เรื่องของลูกน้อง
เรื่องของลูกน้องนี่ ผมมีอะไรที่จะเล่าได้เยอะเลย อย่างเช่น บางคนบัตรประจำตัวหายบ่อย ต้องทำบัตรใหม่อยู่เสมอ ได้ความว่าพอไม่มีเงินจ่ายค่าอาหาร ก็เอาบัตรจำนำไว้ แล้วก็หายหน้าไปเลยไม่ยอมไถ่คืน แล้วก็เอามาเล่าในวงเหล้า ให้ฟังเป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮา
บางรายเวลาทำงานขยันขันแข็ง สงบเสงี่ยมเรียบร้อย พูดน้อยยิ้มน้อย ใช้จ่ายประหยัด แต่พอตกค่ำเพื่อนพาเข้าบาร์เข้าคลับ สมัยที่เงินบาทยังลอยต่ำอยู่ จ่ายไม่อั้น เรียกเด็กนั่งชั่วโมงทีละสองสามคน ขนาบซ้ายขวา จมูกชนแก้มคนนี้ มือยื่นใปคลำคนโน้น ยังกับหนวดปลาหมึก อย่างนี้ก็มี
รายหนึ่งเป็นประเภทเจ้าสำราญเหมือนกัน ชอบเที่ยวกลางคืน มีแฟนเป็นนักร้อง ทุ่มสุดตัว กด เอ.ที.เอ็ม.คืนละสามครั้ง หมดเท่าไรไม่ว่า แต่บางคืนก็ต้องมาปลุกผมขอเงินค่ารถแท็กซี่กลับบ้าน พวกนี้พอถึงเช้านั่งตาแดง หาวแล้วหาวอีก ทำงานการไม่ค่อยได้
อีกพวกหนึ่งทำราชการเป็นงานอดิเรก วันดีคืนดีโทรศัพท์มาลากิจ ขออนุญาตช่วยภรรยา ขายผลไม้อยู่แถวสะพานขาว หรือขายดอกไม้อยู่ปากคลองตลาด ขายหมดแล้วจึงจะมา ทำงาน อย่างนี้ก็พอหาได้
สมัยหลังนี้ก็มีพวกขี่มอเตอร์ไซด์ หรือนั่งรถตู้มาทำงาน ขามาก็สายตอนเย็นก็ออกก่อนเวลา เพราะต้องรีบไปเข้าวินให้ทันที่ทำงานเลิก รายได้ก็ผ่อนรถไปพลาง เสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ ก็ตักตวงเต็มที่หน่อย
และมีอีกหลายคนที่แสนดีสอนคืบได้ศอก งานระดับ ร่าง พิมพ์ ทาน นั้นไว้ใจได้เรียบร้อยทุกตัวอักษร แต่ยิ่งทำได้ดีงานก็ยิ่งล้นมือ ไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างคนอื่น ต้องหาทางย้ายไปอยู่หน่วยอื่น ที่งานมันน้อยกว่าอยู่เสมอ ลูกน้องประเภทนี้จึงเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เมื่อไปได้ดีที่ไหน ก็กลับมารายงานและแสดงกตัญญูกตเวที สมกับเป็นคนดี
ผมจึงมีลูกน้องที่เปลี่ยนหน้ากันเข้ามามากมาย ตลอดระยะเวลาที่ได้ทำราชการอยู่ จนแทบจะลืมหน้าลืมชื่อกันไปบ้าง ก็มี
แต่มีอยู่คนหนึ่ง ผมจำไม่ลืมเลยเขาชื่อ ปุ้ย ซึ่งความจริงเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของ นายแมว เพื่อนรุ่นน้องในกองเดียวกันอีกทีหนึ่ง
นายปุ้ยเป็นคนคล่องแคล่วว่องไว มีไหวพริบสติปัญญา ใช้ให้ทำงานสิ่งใด ก็สำเร็จเรียบร้อยด้วยดีเสมอ แม้เป็นงานที่ยากและสลับซับซ้อน ก็แก้ไขได้ด้วยความสามารถพิเศษ คือเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี เจรจาอ่อนหวาน นอบน้อมถ่อมตน
จึงสามารถจะใช้ให้ไปติดต่อราชการภายนอก ได้ผลดีกว่าคนอื่นเสมอ
เขามักจะเป็นต้นคิด ในการที่จะให้ผมและนายแมว เป็นเจ้ามือเลี้ยงลูกน้องในวาระพิเศษต่าง ๆ อยู่เสมอ เมื่อเลิกเลี้ยงตามปกติแล้วก็มักจะต่อรอบดึก โดยมีเขาเป็นผู้นำตามเคย และมีนายแมวเป็นผู้จ่ายเงิน เพราะผมไม่ค่อยจะได้ไปกับเขาในรอบนี้
และบางครั้ง แม้นายแมวจะยังไม่เสร็จภารกิจในที่ทำงาน นายปุ้ยก็จะจัดแจงเลือกร้าน และนำเพื่อนไปนั่งกินคอยอยู่ก่อน โดยโทรศัพท์มาแจ้งให้ทราบว่ารออยู่ที่ไหน
แล้วเจ้านายของเขาก็ตามไปเสวนาด้วย พร้อมกับจ่ายเงินอย่างที่เคยปฏิบัติเป็นการประจำ
ต่อมาเขาหารายได้พิเศษ จากการทำงานเวลากลางคืน จึงมีเงินใช้จ่ายคล่องมือ ในไม่ช้าเขาก็มีเมีย เป็นหญิงประเภทสอง ที่ได้รับการผ่าตัดทำศัลกรรมตกแต่งเรียบร้อยแล้ว รู้สึกว่าเขาจะรักกันมาก
ตอนนี้เขามีฐานะดีขึ้น มีรถเก๋งนั่งมาทำงานทั้ง ๆ ที่ยังเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย
แต่อยู่กันได้ไม่กี่ปีก็เกิดโชคร้าย เมียของเขาเสียชีวิต ด้วยโรคภัยไข้เจ็บธรรมดา โดยที่ยังไม่ถึงวัยอันสมควร เขาโศกเศร้าเสียใจมาก
ผมยังจำได้ดี เขาให้ช่างเสริมสวย แต่งหน้าทำผมเมียของเขาในเวลารดน้ำศพ จนสวยสดงดงาม ราวกับยังมีชีวิตอยู่ และระหว่างเวลานั้น เขาให้เจ้าหน้าที่เสียงเปิดเพลงที่เมียเขาเคยชอบให้ฟังตลอดเวลา
เป็นเพลงไทยสากล มีเนื้อและทำนองเกี่ยวกับความรัก แต่เมื่อฟังในช่วงเวลานั้น กลับชวนให้ใจสลดหดหู่เศร้าสร้อยพิกล
ชีวิตของนายปุ้ยหงอยเหงาอยู่ไม่นานนัก เพราะเขาเป็นคนรื่นเริง มีอารมณ์สนุก ครึกครื้นอยู่เสมอ กิจการงานพิเศษของเขา ดูเหมือนจะก้าวหน้าดีขึ้นเรื่อย ๆ จนมีทองเต็มตัวทั้งสร้อยคอ เลสที่ข้อมือ และแหวนนิ้วซ้ายขวา
ในไม่ช้าเขาก็พาเมียใหม่ มาให้เจ้านายรู้จัก เป็นสาวสวยที่มีอายุมากกว่าเขาหลายปี ข้อสำคัญคือมีทองอร่ามไปทั้งตัวเหมือนกัน
เขาได้เมียใหม่ไม่นาน ก็ขอลาออกจากราชการ ไปประกอบอาชีพส่วนตัว เคยได้ข่าวว่าไปเปิดร้านข้าวต้มโต้รุ่ง อยู่แถวนครสวรรค์ภูมิลำเนาเดิมของนายแมว เขาไม่เคยลืมเรา ได้แจกนามบัตร ให้แวะไปรับบริการจากเขา เมื่อเวลามีธุระกลับไปบ้าน
แต่จนแล้วจนรอด เราก็ไม่เคยได้แวะไปใช้บริการของเขาสักที จนกิจการนั้นได้เลิกไป เขาพาครอบครัวกลับเข้ากรุงเทพ
เมื่อไม่นานมานี้เองลูกน้องจัดงานวันเกิดให้นายแมว ที่ภัตตาคารชื่อดังแถวบางโพ นายปุ้ยก็พาครอบครัวมาร่วมงานด้วย ทั้งสองคนผัวเมียยังแต่งทองเต็มตัวเช่นเคย
เขาอุ้มเด็กหญิงอายุไม่เกิน ๒ ขวบมาด้วยคนหนึ่ง และสอนให้ทำความเคารพนายแมวกับผม
" หวัดดีปู่ก่อนลูก...นี่ปู่แมว "
หนูน้อยน่ารักเหมือนตุ๊กตา ยกมือสาธุอย่างน่าเอ็นดู เราก็แสดงความยินดีกับเขาด้วย ที่มีลูกน่ารักก่อนที่จะแก่เกินไป
พอดีเด็กสาววัยรุ่นซึ่งเราเข้าใจว่าเป็นคนเลี้ยงทารก เดินตามเข้ามาใกล้ เขาก็แนะนำให้รู้จักว่าเป็นบุตรสาวของภรรยา
แล้วเขาก็เดินไปร่วมวงกับเพื่อนเก่า ๆ ที่เคยร่วมงานกันมาก่อนที่โต๊ะหนึ่ง ฝ่ายหญิงก็แยกไปอีกโต๊ะหนึ่ง
เมื่อเพื่อนฝูงทักทายพูดคุยกันเสียงเอะอะ ตามความเข้มของดีกรีที่ดื่มเข้าไปแล้ว หนูน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของนายปุ้ยเกิดความรำคาญก็ดิ้นรน และร้องจะไปหายาย
เขาจึงเรียกเด็กสาวให้มารับ พลางบอกว่า
" เอ้า...เอาลูกไปหายายหน่อยซิ "
ผมกับนายแมวมองตากัน เพราะคงจะคิดอย่างเดียวกันว่า
หนูน้อยผู้นี้ เป็นลูกหรือเป็นหลาน ของลูกน้องเรา กันแน่ ! !
*************
จากคุณ :
เจียวต้าย
- [
31 ต.ค. 48 05:14:44
]