~ ... เราเริ่มที่จุดจบ ... ~
(ต่อจาก ตอนที่แล้ว http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3858453/W3858453.html )
ปัง!!!! ประตูห้องนอนปิดลง
เธอหันกลับมามองผมด้วยแววตาหวาดกลัว
ฮะ ท่าทางเหมือนลูกแมวตัวน้อย แล้วเจ้าลูกหมาจอมซ่าส์ หายไปแล้วครับ แม่คุณ ดูแววตาสิ เหมือนผมเป็นตัวประหลาดน่ากลัวซะเหลือเกิน
เธอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วยื่นเอาผ้าเช็ดตัวให้ผม
เฮียจักอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวกี้จะเล่นคอมก่อน
เอางั้นเหรอ ตามใจนะ
แล้วผมก็เดินเข้าห้องน้ำไป อันที่จริงผมก็ไม่ได้หื่นกระหายใคร่ได้เธอนักหรอกครับ ผมยังไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นพวกข่มขืนภรรยาตัวเอง ไม่ชอบบังคับใคร ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็สมยอม มือระดับนี้ ไม่อยากทำร้ายใคร ถ้าจะเอา คงเอาไปนานแล้ว หุหุหุ
และตามที่ผมคิดไว้
ทันทีที่ผมก้าวออกจากห้องน้ำปุ๊ป เธอรีบวิ่งสวนเข้าไปปั๊ป หอบสารพัดเสื้อผ้า นี่เธอจะซักผ้าตอนกลางคืนรึไง
เวลาผ่านไป ....นาน นาน นาน และนาน
ผมเช็คเมลล์ก็แล้ว อ่านหนังสือก็แล้ว นั่งเล่นก็แล้ว รอแล้วรออีก เธอก็ยังไม่ออกมา เลยปิดไฟข้างผม เดินไปบอกเธอหน้าประตูห้องน้ำว่า
พี่หลับก่อนนะครับ อย่านอนในนั้นเลย ออกมานอนด้วยกันบนที่นอนนุ่มๆดีกว่า ไม่ต้องกลัวหรอกน่า พี่ไม่ทำอะไรเราหรอก
...ได้ผล ...
เธอค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำออกมา ด้วยชุดที่ .... เอ่อะ ผมว่ามันไม่ใช่ฤดูหนาวนะ แต่ดูเสื้อผ้าเธอใส่สิ เหลือรับประทานจริงๆ
ฮ่าๆ กี้หนาวเหรอ ดู ใส่เข้าไปได้ไง กลัวพี่เหรอครับ
ลูกแมวน้อยผงกหัวรับ แววตาระแวงผมสุดขีด
เฮ้อ หลังจากเช็ดเครื่องสำอาง อาบน้ำสระผมแล้ว เธอก็กลับเป็นยัยนักกี้ ลูกแมวน้อยจอมกวน ที่ตอนนี้ซ่าส์ไม่ออกไปแล้ว
เธอเดินมายืนชิดขอบเตียง ขณะที่ล้มตัวลงนอนแล้ว
เฮียจักต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ทำอะไรกี้
หืม! อืม ได้ พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำอะไรกี้ ถ้ากี้ไม่ทำอะไรพี่
เฮ้ย พูดงี้หมายความว่าไง หาว่ากี้จะหน้ามืดไปข่มขืนเฮียรึไง พูดงี้มาต่อยกันเลยม่ะ
แต่ผมง่วงเกินกว่าจะทะเลาะกับเธอแล้ววันนี้
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ พี่ง่วงแล้ว พรุ่งนี้ค่อยเล่นกันใหม่นะ นอนล่ะ
แล้วผมก็ปิดไฟ นอนหันหลังให้เธอ
เธอรีๆรอๆ สักพักใหญ่ คงดูว่าผมหลับจริงไหม เมื่อไม่รู้สึกที่นอนข้างๆมันหยุบสักทีผมเลยแกล้งกรน
ครับ ผม(แกล้ง)หลับไปสักพักใหญ่ ก็ลุกมาดูว่าเธอนอนตรงไหน เธอไม่นอนเตียงกับผมครับ เธอนอนบนพื้นข้างเตียง เอาหมอนและหมอนข้างไปเรียบร้อย ......ทุ่มทุนสร้างจริงๆ
เฮ้อ ยัยลูกแววน้อยจอมซ่าส์เอ๊ย ผมมองเธอด้วยความเอ็นดู อ่ะ แค่เอ็นดูหรอกนะ ผมไม่ได้รักเธอหรอก แค่สงสารเลยอุ้มเธอขึ้นนอนบนเตียงด้วยกันแค่นั้นเอง
เช้าวันใหม่เริ่มขึ้น แสงแดดอ่อนส่องผ่านหน้าต่าง ผมยังคงนอนตะแคง หันข้างให้คนอีกฝากของเตียง
แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างมาดิ้นขลุกๆ อยู่ที่หลัง ผมพลิกตัวกลับมาดู นักกี้นั่นเอง เธอนอนกอดหมอนข้างอมยิ้มเหมือนเด็ก และเอาหัวมาซุกหลังผมเหมือนหาไออุ่น
ผมขยับตัวหามุมเล็กน้อย และนั่นคงทำให้เธอรู้สึกตัว จึงเริ่มขยับ เปลี่ยนท่านอน ดูเธอสิ อมยิ้มน่ารักเชียว และนั่นทำให้ผมอดใจไม่ไหวที่จะก้มลง จูบอรุณสวัสดิ์เธอที่หน้าผาก
เธออมยิ้มแต่ไม่ยังลืมตา คงไม่รู้ตัวล่ะสิ ฝันถึงอะไรอยู่น๊า เธอเริ่มดิ้นอีกครั้งเอาหัวซุกกับหน้าอกผม เหมือนเจ้าตัวน้อยที่ดิ้นหาไออุ่นจากอกแม่ของมัน ผมกอดเธอไว้หลวม ลอบมองหน้าเธอตอนหลับ
เฮ้อ นี่เราไปสัญญาอะไรบ้าๆกับเด็กฟร่ะเนี่ยยยย
ขันตินายแจ็ค ขันติ คิดได้แค่นั้นผมก็ลุกไปอาบน้ำ เตรียมตัวไปทำงาน แต่ก่อนลุก ผมใช้เวลาทำใจอีกนิด ก่อนจะปล่อยลูกแมวน้อยออกจากอ้อมแขน
ครับ ผมแต่งงานมา 3 เดือนแล้วครับ ผมใช้ชีวิตเกือบเหมือนเดิม ยกเว้นแต่ เวลาว่างของผมมักมีภาพใครอีกคนซ้อนทับขึ้นมาให้คิดถึงเสมอ นักกี้และผมเป็นเหมือนคู่แฝด เวลาผมไปฟิตเนส หรือไปเที่ยวไหน เรามักไปด้วยกันเสมอ
และความรู้สึกของผม ที่มีต่อเธอมันเริ่มเพิ่มขึ้น และรู้สึกคิดถึง... ผมไม่แน่ใจนักว่าควรใช้คำนี้ไหม แค่รู้สึกข้างกายมันโล่ง เวลาไม่มีเธออยู่ด้วย ผมมักคิดถึงผมหอมๆ ที่ชอบแอบมาซุกกับอกผม คิดถึงเจ้าตัวนุ่มนิ่มที่ได้แอบกอดตอนเช้าก่อนไปทำงาน คิดถึงรอยยิ้มตอนหลับที่น่ารักจนผมจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าวันหนึ่งผมผิดสัญญากับเธอเล่าอะไรจะเกิดขึ้นนะ คิดได้แค่นั้นก็.... เห่อๆๆๆๆ
ท่านประธานคะ โครงการนี้ท่านเห็นว่าไงบ้างคะ
ท่านคะ ท่าน
หา อะไรนะ เมื่อกี้ผมไม่ค่อยเข้าใจ อธิบายอีกรอบสิ
ก็แบบนี้ล่ะครับ เธอทำให้ผมเป็นมาตั้งแต่แต่งงาน ทั้งที่อาการแบบนี้ไม่ได้เป็นมานานแล้วตั้งแต่ผมโดนหักอกและเริ่มสวมวิญญาณเพลย์บอย นักกี้ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองของผู้หญิงใหม่
มันน่าแปลกมากสำหรับคนที่เกลียดกลัวการผูกมัด กลัวการผูกพันอย่างผม ก่อนที่ผมจะเจอเธอ ผมมีสาวๆแก้เหงาเสมอ แต่เวลาสามเดือนที่ผ่านมา ชีวิตเสเพลเริ่มเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย เพราะรู้ถึงคุณค่าของสิ่งที่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย แต่ผมกลับไม่นักใจเลยที่ต้องสวมมันไว้ ซึ่งตรงกันข้ามกับอีกฝ่าย
เฮียจัก กี้ไม่ใส่ได้ม่ะ กลัวหายอ่ะ อันตรายด้วย เกิดโดนแท็กซี่ปล้นอ่ะ น่ากลัวนา ใส่ไปเดี๋ยวทองหมอง เพชรหลุดอ่า เสียดายของแย่ กี้ถอดเก็บไว้นะ นะ
ไม่ได้!!!!
ผมตอบออกไปเสียงดังทันที ทำไม แค่ใส่แหวนแต่งงาน กลัวหนุ่มไหนมันจะรู้ ฮึ ยัยนักกี้
กี้แต่งงานแล้วนะ กลัวหนุ่มไหนรู้เหรอ ว่าเราไม่โสดแล้วน่ะ ทีพี่ยังใส่ได้เลย พี่สิควรจะรำคาญมัน ไม่ใช่เรา
เฮ่ออออออออ ตูละเบื่อ ตาแก่ขี้หึงจริงๆ
พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะกี้ เป็นผู้ใหญ่สักทีสิ
ผมแกล้งพูดน้ำเสียงจริงจัง กลบอาการเขินเต็มๆ เรื่องอะไรมาว่าเราหึง เหอะ อย่างกะตัวเองจะมีหนุ่มไหนมาสน นอกจากผมงั้นล่ะ เฮอะๆ เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ได้หึง...
โอ๋ๆๆๆๆ เฮียจัก อย่างอนสิ เอางี้เดี๋ยววันนี้ไปเล่นเกมตู้กัน กี้เพิ่งอ่านหนังสือเกมส์มา มีเกมส์ออกใหม่ ท่าทางหนุกมากเลย ไปด้วยกันน๊าาาาา
ไม่ พี่ไม่ใช่เด็กๆ จะให้ไปเล่นเกมตู้น่ะ
....
เฮียจัก เล่นดีดีดิ ยิงให้ถูกหน่อย ฝีมือแย่ชะมัด เห็นม่ะพากันตายเลย
กี้นั่นแหละ ยิงมั่ว มายิงพี่ทำไม เอาใหม่เลย มา มา คราวนี้ต้องผ่านด่านนี้ให้ได้
...
ผมรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งครับตอนอยู่กับเธอ ช่วงเวลาเด็กที่ผมมักไม่มีเหมือนคนทั่วไป ผมต้องอ่านหนังสือ มุ่งมั่นกับการเรียน ให้ได้คะแนนดีเยี่ยม และศึกษางานของที่บ้านไปพร้อมกัน จนทำให้ผมก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้านักธุรกิจรุ่นใหม่ เมื่ออายุขึ้นเลข 3 ผมก็มีพร้อมทุกอย่าง
จนผมตัดสินใจจะแต่งงานกับเธอนี่ล่ะ ถึงทำให้ผมรู้ว่า แท้จริงแล้ว ผมไม่ได้มีอะไรสมบูรณ์แบบเลย สิ่งที่ชีวิตผมขาดไปคือ ความสุข ความสดใส นั่นเอง ผมไม่ได้รักเธอหรอกนะเราแค่สนิทกันเหมือนพี่น้อง คบกันเหมือนเพื่อนน่ะ
คืนวันอาทิตย์ เพื่อนชวนผมออกมาเหล่สาวตามเคย ทั้งที่ผมบอกปัดมันไปแล้ว อยากอยู่บ้าน นอนดูหนังกะนักกี้บนโซฟา หน้าทีวี ผมชอบแอบดูเธอตอนกำลังลุ้นกับหนัง และบางครั้งก็ร้องไห้ออกมาซะงั้น เธอจะมาอาศัยไหล่ผมเป็นผ้าเช็ดหน้าครับ นี่ละที่ชอบบบบบ
ผมพยายามอ้าง อกปัดไปเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมเชื่อ สุดท้ายมันใช้ไม้เด็ด หาว่าผมกลัวเมีย ชะ คนอย่างนายแจ็ค ไม่มีคำว่า "กลัว" ที่ไหนบอกมา ผมขึ้นไปบอกนักกี้ในห้องอ่านหนังสือว่าจะออกไปข้างนอก เธอยิ้มให้ โบกมือบ้ายบาย ผมถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว นี่หนังสือนั่นมีดีอะไรนัก ถึงละสายตามามองกันไม่ได้เนี่ย ห๊ะ
(มีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 48 23:19:36
จากคุณ :
เอ่อ่อ่ะนะคะ
- [
6 พ.ย. 48 17:14:26
]