ความคิดเห็นที่ 1 • เด็กเลี้ยงแกะ เด็กเลี้ยงแกะร้องบอก          ผู้คน หมาป่าบุกร้อนรน                ดั่งบ้า ชาวบ้านต่างรีบจน               พบแกะ หมาป่าไม่พบหน้า               เด็กนั้นหัวเราะหงาย (แดงน้อย) สะใจเจ้าเด็กน้อย...............เลี้ยงแกะ โกหกได้ยิ้มแสยะ..............โง่มั้ง คนหลอกง่ายสนุกแยะ........รอก่อน วันพรุ่งลวงอีกครั้ง..............หัวเราะให้งอหงาย... (namit) วันพรุ่งจึงร่ำไห้                  รำพัน แกะ แกะ แกะ ของฉัน        พี่ น้า หมาป่าบุกเมามัน               ตะกละ โปรดเถิด เร็ว อย่าช้า          ช่วยด้วยเถิดหนอ ฯ (พิราบเงิน) ชาวบ้านล้วนเข็ดเขี้ยว         ตามกัน อ้ายเด็กเวรเล่นฉัน            อีกแล้ว สตอเบอรี่ของมัน              มุขเบื่อ หากเชื่อมันไม่แคล้ว          ถูกเย้ยเยาะหยัน (อ่างหยก) ถึงวันหมาป่าต้อง                พุงกาง รอยเลือดลากเป็นทาง         แกะดิ้น เด็กเลี้ยงแกะครวญคราง      ใครช่วย หนูที หมาป่านอนพุงปลิ้น             แกะร้างหมดฝูง ๚ (นายกระซิบ) เด็กน้อยนั่งสะอื้น..............เป็นนาน เสียงสั่นดังกังวาน..............ทะลุฟ้า เทวดาเริ่มรำคาญ..............จึงมอบ พรเฮย เจ้าเด็กอยากให้ข้า............ช่วยมั้ยอะไรดีฯ (namit) โคลงนิทาน เด็กเลี้ยงแกะ ยังไม่จบนะเนี่ย ผมต่อให้จบนิทานเลยนะครับ "เทวดามาบ่นบ้า         ทำไมกัน แกะไม่ใช่ของฉัน       สักน้อย" เด็กเลี้ยงแกะกลับหัน   หัวร่อ เทวดาคลำหัวป้อย       หงุดโง้งุนงง เจ้าของแกะจ่ายเบี้ย     ประกันไว้ หมาป่าล่าแกะไป         ไป่ร้อง รีบเรียกบริษัทไว          มาจ่าย ไหมนา เลี้ยงแกะเดี๋ยวนี้ต้อง     รอบรู้ป้องกัน เจ้าของฝูงแกะใช้         ผมเอง ให้โหวกโวยครื้นเครง    ล่อย้ำ เมื่อหมาป่าละเลง         เขมือบแกะ ประกันจ่ายสินไหมช้ำ   ชื่นแท้เจ้าของ๚ ฮ่าๆ ขอเปลี่ยนเนื้อเรื่องหน่อยนะครับเนี่ย ยุคนี้สมัยนี้ คนไว้ใจไม่ได้ แค่เด็กเลี้ยงแกะต้องดูยาวๆ ว่ามีเบื้องหลังบงการหรือเปล่า เด็กเลี้ยงแกะในสังคมก็เยอะเหลือกัน หึๆ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 7 พ.ย. 48 21:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ๏โคลงในพันทิปนี้       ยาวจัง คนแต่งโคลงมือฉมัง    มากได้ โคลงสานสืบรวมพลัง   กวีแกร่ง โคลงไม่รู้จบไซร้         แต่งได้เชิญชวน ขอแสดงความยินดีกับกระทู้ใหม่ครับผม แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 48 21:50:37 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 7 พ.ย. 48 21:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โคลง..บทยากแต่งได้...........ไพเราะ ไม่..ขัดทำนองเสนาะ............เพราะพริ้ง รู้..น้อยจักคอยเกาะ..............พวกพี่ จบ..บทอย่าเพิ่งทิ้ง...............ณ มิตรไว้เดียวดาย รายงานตัวกับพี่โกฎิดาราครับผม.... ผมก็เคยแว้บๆมาตั้งแต่ อาศรมที่ ๔๐ กว่าๆ... แล้วไม่ได้เข้ามาอีกเลย เสียดายมากครับ... วันนี้มีโอกาสแล้ว ขออนุญาตติดตามหาความรู้ในอาศรมฯ ด้วยคนนะครับ.. ว่าแต่คุณน้าอาร์พีศรีอาศรมจะตามมาตอบผมในนี้ด้วยรึเปล่าครับ... แบบว่ายังไม่เคยติดตามจนเริ่มกระทู้ใหม่เลยครับ... แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 48 23:49:31 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 48 21:57:52 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 7 พ.ย. 48 21:55:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ง่ะ ณ มิตร เรียกผมว่าพี่เฉยเลย ง่า................. ยินดีต้อนรับเข้ามาร่วมอ่าน ร่วมเขียน ร่วมสนุกสนานแบบมีสาระกับอาศรมชาวโคลงครับ อาร์พีซัง ไม่พลาดแน่ล่ะครับ ไม่นานก็เข้ามา อิอิ รอคุณพิราบเงิน คุณซอมพอแดง คุณกรวี คุณศาลาไทย คุณทิกิ(ไม่รู้จะออกจากไทยโพเอมมารึเปล่า อิอิ) คุณกัมม์ นายกระซิบ ฯลฯ แล้วก็รุ่นอาวุโสอย่างลุงหมอวฤก และท่านอื่นๆที่ไม่ได้ออกชื่อมา ณ ที่นี้ ก็ขอเชิญมาต่อโคลงกันครับ เอเลน ซีลา ลูเมน โอเมนเทียลโว! ขอให้แสงจันทร์ส่องกระจ่างยามเราพบกัน.......ครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 7 พ.ย. 48 22:05:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โคลง..นี้เขียนตัดพ้อ .......... ลีเดีย แม่เอย ไม่.....ค่อยโทรกลับเฮีย ...... นะน้อง รู้......ไม่ว่างคลอเคลีย ........ ดังเก่า จบ....รักอยากกู่ร้อง .......... โกรธแล้วดารา ช่วงนี้ยุ่ง จะไปกินกิมจิหลายวัน มาทักคุณโกรธดาราคับ..อิอิ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 7 พ.ย. 48 22:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 @~_ Poem. โคลงสี่สุภาพนี่นี้..........หลงใหล เสน่ห์เกินกว่าใด.............................เทียบได้ ยวนเย้าชักนำใจ.............................ใฝ่ฝึก ฝนเฮย คงสักวันจักได้.................................ถักร้อยได้ดี Poet. _~@ คารวะ........ท่านพี่ๆทั้งหลาย จากคุณ : Knight - [ 7 พ.ย. 48 23:07:58 A:58.9.139.67 X: TicketID:109986 ]

ความคิดเห็นที่ 7 #5 อุ๊ย อิจฉา ไปกินกิมจิ ฝากหาสาวในชุดฮันบกกลับมาฝากหน่อยสิครับ อิอิ ท่าทางเกาหลีช่วงนี้น่าจะหนาวนะครับเนี่ย จากคุณ : โกฏิดารา (โกฏิดารา) - [ 7 พ.ย. 48 23:08:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ๏ โคลงตัวตามต่อถ้อย             ทวนคำ เสียงปี่กลองชวนรำ                  ร่ำร้อง อาศรมบ่มลำนำ                      พอเสนาะ ใครอ่านดังข้างห้อง                  อาจเข้ามาโถม ๚ ๏ โครมโครมใครเข่าข้อย           โครมโครม ขิงข่าขายขาดโขม                   ขุ่นข้อง ครองแครงคร่ำครวญโคม            ขนไข่ คอยเข่งคนขายฆ้อง                  คิดแค้นเขกเขียง ๚               จาก #๔ ... “แล้วก็รุ่นอาวุโสอย่างลุงหมอวฤก” .... สะใจ! จากคุณ : นายกระซิบ - [ 7 พ.ย. 48 23:12:46 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โคลง...กวีกลบทได้.............ฟังมา ไม่......ทราบว่าพี่ยา.............เก็บไว้ รู้........แต่สืบเสาะหา............ตามเว็ป จบ......บทตะลึงไซร้............แต่งได้อย่างไรกัน รู้........หลักการแต่งแล้ว.......จึงลอง จบ......ถูกตามครรลอง.........ลิขิตไว้ ไม่ใช่...อยากถูกมอง...........เป็นเด็ก แส่นา โคลง...ที่อาศรมได้.............ศึกษาไว้ประดับสมอง... โคลงกระทู้นี้ผมหาคำเดี่ยวที่จะมาใช้แทน "ไม่ใช่" ในบทที่ ๒ บาทที่ ๓ ไม่ได้เลยครับ... ถ้าเป็นพี่ๆจะใช้คำไหนแทนให้ได้ความหมายอย่างเดียวกันครับ... ขอคำแนะนำด้วยนะครับ... ปกติผมพวกแต่งเล่นเร็วๆ หาคำเก่าๆสวยๆไม่ค่อยเจอครับ แหะๆ ป้าหนอนเลยแนะนำมาว่า ให้มาหาความรู้ฝึกฝีมือจากพี่ๆในอาศรมฯอ่ะครับ... ไม่ทราบว่าพี่ๆพอจะมีกลบทต่างๆแต่งเก็บไว้กันมั่งมั้ยครับ? เพื่อนผมบอกให้ลองหาอ่านดู แล้วจะตะลึง... ตั้งแต่ได้ฟังเพื่อนผมพูดถึงตั้งนานแล้วจนวันนี้(คืนนี้) ยังไม่เคยเห็นของจริงเลยครับ... ขอบพระคุณมากครับ... แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 48 23:48:23 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 48 23:47:46 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 7 พ.ย. 48 23:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอสาว"ในชุด"ชั้น............ฮันบก ขอโกฏิฯบ่ต้องตระหนก....พกเพ้อ หากหมีเจอะหมีจะยก........มาฝาก..แน่แฮ หาก"นอกชุด"นั่นเน้อ........เก็บไว้ชมเอง ปล.ทั่นประธานอย่าเอาความจริงเพียงครึ่งเดียวมากล่าวในที่ประชุมนะฮะ จาก๔ คุณโกฏิฯว่าไว้ว่า .. แล้วก็รุ่นอาวุโสอย่างลุงหมอวฤก และท่านอื่นๆที่ไม่ได้ออกชื่อมา ณ ที่นี้ นะฮ้าา จากคุณ : หมีเซอะ - [ 8 พ.ย. 48 00:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จะ...จารวานว่าไว้.........ชวนถนอม จบ...พร่ำคำพยอม........พร่างพร้อย ลง...ฤกษ์เบิกคำหอม....หวนห่าง ฤๅ...จะเรียบเรียงถ้อย....เถื่อนท้อรอทวน... นานนานแวะอาศรมที ขอฝากสักบทค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 8 พ.ย. 48 00:33:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมตามศึกษาย้อนหลังไปถึง อาศรมฯ ๑๓๕ โคลงสดตามคำขอ ได้เห็นรายการ สร้อยโคลง ที่พี่ศาลาไทย นำ คำสอนของท่านครูหนอนฯมาแปะไว้... ยังไม่เคยเจอที่ไหนเลยครับ... ดีใจจัง... ขออนุญาตแปะไว้อ่านใกล้ๆตรงนี้อีกทีนะครับ... @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ คำสร้อยที่นิยมใช้กันมาแต่โบราณนั้น มีทั้งหมด ๑๘ คำ ดังนี้ ๑. 'พ่อ' ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล เช่น ฤทธิ์พ่อ, นี้พ่อ, นาพ่อ ฯลฯ ศัตรูหมู่พาลา ...................................... พาลพ่าย ฤทธิ์พ่อ ๒. 'แม่' ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล หรือเป็นคำร้องเรียก เช่น แม่แม่, มาแม่ ฯลฯ แสนศึกแสนศาสตร์ซ้อง ..................... แสนพัน มาแม่ ๓. 'พี่' ใช้ขยายความเฉพาะบุคคล อาจทำหน้าที่เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑ หรือบุรุษที่ ๒ ก็ได้ เช่น เรือพี่, ฤๅพี่ ฯลฯ สองเขือพี่หลับไหล ............................. ลืมตื่น ฤๅพี่ ๔. 'เลย' ใช้ในความหมายเชิงปฏิเสธ เช่น เรียมเลย, ถึงเลย ฯลฯ ประมาณกึ่งเกศา ............................... ฤๅห่าง เรียมเลย ๕. 'เทอญ' มีความหมายในเชิงขอให้มี หรือขอให้เป็น เช่น ตนเทอญ ฯลฯ สารพัดเขตจักรพาล ........................... ฟังด่ำ บลเทอญ ๖. 'นา' ดังนั้น เช่นนั้น จำบำราศบุญเรือง ............................ รองบาท พระนา ๗. 'นอ' มีความหมายเช่นเดียวกับคำอุทานว่า 'หนอ' หรือ 'นั่นเอง' ยอกไหล่ยอกตะโพกปาน .................. ปืนปัก อยู่นอ ๘. 'บารนี' สร้อยคำนี้ นิยมใช้มากในลิลิตพระลอ มีความหมายว่า 'ดังนี้' 'เช่นนี้' กินบัวอร่อยโอ้ .................................. เอาใจ บารนี ๙. 'รา' มีความหมายละเอียดว่า 'เถอะ' 'เถิด' วานจวนชำระใจ ............................... ความทุกข์ พี่รา ๑๐. 'ฤๅ' มีความหมายเชิงถาม เหมือนกับคำว่า หรือ มกุฏพิมานมณ ................................. ฑิรทิพย์ เทียมฤๅ ๑๑. 'เนอ' มีความหมายว่า ดังนั้น 'เช่นนั้น' วันรุ่งแม่กองทวิ ................................ ทศพวก นายเนอ ๑๒. 'ฮา' มีความหมายเช่นเดียวกับ คำสร้อย นา กวัดเท้าท่ามวยเตะ .......................... ตึงเมื่อย หายฮา ๑๓. 'แล' มีความหมายว่า อย่างนั้น เป็นเช่นนั้น กัลยาเคยเชื่อไว้ ............................... วางใจ มาแล ๑๔. 'ก็ดี' มีความหมายทำนองเดียวกับ ฉันใดก็ฉันนั้น นิทานนิเทศท้าว ............................... องค์ใด ก็ดี ๑๕. 'แฮ' มีความหมายว่า เป็นอย่างนั้นนั่นเอง ทำนองเดียวกับคำสร้อย แล อัชฌาสัยแห่งสามัญ ........................ บุญแต่ง มาแฮ ๑๖. 'อา' สร้อยคำนี้ไม่มีความหมายแน่ชัด แต่จะวางไว้หลังคำร้องเรียกให้ครบพยางค์ เช่น พ่ออา แม่อา พี่อา หรือเป็นคำออกเสียงพูด ในเชิง รำพึง แสดงความวิตกกังวล เป็นไฉนจึงด่วนทิ้ง .......................... น้องไป พี่อา ๑๗. 'เอย' ใช้เมื่ออยู่หลังคำร้องเรียก เหมือนคำว่า เอ๋ย หรือวางไว้ให้คำครบตามบังคับ จำปาจำเปรียบเนื้อ .......................... นางสวรรค์ กุเอย ๑๘. 'เฮย' ใช้ในลักษณะที่ต้องการเน้น ให้มีความเห็นคล้อยตามข้อความที่กล่าวมาข้างหน้า สร้อยคำนี้มาจากคำเขมรว่า "เหย" แปลว่า "แล้ว" ดังนั้นเมื่อใช้ในคำสร้อย จึงน่าจะมีความหมายว่า เป็นเช่นนั้นแล้ว ได้เช่นกัน ขึ้นดั่งชัยพฤกษ์พร้อม ....................... มุรธา ภิเษกเฮย ป.ล.ที่คัดมาแปะ เพื่อนนักโคลงเมื่อ ๓-๔ ปีที่แล้ว นาม "อังคาร"  ลอกมาจากหนังสืออะไรก็จำบ่ได้ จำได้แต่ว่ามาแปะในกระทู้น้าเล็ก จากคุณ : หนอนสุรา  - [16 ก.ค. 18:08:14] จากคุณ : ศาลาไทย (salathai)  - [ 4 มิ.ย. 48 11:21:42 ] @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ @ ว่าแต่ 16 ก.ค. 18:08:14 นี่มันปีไหนเหรอครับ จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 8 พ.ย. 48 00:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตามดูโคลงไม่รู้               จบ ยัง โคลงไม่รู้ กระมัง             บ่จบได้ โคลงจนไม่รู้ เอวัง             มิ จบ โคลงไม่รู้จบ ไซร้            ไม่สิ้นอวสาน แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 48 09:19:07 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 8 พ.ย. 48 09:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แสงใจ - แสงเช้า ----------------------------- ลำแสงเรืองเรียงประสาย ทอสีประกาย อวดเส้นถักสายแถบสี เพ่งคิด ภาวนา บทกวี หมื่นพันสุนทรีย์ ประทิน ประทับ ประดับใจ คนรัก ของฉัน หลับใหล นิทราดิ่งใน ฝั่นฝัน ตระการ รานตา แสงสาดทักทายส่องมา ปลุกปลอบวิญญาณ์ กล่อมเธอคนนั้นฝันดี ฉันผู้ตื่นเช้าซึ้งสี แห่งแสงระวี บางบทกวีไหวงาม ภาวนาบทต่อข้อความ มหากวีนิรนาม ปรากฏคุ้นเคยเผยตน ในห้วงภาพนึกลึกวน เหมือนท่านปลอบปรน บางคำซึ้งนั้นฉันฟัง “กวีจริงแท้ไม่ขัง จิตตนในวัง- วนแห่งโลกีย์ยียวน.” 8-11-2548-1 *ฝากคำถึงคุณ ณ มิตร ว่ายินดีต้อนรับครับ ความจริงผมก็เป็นเพียงคนหนึ่งที่ตกกระไดพลอนโจน โหนมากับโคลงขบวนนี้ ถ้าจะต่างกับคุณอยู่บ้างก็ตรงที่ ผมโหนมาก่อนคุณหลายปีเท่านั้นเอง ที่ผมยังห้อยโหนอยู่กับอาศรมฯ ก็เพราะว่า ที่นี่นอกจากเขียนบทกวี ปกติแล้ว ก็มีการแลกเปลี่ยน วิพากษ์วิจารณ์กันด้วย ก็ได้ความรู้อีก มากมาย ช่วงหลังๆ มิตรสหายไม่ค่อยจะว่างกัน ก็เลยไม่ค่อยเห็นแลกเปลี่ยนกันมากนัก ที่ว่าแลกเปลี่ยนหมายความว่า เรา (คือมิตรสหายที่ชอบร้อยกรองฯลฯ) ทุกคนนำอะไรที่ตนเองรู้ มากองแลกกันอ่าน ขบคิด ฯลฯ ตามสะดวก ไม่มีใครตั้งตัวเป็นศาสดาสอนคนอื่น หรือเป็นครูสอนใครๆ ถ้าจะมาหา "ครู" ที่นี่ ก็บอกได้ว่า ไม่มี เพราะไม่มีใครยอมเป็น "ครู" ก็เลยเป็นกันแต่ "เพื่อน" เคยมีครูหนอน หรือแม้กระทั่งพี่เล็ก ที่พวกเราพยายามเสกให้เป็น "ครู" แต่พี่ๆ ก็ไม่ยอมเป็น ท่านเหล่านั้นยอมเป็นแค่ "เพื่อน" พวกเราทำไม่สำเร็จ ที่จะให้คนใดคนหนึ่ง (โดยเฉพาะคนเก่งๆ) เป็นครูอยู่ที่นี่ ที่นี่ก็เลยเป็นมาแบบนี้ คือ มีแต่ "เพื่อน" เท่านั้น เจ้าป้าหนอน ก็เคยเข้ามาเล่นที่นี่เมื่อนานมาแล้ว เคยมีบ้างที่พวกเราเล่นกลบทกัน แต่ต้องไปดูกระทู้ต้นๆ คงราว ๑ - ๕๐ ประมาณนั้นนะครับ ผมก็ไม่แน่ใจนัก กลบท กับ ฉันท์ ที่เห็นจับแบบไม่วางคงเป็นคุณสดายุ (ถ้าจำไม่ผิด) ท่านนี้มักตั้งกระทู้ของตัวเองเป็นระยะ คุณ ณ มิตร ลองตามสะกดรอยไปดูนะครับ โดยส่วนตัวผมก็ชอบฉันท์ และกลบท เคยเรียนและเขียน ตอนอยู่ในห้องเรียน พักหลังๆ ถามตัวเองว่า แกจะเขียนให้ใครอ่าน แต่ละคำที่ใช้น่ะ มีแต่เทวดาละมั๊งที่พอเข้าใจได้ อิๆ ผมก็เลย ยุติไม่ฝึกฝนใดๆ คงเขียนระบายอารมณ์ ในรูปของกลอนธรรมดา โคลงสี่สุภาพ เท่านั้น อีกอย่างพักหลัง ไม่ค่อยมีเวลานั่งเขียนอะไรเป็นของตัวเองนานๆ คงแลกเปลี่ยนได้เท่านี้ครับคุณ ณ มิตร ด้วยมิตรภาพครับ :D จากคุณ : อาร์พี (Ar@p) - [ 8 พ.ย. 48 09:57:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 รักไม่รู้................จบโคลง รักจรรโลง............โลกหล้า รักผูกโยง.............ใยประหลาด รักบ้าบ้า...............แด่เธอ (เขียนถูกป่าวหว่า แหะ ๆ ) รุ่นอาวุโสนี่ วัดจากอะไรจ๊ะ คุณน้องดาวหลายดวง เท่าที่พี่เห็นกับตานะ ยังหนุ่มยังแน่นกันทั้งนั้น ไม่เชื่อลองไปดีดเนื้อดูสิ ดัง ปุป ปุบ เหมือนส้มโอพันธุ์ดี ฮี่ๆ แต่ซอมฯรุ่นนี้ไม่ลอกไม่ดำ ไม่เป็นขุยฮ่ะ ฮ่าๆ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 8 พ.ย. 48 10:29:10 A:unknown X:202.129.0.33 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 16 โคลง กายเดินช้าอย่าง              สบายใจ ไม่ เดือดร้อนเรื่องใด                เดือดร้อน รู้ โลกย่อมเป็นไป                    ตามเหตุ จบ เหตุ มีผลซ้อน                    ใหม่ให้ฝึกฝน ฯ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 8 พ.ย. 48 11:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วันนี้ว่างอ่ะ  เหอๆๆๆ  มาทักพ่อน้องชายโกรธดาราซักกะหน่อย(ว่าแต่...ดาราไปทำอะไรให้โกรธเนี่ย  หุหุ ช่วงนี้มะรู้เป็นไรคิดเขียน  โคลง  มะค่อยออก  หุหุหุ  โคลงคงค้างไว้(อีกแระ)  ช่วงนี้อารมณ์มะพริ้วไหวเรยอ่ะ...   เพราะต้องคิดโครงการฯ  มะบอกแระ    ไปแระน่ะ... แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 48 11:42:47 แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 48 11:41:06 จากคุณ : กรวี - [ 8 พ.ย. 48 11:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 • เด็กเลี้ยงแกะ เด็กเลี้ยงแกะร้องบอก          ผู้คน หมาป่าบุกร้อนรน                ดั่งบ้า ชาวบ้านต่างรีบจน               พบแกะ หมาป่าไม่พบหน้า               เด็กนั้นหัวเราะหงาย (แดงน้อย) สะใจเจ้าเด็กน้อย...............เลี้ยงแกะ โกหกได้ยิ้มแสยะ..............โง่มั้ง คนหลอกง่ายสนุกแยะ........รอก่อน วันพรุ่งลวงอีกครั้ง..............หัวเราะให้งอหงาย... (namit) วันพรุ่งจึงร่ำไห้                  รำพัน แกะ แกะ แกะ ของฉัน        พี่ น้า หมาป่าบุกเมามัน               ตะกละ โปรดเถิด เร็ว อย่าช้า          ช่วยด้วยเถิดหนอ ฯ (พิราบเงิน) ชาวบ้านล้วนเข็ดเขี้ยว         ตามกัน อ้ายเด็กเวรเล่นฉัน            อีกแล้ว สตอเบอรี่ของมัน              มุขเบื่อ หากเชื่อมันไม่แคล้ว          ถูกเย้ยเยาะหยัน (อ่างหยก) ถึงวันหมาป่าต้อง                พุงกาง รอยเลือดลากเป็นทาง         แกะดิ้น เด็กเลี้ยงแกะครวญคราง      ใครช่วย หนูที หมาป่านอนพุงปลิ้น             แกะร้างหมดฝูง ๚ (นายกระซิบ) เด็กน้อยนั่งสะอื้น..............เป็นนาน เสียงสั่นดังกังวาน..............ทะลุฟ้า เทวดาเริ่มรำคาญ..............จึงมอบ พรเฮย เจ้าเด็กอยากให้ข้า............ช่วยมั้ยอะไรดีฯ (namit) "เทวดามาบ่นบ้า         ทำไมกัน แกะไม่ใช่ของฉัน        สักน้อย" เด็กเลี้ยงแกะกลับหัน   หัวร่อ เทวดาคลำหัวป้อย       หงุดโง้งุนงง เจ้าของแกะจ่ายเบี้ย     ประกันไว้ หมาป่าล่าแกะไป         ไป่ร้อง รีบเรียกบริษัทไว          มาจ่าย ไหมนา เลี้ยงแกะเดี๋ยวนี้ต้อง     รอบรู้ป้องกัน เจ้าของฝูงแกะใช้         ผมเอง ให้โหวกโวยครื้นเครง    ล่อย้ำ เมื่อหมาป่าละเลง         เขมือบแกะ ประกันจ่ายสินไหมช้ำ    ชื่นแท้เจ้าของ๚ (โกฏิดารา) ฟังนิทานจบด้วย           กลโกง มันผิดครรลองโผง        อ่อนล้า ใจหดหู่จนโคลง           ห่อเหี่ยว จำแคะครีมเด้งหน้า       พอกไว้กันเฉา ๚ จากคุณ : นายกระซิบ - [ 8 พ.ย. 48 15:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 กว่าศาลาไทยจะแว้บงานโผล่หน้าเข้าอาศรมฯ ได้ ก็ได้ฤกษ์งามยามดี "โกฏิดารา" มาเป็นคนเฝ้ากระทู้ สวัสดีอย่างเป็นทางการอีกครั้ง  ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง  ท่าทางจะได้มิตรใหม่ขยันไม่เบา เอิ้ก ๆ อาร์พี ไม่เห็นตอบ ณ มิตร  เรื่องฉันทลักษณ์ที่ถามค้างกันไว้ตั้งแต่อาศรมฯ ภาคที่แล้ว ชมฉบังอาพีเขียนนำ คิดถึงเฮียคลำ แอบขำคำคนค่อนคน ณ มิตรเชิญมิตรมายล ถ้อยทางวางดล เห็นน้ำใจงามตามมา ส่วนคนหนีงานศาลา แอบยิ้มอิ่มตา ทักทายพบเห็นเช่นเคย อ้ออีกอย่าง  ว่าแต่ 16 ก.ค. 18:08:14 นี่มันปีไหนเหรอครับ ดูคร่าว ๆ ว่า น่าจะเป็นราว ๆ ปี ๒๕๔๒ หรือ ๒๕๔๓ โดยประมาณค่ะ เอ... หรือก่อนหน้านั้นก็ไม่แน่ใจ  แหะ ๆ มันนานมาแล้ว ชักลืม... ฝากสวัสดีถึงมิตรสหายทุก ๆ ท่าน  คิดถึงพี่หมีเซอะ พี่หมีเซอะก็แวะมา คิดถึงนายกระซิบก็ได้ยินเสียงกระซิบ ลั้ลลาาาาาา... เอ... คิดถึงครูหนอนสุรา  หรือว่าครูจะแวะมา  เอิ้ก ๆ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                     . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 8 พ.ย. 48 18:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คืนนี้เป็นพวกบ้านไกลเวลาน้อย จะเรียงร้อยโคลงตอบคงไม่ไหว ขอบคุณพี่ทุกท่านให้กำลังใจ เด๋วมาใหม่พรุ่งนี้ว่างตารางเคลียร์ ราตรีสวัสดิ์ครับคุณพี่ทั้งหลาย.. จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 8 พ.ย. 48 22:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีอีกครั้ง ที่เก่า เวลาเดิมครับ #8 นายกระซิบ(ท่าทางอาวุโสหาน้อยไม่) ใครรู้ตัวว่าอาวุโส ก็รู้อยู่กับตัวครับ ผมยังเป็นผู้เยาว์ ต้องเคารพผู้อาวุโส อิอิ -------------------------------------------------------- #9 ผมก็เข้ามาไม่ทันโคลงกลบทนะครับเนี่ย รอท่านผู้อาวุโสทั้งหลายเมตตาเด็กตาดำๆ หาลิงค์ที่เก็บไว้มาลง อิอิ ------------------------------------------------------ #10 คุณพี่หมีเซอะ ตกลงจะเอาแต่ชุดฮันบกกลับมาให้ผมเหรอเนี่ย ฮือๆ ถ่ายรูปสาวเกาหลีสวยๆมาลงพร้อมโคลงเป็นไงครับ เป็นของฝาก อิอิ ---------------------------------------------------------- #11 ทิกิซัง แวะมาทักทายกัน ฝากกลอนโคลงไว้บ่อยๆนะครับ ---------------------------------------------------------- #13 เจ้าดอกเอ๋ย เจ้าดอกจำปูน โคลงจรัสจำรูญ   เพิ่มพูนปัญญา เจ้าช่อมะกอก     เจ้าดอกมะลิลา จบภาคร้อยสี่สิบห้า   มาขึ้นร้อยสี่สิบหกเอยฯ ----------------------------------------------------- #14 Ar@p ซัง สรุปง่ายๆคือ "ขี้เกียจ" อ๊ะป่าวครับ อิอิ กลบทกะฉันท์อ่านยาก สื่อความหมายให้คนทั่วไปเข้าใจไม่ได้ เขียนสวยเท่าไหนก็ไลฟ์บอยน่อ คิดเหมือนกันบ่ครับ ---------------------------------------------------- #15 คุณซอมพอแดง ยังแปะโป้งโคลงมโหสถอยู่นะเนี่ย เหอะๆ คิดบ่ออกซักที รอไว้วันดีจะเอามาลงเด้อครับ แหม ท่าทางผู้อาวุโสของกระทู้นี้จะเป็นแบบ "มะพร้าวห้าวยิ่งแก่ยิ่งมัน พี่ขอบอกแจ่มจันทร์ พี่ยังไม่แก่หรอกน้องเอ๋ย" กันทั้งนั้นนะครับเนี่ย สงสัยว่า "ซอมพอแดง" มีที่มาจากไหนครับ เห็นชื่อก็สงสัยมานาน คราวนี้ได้โอกาสถามแล้ว อิอิ ------------------------------------------------------- #16 คุณพิราบเงิน วันนี้มาสั้นๆ ได้ใจความเลยนะครับ โคลง กายเดินช้าอย่าง              สบายใจ ไม่ เดือดร้อนเรื่องใด                เดือดร้อน รู้ โลกย่อมเป็นไป                    ตามเหตุ จบ เหตุ มีผลซ้อน                    ใหม่ให้ฝึกฝน ฯ เดินโคลงไปเคลงมา ระวังสะดุดล้มหน้าหงายเด้อ ------------------------------------------------------ # 17 กรวีซัง คราวหน้ามา อย่าลืมเอาโคลงมาแปะนะครับ ------------------------------------------------------ # 18 นายกระซิบ ๏ คิดเอาครีมพอกหน้า     ระวังลอก เอสพีเอฟขอบอก         อย่าน้อย ใช้ของถูกกระจอก        ฝ้าเกรอะ ประหยัดเงินแค่ร้อย       หมดสิ้นหน้าพัง๚   อิอิ ------------------------------------------------ #19 คุณศาลาไทย แหม เข้าตำรา "คิดถึงโจโฉ โจโฉก็มา" รึเปล่าครับเนี่ย ------------------------------------------------------ พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ วันนี้ลาไปก่อนเด้อ หอจะปิดแหล่วครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 8 พ.ย. 48 22:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 22 หอบเอาความรักมาทักทายครับ จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน - [ 8 พ.ย. 48 23:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 23 @~_ Poem. โคลงฯณที่นี้อ่าน.......แล้วสนุกสนาน จอมยุทธมากมายขาน.................ขับถ้อย เจิดจ้าจรัสแสงฉาย.......................แวววับ อภิรมย์เคลิ้มคล้อย.......................ดั่งต้องมนต์ตรา . Poet _~@ จากคุณ : Knight - [ 9 พ.ย. 48 00:15:54 A:58.9.132.111 X: TicketID:109986 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ๐ บังเอิญผ่านมาชม         อาศรมโคลงกระทู้ ชื่อว่า"โคลงไม่รู้              จบ"น้ำคำโคลง ๐ หกโมงห้านาที             สวัสดีตอนเช้า โปรดอภัยข้าฯเจ้า            แต่งด้วยโคลงสาม  แลนา จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย - [ 9 พ.ย. 48 06:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณคุณศาลาไทยที่ทักท้วง ผมไม่แน่ใจว่า ค้างคำตอบคุณ ณ มิตร จะกลับไปคุ้ยดูข้อความกระทู้ที่แล้วดูครับ ถ้าตอบคุณ ณ มิตร ไม่เคลียร์ หรือตอบไม่ตรง ก็ขออภัยด้วยครับ ไม่มีเจตนาจะหลบเลี่ยง  แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อย เหมือนคุณศาลาไทยนั่นแหละครับ  (ฮา) "สวัสดีครับท่านน้า..............Ar@p บุญส่งพบกลอนดี............."ตื่นเช้า" โคลงกาพย์ร่ายฉันท์มี........ตัวบอก ผมอ่านของน้าเข้า.............ไม่รู้คืออะหยัง? ขอความกรุณาคุณน้าอาร์พีช่วยบอกกล่าวเป็นความรู้ประดับสมองน้อยๆของผมด้วยนะครับ... ขอบคุณครับ... " จากคุณ : ณ มิตร (namit)   - [ 7 พ.ย. 48 19:24:56 ] ข้อความที่ยกมา คงเป็นคำถามที่ผมค้างคุณ ณ มิตร (ไปอ่านผ่านๆ แล้วหยิบมา เนื่องจากรีบรน อิๆ) ถ้าถามว่า  "ตื่นเช้า"   เป็นร้อยกรองรูปแบบอะไร อาร์พีจำไม่ได้แล้วครับ (พูดเหมือนกวน แต่จริงๆ แล้วนึกไม่ออก) ไม่แน่ใจว่า มันจะเป็นกาพย์ชนิดใดชนิดหนึ่งหรือเปล่า ขอเวลาดูสักนิด   ไปดูแล้วทราบว่า  มันน่าจะเป็น กาพย์ฉบัง ๑๖  ส่วนรายละเอียด กรุณาดูจาก   http://www.st.ac.th/bhatips/gabpglon_16.htm หวังว่า คุณ ณ มิตร อ่านแล้วจะได้ประโยชน์ตามสมควร ส่วนตัวแล้วอาร์พี  ไม่ค่อยได้ติดตามฉันทลักษณ์แบบเอาเป็นเอาตาย เวลาเขียน ก็เขียนเพื่อถอดความรู้สึกออกมาเท่านั้น  ไม่ค่อยได้คำนึง รูปแบบทางฉันทลักษณ์  คือ ได้ก็ได้  ไม่ได้ก็ไม่ได้ เป็นเป้าหมายส่วนตัว แต่ถ้ามีเวลาอาร์พีก็จะนั่งๆ ดูฉันทลักษณ์ที่ครูโบราณสั่งสอนไว้ เพื่อศึกษาเป็นความรู้   ได้มั่ง ไม่ได้มั่ง แล้วแต่เวลาที่มี เท่าที่ดู อาร์พีคงมุ่งดูงานเหล่านี้ที่ "เสียง" มากกว่าอย่างอื่น ดั้งนั้นจึงไม่แปลกที่อาร์พี จำชื่อ กาพย์ฉบัง  ไม่ได้  อิ อิ เคยมีมือดีมาลองภูมิอาร์พี ว่าจะมีความรู้ทางร้อยกรองแค่ไหน อาร์พีก็บอกไปเท่าที่รู้  และไม่ยอมแลกเปลี่ยนอะไรที่เป็นกฏเกณฑ์ (เพราะไม่ใช่เป้าหมาย) เว้นแต่ออกความเห็นตามมุมมองของตนเอง  - ฮา สำหรับ คุณ ณ มิตร ดูจากที่เขียน ก็เข้าใจเสียงโคลงอยู่ในเกณฑ์ดี เข้าใจว่า เขียนร้อยกรองเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ขอให้เขียนมาอ่านกัน   ถ้ามีโอกาส ผมจะพูดถึงงานของคุณเพื่อแลกเปลี่ยน สมควรครับ สวัสดียามเช้ากั๊บ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 48 13:06:29 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 48 10:04:11 จากคุณ : Ar@p - [ 9 พ.ย. 48 09:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบน้องดาราค่ะ นาม"ซอมพอ" คือชื่อดอก จะบอกให้ คำไทยไทย เรียกขาน นามเพราะหนา "หางนกยูง" นั่นไง เจ้าแก้วตา แต่ภาษา ถิ่นเรา เขาเรียกกัน... ไม่ได้เอามาจากไหนหรอก มันขึ้นอยู่ข้างรั้ว ตอนเข้ามา เล่นเน็ทใหม่ ๆ เหลียวซ้ายแลขวา ตั้งชื่อไรดีหว่า ไปเห็นมันเข้า เอาชื่อนี้แหละวะ ฮี่ๆ แต่คนเมืองเหนือเปิ้นเรียกว่า ดอกซอมพอ มันมีสองสี สีส้มกับสีแดง พี่ชอบสีแดง สีควายไล่น่ะ อิอิ จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 9 พ.ย. 48 10:25:50 A:unknown X:202.129.0.33 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ๏ ชายชาญชวนชาติเชื้อ             เชิงชาย ชายชุ่ยชอบชิดชาย                   ชดช้อย ชายชรใช่ชอนชาย                    เชยชิด ชายชื่นชมชายช้อย                   ชื่นชู้ชายชัง ๚ *** ซ้ายหัน - ขวาหัน - กลับหลังหัน .... แหวะ! จากคุณ : นายกระซิบ - [ 9 พ.ย. 48 10:26:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โคลง อาศรม แห่งนี้.......................ยาวยืน ไม่ อยากจะทนฝืน.........................อวดกล้า รู้ น้อยค่อยกล้ำกลืน.......................เขียนกล่าว จบ แค่พอรักษ์หน้า.........................แต่น้ำโจ๋งเจ๋ง เขียนเพราะอยากมีชื่อติดอยู่ในกระทู้อมตะนี้เท่านั้นครับ. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 9 พ.ย. 48 11:17:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ๏ แต่งไปเถอะเพื่อนพ้อง      ชวนเชิญ แต่งทุกวันจิตเพลิน              ผ่องแผ้ว ถึงสาระน้อยเกิน                 กำหนด แต่ก็ยิ้มแตกแล้ว                 กับน้ำโจ๋งเจ๋ง ๏จำปูนปูนเปียกแล้ว             ป้ายโคลง โคลงไม่มีลาโรง                  หลบลี้ คงไม่จบยังโยง                   ใยต่อ โคลงไม่รู้จบนี้                     พี่น้องช่วยกัน จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 9 พ.ย. 48 13:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ๏ เซซังซึมซับซ้อน               ซวนเซ ซูบซีดแซมโซเซ                  ซุกไซ้ ซมซานซบเซาเซ                 ซอมซ่อ ซุบซู่เซ็งเซ็งไซร้                  ซุ่มซุ้มซึมเซา ๚ จากคุณ : นายกระซิบ - [ 9 พ.ย. 48 13:23:28 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ๏เสนาะเสียงสนั่นสร้าง           เสกสรร โคลงใคร่คิดคลายครัน           คึกครื้น ชี้ชัดชื่นชูชัน                        ชิดชอบ เติมต่อตรองติดตื้น                ต่ำต้อยตีบตัน จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 9 พ.ย. 48 14:03:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ๏ ระนาดเตรงเตร่งเตร้ง      กังวาน ฆ้องโหม่งมองมองขาน      สอดคล้อง เสียงซออี่อี๊สาน                รับส่ง ติงทั่งโจ๊ะจ๊ะก้อง               เพราะพร้องมโหรี     เปลี่ยนมาฟังเพลงบ้างเนอะ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 9 พ.ย. 48 14:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาหาเพื่อนแท้                      ในถนน ชอบอ่านเขียนและซน                  อยู่บ้าง บินห่างจากไพรสณฑ์                  โดดเดี่ยว ยามท่องแผ่นดินกว้าง                  หิ่งห้อยเหงาจัง     เมี้ยว ๆ ๆ มาแปะไว้หนึ่งบท  บะ - แบบว้า......กัวถูกลืมอ่ะเจ้า    ^_^ จากคุณ : หิ่งห้อยน้อยใจ - [ 9 พ.ย. 48 16:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โคลง..เคลงเพลงลำน้ำ.....ล่องลอย ไม่..เก่งประดิดประดอย....กล่าวถ้อย รู้..เหมือนตกกระไดพลอย...เลยกระโดด จบ..อย่างแบบเจ็บน้อย....เก็บแข้งม้วนขา โคลง..บรรเลงสื่อสร้าง...บรรยาย ไม่..ลบเลือนเสื่อมมลาย...จริตห้วง รู้..เขียนอ่านระแคะคาย...พอประดิษฐ์ จบ..บทเชิญทักท้วง.....บอกชี้ทิศทาง ..ธุงามๆ ทุกท่าน ครับ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 9 พ.ย. 48 21:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ๏ หุงหาหัวเห็ดห้าม           หาเหา หาญหักโหดหวดเหา         ห่อนแห้ง หันเหห่างเหินเหา             หดหู่ หัวหาดเห็นเห็ดแห้ง          หอบหิ้วเหาหาย ๚ จากคุณ : นายกระซิบ - [ 10 พ.ย. 48 00:02:23 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โค-ลงคูคู่คู้                       เย็นสบาย ไม่-เหม่อมองใดหมาย         แช่เล่น รู้-ราวเรื่องรอบราย              เพียงตื้น จบ-จรจากโจนเต้น              ฝากไว้ขี้ไคล แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 48 00:42:48 จากคุณ : ภูสุภา (บังอร-บังเอิญ) - [ 10 พ.ย. 48 00:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เพลงดึก ------------------------------- ดึกดื่นเดือนเพ็ญเด่นฉาย โฉมเจ้าเคียงกาย กระซิบหยอกล้อต่อคำ กลลวงลึกเร้นเธอนำ นับหนึ่งถูกอำ คิกคิกจังหวะสะใจ "ขี้เล่นจริงจริงลูกใคร" ฉันขรึมขู่ไป ลึกลึกภายในหัวเราะ ทันทีทันใดเธอเดาะ ระดะมุกเหมาะ ชิชิหน้างอ หน้าหงิก สักพักนักงอนคิกคิก ลูกง้อฉันพลิก นิ้วแหย่ชายโครงเต็มรัก บ้าจี้ เธอดิ้น เธอผลัก ดาดฟ้าคึกคัก คู่รัก คู่หนึ่งซึ้งครบ สักครู่คู่ศึกสงบ ยุติประเด็นรบ หย่าศึกมายืนเคียงคิด เธอว่า ใยดาววิจิตร ไร้แสงทุกทิศ เหมือนดับลับฟ้าลาโลก ฉันบอกคนดีอย่าโศก แสงไฟสาดโกรก คลุมเมืองเอาไว้ในหมอง สีมัวเมืองหม่นเรามอง คือมวลละออง บดแสง บังฟ้าอาดูร เมืองใหญ่มักแสงดับสูญ อัปลักษณ์ทวีคูณ ฟ้าหม่นคนหมองมองเห็น แต่เช้า บางเช้า ใจเย็น เราอาจมองเห็น หลายดาวโดดเด่นเช่นกัน ดาวเหนือ ทิศเหนือเจือฝัน แสงจ้าแบ่งปัน ระยิบระยับจับใจ ฯลฯ ฉันเพ้อถึงดาวไหนไหน มองเธอเป็นไง หาวหวอดจริงจังพังครืน ตาปรือหนักหน่วงเต็มกลืน ตัดใจไม่ฝืน ส่งเธอเข้านอนตอนดึก เดินไปคิดไปใจลึก "คู่รักระทึก ทะเลาะกันบ้างสร้างรส. 10112548-1 *สวัสดียามเช้ามิตรสหายทุกท่านครับ โดยเฉพาะท่านลุง "เจียวต้าย" จากคุณ : Ar@p - [ 10 พ.ย. 48 09:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ๏ โคลงเคลงคลึงคู่เคล้า          คำโคลง โคลงคู่คลึงคลำโคลง              คู่เคล้า โคลงเคลงคู่คลอโคลง            เคียงคู่ โคลงคู่คลึงคลุกเคล้า              เคลื่อนคล้อยโคลงเคลง ๚ จากคุณ : นายกระซิบ - [ 10 พ.ย. 48 10:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ๏ คำอาร์พีท่านน้า...........อุ่นอก อ่านเฮย คือกาพย์ฉบังสิบหก..........แน่แท้ ตำราเปิดอ่านตก..............ไปหน่อย ณมิตรจักจำปรับแก้...........สิ่งด้อยในหัวฯ ขอบคุณมากสำหรับ Link ครับ... พอดีในหนังสือเปิดดูแล้วท่านวาดผังไว้แบบนี้ครับ... ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏                ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏                ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ๏ ผมเลยมองข้ามไปแหะๆ... ขอประทานโทษด้วยครับ... ส่วนของพี่สดายุและพี่ลำน้ำC นี่เคยเห็นอยู่แว้บๆครับ... คงต้องไปสะกดรอยตามอ่านอย่างที่ท่านน้าว่า... ๏ ศาลาไทยตอบถ้อย.........คำถาม ณมิตร นา ปีสี่สอง,สี่สาม...................ยุคย้อน อาศรมฯหลักเลขยาม..........เท่าไหร่ กันพี่ ผงใคร่อ่านตามต้อน............เก็บไว้ในคอมฯ ปี ๒๕๔๒ หรือ ๒๕๔๓ นี่มันอาศรมที่เท่าไหร่ครับ... สงสัยจะเลขตัวเดียว.... อ่อ... อีกคำถามครับ.... อาศรมฯเก่าๆนี่มีเก็บไว้ในคลังกระทู้เก่ารึเปล่าครับ... ผมหายังงัยก็หาไม่เจอ... แหะๆ.. รบกวนผู้รู้แจ้งแถลงไขหน่อยนะครับ... แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 48 11:57:01 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 48 11:45:15 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 10 พ.ย. 48 11:42:55 ]

ความคิดเห็นที่ 40 • เด็กเลี้ยงแกะ เด็กเลี้ยงแกะร้องบอก          ผู้คน หมาป่าบุกร้อนรน                ดั่งบ้า ชาวบ้านต่างรีบจน               พบแกะ หมาป่าไม่พบหน้า               เด็กนั้นหัวเราะหงาย (แดงน้อย) สะใจเจ้าเด็กน้อย...............เลี้ยงแกะ โกหกได้ยิ้มแสยะ..............โง่มั้ง คนหลอกง่ายสนุกแยะ........รอก่อน วันพรุ่งลวงอีกครั้ง..............หัวเราะให้งอหงาย... (namit) วันพรุ่งจึงร่ำไห้                  รำพัน แกะ แกะ แกะ ของฉัน        พี่ น้า หมาป่าบุกเมามัน               ตะกละ โปรดเถิด เร็ว อย่าช้า          ช่วยด้วยเถิดหนอ ฯ (พิราบเงิน) ชาวบ้านล้วนเข็ดเขี้ยว         ตามกัน อ้ายเด็กเวรเล่นฉัน             อีกแล้ว สตอเบอรี่ของมัน               มุขเบื่อ หากเชื่อมันไม่แคล้ว           ถูกเย้ยเยาะหยัน (อ่างหยก) ถึงวันหมาป่าต้อง                พุงกาง รอยเลือดลากเป็นทาง         แกะดิ้น เด็กเลี้ยงแกะครวญคราง      ใครช่วย หนูที หมาป่านอนพุงปลิ้น             แกะร้างหมดฝูง ๚ (นายกระซิบ) เด็กน้อยนั่งสะอื้น..............เป็นนาน เสียงสั่นดังกังวาน..............ทะลุฟ้า เทวดาเริ่มรำคาญ..............จึงมอบ พรเฮย เจ้าเด็กอยากให้ข้า............ช่วยมั้ยอะไรดีฯ (namit) "เทวดามาบ่นบ้า               ทำไมกัน แกะไม่ใช่ของฉัน             สักน้อย" เด็กเลี้ยงแกะกลับหัน        หัวร่อ เทวดาคลำหัวป้อย            หงุดโง้งุนงง เจ้าของแกะจ่ายเบี้ย          ประกันไว้ หมาป่าล่าแกะไป             ไป่ร้อง รีบเรียกบริษัทไว              มาจ่าย ไหมนา เลี้ยงแกะเดี๋ยวนี้ต้อง         รอบรู้ป้องกัน เจ้าของฝูงแกะใช้             ผมเอง ให้โหวกโวยครื้นเครง        ล่อย้ำ เมื่อหมาป่าละเลง             เขมือบแกะ ประกันจ่ายสินไหมช้ำ       ชื่นแท้เจ้าของ๚ (โกฏิดารา) ฟังนิทานจบด้วย              กลโกง มันผิดครรลองโผง           อ่อนล้า ใจหดหู่จนโคลง              ห่อเหี่ยว จำแคะครีมเด้งหน้า          พอกไว้กันเฉา ๚ (นายกระซิบ) คิดเอาครีมพอกหน้า         ระวังลอก เอสพีเอฟขอบอก            อย่าน้อย ใช้ของถูกกระจอก           ฝ้าเกรอะ ประหยัดเงินแค่ร้อย          หมดสิ้นหน้าพัง๚   (โกฏิดารา) สายัณห์หลบเมฆพ้น..........แดดส่อง แล้วนา รีบปิดSunshadeมอง.........ลอดเร้น ตรงไหนโหว่แสงทอง.........ยังผ่าน Jacketใส่คลุมปิดเน้น.........มิให้ถูกตัว UV นี่ช่างร้าย...................ชะมัด ฝ้ากระขึ้นเห็นชัด...............แย่ได้ มีSunblockทาอัด..............เหนียวเหนอะ หน้าผ่องผิวนวลไร้.............กระฝ้าYahoo! เห็นพูดถึง SPF พอดีเลยเอาของเก่ามาแจมครับ... ถ่ายไว้เมื่อเดือนที่แล้วครับ... ส่วนเรื่องเทวดาใจดีของเด็กเลี้ยงแกะ โดนพี่โกฎิดาราหักจบซะงั้น... 555 ไม่งั้นคงได้ไถลไปแนว Fantasy มั่งหละครับ.... อิอิ... แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 48 11:55:46 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 10 พ.ย. 48 11:54:26 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ๏ ซอมพอคือดอกไม้...........หางนกยูง แดงแสดช่ออยู่สูง...............เสียดฟ้า สวยสุดจับใจจูง..................ตรึงจิต กระทิงขวิดควายไล่ถ้า.........ทัดไว้เหนือหู แวะมาแซวพี่ซอมพอแดงด้วยครับ.... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 10 พ.ย. 48 12:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 42 --คิดถึงตอนกลางวัน-- บางคนคิดถึงกลางวัน คิดถึงสุริยัน แสงทองส่องงามอร่ามตา บางคนคิดถึงทิวา คิดถึงสุริยา บอกว่าแปลไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างคิดต่างฝัน ต่างหากต่างหัน ต่างขั้วต่างข้างต่างคม คิดถึงน้องน้องอาศรม ไม่เจอนานนม- โตขึ้นกันหลายหลายคน แอบมาแอบมองอีกหน เขียนกาพย์วกวน เพราะคิดถึงนะตะเอง ปล.กาพย์ของคุณอาร์พี #37 น่ารักมากคับ จากคุณ : เกี๊ยวหมูแดง - [ 10 พ.ย. 48 12:15:22 A:203.170.228.172 X: TicketID:033340 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตอบคุณ ณ มิตร / 39 กระทู้เก่าๆ คุณศาลาไทยเธอเก็บไว้หมดแล้ว ถ้าต้องการลองกระซิบถามเธอดูครับ  ได้แน่นอน ตอนแรกอาร์พีฝันไว้ว่า จะทำเวบอาศรมฯ เก็บกระทู้พวกนี้ เพราะไม่ต้องการทิ้ง หรือปล่อยให้สูญหาย ด้วยบางส่วนมีสาระประโยชน์พออยู่  โดยเฉพาะกับผู้ที่ ต้องการความรู้เรื่องร้อยกรอง แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังจน อาร์พีไม่มีโอกาสนั่งหน้าคอมฯ นานๆ เลย งานบ้าบอที่ไหนก็ไม่ทราบมันมากองท่วมทุกวี่ทุกวัน อย่างไรก็ตาม ถึงวันนี้ อาร์พีก็ยังฝันอยู่เช่นเดิมจ้ะ  - ฮา *คุณพี่เกี้ยวหมูแดง   หายไปไหนมาล่ะ ปล่อยให้น้องๆ เหงาใจกันแทบแย่   อิๆ จากคุณ : Ar@p - [ 10 พ.ย. 48 13:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ๏ งงงวยงุ่มง่ามแง้ม        งามงอน หงุดหงิดงอแงงอน          ง่าเงื้อม เงางามเงื่อนงำงอน         โงกเงก งอหงิกงอกแงกเงื้อม       งั่งง้างเงียบเหงา ๚ *** โ ค ล ง ไ ม่ รู้ จ บ ... ถ้าเบื่อก็บอกนะขอรับ ปล. นานๆ มาถี่ ก็เลยทำเวลาจนหาสาระห่อนได้ จากคุณ : นายกระซิบ - [ 10 พ.ย. 48 14:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ๏ ยังเมามันอยู่เล้ย          คำโคลง เหมือนติดรสเหล้าโรง      ไม่ สิ้น เมาแล้วห่มคลุมโปง         รู้ หลับ สนิทนอ กลิ้งตกเตียงเพราะดิ้น      จบ ด้วยคอเอียง จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 10 พ.ย. 48 15:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณนายกระซิบครับ เราคอเดียวกัน  อย่าได้กังวลเรื่องเบื่อ หรือไม่เบื่อครับ คิดอะไรได้เขียนมาเถอะ เพื่อนพ้องยังรออ่านกันอยู่ ถ้าอยากเปลี่ยนอิริยาบถ ก็เปลี่ยนไปเขียนงานแบบอื่น มาวางได้ครับ ส่วนจะเขียนถี่  หรือไม่ถี่ก็ไม่ใช่ปัญหา   อาศรมฯ ไม่มีข้อบังคับ ถ้ามีก็คงแต่ที่คุณเขียนนั้น  อย่าได้ไปล่วงละเมิดชีวิตส่วนตัวของใคร เข้าเป็นใช้ได้   (ยกเว้นนักการเมือง)  อิ อิ ตามบายครับผม. จากคุณ : Ar@p - [ 10 พ.ย. 48 15:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ๏ กางกรเกร็งโก่งก้น            กลโกง เกลอเก่ากอดกันโกง            เกี่ยวก้อย เกรียงไกรกล่าวแกมโกง       โกยก่อน เกริกเกียรติแกแกล้งก้อย      กลัดกลุ้มกำเกียง ๚ ขอบคุณครับคุณอา (อ้วนพี) .....  อักขระพาไปซะงั้น ไม่มีขอบเขตขอบข่าย แต่ไม่ก้าวล่วงใครๆ อาจจะเขียน ก.ไก่ ถึง ฮ.น้องฮูกเลย ... ถ้ามีเวลา ปล. เขียนในกรอบฉันทลักษณ์และใช้ศัพท์ที่มีพจนานุกรมรองรับ แต่ขอละไว้ซึ่งสาระ เขียนเพื่อการพักผ่อน ลู ก เ ดี ย ว จากคุณ : นายกระซิบ - [ 10 พ.ย. 48 16:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีครับ คุณโกฏิดารา  อาพี  และทุกท่าน ผมยังอาการหนักจมอยู่กับงานตามเคย  ช่วงนี้ก็แทบจะกินนอนอยู่ที่ท่า อากาศยานกรุงเทพฯ  ห้องวีไอพี   ส่งผู้เข้าประชุมคนสุดท้ายกลับประเทศ ไปเมื่อประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมานี่เอง ยังต้องสะสางงานอีกพักหนึ่ง....ปีนี้ยุ่งเสียจนไม่มีเวลาดูหนัง-ฟุตบอลที่ชอบ เรื่องโคลงกลอนคงไม่ต้องพูด..... กระทู้เริ่มตำนานอาศรมชาวโคลงก็อย่างที่อาพีว่า  ศาลาไทยบันทึกลงแผ่นมอบ ให้ผมไว้แผ่นหนึ่ง (ตามรูป) ปีใหม่นี้ลองทำแจกกันดีไหม  ค่าแผ่น เฮียคำผีจะ ออกให้ สามบาทห้าสิบคงพอ   แต่คนทำไม่รู้ใคร  แหะ แหะ ว่างเมื่อไรจะโผล่เข้ามาครับ ฝากกลอนเก่าแก้เลี่ยนโคลงไว้ก่อน  (ยังไม่มีปัญญาแต่งใหม่...) น้ำค้างเผลอหล่นผลอยร่วงพร้อยแพรว ประดับแววเรือนแหวนดอกไม้ไหว แหวนน้ำค้างชั่วคืนเต็มตื้นใจ แหวนนิ้วใครชั่วคราวผ่าวน้ำตา ลมเหนือโลกพัดลิ่วกรีดผิวร่าง ฟ้ายะเยือกหนาวย่างสู่ยอดหญ้า ฤดูกาลเวียนกลับไม่ลับลา ฤดีการเสน่หาไยลาลับ โอ้ละเห่ เร่หาน้ำตาพราว วังเวงดาวเหม่อดูหรุบหรู่หลับ ไปเถิดไปเป็นดาวอันวาววับ อย่าหรี่ดวงร่วงดับลงกับดิน เธอจงเป็นดาริกาแห่งฟ้ารุ่ง ลืมมือที่ปั้นปรุงเธอทั้งสิ้น อย่าเป็นดาวใจง่ายขายข่าวกิน แล้วแลบลิ้นสองแฉกให้แปลกใจ  ฯ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 10 พ.ย. 48 17:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 49 "อย่าเป็นดาวใจง่ายขายข่าวกิน แล้วแลบลิ้นสองแฉกให้แปลกใจ  ฯ " สวัสดีพี่คัมภีร์ของหนูๆ (แมวๆ) อิๆ คอยกันน้านนาน  และแล้ว ฟ้าก็เปิด   เจ้าพี่คนหล่อสุดของเราก็มา กลับบ้านก่อนล่ะครับทุกท่าน  พรุ่งนี้ประชุมตั้งแต่บ่ายโมง อิ อิ จากคุณ : Ar@p - [ 10 พ.ย. 48 18:17:15 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อ้าว ! มาแวะทักกันคนละสองคำแล้วแอบสลายโต๋ ไม่รอศาลาไทยซะงั้น เชอะ งอน !!! เอิ้ก ๆ คุยกับมิตรสหายดีกว่า คุณ ณ มิตร ถามเรื่อง ๒๕๔๒ หรือ ๒๕๔๓ ว่าเป็นอาศรมฯ ที่เท่าไหร่  ตอบว่า  ตอนนั้นยังไม่เป็นอาศรมฯ เลยค่ะ พวกเราเริ่มนับอาศรมฯ แรกกันช่วงเหตุการณ์ ๙๑๑ (จำง่ายดีไหม) เพราะงั้นก็เป็นปี ๒๕๔๔ ค่ะ  นับกันที่กันยายน ๒๕๔๔  ถึงตอนนี้ก็สี่ขวบกว่าแล้ว แต่ว่ากันตามจริง  ครูหนอนสุรา ที่เป็นแรงบันดาลใจหลักให้เป็นอาศรมฯ มาจนทุกวันนี้ คอยบอกเล่าเก้าสิบ  แนะนำโน่นนี่มากันตั้งแต่ก่อนหน้านั่น  เพราะฉะนั้น "สร้อยโคลง" ที่หลายรุ่นบอกเล่าต่อกันมา  จึงมีมาก่อนจะนับอาศรมฯ แรกแล้วล่ะค่ะ ถ้าคุณ ณ มิตรอยากได้แผ่นข้อมูลที่เก็บบันทึกตั้งแต่อาศรมฯ แรกไว้ รบกวนส่งที่อยู่มานะคะ  จะเขียนลงซีดีส่งไปให้จนถึงกระทู้ปัจจุบันค่ะ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - เกลออาพี ลืมบอกว่าชอบกาพย์ดึก ๆ นั่นจัง  อ่านแล้วน่ารักน่าชัง แต่ระวังนะ  อย่าให้เจ้าหล่อนจับได้เชียว  ว่าแอบมาเผาไว้ ผู้หญิงน่ะ  ถ้าลงไม่รู้ล่ะ ก็อย่าให้รู้เลยเชียว  ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่ ๆ เอิ้ก ๆ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - พี่เกี๊ยวหมูแดง คิดถึงคิดถึงคิดถึง ใครหนอรำพึง ฤๅได้สักกึ่งความจริง คิดถึงนะแม่ยอดหญิง หมายจักพักพิง ตักอุ่นหนุนนอนตอนเมา คิดถึงไหวหวามยามเหงา กระซิบแผ่วเบา คิดถึงยิ่งย้ำสม่ำเสมอ... ฮิ ๆ ดีใจที่แวะมาเขียนในอาศรมฯ นะคะ  หายไปนาน  ขนาดอาพียังถามหา - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - เฮียคัมฯ คิดถึงจังค่ะ  ช่วงปลายปีศาลาไทยงานยุ่งเหมือนเคย  (จริง ๆ ก็ยุ่งทั้งปี) ปีนี้ทำปฏิทินเยอะกว่าเก่า  งานเลยหนักหนาขึ้น  แต่ก็มีงานอยากอวด (อย่างเคย) ไว้จะส่งไปให้ยลช่วงปลายปีนะคะ  (แอบกระซิบว่านางแบบปฏิทินอยู่แถว ๆ นี่) เอิ้ก ๆ อาศรมแต่หลายปีก่อน คิดแล้วอยากย้อน คืนหวนทวนวันผันลับ ขอบคุณเฮียคัมฯขอรับ เวียนมาสำทับ ยังเก็บของเก่าเราไว้ ลายมือเขียนศาลาไทย สองปีผ่านไป จารึกน้ำมิตรสนิทนาน - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                     . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 10 พ.ย. 48 19:10:12 ]

ความคิดเห็นที่ 51 สวัสดีที่เก่าเวลาเดิมครับ ทุกท่าน ไม่ตอบแค่วันเดียว กระทู้ไปไกลแล้วเลยนะเนี่ย นายกระซิบ โคลงอักษรล้วน รออ่านให้ครบตั้งแต่ ก-ฮ อยู่นะครับ คุณ ณ มิตร ขยันจัง ผมล่ะขี้เกียจ อิจฉาคนขยัน ฮ่าๆ วันนี้คิดบ่ออกเด้อ แปะโป้งๆ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 10 พ.ย. 48 22:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ๏ โคลง ยืนยังอยู่ยั้ง       โคลง อา -ศรมเฮย ไม่ เบื่อเลยเพียรมา         ไม่ เว้น รู้  จักฝึกทักษา               รู้ แต่ง จบ แต่โคลงมิเร้น           จบ สิ้นสัมพันธ์ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 11 พ.ย. 48 08:49:50 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เอ่อระเหยแต่งโคลง              ชวนกันมาโยงใยไม่รู้จบ แต่งแล้วบางครั้งแสนยาก       แต่มันก็อยากไม่เคยลี้หลบ เป็นน้องใหม่ในอาศรม           จิตล้วนชื่นชมขอยกมือปรบ ไม่รู้จะเบื่อเมื่อไหร่                เพราะเป็นสิ่งใหม่ไม่เคยพานพบ ขอน้อมฝากเนื้อฝากตัว          มือไหว้ก้มหัวด้วยความเคารพ พวงเจ้าเอ๋ยตะขบ                  โคลงไม่รู้จบพบกันใหม่เอย จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 11 พ.ย. 48 11:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 54 โคลง..........หัวต่างอวดอ้าง.........เอาดี ไม่.............คิดว่าจะมี................แอบอ้าง รู้...............สำนึกบ้างซี..............พวกชั่ว จบ.............ชีพแผ่นดินร้าง..........สิ้นไร้แผ่นดินฯ เอ่อ.... อ่า.... กระป๋มโคลงเคลง เขียนอะไรไม่รู้ และไม่รู้อะไร ขอรับ คิดว่า "เฮียคลำ" หรือ อาพี คงรู้ดีกว่าเพื่อน ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ แวบงานเข้ามาทักทาย แล้วก็แวบหาย ฮาหุย แบบว่า ทุยรักทุย ขอรับ ไปล่ะ ชะแวบ จากคุณ : นายทิวา - [ 11 พ.ย. 48 20:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สวัสดีสาย ๆ วันเสาร์ค่ะ อาศรมชาวโคลง  เอ... คุณโกฏิดารา คนเฝ้าอาศรมฯ หายไปไหนหนอ... นายกระซิบ เจ้าขา...  ศาลาไทยรออ่านโคลงอักษรล้วนต่ออยู่นะคะ   แฮ่ม ๆ คิดถึงจัง  ว่างเมื่อไหร่ไปให้นายกระซิบเลี้ยงข้าวแฝ่ศาลาไทยดีกว่า คุณจำปูน (อ่างหยก) เขียนเพลงพวงมาลัย ทำให้คิดถึงบรรยากาศคึกคักอีกคราว  สงสัยต้องไปตามพี่รสามาร่วมวง เอิ้ก ๆ พี่ชายนายทิวา เขียนโคลงกระทู้หน้าบาทตามชื่ออาศรมฯ ทำให้คิดขึ้นได้ว่าศาลาไทยไม่ได้เขียนโคลงกระทู้นานพอดู  สนิมเขรอะ ๏ โคลง เขียนคำทบคล้อง      ใจแถลง ไม่ อาจซ่อนนัยแฝง                 เฝื่อนแล้ว รู้ ถ้อยเท็จทิ่มแทง                    หลงเชื่อ จบ ดั่งรอยร้าวแก้ว                 เจ็บร้างฤๅสมาน ๚ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                     . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 12 พ.ย. 48 11:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ตอนแรกก็ตั้งใจเข้ามาอ่านเฉย ๆ ตานี้ เห็นภาพที่คุณแสงแรกโพส เฉยไม่ได้ ขอนะคะ..ภาพนี้ น่ารักดี ป.ล. รูปพี่หญิง ซอมฯ ก็สวยไม่เบา สมัยเรียนมัธยม แจมชอบเก็บมาทับให้แห้ง แล้วส่งให้เพื่อนคนไกลคนหนึ่งประจำ เฮ้อ.. ป่านนี้เขาลืมเราแล้ววววว... เรื่องมันเศร้าค่ะ จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ 13 พ.ย. 48 01:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 57 แหะแหะเดินแวะเข้า       อาศรม ลืมแปะชื่อนานนม          มากแล้ว แอบแวะอ่านชื่นชม         ทุกเมื่อ คำเพริศเลิศคำแพร้ว       อ่านแล้วแอบปลง (เมื่อไหร่จะเขียนได้สักทีนะเรา) จากคุณ : คนเดินดินกินข้าวแกง - [ 13 พ.ย. 48 13:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ป.ล. รูปพี่หญิง ซอมฯ ก็สวยไม่เบา จากคุณ : สีน้ำฟ้า ประโยคนี้ต้องขยาย ฮ่า ฮ่า ก๊ากกกก... ขอบคุณ ณ มิตรค่ะ รูปนี้หางนกยูงเล็กมีหลายสี สีส้ม สีแดงสีเหลืองสีบานเย็น แต่ซอมพอต้นใหญ่มีสองสีค่ะ ส้มกับแดง แด่แจมค่ะ ซอมพอดอกทับแห้ง..............หอมอวล ส่งต่อให้เพื่อนชวน................ชิดใกล้ เครื่องหมายคนึงหวล.............ใครหนึ่ง นานเนิ่นลืมเราไซร้................อย่าได้เปลืองน้ำตา จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 14 พ.ย. 48 10:30:24 A:unknown X:202.129.0.33 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โคลง ยืนยังอยู่ยั้ง          โคลง อา -ศรมเฮย ไม่ เบื่อเลยเพียรมา         ไม่ เว้น รู้  จักฝึกทักษา               รู้ แต่ง จบ แต่โคลงมิเร้น           จบ สิ้นสัมพันธ์ เห็นความพยายามของคุณจำปูนแล้ว รู้สึกเป็น ๒ อย่าง อย่างแรก  แปลกและช่างคิด อย่างที่สอง อมยิ้มแกคิดไปได้ไง ผมเชื่อแล้วว่า "โคลง-ไม่-รู้-จบ" มันไม่จบ มันไปของมันเรื่อย  อิๆ จากคุณ : Ar@p - [ 14 พ.ย. 48 13:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เรียงร้อยใจใส่ไว้....................ในโคลง เผยเอ่ยวจีโพลง.......................โอ่อ้าง ทำนองล่องลอยโยง.................จินตะ ประกาศไม่ละร้าง....................ผูกถ้อยภาษา จากคุณ : นัวเนียร์แสนซน - [ 14 พ.ย. 48 15:55:23 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เข้าอาศรม  อ่านไม่ได้ราวความเห็นสุดท้าย 57-60 ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร เมื่อเช้าวาง "โคลง" แต่ถูกตัดออก  เข้าใจว่า ระบบคงเข้าใจว่า โคลงไปละเมิดใครเข้านั่นเอง เลยนำไปวางไว้ที่ blog ซะงั้น  อิ อิ จากนั้นตะเร็ด ตะเร่ไปหาอ่าน  Clean internet พอหอมปากหอมคอ  แล้้วไปนั่งเขียนโคลงอีโรติก เข้าใจว่า คงผ่าน "ตัด"   แต่ยังเกรงใจสาวๆ อยู่ว่า จะรับกันได้หรือเปล่า สวัสดียามเย็นทุกท่าน :D จากคุณ : Ar@p - [ 14 พ.ย. 48 17:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 64 พระรูปรอยช้อยแช่ม         โฉมฉาย ซากปรักวิหารราย             หยั่งยิ้ม หยอกลมพัดปัดปราย         กัดร่าง ปานไป่ให้ลมลิ้ม               กรีดแล้ว ยินดี ไม่ได้แวะเข้ามานาน ยังมีโคลงเพราะๆให้อ่านตลอดเลยนะครับ ช่วยแก้ช่วยวิจารณ์โคลงสั้นๆของผมด้วยนะครับ จากคุณ : leel - [ 14 พ.ย. 48 18:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 65 โคลง...เคลงเขียนขีดคั้น............รอดยาก ไม่....แต่งมานานมาก................หมดสิ้น รู้....โทเอกวาดลาก.................วางมั่ว จบ.....ด่วนแดดับดิ้น...............ปลิดปลิ้นหน้าขาย จากคุณ : รสา รสา - [ 15 พ.ย. 48 03:18:02 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เอ่อระเหย ลอยอืด................ลอยมาหน้าจืดดูเหนื่อยงานหนัก ยัยหนูศาลาไทยไปเรียก............พร้อมทั้งส่งเทียบเชิญเข้ามาทัก เราก็น้องใหม่คนหนึ่ง............เขียนใช่เพราะซึ้งว่าไปตามหลัก เห็นมีแต่เพื่อนหน้าใหม่.........ไม่รู้จักไปขอกราบแทบตัก เพลงพวงมาลัยของชอบ..............ร้องเล่นรับตอบให้แจ้งประจักษ์ ขอเชิญร่วมเล่นร่วมร้อง..........กันไปทั่วห้องดูสนุกคึกคัก วันนี้ขอลาไปก่อน................วันหน้างานหย่อนค่อยเข้ามาพัก พวงเจ้าเอ๋ย ดอกรัก..............ขอเชิญอนุรักษ์ร้องรำกันเอย. จากคุณ : รสา รสา - [ 15 พ.ย. 48 03:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 67 แวะมา (ยิ้ม) อย่างเดียว ขอรับ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 15 พ.ย. 48 10:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เอ่อระเหย อืดกว่า                  งานมันหนักหนาแขนขาแทบหัก งานมันมีไม่รู้จบ                     ทำแทบสลบไม่มีวันพัก วันนี้ตื่นมาก็เครียด                  เตะตัวขี้เกียจลงไปนอนชัก ปวดหมองจังเลยเจ้าข้า            ไปทำงานช้าหน้าเป็นจวัก มาเล่นเพลงพวงมาลัย             ความคิดแจ่มใสไม่ต้องคิดหนัก ตามดูโคลงไม่รู้จบ                  จะได้พานพบเพื่อนใหม่ทายทัก เปลี่ยนจากเขียนโคลงเป็นกลอน โอ้แม่งามงอนวอนอย่ายึกยัก พวงเจ้าเอ๋ยดอกรัก                  เจอปุ๊บฮักปั๊บจับเป็นแฟนเอย จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 15 พ.ย. 48 11:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ยาว...ว นาน...น อ่านเพลิ้น เพลินค่ะ :D จากคุณ : จันทร์เพ็ญ จันทนา (Pen Writer) - [ 15 พ.ย. 48 15:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สวัสดียามค่ำ คุณเพ็ญฯ  และทุกท่าน เมื่อวานวางโคลงไม่ได้ เลยหงุดหงิด แต่ได้นำไปวางไว้ในบล๊อกของตัวเอง ใครอยากอ่าน ขอเชิญเข้าไปดูที่บล๊อก ส่วนตัวของคุณศรีอาศรมเทอญ.  อิๆ จากคุณ : Ar@p - [ 15 พ.ย. 48 18:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 71 +++ หอมเจ็ดชั้น +++ ๏ โชยฉมชั่วเจ็ดชั้น...........ช่วงสวรรค์ เทพเสพสวคันธ์.................ว่าคล้าย ฉมสมข่มจมผัน.................พากลิ่น ปาริชาตวิปลาสผ้าย...........ผ่อนฟื้นลืมหลัง ฯ ๏ ให้ยังยงอยู่ย้ำ................หยัดเตือน ถึงจุติตนเหมือน................หมดเชื้อ มีฉมไม่ชืดเลือน................ร้างสร่าง หอมเจ็ดชั้นนั้นเกลื้อ...........กลิ่นให้ใจถวิล ฯ ๏ ประทิ่นประทับเนื้อ..........นวลปราง หอมเจ็ดชั้นชืดจาง.............จืดแจ้ง โสฬสสุดโลกทาง..............ถึงห่าง ฤๅห่างหอมปรางแสร้ง.........ส่งให้เสพฉม ฯ ๏ ไร้ชมปาริฉัตรแล้ว..........ลืมไฉน ฉมชื่นเคยชิดไอ................อุ่นนั้น หอมปรางแนบนางใจ..........จำแม่น แม้นขาดปาริชาตหั้น...........ห่อนกั้นกลิ่นหาย ๚ ๛ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ======================================= ด้วยสำนึกของความเป็นคนสวน วฤกจึงดั้นด้นกลับไปรดน้ำต้นไม้ที่บ้านบางใหญ่ทุกเสาร์-อาทิตย์ ทั้งนี้เพราะฝนทิ้งช่วง และหน้าหนาวกำลังจะมา หากไม่รดน้ำเอาไว้ ต้นไม้ก็จะพากันตายไปหมด กลับบ้านคราวนี้ ต้นหอมเจ็ดชั้นที่ปลูกเอาไว้ข้างบ้านอยู่สองต้น ต้นหนึ่งกำลังออกดอก มีดอกอยู่หลายช่อ บางช่อก็กำลังบาน บางช่อก็ยังดูตูม ๆ อยู่ ส่วนอีกต้นที่ปลูกเอาไว้ข้าง ๆ กัน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมออกดอกมาแข่งกับเพื่อนเลย เอาน่ะ ไม่ออกดอกก็ไม่ออก สงสัยน้อยใจที่เจ้าของไม่มาดูแลรดน้ำทุกวัน วฤกเลยถ่ายรูปช่อดอกที่กำลังจะบาน พร้อมกับเขียนโคลงประกอบเรื่องมาฝากสหาย เผื่ออีกต้นจะอยากออกดอกมาแข่งกับเพื่อนบ้าง ครับผม [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วฤก (วฤก) - [ 16 พ.ย. 48 09:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ๏ โลกกลมกลมลูกนี้              เกลียวกลม โลกหยุดคงหมดลม               สะบัดพลิ้ว โลกเราช่างอภิรมย์                ระเริงยิ่ง โลกยะหมุนติ้ว                     ยากยื้ออวสาน ๚ *** เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พี่เล็กได้ไปงานแต่งงานรุ่นน้องที่บางเลน ได้พบกับพี่ Handy Man (น้องปู่ออฯ) สมาชิกเก่าชาวถนนฯ ต่างยินดียิ่ง แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 48 00:53:47 จากคุณ : lek Isara - [ 16 พ.ย. 48 14:11:18 ]

ความคิดเห็นที่ 73 แม่น้ำ ฮัน เปรียบคล้าย ...... เจ้าพระยา  แม่เนอ เส้นเลือดหลักพารา ........... ฟ่องเฟื้อง เขียน บก อ่าน บ้ก ภา - ..... ษาเทศ  แลพี่ แปลว่าชุดอร่ามเรื้อง ......... ชุดพื้นเมืองโสม ไม่มีทั้งสาวในชุดฮันบก และสาวนอกชุดฮันบกครับ เอาที่มาของชื่อชุดฮันบกมาฝากแล้วกัน .. แฮ่ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 16 พ.ย. 48 15:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 74 กำ รูปไม่ขึ้นอีกแว้วว . [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : หมีเซอะ - [ 16 พ.ย. 48 15:28:07 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เอ่อระเหย กระทง                 ลอยความทุกข์ส่งลงสายวารี วันนี้น้ำขึ้นเต็มฝั่ง                  เลิกงานระวังรถติดเต็มที่ ก่อนออกไปเที่ยวนอกบ้าน     โปรดจงลั่นดาลล็อคบ้านให้ดี อย่าเล่นพลุดอกไม้ไฟ           เดี๋ยวมันลุกไหม้วอดวายป่นปี้ หลังเสร็จจากลอยกระทง        อย่าไปก่งก๊งระวังจงดี เมาแล้วก็ให้นอนหลับ            อย่าเมาแล้วขับมันเสียวครับพี่ ใครมีคู่ตุนาหงัน                    คงเดินเคียงกันสุขสันต์จู๋จี๋ พวงเจ้าเอ๋ยจำปี                    โปรดชวนฉันทีไม่มีเพื่อนเอย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 16 พ.ย. 48 15:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ๏ เป็นโคลงที่ไม่รู้          จบ แฮ โคลงไม่รู้จบ แปร          เปลี่ยนได้ โคลงไม่ใคร่ รู้ แล         ยากจบ โคลงไม่รู้จบไซร้          จบได้ยากเย็น สงสัยจะเบื่อกันแล้วมั้งครับ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 16 พ.ย. 48 16:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เข้ามาตอนเย็นดีใจมาก พบพี่เล็ก และพี่แฮนดี็้้ แมน คิดถึงเสมอครับ จากคุณ : Ar@p - [ 16 พ.ย. 48 17:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 78 กระทงลงล่องน้ำ..............บูชา รำลึกคุณคงคา.................หล่อเลี้ยง โคมลอยสู่นภา................เวหาสน์ (เขียนถูกป่าวเนี่ย^^) ปล่อยโศกสลดเพี้ยง.........ล่องฟ้าลาหาย จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 17 พ.ย. 48 10:36:40 A:unknown X:202.129.0.33 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 79 นานทีแวะย่องเข้า.................อาศรม พบเก่าใหม่มิตรผสม.............เสกสร้าง โคลงร่ายน่าชื่นชม................ทุกท่าน เรียมรุ่นดึกโคลงกระด้าง......ร่วมเค้นโคลงเคลง สวัสดี มิตรเก่า-ใหม่ทุกๆท่าน โชคดีย่างเข้ามาวันนี้ได้พบ "น้องเล็ก" ยืนคู่กะ"น้องชาย" ด้วยว่าไม่ได้พบหน้าค่าตาทั้งสองมาหลายเพลาแล้ว...อิอิ จากคุณ : Augustman (Augustman) - [ 17 พ.ย. 48 15:11:42 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เนื่องจากผมใจมักรักแต่ "แมว" "ไม่รักแม้ว" เอาแต่ด่าว่าจนสม คงเป็นเพราะปางหลังแค้นคั่งคม มาชาตินี้จึงระดมคำประเคน วันก่อนคงพูดแรงแจ้งประจักษ์ ว่าโพสท์คำแล้วถูกผลักออกเห็นเห็น วันนี้จึงลอยลมล้มประเด็น ไม่มีคำขู่เค้นเป็นร้อยกรอง. สวัสดีพี่ออฯ และทุกท่านครับ. จากคุณ : Ar@p - [ 17 พ.ย. 48 17:44:06 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ๏ ทีลอซูคู่ฟ้า....................ผางาม- งดหมดจดเมื่อยาม.............มากน้ำ รุ้งสวยเปล่งแสงตาม...........อาทิตย์ส่อง คลายทุกข์ด้วยสุขล้ำ..........แห่งอุ้มผางเฮยฯ สวัสดีพี่โกฏิดารา(อู้งานซะงั้น555) ท่านน้าอาร์พี, พี่ศาลาไทย, ปู่ออฯ, พี่ซอม, และทุกท่านครับ... กลับมาตามอ่านกระทู้ยาวเหยียดหลังจากแอบไปลอยกระทงล่วงหน้า ที่ทีลอซูมาครับ... ผมส่งที่อยู่ไปให้หลังไมค์แล้วนะครับพี่ศาลาไทย.. ขอบพระคุณมากครับ... เด๋วส่งหนังเกาหลี A moment to remember กลับไปให้ครับ... บริหารต่อมน้ำตาครับแหะๆ.... แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 48 20:39:34 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 17 พ.ย. 48 20:35:22 ]

ความคิดเห็นที่ 82 #81 ฮ่าๆ ช่วงนี้เรียนหนัก หาอารมณ์มาเป็นกลอนมิได้น่อ ณ มิตร ยังอู้ต่ออีกวัน อิอิ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 17 พ.ย. 48 21:14:54 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ๏ ลอยกระทงกระแทกกระทั้น          กระทิงโทน ลอยกระทิงกระเทยโทน                 กระทืบเท้า ลอยกระเทยกระทิงโทน                 กระแทกกระแทก ลอยกระทงแทบเท้า                     กราบเท้าสามี ก่อนแฮ ๚ สวัสดีอาพีและปู่ออฯ ... ไปก่อนล่ะครับ ก่อนแอร์กี่ทั้งหลายจะมายำ อิอิ จากคุณ : lek Isara - [ 17 พ.ย. 48 21:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 84 กระทงเอยลอยล่องน้ำ            ตามกัน หมายส่งทุกข์เศร้าอัน             ยากแค้น ให้ลอยห่างจากฉัน                ไปเถิด แต่คลื่นซัดกลับแม้น              ดั่งขว้างมุมมะแลง...อะจ๊าก จากคุณ : แดงน้อยลอยกระทง (Little Red) - [ 17 พ.ย. 48 22:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ๏ วันคืนเวียนผ่านพ้น...........ตามกาล ท่องเที่ยวเพื่อพบพาน..........เพื่อนพ้อง ไกลใกล้ใจทะยาน..............ไปสู่ ประสบการณ์จำต้อง.............เก็บด้วยตัวเองฯ กระโดดดีมั้ยเนี่ย... สูงครับ... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 18 พ.ย. 48 00:57:54 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ๏ ทะเลหมอกจากอ้อม.............เขานา ค่อยค่อยคืบคลานมา...............โผล่หน้า กระดึบย่องลอยหา..................แหล่งปก คลุมเฮย เงียบเงียบเล้นอ่อนล้า..............ไป่ช้ามลายสูญฯ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบน ดอยหัวหมด ครับ... มันค่อยๆกระดึบออกมาจากซอกเขา... แล้วมันก็หยุดแค่นั้น... กลายเป็นหนองน้ำหมอก แทนที่จะเป็นทะเลครับ... อรุณสวัสดิ์ทุกท่านครับ... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 18 พ.ย. 48 12:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ๏ เห็นรูปไปเที่ยวแล้ว             อิจฉา อยากฉกแฟนเขามา              ห่มเนื้อ ยามหนาวกอดภรรยา             ชักเบื่อ โธ่เฒ่าหัวงูเงื้อ                     สะกดไว้ตัณหา จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 18 พ.ย. 48 16:50:44 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ๏ กางกรเกร็งโก่งก้น             กลโกง เกลอเก่ากอดกันโกง             เกี่ยวก้อย เกรียงไกรกล่าวแกมโกง        โกยก่อน เกริกเกียรติแกแกล้งก้อย        กลัดกลุ้มกำเกียง ๚ ๏ ขึ้นเขียงแข็งเข่าแข้ง           แข็งขัน ขับขี่ขอบเขตขันธ์                 ข่ายข้า ขานไขขับขำขัน                   ขวยขัด ขอบเขตของแขกข้า              ขุ่นข้องขอบโขง ๚ ๏ โคลงเคลงคลึงคู่เคล้า          คำโคลง โคลงคู่คลึงคลำโคลง             คู่เคล้า โคลงเคลงคู่คลอโคลง            เคียงคู่ โคลงคู่คลึงคลุกเคล้า              เคลื่อนคล้อยโคลงคง ๚ ๏ งงงวยงุ่มง่ามแง้ม               งามงอน หงุดหงิดงอแงงอน                 ง่าเงื้อม เงางามเงื่อนงำงอน                โงกเงก งอหงิกงอกแงกเงื้อม              งั่งง้างเงียบงำ ๚ ๏ จำใจจำจากเจ้า                  จำจร จำจัดแจงจากจร                    จากเจ้า จำใจจูบจนจอน                     จมจอก จำจับจองจับเจ้า                    โจ่งแจ้งจริงเจียว ๚ ๏ ฉุนเฉียวโฉมโฉบฉ้อ             โฉมฉุน ฉอดฉอดฉาดฉานฉุน               ฉี่แฉ้ เฉาเฉาฉี่ฉุนฉุน                       ฉุนฉี่ ฉายเฉิดเฉิดฉันแฉ้                   ฉิ่งฉ้วยโฉมฉาย ๚ ๏ ชายชาญชวนชาติเชื้อ            เชิงชาย ชายชุ่ยชอบชิดชาย                  ชดช้อย ชายชรใช่ชอนชาย                   เชยชิด ชายชื่นชมชายช้อย                  ชื่นชู้ชายชัง ๚ ๏ เซซังซึมซับซ้อน                  ซวนเซ ซูบซีดแซมโซเซ                     ซุกไซ้ ซมซานซบเซาเซ                     ซอมซ่อ ซุบซู่เซ็งเซ็งไซร้                      ซุ่มซุ้มซึมเซา ๚ ๏ เดินดินเดาดุ่มเด้ง                  โดนแดง ดุเดือดเดือนดับแดง                  ดีดดิ้น ดุกดิกดุ่ยดำแดง                       ดอดดึก เด็ดเดี่ยวดอมดอกดิ้น                 ดุ่มด้อมเดียวแด ๚ ๏ เตรียมแตรตรงต่อแต้ม             ตราตรึง เตร็ดเตร่ตามติดตรึง                  ไต่เต้า ตูมตามต่อยตาตึง                      ตาแตก ตามต่อตามตราบเต้า                  ตอบโต้เตรียมเตียง ๚ ๏ ถกเถียงถามถ้วนถี่                  ถากถาง โถมถีบถูกถาบถาง                    เถื่อนถ้ำ ถดถอยถ่างแถกถาง                  แถมถั่ว ถึงถึกถาโถมถ้ำ                        ถูกเถ้าถอดถอน ๚ ๏ ทนทอนเทียวเที่ยวท้อ             ทบทวน ทึกทักทาบทามทวน                  ทิ่มเท้า ทำทีทึ่งแทะทวน                      โทนโท่ ทุกท่าเทียบทางเท้า                  แทบทิ้งโทงเทง ๚ ๏ หนูเหน่งนอนนิ่งนั้น                 นานนม หนูนิดนบนอบพนม                    นอบน้อม หนูนุชแน่นแนวนม                     นับหนึ่ง นานนา หนูนัดนักนวดน้อม                     แนบหน้าแนบเนียน ๚ ๏ เบียดเบียนบานบ่นบ้า               บางเบา เบนบ่อยบางบทเบา                   บ่บึ้ง บางบทเบอะบะเบา                    บำบัด บัวบกบิดบูดบึ้ง                         บุกบี้บัวบาน ๚ ๏ แปรปรวนปานเปรียบป้า            ปลอมแปลง แปลกแปลกปุบปับแปลง             ปดโป้ ปลอมปนปี่ปัดแปรง                   ปลายปี่ ปลาป่นเปะปะโป้                       ปลาบปลื้มปลายปี ๚ ๏ ผิดผีผิดแผกผู้                       ผาดโผน ผีผิดผัดผักโผน                        ผลัดผ้า ผิวเผินผิดแผกโผน                    ผุดผ่อง ผินผ่านผายผันผ้า                      ผ่องแผ้วผาดผัง ๚ ๏ ฝากฝังฝันใฝ่เฝ้า                    ฝึกฝน แฝงฝั่งฝาฝีกฝน                       แฝกฝ้าย ฝานฝีเฝื่อนฝืนฝน                      ฝายฝ่อ ฝาแฝดแฝงฝัดฝ้าย                    ฝุ่นฝ้าฝังไฝ ๚ ๏ พรานไพรพลุกพล่านพลิ้ว          พงพี พันธุ์พฤกษ์พราวพรายพี               พรั่งพร้อม พิษพืชไพล่แพะพลี                     พรวดพราด พลัดพรากพลิกแพลงพร้อม           เพลี่ยงพล้ำโพงพาง ๚ ๏ ฟันฟางฟอนฟากฟ้า                 ฟืนไฟ ฟูฟ่องฟูมฟายไฟ                       เฟื่องฟุ้ง เฟอะฟะฟูดฟาดไฟ                     ฟัดเฟียด ฟูมฟักแฟงฟองฟุ้ง                     แฟ่ฟ้อนฟื้นฟู ๚ ๏ มองหมูมุดแมกไม้                    แมวเมิน มวลหมู่หมูหมาเมิน                     แมกไม้ แมวมองมักมาเมิน                      เมียงม่าย หมกมุ่นหมกไหม้ไม้                    เมื่อยแม้แมวเมา ๚ ๏ ยังเยาว์ยามยั่วเย้า                   ยียวน ยิ้มย่องยามยั่วยวน                     ยั่วเย้า ยันยามหย่อนยานยวน                 ย่ำแย่ อย่าอยู่อย่างอยากเย้า                 แยกย้ายโยเย ๚ ๏ รักรวนเรร่ำร้อง                       รำไร รักแรกรักเรไร                           เริ่มร้าว รักรักรักไรไร                            รุ่ยร่าย รักแรกเรารวดร้าว                      เรียบร้อยโรยแรง ๚ ๏ แลแลงแล่งแหล่งแล้ง              ลับแล หลุกหลิกลุกลนแล                     ลูกล้วง ลนลานหลบหลับแล                    ลิงหลับ ลบหลู่ลิงโลดล้วง                       เลิกแล้วลวนลาม ๚ ๏ แวววามวับวาบเว้                     ไวไว วูบวาบวิเวกวัย                           เหว่ว้า วันวารวิ่งว่องไว                          วายวอด วอกแวกวังเวงว้า-                       วุ่นว้างวันวาน ๚ ๏ ศุภศานต์แสนสุขสร้าง                เสกสรร สาส์นศาสน์แสนสุขสันต์                เสกสร้าง สามศิษย์เสกสีสัน                        แสนสุข ศรีสุขแสนสรรค์สร้าง                    สอดสร้อยสุขสันต์ ๚ ๏ หันเหหัวเห็ดห้าม                      หาเหา หาญหักโหดหวดเหา                    ห่อนแห้ง หันเหห่างเหินเหา                        หดหู่ หัวหาดเห็นเห็ดแห้ง                     หอบหิ้วเหาหาย ๚ ๏ อับอายอรแอ่นอ้า                      อกอิง อึกอักอรแอบอิง                          แอบอ้าง เอมอรแอ่นอกอิง                         อกอีก เอาอีกอิงอรอ้าง                          อกอ้าอิงอร ๚ ๏ ฮิฮิฮอลล์ฮะฮ้า                         ฮาเฮ โฮะโฮะฮะฮาเฮ                           ฮะฮ้า ฮิฮิฮิเฮเฮ                                  ฮิฮิ โฮกโฮกฮูมฮูมฮ้า                        ฮะฮ้าฮาเฮ ๚ *** ตามที่โม้ไว้ ..... เอามาให้แล้วนะครับ ปล. พยัญชนะที่ข้ามไปเพราะหาได้ไม่ครบบท ... สวัสดี แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 48 23:36:28 จากคุณ : นายกระซิบ - [ 18 พ.ย. 48 22:40:55 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ๏ วันนี้ฉันรู้สึก           ไม่สบาย จู่จู่ตาก็ลาย               ภาพซ้อน ผู้คนต่างกลับกลาย     แปรเปลี่ยน เป็นภาพเธอนั่งอ้อน    ยั่วเย้าเยาะฉัน ขอแต่งโคลงนี้มอบแด่ผู้หญิงที่สวยที่สุด ที่ยินยอมมาร่วมชีวิตกับผมจนครบ 9 ปีในวันนี้ ขอวางโคลงไว้ในอาศรมนี้นะครับ เพราะยังรู้สึกเขินๆ ที่จะบอกล่าวกับเธอตรงๆ (ว่าจะรอให้หลับซะก่อน แล้วค่อยไปกระซิบข้างหูนะ) แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 48 23:37:16 จากคุณ : แดงน้อยคอยเธอหลับ (Little Red) - [ 18 พ.ย. 48 23:36:35 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ๏ วันนี้ฉันรู้สึก             ขวัญหาย ขวัญเอย จู่จู่เมียโวยวาย             แกว่งค้อน ผู้คนกระจัดกระจาย       วงแตก อยากกระซิบออดอ้อน    แต่ต้องแคะหู ๚   ขอมอบโคลงนี้แด่ผู้หญิงที่เคยสวยที่สุด แต่วันนี้ลูกสาวของเราสวยกว่าเพราะฉันและเธอเป็นเนื้อคู่กัน (เธอหลับแล้ว แต่ฉันยังเล่นเน็ตอยู่ ... ชาตินี้อยู่ทนจริงๆ อิอิ) ปล. ขอแสดงความยินดีกับแดงน้อยและคุณน้องด้วยครับ ๙ ปีที่ก้าวหน้า ... ตลอดไป แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 48 00:25:10 จากคุณ : นายกระซิบ - [ 19 พ.ย. 48 00:22:30 ]

ความคิดเห็นที่ 91 งามเพ็ญดวงเด่นโพ้น .. โพยมบน บ่เทียบพักตร์แม่ดวงกมล ...หนึ่งน้อย ระลึกยิ้มแม่พริ้มดล . .ใจชุ่ม ชื่นเฮย ระลึกพจน์พจิพร้อย . .เพริศเคลิ้มเคลิ้มฝัน โฉมฝากจันทร์เด่นฟ้า . .โพยมหาว ถนอมแม่อย่าให้หนาว . .เหน็บน้า ฝากดาริกาพราว . . ..พริ้งประดับ นภานา โปรดระยิบพริบจ้า............. ..ณ อกเจ้ามิให้หมอง แพรเมฆล่องเลื่อนโล้..............โรยแรง แต่รักพี่มิหน่ายแหนง..............เหนื่อยล้า เจ้าเอ๋ยจะเปลี่ยนแปลง............บ้างเปล่า ผ่าวผ่าวร้อนอกว้า...................ประหวั่นน้องลืมเรียม บุญเปี่ยมพี่ปลูกสร้าง...............ทุกสมัย โปรดถนอมสองหทัย...............มิร้าง ไกลห่างต่างเติมใจ.................ให้เี่ปี่ยม เสมอนา รติภักดิ์พี่จักข้าง.....................กว่าจะคล้อยคืนรัง ไม่ได้ลอยกระทงหลายปีแล้ว คิดถึงริมน้ำเจ้าพระยาละก็หนังกางแปลงจัง หวัดดีคุณโกฏิดาราและพี่น้องอาศรมนะครับ :) จากคุณ : เหล็กละมุน (mildsteel) - [ 19 พ.ย. 48 04:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ๏ โคลงเคลงพยัญชนะล้วน..........งามจริง อึ้งอ่านอาจโดนสิง......................สะกดล้วน นายกระซิบประวิง......................เวลาอยู่ รอต่อให้ทั่วถ้วน.........................ฮะฮ้าฮาเฮฯ ขอเสนอเรื่องด่วนเข้ามติ ครม. ประชุมเร่งด่วน... ให้ โคลง 28 พยัญชนะ ของพี่นายกระซิบใช้เป็นแบบเรียนกระทรวงฯครับกระผม.... รวมทั้งเร่งหาท่านผู้สันทัดจัดตั้งกรมกองขึ้นมา... แต่งโคลงสำหรับพยัญชนะตัวที่เหลือครับกระผม... โดยเฉพาะอย่างยิ่งโคลง ฆ.ระฆัง กับ โคลง ฤ.ฤา ครับกระผม... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 19 พ.ย. 48 11:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 93 หวัดดีเฮียแดงน้อย ขอแสดงความยินดีด้วยคน เฮียเล่นนำผมไปตั้ง 9 ปีเชียว แต่ก็จะตามให้ทันและขึ้นนำในอีกสองปีข้างหน้านี้..รับรอง ว่าแต่ศาลาไทยหนึ่งเดียวของอาศรมฯ เมื่อไหร่จะเริ่มออก "สตาร์ท" ล่ะ  ฮา (ห้ามตอบโต้ก่อนได้รับอนุญาต) คุณ ณ มิตร นำทีลอซู มาวาง ผมนึกถึงบทกวีชิ้นหนึ่งของ อ.สถาพร ชื่อ "ที ลอ ซู"  (ถ้าจำไม่ผิด) "ผาเขียว ม่านน้ำขาว ฯลฯ "   เป็นวลีที่ติดใจผมอยู่จนบัดนี้. สวัสดียามเช้าครับผม แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 48 11:11:37 จากคุณ : Ar@p - [ 19 พ.ย. 48 11:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ๏ ตัณหาเกิดดับได้...............ตามวัย งูงอกงุ่นง่านงัย...................ง่ามแง้ม หนูหนูเสี่ยอาลัย..................จึงจ่าย หงุดหงิดงงงวยแอ้ม.............ไม่ได้ซะทีฯ แอบเอาคำพี่นายกระซิบมาสวัสดีพี่จำปูนครับ... เลขเก้าเลขมงคลนะครับพี่แดงน้อย... ขอให้มีความสุขตลอดไปครับ... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 19 พ.ย. 48 11:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ๏ งูงอกงุ่นง่านเง้า               งมงาย โฉบเฉี่ยวฉกฉุยฉาย             เฉื่อยฉ้อ จู่แจวจิกจนจราย                 จ้วงจาบ แพ้พ่ายพิษพ่นพ้อ               เพลี่ยงพล้ำพับพาน เช่นกันครับ คุณ ณ มิตร สวัสดีครับ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 19 พ.ย. 48 15:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 96 (ว่าจะรอให้หลับซะก่อน แล้วค่อยไปกระซิบข้างหูนะ) จากคุณ : แดงน้อยคอยเธอหลับ โธ่พี่แดงน้อย..อย่างนี้ต้องตะโกนตั้งแต่ปากซอยถึงท้ายซอย ฮี่ ๆๆ  ยินดีด้วยค่ะ จากคุณ : ซอมพอแดง (แซลม่อน) - [ 20 พ.ย. 48 11:59:31 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สวัสดีน้องพี่ที่เคารพรักในฝีมือทุกคนครับ ช่วงนี้อารมณ์แต่งโคลงไม่มี ไม่รู้ลอยไปกับกระทงที่ไหนหมด ฮ่าๆ เข้ามาทักทายทุกท่าน ทั้งขาประจำ ขาจร ขาหัก (แฮ่ๆ) ผมเองหกล้มเข้าเข่าแตก สงสัยเป็นเพราะเหตุเจ็บแผล อารมณ์กลอนเลยบ่มี - - แปะโป้งไปวันๆครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 20 พ.ย. 48 19:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ตอบ #๙๒ ๏ นโม ณ มิตรแม้น           หยอกเอิน ขืนใส่โคลงขาดเกิน           มติร้อน กระทรวงอาจยับเยิน          โดนอภิ- ปรายนา โคลงต่อกันเป็นก้อน          ฮะฮ้าฮาเฮ ๚ ไฉนคุณน้ามิตร (namit) เล่นแรงจัง! อิอิ โคลงผมที่พอจะดูได้คือแต่งตามฉันทลักษณ์เท่านั้น (แต่ถ้าหลุดตรงไหนกรุณาบอกด้วย) ส่วนเรื่องเสียง เรื่องเนื้อความ เรื่องอารมณ์ ตลอดจนศัพท์แสงตอนหลังก็เริ่มมั่ว (อย่าง หมวด ฮ. ใช้ ฮอลล์นั้นไม่เหมาะ เพราะไม่ใช่คำไทย และไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง แต่ผมใช้เพื่อรองรับสัมผัสระหว่างบทเท่านั้น) แล้วโคลงอักษรล้วนตั้งแต่ ก.ไก่ ยัน ฮ.นกฮูก ก็เล่นกันมานานแล้ว เพียงแต่เล่นกันพยัญชนะละ ๑ บาทเป็นส่วนใหญ่ (คงเพราะไม่ค่อยว่างกัน) ความจริงผมก็ไม่ค่อยว่างนะครับ (แค่ว่างเป็นพักๆ) พอเห็นกระทู้ใกล้ร้อยก็เลยต้องรีบมาใช้หนี้ (ปากพาจน) อิอิ ปล. วรรคสุดท้ายที่ใช้ว่า “ฮะฮ้าฮาเฮ” นั้น สารภาพเลยนะครับว่า ติดอกติดใจมาจากกระทู้  “เบิกฟ้าฮาเฮ” โดยคุณพิราบเงินเป็นผู้จารึกลงในอาศรมฯ นี้เป็นท่านแรกแล้วท่านจอมยุทธฯ นำไปตั้งเป็นหัวข้อกระทู้ สรุป โคลงนายกระซิบไม่มีอะไรใหม่ครับ แต่ที่อามุขเก่าๆ มาเขียนได้ใหม่ก็เพราะเป็นกระทู้  โคลงไม่รู้จบ นั่นเอง จากคุณ : นายกระซิบ - [ 20 พ.ย. 48 22:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 99 โคลงแท้ กี่พันปี ไม่มีจบ ยังงาม ยังครบวรรณศิลป์ ดัง "สุนทรียะธาตุ" สะอาดริน แบ่งปันประทินโลกทั้งปวง. สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ จากคุณ : Ar@p - [ 21 พ.ย. 48 08:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ๏ โคลงไม่รู้จบสิ้น        แต่งาม วรรณศิลป์สยาม          สืบไว้ ลือลั่นทั่วเขตคาม        ไตรโลก เมื่ออ่านอิ่มเอิบได้       สะอาดไร้มลทิน จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 21 พ.ย. 48 11:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ๏ โคลงไม่รู้จบนั้น...................อมตะ แลกเปลี่ยนศิลป์วาทะ...............พี่น้อง มีโอกาสพบปะ........................ความคิด แล่นนา โปรดเก็บอาศรมฯห้อง-.............สมุดไว้นานนานฯ เด๋วผมไปเบิกลิ้งค์ “เบิกฟ้าฮาเฮ” จากพี่ศาลาไทยมาอ่านก่อนนะครับ พี่นายกระซิบ... ขอบคุณครับ... แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 48 12:36:50 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 48 12:36:06 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 21 พ.ย. 48 12:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 102  อาศรมชาวโคลง ภาค  ๑๔๗  ๏๏ สวนน้อยพันหอม ๏๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3895873/W3895873.html แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 48 19:09:55 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 21 พ.ย. 48 19:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ดาวม้า นั่นดาวดวงหนึ่งชี้ อาชา ชื่อเอย แสงผ่องส่องอาภา เอี่ยมแผ้ว โบราณกล่าวเล่ามา มูลเหตุ คือพ่าห์พาหนะแก้ว แก่นไท้ทศพล อนุสนธิ์ปางก่อนท้าว พุทธางค์ กูรฤา ทรงสละละมาศปรางค์ ปลั่งฟ้า หวังธรรมสถิตจิรางค์ จรุงโลก จึงเสด็จโดยมุ่งหน้า แน่วพ้องโพธิญาณ รัตติกาลจอมบพิตรผู้ เพ็ญเพียร ยลมิ่งมณีมณเฑียร สถิตห้อง พราวพรายพร่างวามวิเชียร โชติช่วง พระสลัดตัดบ่วงข้อง ขาดแล้วลีลา พระพิมพาอีกพร้อม พระราหุล เนานิทร์สนิทละมุน ละม่อมพริ้ง พระแลอุรสดรุณ ราวบ่วง หมายหลีกลัดสลัดทิ้ง ถอดล้างโลกีย์ ภูมีดำรัสใช้ นายฉันน์ เร็วเร่งเตรียมม้ากัณ- ฑกะกล้า พาเรารีบจรจรัล รุดจาก ฉันนะพลันไป่ช้า รีบเชื้อเชิญทูล ทำนูลไทเสด็จขึ้น ขนองสิน- ธพเฮย พาด่วนดำเนินลิน- ลาศเต้า อาศัยซึ่งจันทร์อินทุ์ แจ่มอาบ จวนอุษาโยคเข้า เขตน้ำอโนมา ยุพราชาสั่งซ้ำ สื่อสาร ฉันน์จุ่งคืนถิ่นสถาน สถิตไซร้ ทูลองค์พระสมภาร ผ่านพิภพ เทอญพ่อ เราจักเนาป่าไม้ มุ่งได้ธรรมัง บวงบังคมบาทน้อม ฉันนะ รับราชโองการพระ พจน์ถ้อย ชุลีลาค่อยพาผละ ผันพราก จูงอัศว์กัณฑกะคล้อย เคลื่อนแคล้วคลาไคล มโนมัยคือมิ่งม้า มงคล พูนเพิ่มกตัญญูพล เพียบตั้ง จำจากราชจรดล แดโศก จึงหย่อนอ่อนแรงยั้ง หยุดเยื้องเหย่าเดิน มองเมิลมิมาดเมื้อ มัวหมอง กลก่อเกิดกูณฑ์กอง กีดกั้น เนืองน้ำเนตรนูนนอง หนักหน่วง อกอ่วนอึดอัดอั้น โอดโอ้อ่อนแอ แลแลลาลดล้ำ เล็งเหลียว ซานซบซมซาบเสียว โศกซ้ำ แดดวงดั่งโดดเดียว ดับดิ่ง เย็นเยียบเยือกเยือกย้ำ อยู่ยั้งหยุดยืน สะอื้นสะอึกอึ้ง อาดูร ฤาสร่างฤาซาสูญ เสื่อมเศร้า ชิวหาเช็ดฝ่าวิบูลย์ บทเรศ พระแล คอยแต่ตั้งตาเฝ้า ใฝ่จ้องจดจำ นายฉันน์นำออกก้าว กระหยับเดิน ม้าชอกช้ำระกำเกิน ออกก้าว คลายคลาดนาดดำเนิน อเนจอนาถ หันเหลือบแลดูท้าว ธิราชผู้เพียรเจริญ เวียนเดินเวียนหยุดยั้ง ยืนดู ความทุกข์ขุกอักขู ขื่นข้อง หมดแรงหมดเรี่ยวชู ชีวาตม์ ทบท่าวลงแทบท้อง เถื่อนกว้างกลางสถล ดวงกมลลาญแหลกแล้ว ทำลาย ชีวิตปลิดวางวาย วอดม้วย กตเวทิตาฉาย อัศว์ชาติ จึงเกิดเป็นดาวด้วย เดชเกื้อกตัญญู ดำรูไพโรจน์แจ้ง จักรพาล มองผ่านดาวม้าสะคราญ ครุ่นน้อม ในสัตว์ดิรัจฉาน เฉลิมโลก ใจหมู่มนุษย์พึงพร้อม พรั่งรู้บุญคุณ จักจำรุญรุ่งได้ ดิเรกผล เสริมส่งซึ่งบุญกุศล สืบสร้าง กตัญญูย่อมเป็นคน อนรรฆ์ค่า เอาเยี่ยงกันฑกะบ้าง บ่มเน้นนิสัยเสมอ (เขียนปี พ.ศ. 2546) หมายเหตุ ข้อมูลเรื่อง “ม้ากัณฑกะ” ได้จากสองทางคือ หนังสือ “พระปฐมสมโพธิกถา” พระนิพนธ์ใน “กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส” และเพลง “ดาวม้า” ของ “อาจารย์พรภิรมย์” จากคุณ : เด็กรุ่นใหม่ผู้บูชากวี - [ 25 พ.ย. 48 15:22:28 A:10.0.0.41 X:203.156.141.26 ]

ความคิดเห็นที่ 104 กราบสวัสดีครับ อาจารย์ทุกท่าน ผมเป็นอีกผู้หนึ่งที่ชอบอ่านบทกวีเป็นชีวิต จึงขออนุญาตฝากตัวเป็นลูกศิษย์ทุกๆท่านด้วยครับ ผมได้ทดลองส่งโคลงเรื่อง “ดาวม้า” มาให้ท่านอาจารย์ตรวจแล้ว คราวนี้ ลองส่งบท “สรวมพร” ซึ่งผมเขียนกราบนมัสการ “กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส” มหาเมธากวีผู้ซึ่งผมสักการะสูงสุด มาให้ท่านอ่านอีกบทหนึ่ง บทนี้ แนะนำประวัติอย่างย่อของผมด้วยครับ โดยความเคารพอย่างยิ่ง เด็กรุ่นใหม่ผู้บูชากวี สรวมพร โครงสี่สุภาพ โผอนเศียรศีโรตม์น้อม นมัสการ สมเด็จสมณาจารย์ ราชเจ้า กรมพระปรมาชาญ เชลงเลิศ นุชิตชิโนรสเผ้า เผ่าผู้เธียรผอง รังรองจำรัสแผ้ว พจนา รังสฤษฎิ์สรรพ์พิทยา อยู่ยั้ง รังเรขศักดิ์พสุธา ไทยธเรศ ทวยหมู่ชนทั่วทั้ง ถิ่นเที้ยรถวายกร สรวมพรสมณะไซร้ ประสิทธิ์ผล พูนเพิ่มปัญญาประพนธ์ ประภัสสร์แพร้ว เจนจบไป่จำนน ในขนบ กวีนา ขอจุ่งบังเกิดแก้ว กึ่งเกล้ากระหม่อมฉัน ถึงอันธการเกิดด้วย เพรงกรรม ดลจักษุมืดดำ ดั่งนี้ ปัญญาจุ่งเจริญสัม- ฤทธิ์ส่อง ชาญเชี่ยวเชิงประพันธ์ชี้ เช่นข้อความประสงค์ ชูพงค์ ผจงจิตน้อม จำนรรจ์ ตรี พิธทวารบังคัล ครบไหว้ วัฒน์ หวังเชี่ยวชาญฉัน- ทลักษณ์ชื่น สุวรรณ เวี่ยวาทะไว้ ภิวาทเอื้อนอธิษฐาน โคลงกลอน เลบงกานท์วารก่อนพริ้ง พลามโพลง พริ้มเพริศเพราพิมพ์โยง ยุคโน้น สุกใสส่องจรรโลง ละลานบอก นอกแล ในอ่าอำไพโพ้น พิศคุ้งอิธวาร สืบดำนานก่อนนั้น รรรเรียง ร่ำค่าแห่งคำเคียง คู่พื้น ภูว์พิศาลสวัสดิ์เวียง หวานแว่ว แจ้วแล นานตราบลูกหลานอื้น โอ่โอ้ชื่นครัน สรรค์เสกรสสดซึ้ง สึงจิต ไว้พ่างมาลัยประกิด กอปรพร้อง ชอบฉันท์ลักษณ์บูชิต เธียรชาติ ปราชญ์พ่อ ประพันธ์ผูกมิ่งขวัญต้อง จิตตั้งติดรอย คอยกวีคีตะพลิ้ว ลิ่วริน ร่ายก่องประกายศิลป์ ส่องเพี้ยง ผ่องสร้อยสู่ชีวิน วามเพชร เก็จรา ปรอยหยาดพราวพลอยเกลี้ยง กล่อมน้อมใจชน กลอนโคลง เลบงกานท์วารก่อนพริ้งพลามโพลงพริ้ม เพริศเพราพิมพ์โยงยุคโน้นสุกใส ส่องจรรโลงละลานบอกนอกแลใน อ่าอำไพโพ้นพิศคุ้งอิธวาร สืบดำนานก่อนนั้นรรรเรียงร่ำ ค่าแห่งคำเคียงคู่พื้นภูว์พิศาล สวัสดิ์เวียงหวานแว่วแจ้วแลนาน ตราบลูกหลานอื้นโอ่โอ้ชื่นครัน สรรค์เสกรสสดซึ้งสึงจิตไว้ พ่างมาลัยประกิดกอปรพร้องชอบฉันท์ ลักษณ์บูชิตเธียรชาติปราชญ์พ่อประพันธ์ ผูกมิ่งขวัญต้องจิตตั้งติดรอย คอยกวีคีตะพลิ้วลิ่วรินร่าย ก่องประกายศิลป์ส่องเพี้ยงผ่องสร้อย สู่ชีวินวามเพชรเก็จราปรอย หยาดพราวพลอยเกลี้ยงกล่อมน้อมใจชน จากคุณ : เด็กรุ่นใหม่ผู้บูชากวี - [ 26 พ.ย. 48 09:52:36 A:202.57.180.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 105 ความงมงายที่ไม่เท่ากัน ข่าวลือกระสือปอบกลุ้ม รุมกลืน พานพบภูตผีหืน ฮึกห้าว คนตายเมื่อวานซืน สยองสยด ตัวสั่นหวั่นทะท้าว สะทกซ้ำคว่ำขวัญ ชาวกรุงหยันเย้ยโง่ งมงาย ปอบกระสือคือนิยาย ยกเพ้อ ใครเคยพิสูจน์ขยาย ยลประจักษ์ ในยุคคอมพิวเต้อร์ ตลกลิ้นสิ้นดี ไม่มีหรอกภูตร้าย พรายแรง เป็นแต่กโลบายแคลง ครอบเกล้า ใครเคยพบผีแสดง ฤทธิ์เดช บ้างฤา ยังห่อนมีเงื่อนเค้า ขาดข้อเหตุผล อึงอลเมืองฝรั่งรู้ เรื่องราว รอยหมู่มนุษย์ต่างดาว ประดับพื้น จานบินจอดทอดยาว หลุมใหญ่ รอยหล่มมิใช่ตื้น ตระหนักเน้นนัยนา ภาราไทยตื่นเต้น ตูมตาม ฟังโจษจรรพยายาม ยึดคว้า “เออ จริง” ไป่ซักถาม สอบถี่ ถ้วนเฮย มีมนุษย์ลงจากฟ้า ฝรั่งชี้มีมูล ท่านเอยสูญเปล่าแล้ว ฤาปัญ- ญานอ หลงเลศต่างชาติมัน มั่วจ้าน เราพลอยโก่งคอขัน ขาน “ถูก” เชื่อสนิทไป่คิดค้าน คัดง้างต่างประเด็น ใครเคยเห็นมนุษย์ผู้ ต่างพิภพ บ้างฤา ฟังเรื่องเลื่องลือตลบ เล่าปั้น คำเดียวก็ซอนซบ “วิทยศาสตร์” สมองตีบลีบนิ่งอั้น อับคล้ำคลุมเขลา มันเอาวัตถุแกล้ง กลายหลัก ฐานเอย ลวงหลอกบอกชวนชัก เชื่อต้อย คือโคพวกมันดัก ดึงจมูก เดินจรดระชดช้อย เชื่องช้าตาปรือ ปอบกระสือเราบ่นบ้าย บ้าบอ ชาวป่าชาวนาหงอ โง่แท้ เชื่อมนุษย์ต่างดาวหนอ น่าอนาถ เพียง “วิทยาศาสตร์” แก้ กลับหน้าเป็นหลัง (เขียนปี พ.ศ. 2545) คำชี้แจง คำว่า “คอมพิวเต้อร์” ในโคลงบาทที่สี่วรรคหน้าของบทที่สองนั้น จงใจเขียนให้ผิด เพราะเหตุผลทางฉันทลักษณ์ คือตำแหน่งดังกล่าว โบราณาจารย์ท่านบัญญัติให้ใช้คำโท และคำว่า “วิทยศาสตร์” ในโคลงวรรคหลังบาทที่สามของบทที่เจ็ด ก็ตั้งใจเขียนให้อ่านรวบพยางค์ได้ หากเขียนว่า “วิทยาศาสตร์” เวลาอ่าน จำนวนพยางค์จะเกิน รวบให้ลงจังหวะโคลงได้ยาก จากคุณ : เด็กรุ่นใหม่ผู้บูชากวี - [ 28 พ.ย. 48 11:38:17 A:10.0.0.41 X:203.156.141.26 ]

ความคิดเห็นที่ 106 โคลงกระทู้รัฐบาล ดินน้ำลมไฟ ดิน จางดินจืดน้ำ ใจนอง น้ำ เปรอะเลอะปากไป ป่าวอ้าง ลม ปากเป่าแปรปอง แปลงปด ไฟ ท่วมฟูฟื้นค้าง คั่งฟูม กินดีอยู่ดี กิน เมืองกันหมดแปล้ เปรอปรน ดี แต่พวกตัวอูม อืดท้อง อยู่ หอห่างปวงชน แปดชั่ว ดี แต่เร่งเร้าร้อง เรียกคะแนน รีดนาทาเร้น รีด เลือดปูทั่วเกลี้ยง กายา นา ไร่ยังขาดแคลน คลั่งคลุ้ม ทา รุณเหล่าชาวนา เหน็บกระดูก เร้น ชั่วโหดเหี้ยมหุ้ม เหือดหาย ข้าวยากหมากแพง ข้าว ปลาซื้อถูกครั้น ขายแพง ยาก ยิ่งเกินบรรยาย บอกย้ำ หมาก ไม้หมากเต้าแตง ต่ำตก แพง ค่าทองถ้วนซ้ำ เศรษฐี เย้ยฟ้าท้าดิน เย้ย หยามเหยียบยกแย้ง ไยไพ ฟ้า สาปบาปกาลี เกิดล้ำ ท้า อำนาจโลกัย ลามก่อ ดิน ถล่มลงม้วนกล้ำ กลบฝัง (จาก เด็กรุ่นใหม่ผู้บูชากวี) จากคุณ : เด็กรุ่นใหม่ผู้บูชากวี - [ 28 พ.ย. 48 14:21:58 A:10.0.0.41 X:203.156.141.26 ]

ความคิดเห็นที่ 107 มิคสัญญียุค โคลงสินธุมาลี ฟ้าครืนครรชิตก้อง กาหล บอกอุบาทว์อุบัติบน บดเบื้อง คัคนานต์น่านมัวมน เมาห์ม่าน เหลือหยุดยุดย้ายเยื้อง พิโยคภัย บรรลัยในโลกไร้ พรมแดน ฝังกรอบปัญญาแกลน กร่อนห้ำ ตกเป็นทาสเขาแทน ทับข่ม ไทยถูกยีย้ำช้ำ ชอกโทรม เขาโหมเครือข่ายห้อม ห่มคลุม มวลสื่อสารกำกุม เก็บเกลี้ยง ใช้วัยรุ่นเป็นขุม ทรัพย์เขื่อง เงินนับล้านล้านเลี้ยง หล่อหลอม มายาปลอมแปดเปื้อน ปนแปม เสริมถ่อยสรรค์ทุกข์แซม ทุ่มซ้อม สาวหนุ่มรุ่มร้อนแถม ทุเรศราค กามมั่วหมกร้ายล้อม เร่งผลาญ อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ฝูงขายก็ขายค้า ขณะบ้าอบายบาน โกยเงินประกอบงาน เละเทะง่วนระงมงำ ฝูงซื้อก็ซื้อสุม ธนะทุ่มอธรรมทำ หวังสุขสนุกสัม- บุรณ์แสนมิแกลนซวย วัยรุ่นระเริงร่าน อุระอานเพราะเอออวย อิ่มแสงแสดงสวย พิศวาสประดาษเวร หลงหลุมละเลงแหลก ตะกระแดกกะกากเดน จ้านจัดถนัดเจน จิตะจ่อผิว์พอใจ ศีลธรรมบส่องถึง ภภะอึ้งกระอักไอ อ่อนล้ามนาลัย สรโอดกระอักโอย กองกรานเถกิงกรุ่น พิษะวุ่นวะวายโวย ด้าวดินจะภินท์โดย ภยะดื่นไผทแดน โคลงสินธุมาลี เมืองแมนมามอดม้วย มลายพัง เมืองนรกปกคลุมขลัง ไม่แคล้ว ซาตาลพล่านรุงรัง เรืองรุ่ง เสียงสวดมนต์แจ้วแจ้ว จืดเสียง จากคุณ : เด็กรุ่นใหม่ผู้บูชากวี - [ 28 พ.ย. 48 15:44:25 A:10.0.0.41 X:203.156.141.26 ]

ความคิดเห็นที่ 108 โคลง เคลงเรือรั่วร้าว รัฐบาล ไม่ สุจริตเอาภาร ผ่านพ้น รู้ น้อยว่าไพศาล สูงส่ง จบ เห่ตั้งแต่ต้น ตกต้อยต่ำเสมอ จากคุณ : เด็กรุ่นใหม่ผู้บูชากวี - [ 28 พ.ย. 48 16:27:14 A:10.0.0.41 X:203.156.141.26 ]