หวัดดีค่ะ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาล่ะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้มั้ง
ไปนั่งเล่นที่บ้านเพื่อนพักนึง แล้วก็เกิดอาการหน้ามืดขึ้นมา
เหมือนจะเป็นลม เพื่อน ๆ เลยพาส่ง โรงหมอ
พอไปถึง รพ. นะ พยาบาลก็เข้ามาพันหน้าพันหลัง
จับตรวจนู่น ตรวจนี่ เจาะเลือดเอย วัดความดันเอย ส่องหูเอย ให้เราแลบลิ้น ปลิ้นตาเอย ล่อ แล่ ล่อ แล่ ..สรุปว่าหาสาเหตุไม่พบ..เราก็ดีใจที่ตัวเราเองมะเป็นไร แต่
เอ
ทำไมยังรู้สึก หน้ามืด หวิว ๆ อยู่หว่า?.. แล้วหมอก็บอกว่า อาการแบบนี้สงสัย สมองจะมีปัญหา..
กรี๊ดดด
แต๋วแตกเลยอ่ะ
ตะกี๊หมอบอกว่าสมองเหรอ? ไอ้อวัยวะ เป็นก้อน ๆ ขยุก ขยิก กอดกันกลม ที่นอนฝังกายา ซุกอยู่ในห้องสูธสุดหรู รูปหัวเรา เงียบ ๆ ไม่รบกวนใคร ร้อยวันพันปี ไม่เคยบ่นว่าหิว เนี่ยนะ ..กำลังป่วยอยู่เหรอ ..ตายละวา..อยู่ซะเงียบเกิน ป่วยทีเลยไม่มีใครดูแลเลยดูดิ๊ (วันหลังจะควักออกมา พาเข้าสังคมมั่งนะ)
อยากร้องไห้หาแม่จังเลย
แต่แม่ไม่อยู่ ไปทำบุญที่นครพนม
เราก็เลยถามหมอว่า แล้วอย่างนี้ต้องทำยังไง..หมอบอกให้เรานอนที่ รพ. อาการหน้ามืดโดยหาสาเหตุไม่พบเนี่ย ไม่น่าไว้ใจ
โอยย..เราละ โครตมึนเลยอ่ะ
ไม่ใช่มึนอะไรหรอกนะ
ที่มึนก็เพราะว่า ไอ้ รพ. เนี่ย มันเป็น ของเอกชน ซึ่งแปลว่า ไม่ใช่รัฐบาล
มันต้องแพงมาก แน่ ๆ เลย ฮือ ฮือ ยิ่งใกล้สิ้นเดือนอยู่ด้วย โอยย
ใจจะขาด โถถถ
อนาจแท้ เมื่อเย็น ยังต้มมาม่า ซองละ 5 บาท กินอยู่เลย
ไหงตกดึก ต้องมานอน รพ. โรงละแพง แบบนี้ด้วยว๊า
เราถามหมอว่า จะต้องทำอะไร กะสมอง รอยหยักน้อย ๆ ของเรามั่ง..หมอตอบว่า ไม่รู้ ไม่แน่ใจ จ๊ากกกก มะรู้ได้ไง
เค้าบอกว่าเค้าไม่ชำนาญด้านสมอง
แล้วคุณหมอที่ชำนาญด้านสมอง ไม่อยู่.. เราก็ งง งง หมายความว่าไง
เราก็เลยถามหมอว่า ถ้าหมอคนนั้นเค้าไม่อยู่เนี่ย แล้วเกิดมีคนไข้ฉุกเฉิน ต้องผ่าสมองด่วน ไม่ต้องปล่อยให้ตายเหรอคะ? เราทำตาปริบ ปริบ เหมือนน่ารัก และแล้วเราก็คิดได้ (เวรกรรม!! ปากพาเข้า ICU แล้วไง? จริงด้วยนะ สมองเรารอยหยักน้อยจริง ๆ ด้วย) หมอคนนั้นหันมายิ้มตอบเรา แต่เราว่ามันดู หยอง ๆ นะ..แล้วหมอคนนั้นก็พูดขึ้นว่า
จะลองผ่า ดูไหมล่ะ ..
จุกอ่ะ ..อึ้งอ่ะ..ยอกย้อน ยอกย้อน
ธรรมดาไม่เคยยอมใครนะเนี่ย
จริง จริงแล้วนะ อย่างเราน่ะ กลัว แฮะ แฮะ
.แล้วเราก็เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างว่าง่าย แล้วขึ้นรถเข็นให้เค้าเข็นพาไปห้องพัก..นั่งไป นั่งมา..เออ หนุกดีแฮะ..จริง ๆ แล้ว หมอเค้าอธิบายให้เราฟังว่า ถ้าหากมีคนไข้ต้องผ่าฉุกเฉินจริง ๆ เนี่ย เค้าสามารถโทรตามได้ตลอด 24 ชม. แหละ แต่ของเราเนี่ย มันไม่ฉุกเฉิน แต่ฉุกละหุก เพราะเพื่อน ๆ ขนกันมาเกือบสิบ
เนี่ยถ้าใครไม่รู้ต้องคิดว่า นักเลงยกพวกไปตีกันมาแน่เลย แต่ละตัว อย่างกะโจร..
เรานอนเสวยกรรม ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ อยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 2 วัน 3 คืนเต็ม ๆ มีสายน้ำเกลือจิ้มที่แขนด้วย..ไม่มีหมอมาตรวจเพราะเป็นวันหยุด (มั้ง
มะรู้) มีแต่นางพยาบาลคอยเดินมาดู
มาดูได้ มาดูดี เข้าใจน่าว่าเป็นโรงพยาบาลเอกชน
แต่ขอเป็นบุรุษพยาบาลบ้างได้มะ? (ผู้ชายน่ะ
ผู้ชาย) โอ้โห ..เรียกว่า ในยามหลับเราจะเห็นเธอคนนั้น ในชุดขาวเป็นคนสุดท้าย
ยืนยิ้มหวาน พร้อมกับคำราตรีสวัสดิ์ที่แสนอบอุ่น คุณ Rainny คะ
ขอเปลี่ยนน้ำเกลือหน่อยนะ
จึ้กก
.ชะอูย!!
ขอบคุณค่ะพี่ ไม่เป็นไรค่ะ
อย่าลืมทานยาก่อนนอนนะคะ
และทุก ทุกเช้า ที่เราลืมตาตื่น เราก็จะเห็นเธอคนนั้นในชุดขาว เป็นคนแรก (เพราะมันเข้ามาปลุก!!) ยืนยิ้มหวาน พร้อมกล่าวคำ อรุณสวัสดิ์อันแสนน่าร้ากกก
คุณ Rainny คะ เช้านี้ตื่นมาอึหรือยังคะ ? ..สีอะไรคะ? เธอถามพร้อมกับตั้งอกตั้งใจฟังคำตอบจากเรา (แง แง ใครก็ได้เอามันออกไปจากชีวิตเราที)
เราอยู่โรงพยาบาลไปวัน ๆ ไร้ค่า ไม่มีอะไรทำ เค้าไม่ให้เราเดินไปไหนไกล ๆ เพราะกลัวเราหน้ามืดอีก เพราะกว่าหมอจะมาตรวจเราก็ นู่น วันอังคารเข้านั่น ค่ะ พอดีกัน เราก็ต้องทำงานนะ
ตอนเรานอนอยู่ที่เตียง เราไม่มีอะไรทำ เราก็นอนคุยกะเตียงข้าง ๆ ลุง ลุง อยากให้หนูช่วยทำอะไร บ้างไหม? ลุงที่นอนข้าง ๆ เราเค้าเป็นอะไรเราไม่รู้หรอก รู้แต่ว่า เค้าเป็นชายคนเดียวที่นอนข้าง ๆ เรา (สัปดนจัง) เค้ามองเราตาแข็ง ๆ แล้วพูดว่า ช่วยตัดเล็บให้หน่อยได้ไหม? ได้สิคะ
เดี๋ยวจัดให้ เราเดินลากถุงน้ำเกลือไปแขวนไว้ข้าง ๆ กับถุงของลุงแก เอาเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ แล้วเราก็จับมือลุงแก มาเพื่อจะตัดเล็บ เราหยิบกรรไกรตัดเล็บ บรรจงตัดเล็บแกอย่างเบามือ พอตัดเล็บเสร็จไปข้างนึง เราก็จะย้ายไปตัดอีกข้างนึง (อ้ะ อ้ะ!! ..อย่าลืมเอาถุงน้ำเกลือ เพื่อนยากไปด้วย) เราเดินไปหยิบถุงน้ำเกลือ จะเอาไปแขวนไว้กะเสาของเรา แล้วค่อยลากไปตัดเล็บอีกข้างให้แก
ในใจก็คิด เมื่อไหร่ เค้าจะเอาข้าวเย็นมาให้กินเนี่ย ..
เรารู้สึกเจ็บแปล๊บบ
ที่แขนขวา มีบางอย่างอุ่น ๆ ไหลมาจากแขนเรา ตอนแรกอุ่น พอมันไหลไปเรื่อย ๆ มันเริ่มเย็น เรายกแขนเราขึ้นมาดู เลือดนี่หว่า !! อ้าว
แล้วสายน้ำเกลือเราไปไหนแล้ว ตอนนี้เริ่มมีอาการแสบแผลมานิด ๆ เลือดไหลไม่หยุด แต่ไม่มาก เราเริ่มมองหาเข็มน้ำเกลือของเรา เราก็ไม่ได้เหยียบนี่หว่า..แล้วมันหลุดได้ไงวะ..เรามองหาย้อนไปเรื่อย ๆ
และแล้ว
.เฮ้ยยย!! เราตกใจสุดฤิทธิ์ เมื่อเห็นสายน้ำเกลือ พร้อมเข็มของเรา อยู่ในกำมือของลุงคนนั้น ลุงมองมาที่เราตาแข็ง ๆ (หนอย
อุตส่าห์ตัดเล็บให้นะ..เดี๋ยวสวย) สักพักแกบอกว่า สายน้ำเกลืออยู่นี่ หนูรู้แล้ว
แล้วลุงมาดึงไว้ทำไม มันเจ็บนะเนี่ย เราพูดพลางกดออดเรียกพยาบาล ลุงก็มองเราตาแข็ง ๆ อีก แล้วตอบว่า ขอโทษ..ไม่ตั้งใจ
เราโมโหจริง ๆ นะ แต่เห็นว่าแกแก่แล้ว เลยไม่อยากเถียงอะไรมาก
สักพัก พยาบาลก็เดินเข้ามาในห้อง เห็นเลือดเราไหล ก็ถามว่า ทำอะไรคะเนี่ย ก็ลุงคนนี้สิพี่..อยู่ ดี ๆ ก็มาดึงสายน้ำเกลือเค้า อย่าถือสาลุงแกเลยค่ะ.. แกไม่เต็มเหรอพี่ ม่ายช่ายย..ค่ะ
เฮ้อ (คุณ Rainny นี่ โง่จัง) พยาบาลคนโปรดของเรา ปฏิเสธแทนลุงแก พร้อมกับทำแผลให้เรา และแทงสายน้ำเกลือใหม่ สมองลุง เค้ามันไม่ค่อยดีแล้ว สั่งงานช้ากว่าปกติ จะทำอะไรทีก็ต้องประมวลผลนาน เราหันไปมองแก แกมองหน้าเราตาแข็งๆ แล้วบอกว่า เมื่อกี๊
จะช่วยจับให้สายน้ำเกลือไม่ให้พันกับของผม แต่อยู่ ๆ มือมันก็ค้าง กำ แล้ว แบไม่ได้..ขอโทษจริง ๆ ไม่เป็นไรค่ะ..หนูเข้าใจแล้ว เราพูดจบลุงแกก็แข็งไปอีก ..เออ..ดู ดูไป เหมือนหุ่นยนต์แฮะ
วันสุดท้ายที่เราอยู่โรงพยาบาล หัวใจเราลิงโลดเป็นที่สุด
.อิสระ เราจะมีอิสระแล้ว
เรารีบลุกมาอึแต่เช้า แล้วก็ไม่ลืมที่จะสังเกตุ เชดสี..แล้วเราก็มานอนรอ แม่ยอดยาหยีในชุดขาวของเรามาปลุก
แอ๊ดดด..เสียงประตูค่อย ๆ เปิดเข้ามาแบบเกรงใจ
เงียบบ และ เบา
มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาที่เตียง
ฮิ ฮิ คงไม่รู้ว่าเราตื่นแล้ว หัวใจเราเต้นแรงมาก ๆ เหมือนเด็ก ๆ (มะรู้จะตื่นเต้นทำไม) สักพักนะมือเย็น ๆ นั่น จะค่อย ๆ ยื่นมาแตะตัวเรา เป็นการปลุกที่มีคลาส
เธอจะปลุกเราแบบนี้ทุกเช้า (เหมือนอยู่มานาน) แต่เช้านี้จะไม่เหมือนทุกวัน
จังหวะที่เธอค่อย ๆ ยื่นมือมา เราก็กะระยะ ว่าใกล้จะถึงตัวเราแล้ว ใกล้แล้ว
ใกล้แล้ว!?!
แบร่ร่ร่
เราตะครุบมือเย็น ๆ ของเธอ ที่อยู่เวรมาทั้งคืนกลับไป พร้อมกับ แลบลิ้น ปลิ้นตา (นี่..ถ้าถือเข็มฉีดยามาด้วย เธอคงแทงเรามิดด้าม นี่แน่ะ..นี่แน่ะ
เด็กเปรต ..เด็กเปรต..จึ้ก
จึ้ก
จึ้ก) เธอกรี๊ดดด ด้วยความตกใจ แต่เชื่อไหม
ว่าตกใจจนหน้าซีดเป็นเผือกแบบเนี้ย
มืออีกข้างก็ยังกอดแฟ้ม รายงานการอึไว้แน่น
เราหนุกหนานมาก โดยไม่ได้รุ้เล้ยยย
ว่ามีสายตาอาฆาตมองเราอยู่ข้าง ๆ
ก็เราเล่นทำให้อีก 2 เตียง ที่กำลังหลับอยู่ตื่นไปด้วยเลย ท่าทางเราได้ย้ายห้องไป ICU จริง ๆ แน่
เราไปจ่ายค่ารักษา เห็นราคาแล้วอยากป่วยต่อ แพงม้ากกกก
.เราไปรับใบนัดตรวจสมอง แล้วก็กลับห้องซักที..เฮ้อ
ขอบคุณที่ทนอ่านนะคะ
จากคุณ :
BOOTH_FON
- [
3 พ.ย. 48 16:23:27
]