CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ฝนซาฟ้าใส กับหัวใจ 2 ดวง (ตอนเดียวจบ) มือใหม่คะ รบกวนติชมด้วยนะคะ ^_^!

    ฝนซาฟ้าใส กับหัวใจ 2 ดวง

    ฤดูฝน ฤดูที่แสนน่าเบื่อหน่ายที่สุดสำหรับฉัน ถึงแม้ใครๆ จะบอกว่าฟ้าหลังฝนนั้นสวยสักเพียงใด แต่ฉันไม่เคยมีอารมณ์นึกอยากจะเชยชมกับความงามนั้นเลย เพราะมันเป็นฤดูที่ทำให้ฉันโกลาหลในการเดินทางไปโรงเรียนมากที่สุด และที่สำคัญมันยังทำให้ฉันต้องตื่นเช้ากว่าปกติ ช่างทรมานเหลือเกิน

    เช้าวันอันแสนหฤโหดมาถึงอีกครั้ง !!!

    ฉันลงจากรถเมล์ได้ ก็รีบจ้ำอ้าวเดินเข้าห้องเรียนทันที ห้อง ม. 6/1 อยู่ชั้นล่างของตึก ไม่นานเกินไปที่จะรีบเดินให้พ้นสายตาหลายคู่ที่มองมา ถึงแม้จะไม่ค่อยมีคนมากนัก เพราะยังเช้าอยู่มากก็ตาม แต่ก็ทำให้อายได้เหมือนกัน

    “บึ้ก ...โอ้ย !” ลูกฟุตบอลหนังกระแทกเข้าที่กลางแสกหน้าอย่างจัง ฉันร่วงลงไปกองกับพื้น ก่อนที่จะก้าวถึงห้อง
    “เฮ้ย! ฟ้า เป็นยังไงบ้าง” เสียงห้าวๆ ตะโกนดังลั่นเมื่อเห็นสภาพของฉันที่ทรุดลงไปนั่งอยู่กับพื้น
    มือกุมหน้าผากอยู่ โลกหมุนติ้ว เห็นดาวระยิบ
    “เป็นไงฟ้า เจ็บมากไหม” นักเตะแข้งทองถามซ้ำเมื่อเห็นฉันนั่งนิ่ง
    “เจ็บซิ ถามได้ ไม่มีที่เล่นแล้วหรือยังไง ถึงต้องมาเล่นในห้อง”
    ฉันถามอย่างโกรธจัด แต่มือยังคลำป้อยอยู่ที่หน้าผาก เจ็บจนน้ำตาแทบร่วง

    “ไหนดูซิโดนตรงไหน” เขาดึงมือฉันออกแล้วก้มลงมามองใกล้ๆ
    “โอ้โฮ! แดงเลย แต่คงไม่เป็นอะไรมากมั้ง หัวแข็งไม่ใช่เหรอเธอนะ”
    “ยังจะมาพูดดีอีก นายเตะบอลโดนฉันหลายทีแล้วนะแทน”

    แทนเขาเป็นเพื่อนอยู่ห้องเดียวกันกันฉัน จำได้ว่าตั้งแต่ ม. 4 – ม.6 เขาเป็นคนที่มีน้ำใจ ขยันเรียนเสียด้วย ฉันจึงติวหนังสือกับเขาอยู่บ่อยๆ ก็เลยสนิทกัน แต่มาช่วงหลังๆ นี้ไม่ค่อยได้คุยกันมากนัก ได้ข่าวมาว่าเขาไปปิ้งเพื่อนหญิงต่างห้องคนหนึ่งชื่อมล ก็เลยห่างๆ กันไปบ้าง

    “นี่ถ้าเธอหัวไม่เถิกขนาดนี้ คงไม่โดนจังๆ แบบนี้แน่ แต่เราว่าลูกบอลมันน่าจะแฉลบออกไปมากกว่านะ”
    ได้ยินคำล้อเลียนนั่น ทำให้อารมณ์เริ่มถึงจุดเดือด เขาคงพอจะเดาอารมณ์ฉันถูก เลยรีบพูดเอาใจ

    “ไป ลุกขึ้น เดี๋ยวจะพาไปทายาที่ห้องพยาบาล” เขาช่วยพยุง
    “แล้วทำไมเสื้อผ้ามันเปียกอย่างนี้ละ ไปตกน้ำ ตกท่านี่ไหนมา” เขาจับตัวฉันหมุนไปหมุนมา
    “ตกบ้าตกบอที่ไหน ฉันกำลังจะวิ่งขึ้นรถเมล์ฝนก็เทลงมา รถก็จอดเลยป้ายไปตั้งไกล กว่าจะวิ่งขึ้นรถได้ ก็เปียกโชกเลย ลงรถมาก็มีแต่คนมอง”

    เขาทำหน้ากลั้นหัวเราะ ทำทีเป็นชะโงกหน้าออกไปมองหน้าต่าง
    ไม่เห็นมีฝนตกลงมาซักกะแหมะ มิน่าคนถึงได้มอง
    “มานั่งตรงนี้ก่อน แดดมันส่องจะได้แห้งไวๆ เดี๋ยวไปเอายามาให้”
    “ไม่ต้อง ฉันมี”
    “นี่พกติดตัวเลยเหรอเนี่ย เชื่อแล้วว่าเจ็บตัวบ่อย” พูดไม่พอ ยังหัวเราะเสียดังลั่น
    “ขอโทษอีกทีแล้วกัน แม่เหม่งแดง” แล้วเขาก็เดินฉุยฉายไปเล่นฟุตบอลต่อ
    อยากจะเข้าไปซัดสักเปรี้ยงจริงๆ ให้ตายเถอะ
    ...........................................................

    “เป็นอะไรไปฟ้า นั่งหน้าหงิกแต่เช้าเชียว”
    เบียร์ หนึ่งในเพื่อนสนิทของฉันถามขึ้นเมื่อมาถึงห้องเรียน
    “ไม่ให้หงิกได้ไง เช้ามาก็เจอฝนกระหน่ำใส่จนเปียก พอมาถึงยังไม่ทันจะเข้าห้องเลย นายแทนก็เตะบอลเสยแสกหน้าฉันเข้าให้”
    ฉันเล่าให้เพื่อนฟังอย่างสุดแสนจะแค้นใจในความซวยของตัวเอง

    “แทนคงไม่ได้ตั้งใจหรอกมั้ง” เบียร์แก้แทนเสียงอ่อน
    “รู้ว่าไม่ได้ตั้งใจ พออภัยได้ แต่มาว่าฉันหัวเถิกอย่างงี้ เหม่งแดงอย่างงั้น ไม่ให้โมโหได้ไง”
    “แหมแทนเขาล้อเล่นน่า ดีเสียอีกแทนเขาไม่ค่อยพูดเล่นกับใครเหมือนฟ้าเลยนะ” คนพูดทำหน้าจ๋อยๆ แฮะ
    “นี่ถามจริง แกชอบแทนใช่ไหม” ฉันกระซิบถาม จ้องตาเพื่อนเขม็ง
    “ว่าไงเล่า รีบตอบมาซี่”
    แล้วฉันก็ต้องกุมขมับ เมื่อเห็นเพื่อนพยักหน้ารับอายๆ

    “เฮ้อ เพื่อนชั้น แกก็รู้นี่หว่า ว่าแทนมันชอบมลอยู่”
    “รู้ แต่จะให้ทำยังไงก็ชอบไปแล้ว อีกอย่างแทนก็เป็นคนดีด้วยนะ”
    “ประทับใจตรงนี้ละซิ ไอ้น้ำใจงาม สุภาพบุรุษสุดยอดนี่ไม่เถียงหรอกนะ แถมความหล่อ เท่ ให้อีกด้วยเอ้า แต่ไอ้ปากมันนะซิที่เสีย ถ้าฉันเป็นผู้ชายได้ฟาดปากกันไปแล้วแน่เลย”
    “ก็เห็นร่ำๆ จะฟาดกันอยู่ทุกวัน แต่ไม่เห็นเคยโกรธกันจริงๆ สักที” เบียร์พูดล้อๆ

    มันก็จริงอย่างที่เบียร์ว่า ฉันกับแทนไม่เคยโกรธกันจริงๆ จังๆ สักที
    ..................................................................

    นานหลายเดือนทีเดียวที่ฉันสังเกตเห็นแทนดูขรึมไปมาก เริ่มซ้อมบอกหนักขึ้น หลังจากที่ได้ข่าวว่ามลมีแฟนใหม่ แถมยังเอาแฟนหุ่นขี้ยามาเย้ยหนุ่มนักกีฬาอย่างเพื่อนเราซะอีกด้วย ทั้งๆ ที่รู้ว่าแทนชอบตัวเอง

    ท่าทางรักใครรักจริงเสียด้วย อย่างนี้ต้องหาคนมาดามอกให้ จะได้หายบ้าเสียที
    ฉันวางแผนอยู่ในใจ แต่ต้องรู้ความจริงเสียก่อน และแล้วโอกาสก็มาถึง

    “แทน ถามอะไรอย่างได้ไหม ต้องตอบตรงไปตรงมาอย่างลูกผู้ชายเลยนะ”
    “จะถามอะไรก็ถามมา”

    ดูท่าอารมณ์จะไม่ค่อยดีแฮะ กล้าเข้าไว้ฟ้า เพื่อเพื่อนต้องกล้าไว้

    “นายยังชอบมลอยู่หรือเปล่า เอาความจริงนะ” ฉันย้ำ
    “เปล่า รู้สึกแบบเพื่อนธรรมดา”
    “จริงนะ” ฉันแทบจะกระโดดด้วยความดีใจ
    “จริง แล้วจะรู้ไปทำไม” คราวนี้เขาถามบ้างเล่นเอาอึ้ง เขาคงเห็นว่าฉันมีอาการดีใจเกินเหตุ
    “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก อยากรู้ก็เท่านั้นเอง”
    ว่าแล้วก็โกยอ้าวก่อนดีกว่า เดี๋ยวแผนจะแตกเสียก่อน

    เมื่อรู้เช่นนี้ฉันรีบนำความไปบอกเพื่อนรักทันที ทำให้เบียร์ยิ้มออก มีความหวังขึ้นมารำไร และฉันก็เริ่มแผนการต่อโดยการหาเรื่องชวนแทนให้มาคุยกับเบียร์มากที่สุด แต่ปรากฏว่าส่วนใหญ่ฉันจะเป็นคนพูดเสียมากกว่า

    หลังจากนั้นแทนดูจะอารมณ์ดีมากกว่าเก่า กลับเป็นคนร่าเริง พูดมาก แล้วก็ปากเสียเหมือนเดิม และเริ่มจะคุยกับเบียร์อย่างสนิทสนมมากขึ้น
    …………………………………………….

    “ฟ้ากลับบ้านกันเถอะ ห้าโมงกว่าแล้ว” เบียร์เตือนหลังจากที่เราอยู่จัดบอร์ดหลังห้องตอนเย็น
    “ยังไม่เสร็จเลย”
    “มาทำต่อพรุ่งนี้ก็ได้ เดี๋ยวก็ถึงบ้านค่ำหรอก” เบียร์ห่วงเพราะเห็นว่าฉันบ้านอยู่ไกล
    “อืม พรุ่งนี้มาแต่เช้าแล้วกันนะ”
    เก็บของเสร็จเรียบร้อย เดินออกจากห้องเจอแทนกำลังล้างหน้าอยู่ที่ก๊อกน้ำตรงสวนหย่อมหน้าตึกพอดี

    “แทนยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ ทำอะไรอยู่” ฉันตะโกนถาม
    “ซ้อมบอลอยู่ จะกลับอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว” เขาหยิบกระเป๋าเดินตรงมาหาเราสองคน
    “แล้วเธอสองคนทำอะไรอยู่ ป่านนี้ยังไม่กลับบ้านอีก” เขาถามเสียงเรียบ มือยังเสยผมเปียกๆ นั่นอยู่
    “จัดบอร์ดอยู่นะซิ ยังไม่เสร็จเลย พรุ่งนี้ต้องมาทำต่อแต่เช้า” ฉันบ่นเพราะไม่มีคนช่วย
    “เออแทน เดินกลับบ้านทางเดียวกันกับเบียร์ใช่ไหม ฝากไปส่งบ้านด้วยแล้วกัน เราไปนะ”

    ฉันหันไปโบกมือให้เพื่อนก่อนจะรีบเดินออกมา
    ...........................................................

    วันนี้ฉันรีบออกจากบ้านแต่เช้า เพื่อมาจัดบอร์ดต่อให้เสร็จ เดินเข้าห้องมาอย่างสบายอารมณ์ วันนี้ฝนไม่ตก ฉันเดินร้องเพลงอย่างสบายใจ โดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครอยู่ในห้องก่อนแล้ว พอวางกระเป๋าได้ก็เดินไปที่บอร์ดหลังห้องทันที แต่ก็ต้องตกใจ และแปลกใจเมื่อเห็นคนตัวสูงๆ นอนเหยียดยาวหลับสบายบนเก้าอี้ที่เอามาวางเรียงกัน

    แทนนอนเอามือกอดอก ขาไขว้กันไว้ เอียงหน้าน้อยๆ ลมเย็นๆ พัดเส้นผมเขาปลิวหว็อยๆ เคลียหน้าผาก ทีแรกฉันคิดจะทำเสียงดังๆ แกล้งให้เขาตกใจตื่น แต่เห็นท่าทางหลับสบายของเขาแล้วทำไม่ลง ฉันชะโงกหน้าเข้าไปมองหน้าเขาใกล้ๆ เพิ่งจะได้สังเกตวันนี้เองว่า แทนหล่อขึ้นมาก ฉันไม่ได้คิดไปคนเดียวหรอก เพื่อนหลายคนก็พูดกันอย่างนั้น

    “แทน” ฉันเรียก พร้อมกับเขย่าตัวเขาเบาๆ

    ไม่ตื่น เขาขมวดคิ้วเข้มๆ ทำเสียงฮือๆ อยู่ในคอ หันหน้าหนีไปอีกทาง
    ยังไม่ยอมตื่นอีก
    ฉันเลยดึงเอาขนไก่จากไม้ขนไก่หลังห้องมาแหย่หู แหย่จมูก
    “หมับ”
    เขาคว้ามือฉันไว้ แต่ฉันก็ยังตามแหย่จมูกเขาอยู่เมื่อเห็นเขายังไม่ยอมตื่น

    “ตื่นได้แล้วคนขี้เซา”
    “ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว โธ่ แกล้งกันจัง คนกำลังหลับสบาย”

    เขาลุกขึ้นนั่ง ฉันยังหัวเราะชอบใจที่แกล้งเขาได้ แต่พอเห็นสายตาแวววาวผิดปกติ ใจมันชักจะแกว่งๆ เลยรีบดึงมือออกจากมือเขา

    “ไม่อยากปลุกหรอกแต่นายขวางทาง ฉันจะจัดบอร์ด”
    “เดี๋ยวจะช่วย ฉุดขึ้นทีสิ” เขายื่นมือมาให้ ฉันจำใจช่วยดึงให้ลุกขึ้น
    “เมื่อวานได้ไปส่งเบียร์หรือเปล่า”
    “ก็เธอบอกให้ไปส่งก็ไปซิ แต่ไม่เชิงหรอกแค่เดินไปเป็นเพื่อนเฉยๆ มันทางผ่านอยู่แล้ว”
    เขาตอบเรื่อยๆ เหมือนมันไม่สำคัญ

    แหมเดินไปส่งกับเดินไปเป็นเพื่อนกันจะต่างกันสักแค่ไหนเชียว แค่นี้ต้องพูดให้ยาว แต่ฉันไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวจะหาว่ายัดเยียดให้มากเกินไป เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า
    “ทำไมนายมาเช้าจัง”
    “รีบมาทำการบ้าน เสร็จแล้วก็เลยหลับซะเลย”
    “งั้นก็ถอยไปได้แล้ว”
    “ให้เราช่วยไหมฟ้า”
    เอาอีกแล้ว ทำเสียงแบบนี้อีกแล้ว อย่าให้มันหวานนักก็ได้ ฉันละหวั่นจริงๆ

    “ดีเหมือนกัน งั้นนายไปหยิบแม็กซ์ในกระเป๋าฉันมาอีกอัน”

    “ฟ้าฟังเพลงแบบนี้ด้วยเหรอ ตัดกับบุคลิกลิบลับเลย”
    เขาชูตลับเทปเพลงป๊อบหวานซึ้งขึ้นมาจากกระเป๋าฉัน
    “ทำไม บุคลิกฉันเป็นยังไง” ฉันยืนท้าวเอวทำท่าเอาเรื่อง
    “ก็ไอ้บุคลิกอย่างนี้ไง ไม่น่าจะฟังเพลงซึ้งๆ กะเขาเป็น”
    ยัง ยังจะวิจารณ์ต่ออีก
    “โผงผาง ซุ่มซ่าม ขี้ลืม แต่ก็ชอบเถียงชอบอวดดีอีกต่างหาก”
    “ก็มีดีให้อวด จะทำไม”

    ฉันลุกขึ้นยืนหลังจากก้าวขึ้นไปยืนบนเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว แต่คงจะยืนเร็วไปหน่อย เลยเกิดอาการเสียหลัก เซถลาจนเกือบตกเก้าอีก แต่เขาเอื้อมมือมาจับไว้มัน
    “ก็แบบนี้แหล่ะ ที่เรียกว่าอวดดี”
    เขาพูดแล้วขึ้นมายืนบนเก้าอี้อีกตัวข้างๆ ฉัน เขาช่วยแปะรูปบนบอร์ดจนเสร็จ

    “เราขอยืมเทปไปฟังบ้างได้ไหมฟ้า” เขาพูดเสียงนุ่ม
    “ไม่ใช่ของเรา ของตุ๊กมัน” ตุ๊กเป็นเพื่อนสนิทของฉันอีกคน
    “ไม่ลงทุนเลยนะ”
    “ไม่ใช่ไม่ลงทุน เขาเรียกว่าประหยัดยะ จะซื้อก็เสียดายเงินบางม้วนมีเพลงเพราะแค่ไม่กี่เพลงเอง”
    “งั้นจะก๊อบปี้มาให้สักม้วนเอาไหม เราอัดจากวิทยุไว้หลายเพลงเหมือนกัน”
    “ก็ไม่ลงทุนเหมือนกันแหละน่า มาว่าแต่เขา”
    “จะเอาหรือเปล่า”
    “เอาซิของฟรี ใครไม่เอาก็โง่”
    “ก็ปากอย่างนี้ จะได้โดนดีสักวัน”
    “โดนอะไรดีละ” ฉันลอยหน้าลอยตาถาม
    เขาก้มหน้าลงมาใกล้จนเกือบชิด นัยน์ตาแพรวพราวเหมือนเมื่อตอนตื่นนอนเมื่อกี้นี้เลย
    “อยากรู้จริงๆ เหรอว่าโดนอะไรถึงจะดี”
    “บ้า”
    แล้วเขาก็หัวเราะเสียงดังอีกตามเคย
    ……………………………………….

    จากคุณ : Rain - [ วันฮาโลวีน 11:04:16 A:61.90.72.137 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป