เคยมีสักครั้งไหม? ...ที่คุณจะรู้สึกคิดถึงใครสักคนจนแทบขาดใจ จนแทบจะรู้สึกว่า หัวใจมันจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในวินาทีนั้น เคยไหม....
ใครสักคนที่ทำให้หัวใจเต้นแรง เร็ว และอบอุ่นเสมอเมื่อเราได้เข้าไปอยู่ในสายตาของเขา ใครสักคนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า ถึงโลกจะโหดร้ายเพียงใด แต่คุณก็สามารถจะหายใจได้โดยไม่เจ็บปวดนัก ถ้ามีเขายืนอยู่เคียงข้าง
สำหรับฉัน เขาก็คือ คน ๆ นั้น...ผู้ชายตัวโต ร่างสูง คนที่มีเส้นผมยาวประบ่า และดวงตาสีดำราวกับค่ำคืนที่มืดมิด และเป็นผู้ชายประหลาดที่รักการสักร่างกายเป็นชีวิตจิตใจ หากแต่ที่ทำได้ก็แค่ลายสักประหลาด ๆ ที่บ่าด้านขวา
ทำไมถึงสักที่เดียวล่ะ เป็นคำถามโง่ ๆ ที่ฉันเอ่ยปากถามเขาในวันหนึ่ง ที่เจ้าตัวถอดเสื้อยืดสีดำออกจากตัว เพียงเพราะว่าอากาสมันร้อนเกินจะทน ยิ่งในโรงยิมเช่นนี้ เขาเพียงแค่นรอยยิ้มก่อนตอบว่า
แค่ที่เดียวก็หูจะชาแล้ว ถ้าสักทั้งตัวมีหวังอดมรดก ฉันหัวเราะขำ ๆ กับคำพูดของเขา นอกจากที่บ่าแล้วฉันยังสังเกตเห็นว่า มีรอยสักเล็ก ๆ ที่ข้อเท้าด้านขวาอีกด้วย
เต้ย ไปไหนล่ะ
ไม่เห็นก็แสดงว่าไม่อยู่ แล้วอีกอย่างไม่ใช่แฟนมันจะได้รู้ว่ามันไปไหน นี่คือคำตอบของเขา คนที่กวนอารมณ์ฉันได้ดีเป็นที่สุด
หึ.... ฉันแค่นเสียงตอบรับ ก่อนจะมองดูเขาเลี้ยงลูกบาสไปเรื่อย ๆ ก่อนจะชู๊ตมันลงห่วงอย่างแม่นยำ
นี่...นี่ เขาเรียกฉันด้วยสรรพนามที่ไม่ใช่ชื่อของฉัน จนฉันเอง แทบจะเชื่ออยู่แล้วว่ามันเป็นอีกชื่อหนึ่งของฉันไปแล้ว
อะไรอีกล่ะ ฉันเริ่มถามด้วยน้ำเสียงกวน ๆ บ้าง ก็ใครจะไปทนให้เจ้าผู้ชายตัวโตหน้าดุ ตาคมเข้ม ข่มจนหงอเล่า...
เล่นบาสเป็นเพื่อนหน่อยดิ อยู่ ๆ ไอ้น้ำเสียงข่มกันตะกี้ก็กลายเป็นน้ำเสียงอ้อนวอน อย่างที่ใช้ได้ผลเสมอกับฉัน อย่างที่คนใช้รู้ดี
ถ้าเล่นเป็นเพื่อนแล้ว นายต้องขี่จักรยานไปส่งที่หอนะ
ขามีหรือเปล่า คนถามเหลือบมองขาฉันก่อนจะมองไปที่หน้าฉันอีกทีด้วยสายตากวนโทโสเป็นที่สุด ไอ้เสียงอ้อนวอนตะกี้ลืมมันไปได้เลย เพราะหมอนี่จะทำอย่างนั้นได้ไม่เกิน สามวินาทีเป็นอย่างน้อย
งั้นจะเล่นให้เหนื่อยทำไม กลับล่ะกว่าจะเดินถึงหอก็อีกตั้งไกล ฉันทำท่าลุกเดินออกจากโรงยิมนั้น เสียงลูกบาสกระทบพื้นเป็นจังหวะ อ๊ะ...ไม่ใช่สิ ไม่ใช่เสียงอย่างนั้นแน่ เสียงมันเหมือนกับว่าเจ้าตัวทุ่มลูกบาสทิ้งไป และทันทีที่หันกลับไป คนตัวสูงใหญ่ ตาคมก็วิ่งมายืนดักหน้าเสียแล้ว
ดวงตาสีดำสนิทราวกับนิลจ้องมองมาด้วยสายตาที่ ฉันไม่เข้าใจนัก แล้วจู่ ๆ รอยยิ้มก็จุดขึ้นที่มุมปาก จนเลยไปถึงดวงตาคู่คมดุคู่นั้นด้วย แถมด้วยประโยคที่ไม่น่าจะได้ยินก็ดังขึ้น
ขอโทษ หงุดงหงิดไปนิด มาเล่นบาสกันเถอะแล้วเดี๋ยวผมจะไปส่ง น้ำเสียงทุ้ม ๆ แถมด้วยรอยยิ้มกระชากใจอย่างนั้น ใครจะไปปฏิเสธได้ และโดยเฉพาะกับคนที่ฉันมักจะแอบส่งความคิดถึงไปหาเขาอยู่อย่างสม่ำเสมอ
สรุปเลยกลายเป็นว่า ฉันต้องเล่นบาสกับคนตัวสูงยังกับยักษ์คนนั้น แถมยังชู๊ตเอา ชู๊ตเอา จนเล่นเอาฉันหมดแรงวิ่งไล่ตามเค้าไปเลย นี่ขนาดเล่นกันแค่ครึ่งสนามเท่านั้นนะ...
ขี้โกงนี้ แขนก็ยาว ขาก็ยาว ขี้โกง นายขี้โกง ฉันเริ่มงอแงเพราะว่าเหนื่อยแล้วก็ไม่เห็นจะได้ชู๊ตสักที หรืออีกอย่างก็คือจะชู๊ตทีไร ก็มีมือยาว ๆ วิ่งมาปัดเสียทุกที แถมยังหัวเราะเยาะอีกต่างหาก ไม่สูงบ้างก็ให้มันรู้ไป ...ฉันโมโหอยู่คนเดียวในใจ
ขี้โกงตรงไหนไม่ทราบ คนโดนกล่าวหาว่า ขี้โกงยื่นหน้ายื่นตากวนอารมณ์มาเสียใกล้ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะพิศวาสนายนี่เท่าไร แต่มันก็ทำให้หัวใจมันเต้นผิดจังหวะไปล่ะน่า...
ก็ดูดิ นายสูงตั้งเท่าไร แล้วฉันสูงเท่าไรหลอกให้วิ่งนี่น่า ฉันสะบัดหน้าไปทางอื่นที่ไม่มีสีหน้าสีตากวนโทโสนั้นอยู่ เขาหัวเราะดัง ๆ ก่อนจะเดินหายไปสักพักใหญ่ ๆ
แล้ว...ผ้าขนหนูผืนเล็กหมาดน้ำ ก็วางโปะลงบนหัวตามด้วย มือที่ยืนกระป๋องน้ำอัดลมมาตรงหน้า .....อ่ะนะเข้าใจเอาใจนี่น่า...ฉันบ่นในใจแต่ก็รับมาโดยดี
พอเหลือบไปมองคนขี้โกงของฉัน เจ้าตัวกำลังสะบัดผมที่เปียกน้ำไปมา มือหนึ่งเท้าไว้กับเก้าอี้ส่วนอีกมือกำลังซดเจ้าน้ำอัดลมอีกกระป๋องอยู่ ฉันดึงแขนเขาเบา ๆ ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูที่คล้องไว้ที่คอของเขามาแล้ว จัดการจับหัวดื้อ ๆ หัวนั้นมาใกล้ ๆ พร้อมกับเช็ดผมเปียก ๆ ของเขาอย่างเบามือ
จากคุณ :
เปียร์รุส
- [
5 พ.ย. 48 22:21:31
]