นักปล้นธนาคาร
วันนี้แล้วที่ผมจะปล้นธนาคาร รู้สึกตื่นเต้นอย่างไรบอกไม่ถูก เหมือนกับก่อนไปโรงเรียนวันแรกนั่นแหละ แต่คราวนี้ไม่มีพ่อมีเพื่อนไม่มีพี่ไปส่งหรือมาเล่นด้วย
งานนี้ผมต้องเล่นคนเดียว...
ผมเดินไปเรื่อยๆ เมื่อถึงธนาคาร ผมผลักบานประตูเข้าไป พนักงานสาวที่โต๊ะถามว่า มาทำอะไรคะ ผมบอกว่าผมมาปล้นธนาคาร ท่าทางเธอไม่ได้ช๊อกเสียสติอะไรเหมือนในหนัง เธอถามว่าแล้วมีปืนมาปล้นหรือเปล่า ผมบอกว่าไม่มี เธอบอกว่าหากไม่มีปืนก็เชิญไปเบิกปืนได้ที่แผนกเบิกปืนได้เลย แล้วเธอก็ให้ใบเบิกปืนกับผม ผมยิ้มกล่าวขอบใจเธอ เธอบอกว่าไม่เป็นไร มันเป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าคนที่นี่เป็นคนใจดี
ผมถือบัตรเดินไปยังแผนกปืนซึ่งอยู่ทางซ้าย ผมได้จุดสามแปดมาหนึ่งกระบอกพร้อมกระสุนสองชุด พนักงานสาวบอกว่าเผื่อผมใช้กระสุนชุดแรกหมดในการยิงผู้คนรวมทั้งยามธนาคาร อีกชุดผมจะได้มีไว้ต่อสู้กับตำรวจผู้จะมาล้อมจับผมข้างนอกเมื่อผมปล้นเสร็จ
ที่นี่ช่างรอบคอบจริงๆ ...
จากนั้นผมยืนคิดอยู่นานว่าผมจะปล้นใครก่อนดี ขณะที่ผมคิดก็บรรจุกระสุนไปด้วย เด็กชายอ้วนๆ คนหนึ่งเดินมาพร้อมกระปุกหมูตัวเบ้อเริ่ม ผมเอาปืนจี้เอวแก บอกให้แกทุบกระปุกหมูตัวนั้นกับพื้นแล้วกวาดเงินใส่กระเป๋าผมให้หมด แกหัวเราะจักจี้ที่ปืนผมจี้เอวแกอย่างนั้น จากนั้นก็ทุบกระปุกทำตามสั่ง พนักงานและผู้คนที่มาถอนมาฝากเงินพากันหัวเราะชอบใจเป็นการใหญ่ บอกว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กอารมณ์ดี ขนาดมีคนปล้นยังหัวเราะยิ้มได้ ทุกคนจัดการเตรียมเงินไว้ให้ผมปล้นทันที
"ต่อไปผมจะปล้นธนาคารแล้วนะครับ" ผมตะโกน
พนักงานทุกฝ่ายต่างไชโยโห่ร้องกันเป็นการใหญ่ ไม่มีใครปล้นธนาคารถึงสองเดือนเต็มๆ แล้ว พวกเขารู้สึกเบื่อหน่ายกับสภาพจำเจ ถอน-ฝาก ถอนฝากอย่างนี้เต็มทนแล้ว บางครั้งตัวผู้จัดการเองถึงกับต้องเอาผ้าปิดหน้าเป็นไอ้โม่งทำทีเป็นโจรมาปล้นเสียเอง แต่พนักงานกลับจำเข้าได้ แผนของเขาเลยล้มเหลว
การปล้นครั้งนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ
"คุณโจร...คุณโจร...ปล้นตรงนี้ก่อนสิคะ"
"คุณโจร...จะข่มขืนด้วยไหมคะ...วันนี้ฉันไม่มีเมนส์คะ ตามสบาย..."
ผมบอกไม่เป็นไร เมื่อเช้าผมสำเร็จความใคร่มาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นผมเริ่มปล้นที่พนักงานสาวหน้าตาขี้เหร่ที่สุดคนหนึ่งก่อน ท่าทางเธอตื่นเต้นดีใจมาก
"เขาปล้นเธอก่อนแน่ะ..." อีกคนกระทุ้งศอกเข้าที่สีข้างของเธอ
"รู้แล้ว...รู้แล้ว...แค่นี้ก็ปลื้มแทบแย่แล้ว" แล้วเธอก็หันมาพูดกับผม "จะเอา...เอ๊ย.....จะปล้นเท่าไหร่ดีคะ สองล้าน....สามล้านหรือสิบล้าน ถ้าเกินกว่านี้ต้องไปอีกโต๊ะนะคะ แล้วอีกอย่างคืนนี้ฉันว่างค่ะ ภัตตาคารซุเทียนซอยรางน้ำอาหารอร่อยนะคะ สนใจชวนฉันไปไหมค่ะ"
"ไม่ดอกครับ...ผมมีแฟนแล้ว นี่ว่าปล้นเสร็จก็จะไปเที่ยวสวนสยองกันไปดูไมเคิลแจ็คสันตัวปลอมโชว์สักหน่อย คราวที่แล้วตัวจริงมาแสดงเมืองไทยผมพลาดมิได้ดู ขอโทษนะครับ"
"ค่ะ...ไม่เป็นไรค่ะ ชินแล้วล่ะค่ะ" หน้าตาเธอจ๋อยลงไปหน่อยหนึ่ง จากนั้นก็นั่งลงทำงานต่อไป
"ต่อไปจะไปปล้นใครดีครับ" ยามคนหนึ่งเดินยิ้มเผล่เข้ามาถามผม
"แหม...มาดพี่นี่เหมือนโจรจริงเลยนะครับ แต่ผมว่าพี่ไม่น่าพูด 'ครับ' เลย ฟังดูไม่ขลังเท่าไหร่ น่าจะเป็นวะโว้ยหรืออะไรที่ดุดันกว่านี้หน่อย ดูสิ....ไม่มีใครกลัวพี่เลยสักคน"
สิ้นเสียงยาม ผมยิงปืนขี้นฟ้า (ทะลุเพดานห้อง) ทันที ทุกคนหมอบราบลงกับพื้น
"เขาเอาจริงแล้ว....เขาเอาจริงแล้ว....ตื่นเต้นจังเลย เหมือนในหนังเปี๊ยบเลย เธอว่าเขาจะเอาใครเป็นตัวประกันนะ...ฉันว่าน่าจะเป็นฉันนะเพราะฉันเป็นคนขวัญอ่อนและน่ารักเหมือนนางเอกหนังไทย เอ...แต่ใครจะเป็นคนมาช่วยฉันล่ะ ใครจะมาเป็นคนกดปุ่มขอความปลอดภัย โอ๊ย....เรื่องชักจะไปกันใหญ่แล้ว"
ชายคนหนึ่งผู้มาถอนตังค์บอกผมว่าให้รีบๆปล้นหน่อย ลูกชายของเขาอยู่ที่โรงเรียนโทรศัพท์เข้าเครื่องมือถือบอกให้รีบไปรับหน่อยเพราะลูกชายท้องเสียอย่างแรง ขี้ราดไปสามสิบแปดทีแล้ว ผมบอกว่าผมจะรีบปล่อยตัวเขาทันทีที่เขาให้ผมปล้นเงินเขาจนหมด แต่จะเหลือค่ารถเมล์ให้เขากับลูกชายนิดหน่อยพอกลับบ้านได้ เขายอมทำตามที่ผมต้องการ จากนั้นเราเชคแฮนด์กันนิดหน่อยก่อนที่เขาจะออกไป เขาบอกว่าการปล้นธนาคารของผมครั้งนี้ประทับใจเขามากเพราะผมหน้าตาหล่อเหมือนพระเอกหนังไทยคนหนึ่งเปี๊ยบเลย เขาบอกว่าถึงผมจะไม่ใช่ตัวจริง แต่ก็คล้ายๆ รู้สึกเป็นปลื้มอย่างไรบอกไม่ถูก จะไปเล่าให้ลูกชายฟังที่โรงเรียนต่อก็กลัวลูกตื่นเต้นขี้แตกอีกเป็นครั้งที่สามสิบเก้า และว่าความจริงป่านฉะนี้ไม่ขี้ราดเป็นครั้งที่สี่สิบแปดหรือนี่ จากนั้นเขาก็รีบลาจากไป
ผมจัดการปล้นแบงค์ครั้งนี้ (เปลี่ยนจากธนาคารเป็นแบงค์เพื่อความกระชับและเท่ห์ขึ้นนิด) จากนั้นกวาดเงินไปได้ประมาณยี่สิบล้านบาท หัวใจผมตอนนั้นพร่ำเพ้อถึงแต่คำว่า สวนสยองมหาสนุกๆ โชว์ไมเคิลตัวปลอม แต่ผมดีใจได้แค่พักเดียว พนักงานหน้าตาขี้เหร่ที่สุดก็ตะโกนบอกผมขณะยังนอนหมอบอยู่บนพื้นว่า...
"ฉากต่อไปมาแล้วค่ะ ตำรวจมากันเป็นโขยง เห็นทีคราวนี้คุณต้องเหนื่อยหน่อยนะคะ เออ...แล้วกระสุนเหลืออีกกี่นัด นี่ถามด้วยความเป็นห่วงนะคะ เป็นห่วงจริงๆ นะคะ...จากใจจริง หลงรักโจรปล้นธนาคารรูปหล่อค่ะ"
"ไม่ต้องมาจริงใจกับโจรอย่างผมหรอกครับ-นะ-โว้ย" ผมตวาดเสียงเฉียบ
"เหลืออยู่สิบนัดพอดี ยิงไปแล้วสอง เอ๊ะ....นี่ตำรวจมากันกี่คนวะ" ผมพึมพำกับตัวเองขณะเอื้อมมือแง้มม่านมองผ่านกระจกออกไป
ฉิบหาย! คงมากันทั้งโรงพัก แล้วนี่ผมจะรอดไหมนี่ กระสุนสิบนัดกับตำรวจหนึ่งโขยง ผมจะผ่านด่านมันไปได้อย่างไร มาลี (แฟนผม) จะได้ไปดูไมเคิลปลอมกับผมที่สวนสยองมหาสนุกหรือเปล่า ใจผมเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ พักเดียวเสียงประกาศของนายตำรวจคนหนึ่งก็ดังผ่านโทรโข่งเข้ามา
"ไอ้คุณโจรข้างใน (ย้ำ) ไอ้คุณโจรข้างใน...ฟังนะ ตอนนี้...ขี้เกียจพูดประโยคนี้ฉิบหาย ตอนนี้ตำรวจได้ล้อมไว้หมดแล้ว วางอาวุธแล้วออกมามอบตัวเสียดีดี ไม่อย่างนั้นเราจะใช้มาตราการรุนแรงโดยเด็ดขาดฉิบหายเลยโว้ย..."
ยามชักกระบองออกแล้วโยนทิ้ง ผมมองหน้าเขางงๆ "พี่...พี่...จับผมเป็นตัวประกันก็ได้ พี่จะได้รอด ถ้าพี่ไม่มีตัวประกันพี่มีหวังรอดยากมากนะครับ...จะบอกให้"
"ตกลง...ไอ้น้องรัก แกดีกับพี่มาเสมอตั้งแต่ที่พี่เข้ามาปล้นธนาคารแห่งนี้ แกรินน้ำเย็นไส่น้ำยาอุทัยหวานชื่นใจให้พี่ โอ.เค.พี่จะจับแกเป็นตัวประกัน แล้วเราจะได้หนีไปด้วยกัน
ผู้หญิงหลายคนบ่นพึมพำกันใหญ่
2
แล้วผมก็ถูกยิง ไอ้ยามห่านั่นเป็นยามปลอม ที่แท้มันเป็นตำรวจปลอมตัวเข้ามา ขณะที่ผมจับแขนมันไพล่หลังเอาปืนจี้หัวมันเดินออกมาข้างนอก มันดันยกส้นเท้ากระแทกไข่ผมจนจุกตัวงอ ตำรวจสมัยนี้ไม่รักษาสัญญา พวกเขาระดมยิงมาที่ตัวผม ผมลืมไปว่าตัวเองมีปืนอยู่ในมือ ผมโดนเข้าไปสองนัดเต็มๆ เข้าที่ไหล่ทั้งสองข้าง มือห้อยปืนตกลงโดยฉับพลัน จากนั้นผมถูกรวบตัวไปโรงพยาบาลตำรวจทันที
ที่โรงพยาบาลเมียผมโทรศัพท์มาบอกว่า เธอกำลังจะเลิกกับผม เพราะผมไม่สามารถพาเธอไปดูไมเคิลตัวปลอมได้ ทั้งที่ได้สัญญากันแล้ว เธอบอกว่าผมเป็นผู้ชายหลอกลวง สามานย์และโง่เขลาที่ไม่สามารถปล้นแบงค์ได้สำเร็จตามแผน โธ่...แล้วนี่ผมจะอยู่ไปทำไม เมียก็จากไป ไมเคิลก็อดดู แถมยังถูกยิงจะต้องติดคุกอีกกี่ปีก็ไม่รู้
โธ่...โธ่...โธ่...
แต่เหมือนโชคช่วย คุณพนักงานสาวหน้าตาขี้เหร่ถือกระเช้าดอกไม้ขอเข้าเยี่ยมผมเป็นการพิเศษ จ่าตำรวจหน้าห้องอนุญาตเพราะเธอแบ่งแอปเปิ้ลให้จ่าคนนั้นสองลูก
เมื่อเธอเข้ามาเธอบอกว่า...
"โถโถ...พ่อโจรรูปหล่อ ในที่สุดก็พลาดท่าจนได้ ฉัน..."
"คุณ..." ผมพูด
"นุจรีค่ะ...ฉันนุจรีแผนกบัญชีผู้ซื่อสัตย์ ผู้ไม่เคยเห็นโจรปล้นธนาคารคนไหนใจดีและสุภาพอย่างนี้มาก่อนเลย"
"คุณมาทำไม..." ผมถาม
"ก็มาเยี่ยมสิคะ...ถามได้" นุจรีแผนกบัญชีผู้ซื่อสัตย์ ฯลฯ บอก
"มาเยี่ยมผม...มาเยี่ยมผมทำไม ในเมื่อผมเป็นโจร เป็นโจรปล้นธนาคารที่ปล้นธนาคารไม่สำเร็จจนเมียต้องขอหย่าและให้ชายอื่นซึ่งคงหล่อกว่าผมพาเธอไปดูไมเคิลปลอมที่สวนสยองมหาสนุก ผม..ผม..."
"โถโถโถ...เรื่องราวที่ผ่านมาช่างมันเถิดนะคะ นุจรีให้อภัยคุณได้" ตอนนี้เธอเพิ่งนึกออกว่าผมไม่เคยทำผิดอะไรกับเธอไว้สักหน่อย (ทำไมจะต้องให้อภัยด้วย)
"เออ...ความจริงคุณก็มิได้ทำอะไรผิดดอกนะคะ เพียงแต่จนไปหน่อยเท่านั้นเอง ฉันเข้าใจดีค่ะ...ฉันเข้าใจโจรปล้นธนาคารรูปหล่ออย่างคุณดี เรื่องเมียคุณน่ะช่างเถอะนะคะ นุจรี...นุจรี..."
"ทำไมครับ...นุจรีทำไมครับ"
"คุณจะว่าอะไรไหมถ้านุจรีจะขอเป็นเอ่อ...เป็นแฟนคุณน่ะค่ะ"
"แต่ผม"
"ไม่เอา...ไม่พูดค่ะ....นุจรีบอกแล้วไงคะว่าที่ผ่านมาก็ช่างหัวมัน ว่าอย่างไรคะ จะให้นุจรีเป็นแฟนคุณได้ไหมคะ นุจรีมีของดีนะจะบอกให้"
"ผู้หญิงทุกคนก็มีของดีทั้งนั้นแหละครับ" ผมพูดท่าทางห่อเหี่ยว เพิ่งสังเกตเห็นว่าเธอใส่เสื้อคอแหลมลึกมากทีเดียวสำหรับการมาเยี่ยมไข้
"ไม่ใช่ค่ะ... ของดีที่นุจรีว่าคือไอ้นี่ต่างหาก" เธอชูบัตรใบสีเหลืองสองใบขึ้นมาแล้วยิ้ม
"อะไรครับ...ผมไม่เข้าใจ..."
"ก็ตั๋วดูไมเคิลไงล่ะคะ ถึงมันจะเป็นไมเคิลปลอม แต่ก็เป็นครั้งแรกของเรา ถ้าคุณตกลงจะไปกับนุจรี นุจรีจะติดสินบนแอปเปิ้ลจ่าหน้าห้องอีกสองลูก คุณโจรขา...เราต้องรีบไปหน่อยนะคะ วันนี้เขาเปิดการแสดงตอนหกโมงครึ่ง แล้วนี่ก็สี่โมงห้าสิบนาทีเข้าไปแล้ว"
"แต่....แต่ผมจะไปได้อย่างไรเล่าครับ ผมเจ็บออกอย่างนี้" ผมบ่น
"ไม่เป็นไรค่ะ รูปร่างอย่างคุณ นุจรีว่านุจรีอุ้มคุณไปได้แน่ๆ แล้วอีกอย่างนุจรีก็ยินดีอุ้มด้วยค่ะ" เธอพูดพลางสะเทิ้นอาย
"ผม..ผม..." ผมซาบซึ้งจนน้ำตาไหล คิดไม่ถึงว่าโจรปล้นธนาคารเมียทิ้งอย่างผมจะมีผู้หญิงอย่างนุจรีพนักงานบัญชีผู้ซื่อสัตย์ ฯลฯ ยอมเป็นแฟน ยอมพาผมไปด้วย ยอมถึงขนาดว่าจะอุ้มผมในยามที่ผมบาดเจ็บอย่างนี้
"โอ้...นุจรี"
"ขาคุณโจร..."
แล้วเราก็สวมกอดกัน บัตรไมเคิลปลอมในมือเธอยับยู่ยี่ไปหน่อย แต่ถึงอย่างไรเราก็คิดกันว่าจะต้องไปดูไมเคิลปลอมด้วยกันให้ได้
ถ้าจ่าหน้าห้องยอมให้เราติดสินบนแอปเปิ้ลอีกสองลูก...
~จบ~
จากคุณ :
เชน ชมธวัช
- [
4 พ.ย. 48 08:25:10
A:202.183.173.10 X: TicketID:110818
]