CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เสไม่แสร้ง-the Balld of the True Stories : สองมุม-สองคม

    Advisory : บทความนี้อาจไม่เหมาะกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี  ถ้าหากอายุต่ำกว่านี้ ควรมีผู้ปกครองร่วมอ่านและอธิบาย
    *************************************

    ฟังชื่อแล้วอาจเหมือนชื่อภาพยนตร์ฮ่องกงแนวหักเหลี่ยม-เฉือดเฉือน  ตามล่า-ตามเช็ด  ล้างผลาญ--แต่ไม่ใช่  เรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้มันคนละเรื่องกัน!

    วันนี้-ยุคนี้  ผมนั่งพิจารณาด้วยตัวเองว่ากีฬาอะไรซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในเหล่านักเล่น?  คำตอบที่ได้คือ  น่าจะเป็นฟุตบอล - Soccer  เหตุผลที่สนับสนุนคำตอบนี้ได้เป็นอย่างดีคือ  ข่าวการจับกุมโต๊ะพนันบอลที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องนั่นเอง  อย่างรายล่าสุด--เมื่อสองสามวันก่อนก็มีการเข้าจับกุม..มีนักพนันที่เรียกตนเองว่า 'เซียน' อยู่ร่วมกันหลายสิบคน

    บรรดา 'เซียน' ส่วนใหญ่อยู่ในวัยรุ่น-วัยเรียนกันทั้งนั้น!

    การพนันฟุตบอลต่างประเทศในบ้านเราถือกำเนิดมาตั้งแต่เมื่อใดนั้นไม่มีหลักฐานข้อมูลแน่ชัด  ส่วนตัวผมคิดว่ามันคงมีมานานแล้ว  เพียงแต่ลักษณะที่เปิดเป็นบ่อน  หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า 'ตั้งโต๊ะ' นั้น  คงกินระยะเวลาไม่น่าจะมากกว่า 20 ปี  เพราะยุคสมัยนั้นการถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกจากประเทศต่างๆยังไม่แพร่หลายถึงเพียงนี้  หากจะมีก็เพียงแต่รายการทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ  เช่น  ฟุตบอลโลก - World Cup เท่านั้น--

    ผมเริ่มดูฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศอังกฤษ (สมัยที่ยังใช้ชื่อเรียกว่า Division League 1-4  ก่อนเปลี่ยนมาเป็น Premier League,  the Championship,  League 1  และ  League 2)  ครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 12 ปี (ราวปีพ.ศ.2529)

    ตอนนั้นยังจำได้ว่าทุกๆบ่ายวันเสาร์จะต้องเปิดช่อง 7 สี-ทีวีเพื่อคุณ  ดูรายการ 'เจาะสนาม' ของ 'ย.โย่ง' - เอกชัย นพจินดา  เกมแต่ละเกม-นัดแต่ละนัดนั้นล้วนเป็นเทปบันทึกภาพการแข่งขันที่ล่าช้า - Delay  ไปกว่า 1 สัปดาห์

    ยุคสมัยนั้นเท่าที่จำได้แทบจะไม่มีข่าวการจับนักพนันบอลเลย  ก็ด้วยเหตุผลข้างต้นนั่นละ เมื่อไม่มีการถ่ายทอด  ไม่มีการรายงานผลการแข่งขันสดๆข้ามทวีปผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียงเหมือนในปัจจุบัน  ใครมันจะบ้าเล่นกล้าแทง  ถึงจะมีก็บ้างเถอะมันคง 'ไม่เร้าใจ'  เนื่องจากไม่มีทั้งภาพและเสียงประกอบอรรถรส

    นอกจากจะไม่มีการถ่ายทอดสด..หรือถ่ายทอดเทปบันทึกภาพผ่านดาวเทียมแล้ว  ในหน้าหนังสือพิมพ์รายวันในส่วนของหน้าข่าวกีฬานั้นยังไม่มีการวิเคราะห์-เจาะลึกมองอย่างเซียนว่ากล่าวถึงเรื่องราคาต่อ-รองแต่อย่างใด  คงมีแต่เพียงข่าวการรายงานผลการแข่งขันสั้นๆเมื่อคล้อยหลังไปหนึ่ง-สองวันถัดไปแล้ว

    เนื้อหาข่าวกีฬาของหนังสือพิมพ์ในยุคนั้นยังไม่มีการแบ่งแยกส่วนเสียด้วยซ้ำ--หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ซึ่งบ้านผมรับเป็นประจำนั้น  จดจำได้ว่าพื้นที่ 'ข่าวกีฬา'--โน่น..ไปปรากฏอยู่ที่รองหน้าสุดท้าย!

    - แทบจะสรุปได้ว่า 'คนไทย' ในยุคนั้นแทบไม่ได้ให้ความสำคัญ-ใส่ใจกับกีฬาเลย  ฉะนั้นลำดับความสำคัญของข่าวกีฬานี้จึงตกไปอยู่หน้าหลังซึ่งตามหลังข่าวบันเทิง-ดาราไปเสียฉิบ!

    เมื่อความสำคัญมันลดน้อย-ตกต่ำขนาดนี้  ย่อมเป็นภาพสะท้อนให้เห็นได้อีกว่า  การพนันบอลนั้นยังไม่ได้รับความนิยมมากไปกว่ามวยตู้-ม้า-หวย-ไพ่-ไฮโล...

    ภาพสะท้อนจากภาพยนตร์-ละครโทรทัศน์ไทยในยุคนั้นก็เช่นเดียวกัน  เรามักจะได้เห็นภาพ-ฉากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าบุกทลายบ่อนตามบ้านซึ่งจับกลุ่มนั่งเล่นไพ่ตอง--เป็นฉากชีวิตที่ชินตา  ฮาเฮกับพฤติกรรมต่างๆของนักแสวงโชคซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยดึก  พ่อ-แม่-ลุง-ป้า-น้า-อา  ทั้งการกระโดดหนีทางหน้าต่าง  แอบซ่อนในตุ่มน้ำ  หรือแม้กระทั่งเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนตาบอด

    "ตา-บอ-ด-ดอย่างชั้นจะเล่นไพ่ได้ยังไงยะ..พ่อคม-ม-สันต์"  ยายเมี้ยนเสียงสั่นพร่าเมื่อเจรจากับนายร้อยตำรวจเอกที่ไม่ได้ปลอมตัวมา

    "ฉันไม่ใช่ตำรวจหรอกนะจ๊ะยาย  ฉันเป็นบุรุษไปรษณีย์จ้ะ"

    "อุ๊วะ!  อย่ามาหลอกคนแก่อย่างชั้นนะ  ก็แล้วไอ้ดาวสามดวงบนบ่าของพ่อนี่มันหมายถึงอะไร  ไม่ใช่ตำรวจเรอะ  คนแก่อย่างชั้นนี่นะไม่โง่หรอกย่ะ"  ยายเมี้ยนเปลี่ยนอารมณ์จากกลัวเป็นเกรี้ยวกราดโดยฉับพลัน

    "นั่นแน่--ไหนยายว่ายายตาบอดไงเล่าจ๊ะ  รู้ได้ไงว่าฉันติดดาวตั้งสามดวง  แถมยังรู้จักชื่อของฉันอีก..แหมยายนี่เก่งจังนะจ๊ะ"

    Ha--aaaaa!!

    ฉะนั้นเราจึงอาจสรุปจากการคาดคะเน-สังเกตดังกล่าวได้ว่า 'โต๊ะบอล' ยังไม่มีการตั้ง--ก็อย่างที่บอก  เรื่องนี้ไม่มีข้อมูลหลักฐานปรากฏแน่ชัด


    -0-

    กีฬาฟุตบอลในบ้านเราน่าจะเพิ่งมาได้รับความนิยมอย่างจริงๆจังเมื่อราวสักสิบกว่าปีที่แล้ว (นับจากปีพ.ศ.2530 ขึ้นมา) เมื่อเทคโนโลยีในการแพร่ภาพถ่ายทอดผ่านดาวเทียมได้รับการพัฒนามากขึ้น  

    ในปีพ.ศ.2532  ได้มีการก่อตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก--เคเบิลทีวี  ซึ่งมีช่องกีฬาเป็นการเฉพาะ  ช่องนี้ละครับที่ทำการซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันกีฬาต่างๆจากหลายประเทศที่คนไทยนิยมชมชอบกัน  โดยเฉพาะฟุตบอลลีกของประเทศอังกฤษ  ตามด้วยฟุตลีกของประเทศเยอรมนี  อิตาลี  ฝรั่งเศส  และสเปน  บวกด้วยทัวร์นาเมนต์ใหญ่  เช่น  World Cup  นอกเหนือจากนั้นแล้วยังพ่วงด้วยรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป-อเมริกา-อัฟริกา,  ทัวร์นาเมนต์พิเศษ เช่น  ชิงแชมป์สโมสรยุโรปทั้งสองรายการคือ Champions League  และ  Uefa Cup

    ด้วยการถ่ายทอดสดถี่ยิบของการแข่งขันในรอบหนึ่งสัปดาห์นั้น  ทำให้ 'คอลูกหนังไทย' ส่งเสียงร้องไชโยโห่ฮาป่าเพราะได้ชมภาพนักเตะและสโมสรที่ตนเองชื่นชอบบรรเลงเพลงโม่แข้งกันอย่างสดๆร้อนๆไปพร้อมๆกับแฟนบอลที่อยู่ข้างขอบสนาม--ทั่วโลก

    ด้วยอานิสงส์ของการมีสถานีฯเคเบิลนี้มีส่วนช่วยให้คนไทยได้ตื่นตัวหันมาสนใจรายการกีฬามากขึ้น  ซึ่งนั่นไม่ได้จำกัดไว้แต่เฉพาะฟุตบอล - Soccer เท่านั้น  ยังรวมถึง อเมริกันฟุตบอล - NFL,  บาสเกตบอล - NBA,  รถยนต์ทางเรียบสูตรหนึ่ง - Formula 1,  เทนนิส,  กอล์ฟ,  มวยปล้ำ  ฯลฯ

    แต่พูดก็พูดเถอะ  แม้ว่าจะมีรายการกีฬาให้ชมอย่างหลากหลายประเภทก็จริง  แต่ประเภทกีฬาที่ได้รับความสนใจ-นิยมมากที่สุดกลับเป็น 'ฟุตบอล'

    การก่อกำเนิดออกหนังสือพิมพ์สยามกีฬา 'สตาร์ซอคเก้อร์รายวัน' เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 โดยมีเนื้อหาและข่าวสารเกี่ยวกับฟุตบอลในต่างประเทศโดยเฉพาะนั้น  สามารถหยิบยกเอามาเป็นเหตุผลสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวได้  เพราะเมื่อลองมองย้อนกลับไป ณ เวลานั้นแล้วบนแผงขายหนังสือแทบจะไม่มีหนังสือ 'กีฬาเฉพาะ' อื่นใดอีก

    จากคำให้การของผู้สันทัดกรณี-แฟนพันธุ์แท้หนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเก้อร์  ในช่วงระยะเริ่มแรกยังไม่ปรากฏพื้นที่ 'อัตราต่อรอง'

    "แล้วราคาต่อรองมันเกิดขึ้นเอาเมื่อใด?"

    ขอโทษ!  เขาเองก็จำไม่ได้

    "อาจจะอยู่ในช่วงระยะเวลา 10 ปี"  เขาพยายามคาดคั้น  คาดคะเนจากต่อมความทรงจำ--

    "ผมว่า--อย่างไรเสียไอ้พวกต่อรองนี่มันต้องมีมาก่อนหน้านั้นแน่นอน  จากนั้นเมื่อฟุตบอลมันเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น..มากขึ้น  พื้นที่ราคาต่อรองมันจึงปรากฏขึ้นมาตามหลัก 'Demand - Supply'  ความต้องการมีมาก  นายทุนก็แหกชำแรกแหวกอากาศตามติดก้นสนองความต้องการ"

    "คุณพูดเหมือนกับว่า  พื้นที่ดังกล่าวไม่มี่ส่วนชี้นำให้คนเล่นพนันฟุตบอล?"

    "อ้าว--แล้วคุณเคยเล่นตามมันหรือเปล่าล่ะ?  เห็นคุณเองก็ชอบอ่านนี่หว่า  แถมยังชอบหงส์แดงขาดใจดิ้น  'ศึกแดงเดือด' ที่ผ่านมาเล่นไปเท่าไหร่?"

    "ไม่เคยครับ  ผมว่าคนมันจะเล่น..มันก็เล่น  ไม่ต้องมีราคาต่อครึ่งควบลูกอะไรเทือกนั้นมันก็เล่นกันได้--ง่ายสุดก็เล่นผลแพ้ชนะ"

    "นั่นละ  การพนัน-ราคาต่อรอง-กีฬา..มันคนละส่วน..คนละเรื่องกันเลย  วิถีของนักพนันสามารถเชื่อมโยงเรื่องหลายเรื่องให้มาเป็นเรื่องเดียวกันได้ทั้งนั้น  ไม่ว่าฝนจะตก-พระจะสึก-ลูกจะออก-ขี้จะแตก--เท่านี้มันก็โยนเงินลงกองกลางแล้วนั่งคอยผลกันยังได้เลย  ป้าด-ด-ด!!"

    "มันก็เรื่องเดียวกันนั่นละ  ไม่มีบอล-ถ่ายทอด-ราคาต่อรอง  ใครมันจะเล่น--เอ้า  พูดให้ง่ายเข้าไว้  คนบางจำพวกมองว่าการถ่ายทอดและหนังสือพิมพ์มันเป็นสิ่งกระตุ้น-ชี้นำ"

    "คนจำพวกไหนล่ะ?!  ใช่ไอ้พวกที่เรียกร้อง-เสนอให้เลิกถ่ายทอดและปิดหนังสือพิมพ์เลยใช่ไหม--โธ่!  การพนันกับกีฬานี่มันมีคู่กันมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์แล้วเว้ย  แต่คู่กันแบบเส้นขนาน..มันคนละเรื่อง  ป๊าด-ด!"

    "หมายถึงเมื่อ 70 ปีก่อนคริสตกาล?  การต่อสู้ของพวกนักสู้ล่ารางวัล - Gladiator อย่าง 'สปาร์ตาคัส' - Spartacus  น่ะหรือ?"

    "สปาร์ตาคัสนั่นมันเป็น 'ทาส' ซึ่งถูกขายให้กับเจ้าของโรงเรียนฝึกนักสู้ 'เลน ทูลัส  บรูตัส'--ผู้ที่มีหน้าที่ในการจัดนักสู้ต่อสู้เพื่อความบันเทิงให้กับสมาชิกสภา 'มาร์คัส  ลิซิเนียส คราสซัส' ต่างหากเฟ้ย!  เป็นนักสู้โดยภาวะจำยอม..มันสู้เพื่อความอยู่รอดของชีวิตมากกว่าการได้เงินทอง-ชื่อเสียง  เดิมพันของมันในการสร้างความบันเทิงให้กับเหล่าเจ้าของทาสนั้นคือ 'ชีวิต' ที่มีอยู่สองด้านคือ  ตาย-ไม่ตาย!!"

    "เมื่อสองพันปีที่แล้วเขามีราคาต่อรองกันแบบไหน?"

    "ป๊าด-ด!  เรื่องนี้ผมขอแนะนำคุณให้ไปถาม 'เซียนเอ๋-คลองสาน' เองละกัน"

    ได้--ผมจึงย้ายวิกสะบัดตูดย้ายก้นมาที่คลองสาน  ฝั่งธนบุรี

    "อะไรกันคุณ--สองพันปีที่แล้วพ่อของพ่อผมยังไม่เกิดเลย  แต่ถ้าราคาบอลนี่ละก็คงว่ากันง่ายหน่อย"

    "เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า--เอ้า..ว่ามาโดยเร็ว"

    "ได้--เสมอควบครึ่ง / ปอปอ / สองปอ / ป.ปลาสองตัว  แล้วแต่ใครจะเรียก  มีความหมายเหมือนกันหมด  หมายความว่า  การต่ออย่างนี้ต้องมีสองมุม  แบ่งเป็นสองฝั่งได้แก่  เสมอด้านหนึ่ง-ครึ่งลูกด้านหนึ่ง  เวลาแทงต้องบอกราคาสองด้าน  เช่นถ้าจะแทงเป็นเงิน 1,000 บาท  ต้องบอกว่ามุมละ 500 บาท   โต๊ะจะเข้าใจเอง  การได้-การเสียถ้าเราอยู่ฝ่ายต่อ  แล้วผลออกมาเสมอเราเสียแค่มุมเดียวโดยเสีย 500 บาท  แต่ถ้าเรารองเราได้ 500 บาท--เข้าใจ?

    "ครึ่งลูก - ทีมต่อต่อเราครึ่งลูก  การได้-เสีย  ถ้าเราอยู่ต่อแล้วผลออกมาเสมอ  เราเสียเต็ม  แต่ถ้าเราอยู่รองเราได้เต็ม  แต่ถ้าทีมไหนชนะแค่ 1 ลูกก็จะได้เต็มกับเสียเต็ม--Are you O.K.?

    "ครึ่งควบลูก - จะเป็นการต่อลักษณะเดียวกับการต่อแบบปอปอ  คือต้องมีสองมุม  เป็นการต่อครึ่งลูกมุมหนึ่ง  และลูกหนึ่งมุมหนึ่ง  การได้-เสียก็จะเหมือนปอ-ปอ  คือถ้าทีมต่อชนะ 1 ลูก  ทีมต่อจะได้เงินแค่ครึ่งเดียว  ทีมรองเสียครึ่งเดียว  ถ้าทีมต่อชนะเกิน 1 ลูก ทีมต่อจะได้เต็ม  ทีมรองจะเสียเต็ม  แต่ถ้าพลิกทีมรองชนะ  ทีมรองจะได้เต็ม  ทีมต่อเสียเต็ม--

    "หนึ่งลูก - นี่เริ่มต่อกันเยอะขึ้นแล้ว  การต่อถึงหนึ่งลูกแสดงว่าทีมต่อต้อง 'เหนือกว่า' ทีมรองมากหน่อย  ความหมายก็ตรงตัว  ทีมต่อต่อทีมรอง 1 ลูก  การได้-เสีย  ทีมต่อต้องยิงให้เกิน 1 ลูกทีมต่อถึงจะได้เงินเต็ม  ถ้ายิงได้แค่ 1 ลูกถือว่าเจ๊า  แต่ถ้ายิงไม่ได้ก็จะเสียเงิน  การต่อ 1 ลูกจะแตกต่างกับการต่อ 3 อย่างแรกคือจะมีการเจ๊าเข้ามาเกี่ยวข้อง  การต่อแบบ 3 อย่างแรกจะไม่มีเป็นเจ๊าออกมาให้เห็น  จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียเงินเป็นอย่างแน่นอน  แต่ว่าจะได้เต็มหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับประตูที่จะเกิดขึ้น--

    "ลูกควบลูกครึ่ง - การต่อแบบนี้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เพราะว่าทีมต้องต่างชั้นกันมากๆ  ถึงได้ต่อกันเยอะขนาดนี้ การต่อแบบนี้หมายความว่าทีมต่อจะต้องต่อ 2 มุม  มีลูกหนึ่งมุมหนึ่ง  และลูกครึ่งมุมหนึ่ง  การต่อแบบนี้ไม่มีการเจ๊าเข้ามาเกี่ยวข้อง  การได้การเสีย  ทีมต่อจะต้องยิงให้เกิน 2 ลูกทีมต่อถึงจะได้เงินเต็ม  ถ้ายิงได้แค่ลูกเดียวจะเสียเงินครึ่งหนึ่ง  เช่นเดียวกับทีมรองถ้าทีมต่อยิงได้ลูกเดียวก็ได้ครึ่งเดียว  แต่ถ้ายิงได้ 2 ลูกเสียกันเต็มๆ"  --

    "ส่วนการต่อราคา.."

    "เดี๋ยว!  ยังไม่หมดอีกเหรอ?"--ผมรีบชิงตัดบท

    "ยัง..ทำไมล่ะ!"

    "ผมงงว่ะ!--Get  มั้ย..ไม่ Get เลย"

    "ป๊าด-ด  โธ่..โง่หลายตายซะ  เอ้ย!..งงนักก็ไม่ต้องเล่นสิวะ  ดูแม่..มันอย่างเดียว  เงินก็ไม่เสีย  แต่ถ้าจะเล่นละก็บอกเฮียมาเลย"

    "ฮ่วย--!!  ผมว่าผมหาข้อมูล  หาราคาทางอินเตอร์เน็ทดีกว่ามั้ย"

    (ต่อ)

    จากคุณ : อานันท์-โจนาธาน - [ 31 ต.ค. 48 06:05:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป