป
นายจะไปไหนหรือเปล่าวะ...อาทิตย์นี้มีวันหยุดยาวเลย ต้นเอ่ยถามเพื่อนผมยามดวงตาโศกเหงา
ไม่... ผู้ถูกถามตอบอย่างไม่ต้องคิดอะไร บ้านของเขาอยู่ใกล้เสียที่ไหน อยู่หอนะดีแล้ว อีกอย่างเขาต้องการทำรายงานส่วนที่เหลือส่งอาจารย์ตามกำหนดก่อนสิ้นเดือนด้วย
อย่างนี้นายก็อยู่หอคนเดียวนะโว้ย พวกเราจะไปบ้านลูกหนูกันหมด เจ้าของชื่อ ลูกหนู ยิ้มกว้าง แก้มเป็นพวงยุ้ยเต็มไปด้วยไขมันที่รูปร่างตรงข้ามกับชื่อ ทว่ามีเพียงความมีน้ำใจของเขาเท่านั้นที่เข้ากับรูปร่างอ้วนใหญ่นั้น
ขอบใจ...ขากลับซื้อขนมมาเพื่อด้วยหละกัน
เกือบสองทุ่มกว่า ๆ เพื่อนของธันวาเดินทางกลับกันหมด เขาเดินสยายผมไปตามถนนสายเล็ก ๆ เพื่อจะกลับหอพัก ทว่าสายตาของเขาก็สะดุดอยู่ที่ร่างของเด็กสาวที่คุ้นเคยเดินหอบหนังสืออยู่คนเดียวไม่ไกลนัก
หนังสือหนาหลายเล่มที่เด็กสาวตัวเล็ก ๆ หอบอยู่แถมยังมีถุงต่าง ๆ อีกมากมายดูพะรุงพะรังทำให้เด็กหนุ่มรีบสาวเท้าก้าวไปหาอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่กล้าเรียก แม้ว่าเขาจะเดินตามหลังในระยะใกล้ชิดเต็มทีแล้วก็ตาม
กลิ่นมากับใครหรือจ๊ะ เสียงเพื่อนสาวที่ปั่นจักรยานสวนมาเอ่ยถามพร้อมกับหยุดรถข้าง ๆ กลิ่นทำหน้างง ๆ แต่พอมองตามสายตาของเพื่อนก็รู้ว่ามีเด็กหนุ่มร่างสูงผมยาวยืนอยู่ข้างหลัง
อยู่หอคนเดียวอย่าเหงาตายนะจ๊ะกลิ่น เพื่อนสาวเย้าก่อนปั่นรถจักรยานจากไป
หวัดดีครับ...กลิ่น เด็กหนุ่มทักอย่างเขิน ๆ
ค่ะ...ธันวาไม่ได้ไปกับเพื่อน ๆ หรือ กลิ่นเห็นเดินกันไปเป็นกลุ่มใหญ่เชียว เธอถาม ยิ้ม ๆ จนเขารู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างประหลาด
ไม่ครับ...พวกเขาไปบ้านลูกหนู ผมมีรายงานต้องทำเลยอยู่เฝ้าหอ เขาตอบพร้อมกับมองดูหนังสือที่เธอหอบอีกครั้ง ผมช่วยถือนะ โดยไม่รอให้เธอตอบรับหรือปฏิเสธ เขายื่นมือไปดึงหนังสือที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอพร้อมกับถุงทั้งหมดมาถือไว้เอง
ขอบคุณค่ะ เธอกล่าวพลางก้มหน้าก่อนจะเดินคู่ไปกับเขา นั้นเองความรู้สึกเก่า ๆ ของคนทั้งสองก็พัดผ่านมากับสายลมในฤดูร้อน พร้อม ๆ กับความรู้สึกในใจที่อ่อนไหวตาม...
กลิ่นเอาหนังสือเยอะแยะมาทำอะไรหรือ เขาถามอย่างนึกทำลายความเงียบที่เขาและเธอกำลังเผชิญอยู่
เอามาทำรายงานค่ะ กลิ่นอยากทำให้เสร็จก่อนที่อาจารย์สั่งค่ะ เธอตอบพร้อมกับระบายยิ้มออกมาบาง ๆ เป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นที่เขาอยากจะเห็นมานานแล้ว
ผมก็ต้องทำรายงานเหมือนกัน สงสัยคงต้องไปใช่คอมฯ ที่ศูนย์คอมฯ แล้วหละครับ ไปที่ร้านก็เบื่อพวกเด็กเล่นเกม แต่วันหยุดยาวอย่างนี้ศูนย์คอมฯ คงปิดแน่ ๆ สงสัยคงต้องให้อาจารย์ทนอ่านรายมือหวด ๆ ของเราแทนแล้วหละ เขาหัวเราะเก้อ ๆ ในใจอยากให้ถนนสายนี้ยาวมากกว่านี้เพื่อไม่ให้ถึงหอเธอเร็วเกินไป
งั้นธันวาเอาโน้ตบุ๊กของกลิ่นไปใช้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวกลิ่นจะใช้ของเพื่อนในห้องแทน เธอกล่าวยิ้ม ๆ
ก็ดีสิครับ
งั้นพรุ่งนี้ธันวามาเอาที่หน้าหอกลิ่นนะ...ซักเก้าโมงเช้าแล้วกัน ธันวาตื่นทันหรือเปล่า
เด็กหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง ก่อนจะส่งหนังสือพร้อมถุงคืนให้กับอีกฝ่าย เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงหน้าหอที่กลิ่นพักอยู่
กลิ่นโบกมือลาพร้อมกับรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่สร้างความหวังให้กับเขาอย่างมาก และทำให้คืนนี้หัวใจของเด็กหนุ่มไม่เงียบเหงาอีกต่อไป...
ธันวาตื่นแต่รุ่งเช้า แม้ว่าทั้งคืนที่ผ่านมาเขาแทบไม่ได้หลับเลย นั้นก็เพราะว่าเขากลัวจะตื่นมาตามนัดของเธอไม่ทัน ถ้าเป็นปกติที่เขาไม่มีเรียน เขามักจะตื่นหลังเที่ยงเสมอ
เด็กหนุ่มเสยผมให้เรียบร้อย เสื้อคอวีแขนยาวสีน้ำตาลกับกางเกงยีนสีเข้มดูเข้ากันดีกับรองเท้าผ้าใบแบบนักกีฬาบาสฯ
นึกว่าจะตื่นสายเสียอีก กลิ่นถามเย้า ๆ พร้อมกับยิ้มทักเมื่อเห็นธันวามายืนรออยู่ที่หน้าหอพัก
เพื่อกลิ่นครับ เขายิ้มกว้าง ทว่าคนฟังกลับไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า
เหรอค่ะ เธอกล่าวอกมาเพียงเท่านั้นก่อนจะก้มหน้าลง
เด็กหนุ่มใจหายวูบรู้สึกเหมือนว่าตนเองพูดอะไรผิดไป
ผมซื้อขนมมาด้วย ของโปรดกลิ่นทั้งนั้นเลยนะครับ...วันนี้เรามาทำรายงานด้วยกันนะครับ
ค่ะ...ก็ได้ค่ะ
กลิ่นกับธันวาเดินไปนั่งใต้ร่มหูกวางใหญ่ หนังสือหลายเล่มถูกเปิดขึ้น พร้อมกับที่ธันวาเองก็เริ่มลงมือทำรายงานของตนเอง
ธันวาลอบมองใบหน้าที่ก้มอ่านหนังสืออยู่ตรงหน้า บนใบหน้านั้นทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองยังมีโทษอยู่ ความหวังที่จะให้กลับไปเป็นดั่งเดิมก็ดูจะเลือนราง คงไม่มีทางทำให้เรากลับไปเป็นเช่นเดิมได้ - - ธันวาคิด
เป็นอะไรหรือเปล่าธันวา กลิ่นเงยหน้าถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
ปะ...เปล่า...ไม่เป็นอะไรหรอก เขาตอบอย่างตะกุกตะกัก สายตายังจ้องอยู่ที่ใบหน้าใส ๆของอีกฝ่าย
เราเป็นเพื่อนกันนะธันวา มีอะไรก็บอกกลิ่นได้นะ
เพื่อน... ธันวาพึมพำ ระหว่างเราจะมีทางไหมที่จะกลับไปเป็นดั่งเดิม
กลิ่นว่า... เธอหยุดพูดพร้อมกับปรายยิ้มก่อนจะเสยผมของตัวเอง เราเป็นเพื่อนกันนะดีแล้วนะธันวา
กลิ่นไม่ได้โกรธเกลียดธันวาหรอกนะสำหรับเรื่องที่ผ่าน ๆ มานะ แต่กลิ่นคิดว่าเราทั้งคู่ต่างก็ยังเด็กอยู่เลย ถ้าจะมีใครเข้ามาในชีวิตก็ไม่น่าจะแปลกอะไร
กลิ่น... ธันวาเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา เขาเองไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่เท่าไร แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มหวานให้
กลิ่นก็ยังรู้สึกดี ๆ กับธันวาเหมือนเดิมนะ แต่คงไม่เหมือนก่อนแล้วเท่านั้นเอง
แล้วถ้า...ถ้าวันหนึ่งผมทำให้กลิ่นรักได้หละ เขาเอียงคอถามพร้อมกับยิ้มให้อย่างขืน ๆ อีกฝ่ายยิ้มอย่างเขิน ๆ ก่อนจะก้มมองหนังสือในมือ
ไว้ให้ถึงเวลานั้นก่อนเถอะ...
แล้วผมจะรอให้ถึงวันนั้นนะ
ธันวายิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่ต่างจากเมื่อครู่ อีกฝ่ายเองก็ยิ้มอย่างเขิน ๆ ...ถึงจะไม่ใช่การกลับมาเริ่มต้นเหมือนเก่า แต่การเริ่มต้นในครั้งนี้ เป็นการเริ่มต้นที่เข้าใจ และพร้อมจะก้าวไปด้วยหัวใจที่มั่นคง.....
EnD
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ได้ที่www.samewaymag.com/saylom.htm
จากคุณ :
สายลมอิสระ
- [
26 ต.ค. 48 19:58:28
]