CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    < < บทเพลงรัก จังหวะชีวิต> >เรื่องสั้นหวานๆรับลมหนาว

    บทเพลงรัก  จังหวะชีวิต
    โดย “สายลมอิสระ”

    อะไร ๆ มันจะง่ายกว่านี้ ถ้าเราไม่ใช่เพื่อนกัน...
    เจนละมือจากการเขียนตัวอักษรบนพื้นทรายเมื่อคลื่นโถมซักเข้าหาฝั่ง และถ้อยคำของเธอลบเลือนไป แต่น้ำตากลับเอ่อท้นแทน
    ถ้าไม่ใช่เพราะความเป็นเพื่อน มีหรือเจนจะยอมมาทะเลที่แสนเหงาคนเดียวอย่างนี้ ถึงเจนจะยอมรับว่าใจของเธอก็ชอบพี่ตุนย์มาก แต่น้ำหวานก็เป็นเพื่อนรักของเจน เจนรู้จักน้ำหวานมาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม ตอนนี้อยู่ ม.ปลายแล้ว กับแค่เรื่องผู้ชายคนเดียวทำไมต้องมาทะเลาะกัน เจนซบหน้าลงกับฝ่ามือ นึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ ติดโทษตัวเองที่วันนั้นไม่น่าไปหาน้ำหวานที่ทำงานพิเศษเลย ไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่ได้เจอพี่ตุนย์ ผู้ชายใจดีที่ยิ้มอบอุ่นคนนี้ ถ้าเธอไม่เคยเจอเขา ความรู้สึกเจ็บปวดอาจจะไม่เกิดขึ้นจนเธอต้องหลบหน้าใครต่อใครมาไกลถึงที่นี้...
    ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว ทะเลที่กว้างใหญ่จึงดูเงียบเหงานัก ฟ้าและน้ำเหมือนจะเป็นสีเดียวกัน คลื่นก็ซัดเข้าหาฝั่งไม่ขาดสาย เจนลุกขึ้นยืนเดินลุยน้ำลงไป ค่อย ๆ ก้าวทีละก้าวอย่างช้า ๆ เหมือนไม่รู้ว่าน้ำทะเลอยู่ระดับอกแล้ว

    “เฮ้...คุณ”
    ยังไม่ทันระวังตัวร่างบอบบางของเจนก็ถูกกระชากอย่างแรงจนเธอตกใจตั้งสติไม่ทัน มารู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่ริมฝั่งแล้ว

    “มีเรื่องอะไรก็ค่อย ๆ คิดซิครับ อย่าฆ่าตัวตายเลย...เสียดายชีวิตบ้างซิ กว่าจะโตมาขนาดนี้ พ่อแม่เลี้ยงมาเหนื่อยน่าดูนะคุณ”

    “ใคร...ใครฆ่าตัวตาย” เจนถามสีหน้างง แต่ชายหนุ่มผมยาวระบ่ากลับอ้าปากค้าง  ก่อนจะถอดแว่นกันแดดออกเผยให้เห็นดวงตาคมเข้ม และเคราบาง ๆ บนใบหน้านั้นก็ขับให้เขายิ่งหน้าตาใส ๆ ดูดุขึ้น
    “ก็คุณเดินลงไปในน้ำ”
    “ก็ใช่...ฉันเดินลงน้ำ มาทะเลไม่ให้ลงเล่นน้ำแล้วจะเล่นอะไร”
    “ก็คุณ...คุณเดินลงไปทั้งชุดอย่างนี้นี่นะ” เหมือนเขาจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ ไปเรื่อย

    เจนก้มมองเสื้อผ้าตัวเองก่อนถามกลับ “ก็ใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นมันผิดตรงไหน ใคร ๆ ก็ใส่กันอย่างนี้ แล้วฉันก็ไม่ใช้ฝรั่งผมแดงที่จะต้องใส่ชุดว่ายน้ำลงเล่นทะเลหรอกนะ”
    เจนตอบ รู้สึกหัวเสียขึ้นมาที่ชายหนุ่มตรงหน้าต่อว่าอะไรที่ไม่เป็นเรื่องก่อนจะสวมรองเท้าแตะที่ถอดไว้แล้วเดินหน้าเชิดกลับที่โดยไม่สนใจสายตาคมคู่ที่อยู่ตรงหน้า

    เจนกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องพัก พี่ชายเธอเป็นผู้ดูแลบังกะโลหลายหลังบนหาดนี้ เจนใช้เวลาตัดสินใจไม่ถึง 5 นาทีเมื่อพี่ชายชวนเธอมาพักที่นี่ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

    “เป็นไงจ๊ะพักสบายไหม” พี่วรรณ ว่าที่พี่สะใภ้ทักยิ้ม ๆ เมื่อเจนเดินลงมาที่ห้องอาหาร

    เธอยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้แทนคำตอบ ก่อนจะส่ายสายตามองหาพี่ชายตัวดี แต่เมื่อไม่เห็นเธอก็ขอสั่งข้าวเย็นมากินโดยไม่เกรงใจ เย็นวันนี้ร้านอาหารดูเงียบ ๆ คงต้องดึกอีกสักหน่อยนักดนตรีถึงจะมา และนั้นนักเที่ยวก็คงจะทยอยมาเหมือนที่พี่เธอเคยเล่าให้ฟัง แต่เจนก็ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอก พอเธอกินเสร็จเดินเล่นอีกซักหน่อยก็จะเข้านอนเพราะพรุ่งนี้เย็น ๆ เธอก็จะกลับแล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องเก็บเอาไปคิดมากมาย...

    แต่เมื่อกลับไปแล้วสิ...ภาพพี่ตุนย์กับน้ำหวานคงบาดใจ แม้ไม่อยากคิดถึง แต่ภาพของพวกเขาคงวนเวียนอยู่ไม่ห่าง แม้ว่าเอจะมาไกลขนาดไหนภาพของคนทั้งสองก็คงตามหลอกหลอนเธออยู่ร่ำไป ถ้าน้ำหวานรู้ว่าเพื่อนรักแอบตกหลุมรักแฟนของตัวเองอยู่ ไม่รู้ว่าน้ำหวานจะว่าหรือรู้สึกอย่างไร เธอเองก็ไม่อยากเป็นมือที่สาม ถึงจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่ตุนย์มักจะส่งสายตาหวาน ๆ ให้เธออยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีใจให้เธอ

    “สเต็กอะไรผมกินไม่เป็นหรอกครับ ขอข้าวไข่เจียวดีกว่า”
    เสียงกวน ๆ ดังขึ้นข้าง ๆ เจน เธอไม่รู้ตัวเลยว่าที่ข้าง ๆ มีคนมานั่งตั้งแต่เมื่อไร แต่พอหันไปสบตาด้วย เธอก็จำเขาได้ทันที

    “นายนะเอง” เจนเผลอร้องออกมาเสียงดัง นึกฉุนอยู่ในที ก็เรื่องอะไรมาหาว่าเธอคิดจะฆ่าตัวตาย
    “อ้าว...เรารู้จักกันหรือครับ” ชายหนุ่มแสร้งทำสีหน้างง ๆ
    “ก็เมื่อบ่ายนายนั้นหละที่มาว่าฉันจะฆ่าตัวตาย” เจนตอบกระแทกเสียงรู้สึกโมโหขึ้นมานิด ๆ
    “แหม๋ม...ผมนี่ก็มีเสน่ห์ขนาดทำให้คุณจำได้เลยหรือครับ” เขายิ้มทะเล้น ๆ เป็นจังหวะเดียวกับว่าที่พี่สะใภ้เอาข้าวไข่เจียวมาเสริฟ และดูเหมือนทั้งคู่จะรู้จักกันดี...
    “เจนจ๊ะ...นี้เอ็ม เพื่อนพี่จอมจ๊ะ เขามาเล่นดนตรีที่นี่” ว่าที่พี่สะใภ้ของเธอแนะนำ แต่เจนกลับเชิดหน้าทำเป็นไม่สนใจ
    “เจนไปนอนแล้วหละ เหนื่อยไม่พอแถมยังเบื่อหน้าคนแถวนี้ด้วย”
    “กินแล้วนอนระวังอ้วนเป็นหมูนะครับ” ชายคนตาคมเย้า เจนหันหน้ามาแยกเขี้ยวใส่
    “เฮ้ย...นั้นน้องสาวเรานะ” พี่จอมพี่ชายของเจนเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มแหย่มากกว่าจะว่ากัน
    “ไม่ยักรู้ว่านายมีน้องสาวที่น่ารักอย่างนี้” ชายหนุ่มตาคมพูดทั้ง ๆ ที่สายตายังมองตามร่างบอบบางที่เดินหายไปจนสุดสายตา
    “บอกทำไม...ของดีต้องรักต้องห่วง” ดูเหมือนประโยคหลังจะยิ้มหวานให้สาวสวยที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
    “เขามาเที่ยวพรุ่งนี้ก็จะกลับแล้ว” พี่จอมบอกเพื่อนซี้ราวกับรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย เอ็มได้แต่ยิ้มเก้อ ๆ ในใจรู้สึกติดใจสาวน้อยหน้าหวานคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก

    เจนไม่คิดว่าตัวเองจะหลับได้ลง แถมเป็นการหลับสนิทจากหลายคือที่ผ่านมา ตลอกเวลาเธอมักครุ่นคิดถึงเอนพี่ตุนย์กับน้ำหวาน แต่ตอนนี้เธอได้ทะเลาะกับอีตาคนชื่อเอ็มกลับนอนหลับสบาย และลึก ๆ รู้สึกเสียดายที่วันนี้เธอจะไม่ได้อยู่เห็นหน้าเขาอีก ความจริงเขาก็เป็นคนดี นี่ถ้าเธอคิดจะฆ่าตัวตายจริง ๆ ในวินาทีนั้นคงจะมีความหมายมากทีเดียว...ไม่น่าไปตวาดใส่เขาอย่างนั้นเลย – เจนนึกอยู่ในใจขณะเก็บของลงเป้ และพอเดินลงมาที่ห้องอาหารก็เจอเขาคนนั้นนั่งเล่นกีตาร์โปร่งอยู่ที่ก้องอาหารพอดี

    “...ถ้าบอกว่ารัก คงเร็วไปใช่ไหม
    เอาเป็นว่าอยากรู้จักรู้ใจมากกว่านี้
    ขอเวลาคุยกันดี ๆ สัก 5 นาที
    ให้โอกาสหัวใจดวงนี้...ได้ใกล้เธอ...”

    เจนนั่งฟังเขาร้องเพลงอย่างตั่งใจ ไม่คิดว่าคนน่าทะเล้นอย่างนี้จะร้องเพลงได้เพราะอย่างนี้ แต่พอเขาสบตาเธอ เจนก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

    “พี่นึกว่าจะกลับตอนเย็น” ว่าทีพี่สะใภ้ถามอย่างแปลกใจ
    “ก็กว่าจะไปถึงกรุงเทพ อีกอย่างพรุ่งนี้มีเรียนด้วย”
    “เหรอ...นึกว่ามีคนให้คิดถึงอยู่กรุงเทพซะอีก” ชายหนุ่มตาคมพูดแทรกขึ้นแล้วยิ้มให้ แต่เจนกลับเชิดหน้าใส่
    “พี่จอมหละค่ะ”
    “พี่จอมไปในเมืองตั้งแต่เช้ามืดแล้วจ๊ะ สงสัยกว่าจะกลับคงบ่าย ๆ เอาไงดี ใครจะไปส่งเจนขึ้นรถ”
    “ผมเองครับ” ชายหนุ่มที่ยินฟังอยู่ใกล้ ๆ ยกมือขึ้นพร้อมกับคว้างเป้ของเจนขึ้นไหล่ก่อนจะเดินนำออกไปทันที
    “นี่...ใครอนุญาตให้นายไปส่ง” เจนโวยวาย แต่ก็เดินตามหลังหนุ่มผมยาว สุดท้ายเธอก็จำใจนั่งซ้อนท้ายช้อปเปอร์คันใหญ่ของเขา ซึ่งทีแรกเธอก็ไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่กลัวไม่ทันเที่ยวรถก็เลยต้องยอมแต่โดยดี

    เจนมาถึงท่ารถทันก่อนรถจะออกครึ่งชั่วโมง เลยเดินดูของฝากใกล้ ๆ ท่ารถโดยมีบอดี้การ์ดที่ไม่ได้รับเชิญเดินตามอยู่ไม่ห่าง

    “เมื่อไรจะมาอีกหละ” ชายหนุ่มถามห้วน ๆ พร้อมกับเสยผมอย่างเคยชินเวลาเขิน
    “ปิดเทอมใหญ่มั่ง” เจนยังคงวุ่นวายกับการเก็บของที่ซื้อมาลงในถุงเดียวกัน
    “เหรอ...”
    คนช่างแหย่พูดได้เท่านั้น พอเจนเงยหน้าสบตาด้วย เขาก็เป็นฝ่ายหลบสายตาของเธอแทน และก็ไม่รู้ว่าเพราะไรเจนรู้สึกเขิน ๆ ขึ้นมาทันที
    เหลือเวลาไม่ถึงสิบนาทีรถก็จะออกจากท่าแล้ว แต่ตลับเทปจากอีกฝ่ายก็ถูกยื่นให้อย่างเขิน ๆ จนเธอนึกแปลกใจ
    “อะไรหรือ” เธอถามอย่างง ๆ
    “เอาไว้ฟังเวลาอยู่บนรถ”
    ชายหนุ่มส่งให้แล้วทำเป็นโบกมือลา เจนรับไว้ก่อนจะขึ้นรถไปนั่งที่ของตนเองริมหน้าต่าง พลางปรายตามองหนุ่มผมยาวที่ขับรถช้อปเปอร์จากไป เมื่อรถเลื่อนตัวออกเธอก็คว้าเอาซาวอเบาว์ออกมาฟังเพลงตลับที่เขาพึ่งให้มา เสียงกีตาร์โปร่งเหงา ๆ กับน้ำเสียงนุ่ม ๆ ของเขาก็ทำให้เจนยิ้มออกมาได้ และยิ้มกว้างขึ้นไปอีกเมื่อชายหนุ่มขับรถตามมาใกล้ เจนยิ้มพร้อมกับโบกมือให้ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหัวใจพองโตแทบคับอกเลยทีเดียว

    “...ถ้าบอกว่ารัก คงเร็วไปใช่ไหม
    เอาเป็นว่าอยากรู้จักรู้ใจมากกว่านี้
    ขอเวลาคุยกันดี ๆ สัก 5 นาที
    ให้โอกาสหัวใจดวงนี้...ได้ใกล้เธอ.....”

    ……………………………………………………………
    END

    จากคุณ : สายลมอิสระ - [ 28 ต.ค. 48 17:59:52 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป