ใต้เงาตะวันที่ฉันมีเธอ (Under The Sun)
By:สายลมอิสระ
ตอนที่ 4
รถชอปเปอรคันใหญ่ตัวถังเพนท์รูปผีเสื้อปีกสีน้ำเงินสดสีเดียวกับท้องทะเล เจ้าของขับเรียบริมชายหาด ปล่อยผมยาวให้พลิ้วไหวไปกับสายลม และสูดกลิ่นอายบริสุทธ์จากทะเล รู้สึกดีใจที่ตัวเองเลือกที่จะมาเมืองนี้ตามคำชวนของโก้เพื่อนสนิทเจ้าของบ้านพักตากอากาศชั้นดีที่อาศัยอยู่ และนายโอ่งคนรูปร่างเล็กแต่ฝีมือการตีกลองไม่ได้จิ๊บจ๊อยอย่างที่ใครๆคาดเดา ส่วนคนอื่นๆเขารู้จักเพียงผิวเผิน ถึงแม้หนุ่มเจ้าสำราญอย่างโก้ดูเหมือนเสเพลบอยมากไปหน่อย แต่ความจริงเขาก็เป็นคนรักเพื่อนมากคนหนึ่ง ไม่ต่างจากโอ่งนักแต่เพราะเขาเลือกที่เล่นที่จะอยู่กับเสียงเพลงและการเดินทาง ทั้ง3จึงรวมตัวกันอยู่ได้
และเหมือนการรอคอยมาถึงที่สุด วันที่เขาไม่คิดว่าจะมีก็มาถึง คนที่หัวใจเฝ้าพร่ำโหยหาตลอดเวลามาอยู่ตรงหน้า
ถึงแม้ว่าจะดูเธอเปลี่ยนไปบ้าง แต่ดวงตาเธอยังอบอุ่น
.ดวงตาที่อบอุ่น อ่อนโยน ดวงตาของนางฟ้า
.
บิลลี่หัวเลาะออกมาเบาๆ กับความคิดเข้าใจตัวเอง หากมีใครสังเกตจะเห็นหนุ่มผมยาวคนนี้ยิ้มและหัวเราะคนเดียวได้ เพราะหัวใจเขาไม่เปล่าเปลี่ยวอีกแล้วนับจากนาทีนี้ไป นางฟ้าปีกบางอ่อนใจมาเกาะกุมหัวใจของเขาอีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้เธอขยับปีกบินหนีหายไปไหน เหมือนเมื่อ3ปีก่อน แม้ว่าเขาจะทำให้เธอเจ็บก็ตาม บิลลี่ตัดสินใจจอดรถไว้ที่หน้าร้านขายของชำเล็กๆร้านหนึ่ง ซื้อเบียร์กระป๋องมานั่งดื่มที่เบาะรถ ยกกระป๋องขึ้นดื่มดับกระหาย ถ้าเวลาคนของหัวใจของเขามาเห็นคงต้องดุ
ว่าเขาแน่ๆ ครั้งหนึ่งที่เขาสัญญาว่าจะเลิกบุหรี่ก็ใช้เวลานานหลายเดือน แต่ก็คุ้มค่ากับการพยายามที่มีคนดีเป็นกำลังใจ
เบียร์กระป๋องถูกกระดกดื่มเป็นครั้งสุดท้าย แต่น้ำของมันยังไม่ทันผ่านลงคอก็ต้องสำลักออกมาก่อน เพราะแรงบางสิ่งมากระทบที่ท้ายทอยของเขาอย่างแรง แต่บิลลี่ก็ยังพยุงตัวเองได้และหันกลับไปมองตามแรงที่เหวี่ยงมา ผู้ชายตัวโตหลายคนกำลังล้อมเขาอยู่ จำได้ว่าเจอที่โอเอซิสผับเมื่อครั้งที่เขาและเพื่อนพากันยึดเวทีในคืนนั้น
ทักทายกันแรงไปหน่อยรึเปล่า บิลลี่ร้องทักนวดต้นคอตัวเองพลางมองดูแต่คนมีไม้ท่อนหรือเหล็กขนาดเหมาะมือถือไว้เกือบทุกคน
น้อยไป คนตัวโตสุดเอ่ยขึ้น คิดทำซ่าผิดที่หรือเปล่า ที่นี่ถิ่นใครให้เกียรติบ้าง
ไม่ได้ติดป้ายแขวนคอประกาศไว้ละว่าถิ่นนี้ของใคร
บิลลี่กวนกลับบ้างแต่ก็ถูกหมัดหนักๆชกเข้าที่ปากเสียก่อน เขาจะโต้ตอบแต่แขนสองข้างก็ถูกล๊อกไว้ไม่ให้ขยับตัวไปไหนได้
ปากดีนักนะ พวกเราจะทำให้ไม่ได้ส่งเสียงหอนอีกเลย
ก่อนที่คนพูดจะเข้าถึงตัว บิลลี่ก็ยกเท้ายันไว้ก่อน แล้วออกแรงสะบัดแขนให้เป็นอิสระ แต่ก็หลุดออกได้ข้างเดียว บิลลี่ซัดหมัดหนักๆกลับเข้าที่คนล๊อกแขนเข้าไว้ และตัวเองก็ถูกถีบจนตัวเองล้มคว่ำที่พื้น เท้าใครหลายคนเตรียมยกจะซ้ำเติม
ทางนี้คะคุณตำรวจ มีคนตีกันทางนี้ค่ะ เสียงหวาน ๆตะโกนโวยวายลั่น ทำเอาคาที่เป็นฝ่ายรุมรีบเผ่นกันหมด คนเจ็บยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งจะหนีบ้างแต่มือเล็กๆก็ดึงแขนเขาไว้ก่อน
เป็นอะไรมากหรือเปล่า มะปรางทรุดตัวลงนั่นกับพื้น เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อมาเช็ดคราบเลอะเถอะที่ใบหน้าลูกครึ่ง ของคนหนุ่มผมยาวที่วางสายตาที่ตัวเธอตาไม่กระพริบ
ไม่มีตำรวจหรอก มะปรางตะโกนไปงั้นแหล่ะ เธอเอ่ยค่อยๆเกลี่ยเส้นผมที่ลงมาปรกหน้าให้กลับเข้าที่เช้าทาง หน้าขาวๆมีรอยช้ำเต็มไปหมดจนเธอรู้สึกเป็นห่วงมากมาย
มะปราง เขาเรียกชื่อเธอเหมือนละเมอ..เพียงแค่เห็นว่าเธอยังห่วงใยเขาเหมือนเดิม..เพียงแข้นี้เขาก็พอใจแล้ว แต่ก็อดคว้าร่างของเธอเข้ามากอดไม่ได้..เหมือนความโหยหาสั่งใจให้ทำจนหญิงสาวสะดุ้ง แต่ก็มองเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน
เฮ้ย..บิลลี่ เสียงเรียกดังขึ้นเมื่อรถสปอร์ตเฟอรารี่สีดำสนิทจอดนิ่งแล้ว คนขับรีบลงมาดูอาการของเพื่อนที่เผลอหลับในอ้อมกอดของหญิงสาวสวมแว่นกรอบหนาสีดำคนหนึ่ง
ภายในห้องสีขาวสะอาดตา มีโต๊ะเปียโนตั้งเด่นอยู่มุมหนึ่งของห้องซึ่งสามารถมองออกไปไกลเห็นทะเลที่กว้างไกลสุดสายตา สายลมหลังพระอาทิตย์จูบลาท้องฟ้าค่อนข้างเย็น ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีและนกนางนวลกลับรัง
มียาล้างแผล สำลี ยาแดงหรือยาเหลืองบ้างมั้ย มะปรางถามเมื่อเช็ดตัวคนเจ็บเสร็จแล้ว เจ้าของบ้านรีบยกกล่องยามาให้ และนั่งดูหญิงสาวแปลกหน้าทำแผลให้กับเพื่อนผมยาว
ไอ้ตัวนี้มันชื่ออะไรเหรอ โอ่งถามพลางหิ้วคอเจ้ากระรอกน้อยออกมาจากตระกร้า
เรียกซนก็ได้ เธอตอบตะกุกตะกัก แต่ก็ทำแผลให้กับคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่
ชำนาญจังฮะ โก้เอ่ยชวนคุยเมื่อรู้สึกถึงความเงียบที่ปกคลุมอยู่รอบตัว
ไม่หรอกค่ะ เคยชินมากกว่า เธอไม่ได้หันมาพูดกับเจ้าของบ้าน จนเมื่อแผลสุดท้ายเสร็จ จะลุกขึ้นออกจากห้อง แต่ก็ไปไม่ได้
ฝากดูแลเพื่อนผมด้วยนะฮะ ส่วนซนจะเลี้ยงให้แทนก็แล้วกัน โก้ยิ้มอย่างรู้ทันและสะกิดเพื่อนตัวเล็กกว่าให้ออกมาจากห้องพร้อมกระรอกตขนสีน้ำตาลแซมขาว
มะปรางได้แต่ยิ้มเจื่อนอยากเรียกทุกคนให้อยู่ก่อน แต่ก็ไม่มีใครอยู่ในห้องนี้แล้ว นอกจากคนเจ้าเล่ห์ ที่ยึดข้อมือเธอไว้ ไม่ให้ลุกจากไปทั้งๆที่ดวงตาปิดสนิท
สำออย เธอว่าแล้วทุบต้นขาเธอเบาๆ แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายลืมตาขึ้นมาได้
เจ็บจริงนะฮะ เขาอ้อนทั้งน้ำเสียงและดวงตาจนคนฟังวูบไหว ถ้าไม่ได้มะปรางช่วยคงแย่
ดีนะที่แผลไม่ลึกมาก
แต่ปวดนะฮะ ปวดมากด้วย เขาว่าแล้วขยับตัวมานอนหนุนตักของเธอโอบเอวเธอไว้หลวมๆ มือซนๆดึงผ้ารัดผมออกให้ผมยาวได้สยายเป็นอิสระ
เห็นไหม
ไว้ผมยาวแล้วมะปรางเหมือน..เหมือน..
เหมือนอะไรบอกมาน่ะ เธอคาดคั้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตาเจ้าเล่ห์
เหมือน..นางฟ้า ผมเห็นนะ มะปรางมีปีกใสๆที่กลางหลัง มีปีกที่อบอุ่นดวงตาที่อ่อนโยน ยาวนานเหลือเกิน..ที่ไม่ได้คิดว่าจะได้อยู่ใต้ปีกของคุณ..ที่จะช่วยปลุกหัวใจผมให้อ่อนนุ่มอีกครั้ง..
เสียงของเขาเลือนลอยอยู่ในอากาศ แต่ตรึงใจคนฟัง นานแล้วเช่นกันที่เธอทรมานตัวเองโดยการหลบหนีเขามาอยู่เสียไกล คราวนี้เขาหลับจริงๆ เธอลูบผมเขาเล่นเบาๆราวกับกลัวเขาจะตื่นและเธอเองก็ไม่กล้าปลุกด้วย..
แสงตะวันสาดส่องเข้ามาถึงห้องนอนของคนหนุ่มที่มีโต๊ะเปียโนตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง คนที่นอนหลับค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมารับวันใหม่
อรุณสวัสดิ์ฮะ เสียงคุ้นๆทักทายพร้อมกับก้มหน้าลงมาใกล้ๆคนที่เพื่งตื่นนอน
หลับสบายมั้ยฮะ เขาถอยตัวแล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ มือวางที่คีย์เปียโน
มะปรางสะดุ้งตื่นแล้วรีบลุกขึ้นจากเตียง เธอไม่รู้ว่าเผลอหลับไปเมื่อไหร่ รู้สึกแต่อบอุ่น คงเพราะจากผ้าห่มที่คลุมร่างเธออยู่ แต่คำถามของเธอก็ถูกลบจางหายไปเมื่อเสียงเปียโนบรรเลงพลิ้วในสายลมเป็นท่วงทำนองน่าฟัง แม้คืนที่ผ่านมาเขาบอบช้ำมากแต่ก็ชำนาญในการวางมือลงบนคีย์เปียโนได้อย่างไพเราะ จนจบเพลงเธอถึงรู้สึกตัวอีกครั้ง
มะปรางจะกลับแล้ว
จะกลับแล้วเหรอฮะ เขาถามน้ำเสียงราวกับจะขอร้องให้เธออยู่ต่อ แต่เธอก็ใจแข็งพอที่จะปฏิเสธ
มะปรางต้องไปทำงานพิเศษตอน 9 โมงเช้า เธอจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางและหยิบหวีจะหวีผม แต่มือของเขาก็จัดการให้แทน นุ่มนวลแผ่วเบา
ที่ผ่านมา..บิลลี่สบายดีเหรอ เธอเอ่ยถาม มือที่หวีผมชะงักแต่ก็คลี่ยิ้มปลื้มกับคำถามของเธอ
หลังจากวันนั้น ไม่มีวันไหน ไม่มีคืนไหนที่หลับแล้วเป็นสุขเท่าเมื่อคืน
เรื่องเรียนล่ะ เธอยังคงอาทรเขาเสมอ
ใกล้ถึงฝั่งแล้วฮะ
พยายามเข้านะ เธอพยายามเลี่ยงคำถามที่คิดว่าจะสะเทือนใจเขาด้วย
มะปรางเดินออกมาจากห้องนอนของเขา แต่ก็ต้องฉงนกับภาพวุ่นวายตรงหน้า เจ้ากระรอกตัวซนกำลังป่วนวุ่นวายไปหมด ทั้งคนหนุ่มเจ้าของบ้านและคนร่างเล็กวิ่งไล่จับเจ้ากระรอกกันใหญ่
เรียกมันมากินข้าวมันไม่ยอมมาเลย โอ่งเอ่ยพร้อมกับหยุดหอบ หลังจากวิ่งมาหลายรอบแล้ว มะปรางตีสีหน้าไม่ถูก เจ้าขนสีน้ำตาลกระโดดไปเกาะผ้าม่านลูกไม้อยู่
เดี๋ยวไปส่งมั้ยมะปราง บิลลี่เดินตามมาที่หลังถามไม่ได้สังเกตเหตุการณ์ทั้งหมด
ไม่ต้องหรอกคะ พักผ่อนเถอะบิลลี่ เธอเอ่ยบอกกับคนร่างสูงผมยาวสีน้ำตาลเข้ม แต่กระรอกตัวจ้อยได้จิ๋วรีบโผมากอดมะปรางทำเอาคนที่วิ่งไล่มองงงๆ เพราะเขาเรียกยังไงก็ไม่ยอมลงจนเมื่อ
กลับนะคะ มะปรางหมุนตัวออกจากห้องไปแล้ว แต่เพื่อนทั้งสองเพิ่งนึกอะไรบางเรื่องออก
แน่ใจว่าเธอเกลียดนายเหรอ ขนาดตั้งชื่อกระรอกเป็นชื่อเดียวกับนายเลยนะ มิน่าหละเราเรียกยังไงก็ไม่ยอมลงมาหา
บิลลี่ยิ้มกว้าง แต่ก็เจ็บที่มุมปาก ขอให้แผลหายเสียก่อน แล้วจะลองกลับไปทวงความรู้สึกบางอย่างคืน...
มะปรางชะงักเท้าเมื่อเห็นคูณมายืนรออยู่หน้าหอ เขายืนกระสับกระส่ายไปมาท่าทางร้อนรน แต่เมื่อหันมาพบเธอก็ยิ้มแล้วหันตรงมาทางเธอ
มะปรางไปไหนมาครับ..เมื่อคืนคูณโทรหาทั้งคืนไม่มีคนรับสาย คูณเป็นห่วง
มะปรางค้างบ้านเพื่อนค่ะ เธอตอบแล้วก้มหน้าเดินเข้ามาที่หอพักจะขึ้นห้อง แต่คูณก็ยังตาม
มะปรางไม่เคยไปค้างกับเพื่อนที่ไหนไม่ใช่เหรอ คำถามนั้นเหมือนคาดคั้นจนคนพังหงุดหงิดหันไปสบตาด้วยสายตาขุ่นเคือง เขาทำเหมือนเป็นเจ้าของเธอ
มะปรางรู้ว่าคูณเป็นห่วง แต่บางเรื่องก็ส่วนตัวนะค่ะคูณ เธอว่ากับเสียงเข้มหันหลังให้ไม่คิดแม้จะเหลียวมอง
คูณสูดลมหายใจลึกๆสะกดอารมณ์ตัวเองที่เดือดพล่าน เธอไม่เคยเป็นแบบนี้เลยตั้งแต่วันนั้น...วันที่กลับมาจากโอเอซิสผับ..
อยากรู้เหรอว่าแฟนไปไหนมาทั้งคืน
ประโยคคำถามดังมาจากด้านหลัง คูณหันกลับไปมองทางต้นเสียง เขาไม่รู้ว่ามีคนกลุ่มนี้มายืนอยู่เมื่อไร รู้แต่คนที่พุดเป็นรุ่นพี่ปี4ที่มหาลัยเดียวกับเขา และเป็นคนดังมากในแง่ลบมากกว่า และเป็นนักร้องนำวงหนึ่งที่น้องณากรี๊ดมากทีเดียว
...............
อ่านต่อ
จากคุณ :
สายลมอิสระ
- [
3 พ.ย. 48 18:41:27
]