CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ความรักของนางมารร้าย (6)

    สวัสดีค่ะ ^^" หายไปนาน ยังจำกันได้รึเปล่าไม่รู้ แหะๆ  

    - ต่าย (tai shi 66)  ฮิ้ววว ยินดีที่ชอบคุณปาณัทนะคะ ตอนนี้มาช้ามาก ^^" ขอโทษด้วยนะคะ แต่ไม่เศร้านะ รับรองๆ

    - เนตรนภัส  ก๊ากกกกกกกกก รู้กันค่ะ รู้กัน  T___T กว่าจะผ่านจุดนั้นได้ ปาดเหงื่อค่ะ ฮา

    - Wild Monkey  ฮา ไม่น้า คนเขียนไม่ทำร้ายใคร (นอกจากตัวละครของตัวเอง ก๊ากกก) งั้นเดี๋ยวพี่เลิกยำนางเอก แล้วไปยำหนูแทนละกัน ดีม้ายยย ฮา

    - รียา  อ้าว คนอ่านแอบซาดิสต์ ฮา

    - scottie  ความมารกำลังจะเริ่มต้นค่า o^^o

    - nongwin  ขอบคุณสำหรับคำชมค่า ฝากเนื้อฝากตัวคนเขียนด้วยละกัน (เกี่ยวไรเนี่ย ฮา)

    - หนูจ๋า  ขอบคุณค่า อยากฟังคำอุทานประหลาดๆ ขอเชิญมาอยู่ใกล้ๆ คนเขียนเลยค่ะ ฮา

    - โตขึ้นจะกลายเป็นยุง  o^^o อ่านตอนนี้แล้วยังจะน่ารักมั้ยน้า

    - ลูนาติก  เริ่มมารตามคำขอแล้วค่ะ ถูกใจบ้างมั้ยเอ่ย

    - นู๋โมจัง  ก๊ากกกกก เอาจริงเหรอค้า

    - noisy pitta  o^^o ตอนนี้นางมารเข้าสิงแล้วค่ะ

    สำหรับคนอ่านที่ไถ่ถามและรอคอยว่าเมื่อไหร่คุณนางเอกของเราจะมารสักที o^^o อย่างที่ตอบข้างบนค่ะว่าความมารจะเริ่มนับตั้งแต่บทนี้เป็นต้นไป แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมารได้ถูกใจคนอ่านมากน้อยอย่างไรนะคะ ยังไงอ่านแล้วก็ช่วยกระซิบบอกคนเขียนหน่อยแล้วกันค่ะ ว่าชอบไม่ชอบอะไรกันบ้าง

    สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ นะคะ น้อมรับทุกความคิดเห็น และคำติชมเช่นเคยค่ะ

    ตอนเก่าค่ะ

    ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3718487/W3718487.html

    ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3725598/W3725598.html

    ตอนที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3739354/W3739354.html

    ตอนที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3757306/W3757306.html

    ตอนที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3776361/W3776361.html

    ==========================================


    ความรักของนางมารร้าย (6)



    การประชุมเริ่มต้นขึ้นเมื่อทุกคนมากันพร้อมหน้า และเสร็จสิ้นลงภายในสองชั่วโมง แม้ว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขบางส่วน ปาณัทก็ยังออกปากแสดงความพอใจกับภาพรวมของงานที่ได้นำเสนอในวันนี้อย่างมาก ทำเอาบรรดาทีมงานถูกอกถูกใจลูกค้าใหม่รายนี้ไปตามๆ กัน แต่ไม่ใช่เพราะคำชมเชยที่ได้รับ หากเป็นเพราะมุมมองและการเปิดใจยอมรับความคิดเห็นใหม่ๆ โดยไม่ปิดกั้นหรือจำกัดความคิดสร้างสรรค์ของเขา ซึ่งจัดเป็นลูกค้าในฝันที่ไม่ได้พบเจอบ่อยๆ

    “ตกลงว่าเราได้คอนเซ็ปท์และชื่อของงานคือ ‘จากเม็ดทราย...สู่ประกายแก้ว’ ตามที่เสนอ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เดี๋ยวเอ๋ยจะทำสรุปส่งให้”
    กิตติทัตกล่าวหลังการประชุม ซึ่งคนที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ก็รับคำแล้วหันไปขยายความ

    “สักช่วงเย็นน่าจะเรียบร้อย แล้วจะส่งเมล์ไปให้นะคะ”

    “ขอบคุณครับ ส่วนเรื่องที่จะไปดูสถานที่จริง ทางคุณเอ๋ยต้องการไปวันไหนครับ”

    “อืม เดี๋ยวดิฉันคงต้องขอถามทางทีมงานก่อนค่ะ ว่าจะว่างกันเมื่อไหร่”

    “งั้นเอ๋ยลองหาวันว่างเผื่อไว้เป็นช่วงๆ ละกัน แล้วค่อยเช็คกับคุณนุชว่าสะดวกวันไหน”
    ผู้เป็นนายเสนอแนะ

    เมื่อทุกฝ่ายทำการตกลงกันได้เป็นที่เรียบร้อย ปาณัทก็ขอตัวลากลับ โดยมีกิตติทัตเดินออกไปส่ง ส่วนอีกหนึ่งสาวที่เหลือยืนอยู่ที่เดิมก็ถอนหายใจเฮือกทันทีที่ลับร่างสองหนุ่มไป รอยยิ้มประกอบคำอำลาบนใบหน้าที่ฉีกกว้างจนตายิบหยีค่อยๆ หุบ เหมือนกับที่หัวใจเหี่ยวลง...ตั้งแต่ได้ยินชื่อของใครอีกคนนั่นแหละ

    ...คงต้องเตือนตัวเองด้วยชื่อนั้นบ่อยกว่านี้ จะได้เลิกเผลอปล่อยให้ความหวังแอบมาซุกซ่อนอยู่ในซอกใดซอกหนึ่งของหัวใจสักที

    อัยยาเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเองอย่างเนือยๆ ผิดกับท่าทางอันควรของคนที่เพิ่งประสบความสำเร็จในการนำเสนองาน เพราะในที่สุดเธอก็ต้องยอมรับว่าเขาคนนั้นมีอิทธิพลกับความรู้สึกของเธอมากเกินไปจริงๆ...มากพอที่จะสั่นคลอนหัวใจให้หวั่นไหวได้ง่ายดายเกินปกติ ทั้งที่ไม่เคยเป็นขนาดนี้มาก่อน

    หญิงสาวถอนใจยาว โชคดีที่บรรดาโต๊ะเพื่อนบ้านรอบตัวนั้นว่างเปล่ากันหมด ไม่อย่างนั้นด้วยสีหน้าท่าทางที่เป็นอยู่ในขณะนี้คงเป็นเหตุให้ต้องตอบคำถามที่ตอบไม่ได้ และไม่อยากตอบอีกยาวเป็นแน่

    อาการสั่นของโทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังปลุกให้เธอตื่นจากอาการเซ็งตัวเองชั่วคราว แต่เมื่อเห็นชื่อผู้โทรเข้าซึ่งแสดงบนหน้าจอ เสียงที่กรอกตอบรับกลับไปก็แห้งแล้งได้สมอารมณ์อย่างไม่ปิดบัง
    “อือ ว่าไง”

    “เย็นนี้แกว่างมั้ยเอ๋ย”
    ปลายสายป้อนคำถามทันที

    “ไม่รู้ ทำไม”

    “นะโมมันโทรมาชวนไปกินข้าวกัน เห็นบ่นว่ายุ่งใกล้ตายแล้ว เพราะงั้นถ้าไม่ไปวันนี้ก็คงได้เจอมันอีกทีหกเดือนถัดไป”
    น้ำทิพย์บอกกล่าวถึงที่มาของคำชวน ซึ่งเป็นเพื่อนสาวอีกคนในกลุ่มที่สนิทสนมกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย หากเมื่อต่างแยกย้ายกันทำมาหาเลี้ยงชีพ ปริมาณการพบปะสังสรรค์ก็ลดจำนวนลงตามแต่ความสะดวกและเวลาที่พอจะเอื้ออำนวยของแต่ละคน

    “ฮือ ยังไงก็ได้ ถ้าเลิกงานเร็วก็จะไปละกัน”
    คำตอบแบบขอไปทีด้วยน้ำเสียงห้อยละเหี่ยสะดุดหูคนฟังจนต้องออกปากด้วยความห่วงใย

    “แกเป็นไรรึเปล่าเนี่ย ทำไมเสียงเหี่ยวๆ งานเยอะมากเหรอ”

    “เปล่า”

    “ไอ้เปล่าเนี่ย มันเปล่าเป็นไร หรือเปล่างานเยอะ”
    เมื่ออีกฝ่ายเงียบไป นักเขียนสาวจึงเปลี่ยนประเด็นเพราะรู้ดีว่าคงไม่ได้คำตอบ

    “แล้วนี่ทำอะไรอยู่”

    “เพิ่งประชุมเสร็จ”

    “ประชุม...อ๋ออออ รู้ละ”
    คู่สนทนาลากเสียงยาว ก่อนคาดเดาถึงสาเหตุอย่างมั่นใจว่าถูกต้องอย่างแน่นอน

    “คุณพระเอกของแกล่ะสิ ทำไม...คราวนี้เค้าทำอะไรอีกแกถึงจ๋อยแหงกได้ขนาดนี้”

    อัยยาเบะปากอย่างขัดใจ...เบื่อคนรู้ทัน...แต่ในที่สุดก็ต้องยอมเล่าเหตุการณ์อันเป็นที่มาของความหดหู่ของตน โดยปิดท้ายด้วยวาจาคร่ำครวญที่พาลโยนความผิดไปให้ผู้ที่ถูกกล่าวถึงแบ่งรับไปด้วย
    "เมื่อไหร่เค้าจะเลิกทำดีกับฉันเสียที ทำแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะทำใจได้เนี่ย"

    "แปลกคน เค้าทำดีด้วยแล้วไม่ดีหรือไง"

    "ไม่ดีโว้ย ฉันไม่อยากชอบเค้ามากกว่านี้ แกเข้าใจมั้ย แฟนเค้าก็นั่งตัวเป็นๆ อยู่คาตา"

    “หึ แกพูดยังกับว่าถ้าเค้าไม่มีแฟน แกจะทำอะไรได้งั้นแหละ” อีกฝ่ายตอบโต้ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

    ...หูย ดูถูกกันชัดๆ ไอ้เพื่อนทรยศ ไม่ปลอบใจแล้วยังมาเหน็บแนมกันอีกนะ

    “ไม่ต้องทำเสียงถากถางงั้นเลยนะ ลองให้พ่อโสดขึ้นมาจริงเถอะ”
    วาจากระฟัดกระเฟียดที่หลุดออกไปด้วยความขัดเคืองกลับทำให้เพื่อนปล่อยหัวเราะก๊ากใหญ่ราวกับอัดอั้นมาไม่ต่ำกว่าสิบปี

    “เออ ฉันจะคอยดู แม่นางเอก!!!”

    คำพูดสุดท้ายกระแทกใจคนฟังจนแทบจุก
    ...เออโว้ย เป็นคนดีแล้วมันไม่มีใคร อย่าให้กลายเป็นนางมารร้ายบ้างก็แล้วกัน!!!



    (มีต่อค่ะ)

    แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 48 08:38:27

    จากคุณ : nyx - [ 28 ต.ค. 48 08:34:30 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป