ความคิดเห็นที่ 1
แรม 2 ค่ำ เดือน 11
เสียงราวกับนรกแตก น่านฟ้านึกด่าในใจลุกขึ้นนั่งสะบัดหัวไล่ความมึนงง เสียงจ้อกแจ้กดังยังกับนกกระจอก ชายหนุ่มเบิกตากว้าง
ใช่...มันควรเป็นนกกระจอกมากกว่านรกแตก เขาคิดอะไรนี่
เสียงนกออกหากิน ฟ้าเริ่มจะสาง เพื่อนยังนอนกันระเกะระกะ ได้กลิ่นอาหารลอยมาตามลม เพื่อนที่นอน ทางขวาลุกไปแล้ว ทางซ้ายยังนอนอยู่ น่านฟ้าเลิกผ้าดูไม่ใช่ไมตรี ชายหนุ่มทาบมือกับที่นอน เย็นเฉียบ ไมตรีไม่ได้กลับมานอน ถ้าลุกปกติ เจ้านี่จะเก็บที่นอนเรียบร้อย ยิ่งกว่าผู้หญิง
น่านฟ้าดีดตัวลุก เก็บที่นอนลวกๆ มันไปไหนของมันไม่กลับมานอน เขานึกอย่างเดือดๆ มันทำให้เขาโยงเรื่องไปยังฝันร้ายเมื่อคืน แล้วก็ไม่อยากให้มันเป็นจริงเลย ให้...ตายซิ ชายหนุ่มคว้ากระเป๋าเป้ใบเล็ก เตะปลุกเพื่อนอีกคนก่อนไปทำธุระส่วนตัวให้เสร็จแต่เช้า
ทางเดินยามนี้กับเมื่อคืนก็ไม่แตกต่างกัน ก็มันทางเดินเดียวกัน แต่บรรยากาศยามเช้าสดชื่นไร้มนต์ขลังของความฝัน ของแสงจันทร์ สายตาสะดุดกึกที่รองเท้าฟองน้ำสีเหลืองอ๋อย ที่หล่นอย่างไร้ระเบียบริมทาง ก่อนไล่ไปถึง รองเท้าอีกข้าง ชายหนุ่มสาวเท้าอ้อมพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว นึกด่าเพื่อนอยู่ในใจ
ไอ้เวรเอ๊ย ง่วงทำไมไม่รู้จักนอน รึมันแอบไปจีบสาวไหน ให้ไอ้หนุ่มฝากรักแล้วลากมาโยนเอาไว้ที่นี่ ระวังเถอะเอ็ง อาจารย์ได้สวดยับ
พออ้อมพุ่มไม้เขาก็เห็นชายร่างเล็กนอนคว่ำหน้าอยู่ จากเสื้อผ้ารูปร่าง มันก็เพื่อนเขา น่านฟ้ามองๆ ก็ไม่เห็นมีรอยบาทาใครฝากเอาไว้ สงสัยมันง่วงจนพล่อยหลับอยู่ตรงนี้ เขาเตะขาเพื่อนเบาๆ พร้อมเรียก
เฮ้ยไอ้ถึก ตื่นเว้ย เช้าแล้ว
อาการตอบสนองแข็งๆ ของท่อนขา น่านฟ้าใจหายวาบ ทิ้งเป้ เอื้อมมือไปแตะตัวเพื่อน เย็นเจี๊ยบ ทำใจในแง่ดีไว้ก่อนว่า มันนอนตากน้ำค้างอยู่ตรงนี้...มันก็ต้องตัวเย็นล่ะ
ไมตรี ไมตรี
เขาเรียก แตะที่ชีพจรที่ซอกคอ ตกใจจนตัวเย็น เมื่อจับอะไรไม่ได้ เคลื่อนนิ้วไปที่จมูก รู้สึกถึงลมที่ผ่าน...เบาแสนเบา
ไมตรี
เขาเขย่าเรียกเพื่อน ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ทั้งๆ ที่ไมตรีไม่ใช่คนนอนขี้เซาเลย
อาจารย์ น่านฟ้าตะโกนสุดเสียง
น่านฟ้าตัวสั่น มองรถพยาบาลพาเพื่อนของเขาออกไป เพื่อนๆ มาตบไหล่ปลอบเขาอยู่ ชายหนุ่มกำมือแน่น เขาเป็นคนช่วยพลิกตัวเพื่อนให้นอนหงาย รอยทางเลือดข้างลำคอ และจุด 2 จุดตรงเส้นเลือดนั่น
อาจารย์รักษ์ อาจารย์ผู้ควบคุมนักศึกษาครั้งนี้มองสบตาเขา เขาเห็นความตกใจลึกๆ อยู่ในนั้น...เมื่อคืนเขาไม่ได้ฝันไปแน่ๆ ทำไม...ถึงไม่ใช่เขา ทำไม...ถึงเป็นเพื่อนเขา
อาจารย์ตามไมตรีไปโรงพยาบาลสั่งหยุดการทำงานวันนี้ ให้อยู่กันเฉพาะในที่พัก ห้ามออกไปไหนเพื่อนๆ จับกลุ่มคุย บ้างคนก็กลับไปนอนต่อ มีบ้างที่โทรศัพท์กลับบ้าน เสียงคนใจอ่อนร้องไห้เบาๆ น่านฟ้าเลือกนั่งเก้าอี้ริมสนามแหงนมองฟ้า เพื่อนเขาอีก 2 คน ไปเก็บก้อนหินมาเดินหมากฮอสกัน
แกคิดไงว่ะ ไอ้น่าน รวิชถาม ตาก็จ้องที่ตัวหมาก
ไม่รู้ว่ะ รออาจารย์มาก่อน น่านฟ้าตอบเพลียๆ
พี่ดาแกว่าเราไม่ได้ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง รวิช หนุ่มร่างสูงเล่า
น่านฟ้าสะดุ้ง ชิงตัดบทซะก่อน
เฮ้ย ก็ไหว้กันทุกคน อาจารย์เขาไม่ลืมหรอก เรื่องสำคัญอย่างนี้ อย่าพูดไปไอ้วิช เดี๋ยวน้องๆ ตกใจ
สายๆ อาจารย์ก็กลับมาพร้อมหัวหมูไก่ต้ม เหล้าขาว ขนมเครื่องไหว้ ให้นักศึกษาทุกคนขอขมาที่ได้ทำล่วงเกินโดยที่รู้และไม่รู้ แล้วก็สั่งห้ามทุกคนพูดจาลามก ห้ามพูดจาลบลู่สิ่งที่มองไม่เห็นเด็ดขาด และยังสั่งห้ามไม่ให้ไปไหนมาไหนคนเดียวยามค่ำคืนด้วย
น่านฟ้าถอนหายใจ หวังว่าจะได้ผลหรอก ดีที่ไมตรีไม่เป็นอะไรมาก อาจารย์บอกว่า แค่เลือดจาง ให้เลือดพักสักสองสามวันก็กลับมาร่วมทำงานได้แล้ว
ชายหนุ่มบอกผ่านการร่วมวงเป็นลูกช้างของเจ้าพ่อกินของเซ่นไหว้ หลังธูปหมดดอก ตามอาจารย์ไปพูดคุยกับชาวบ้านก็ไม่เห็นว่ามีเจ้าที่เจ้าทางเฮี้ยนๆ แถวนี้ น่านฟ้าแอบถอนหายใจ ที่เฮี้ยนนะไม่ใช่แถวนี้หรอก เขาอยากโทรกลับบ้าน ถ้าเขาโทรไปเล่าเรื่องทางนี้ ทางบ้านจะเป็นห่วงเปล่าๆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทางบ้าน น้องชลก็ต้องโทรมา น่านฟ้าเลยตัดใจไม่โทร
ตกค่ำอาจารย์ไล่ให้นอน ห้ามเล่นไพ่ เพื่อนฝูงพากันนอนหมดแล้ว น่านฟ้านอนมองจันทร์ดวงกลมโตที่ลอยเด่นกลางฟ้าจากหน้าต่างที่เปิดกว้าง คืนนี้นางจะมาไหม เขาคิด จนหลับไปเมื่อไรไม่รู้
จากคุณ :
pajan
- [
27 ต.ค. 48 05:28:01
]
|
|
|