http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3817164/W3817164.html
ตอนที่แล้ว
===========
7-4-48
ตื่นตี 3.22 น. มากราบพระทัน ที่พึ่งของอเทวนิยม คือ กรรม ถ้าเป็นเทวนิยาม ที่พึ่งคือ พระเจ้า หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ที่ตนนับถือ อเทวนิยมเชื่อกรรมเก่าในอดีตแก้ไขไม่ได้แล้ว แต่กรรมแก้ไขได้ด้วยกรรมปัจจุบัน วันนี้พยายามฝืนมาก ๆ ก็ตื่นดีกว่าทกวัน แต่ก็ยังหลับบ้าง ตี 5 ไปช่วยทำครัว ช่วยปอกเปลือกลำใยแห้ง แล้วไปใส่บาตร ออกกำลังกาย ช่วยแยกอาหาร ขึ้นศาลาฟังธรรม
ธรรมะก่อนฉัน ปฏิบัติธรรมไม่ต่ำต้อยน้อยหน้า ลุงจำลอง ศรีเมือง มีงานวิจัยถามคนยุโรปว่า เชื่อว่าตายแล้วไม่สูญ มีชาตินี้ชาติหน้า มีคนเชื่อถึง 70% แต่ไปถามคนที่อนุเสาวรีย์ ประเทศไทย มีคน 70 % เชื่อว่าตายแล้วสูญ ข้อพิสูจน์ว่าชาตินี้ชาติหน้ามีจริง เพราะมีคนระลึกชาติได้ เช่น หมอเฉก สามารถระลึกชาติได้ ตอนเด็ก จำได้ว่า แต่งงานกับใคร เรือนหอเป็นอย่างไร คุณชินโอสถ ระลึกชาติได้ว่า ชาติหนึ่งเกิดเป็นหมอจีน และนักไวโอลินฝีมือเยี่ยมของยุโรป เป็นครูสอนภาษาจีน เป็นต้น
ลุงจำลองเล่าว่า เคยสั่งจิตใต้สำนึกตอนเด็ก ๆ ว่าต้องเรียนเก่ง จะได้พ้นความยากจน เวลาลุงไปนั่งแท็กซี่ แท็กซี่เกือบทุกคันไม่ยอมรับเงินลุง รพ.จักษรัตนนิล รักษาตาอย่างเดียว ลุงมีหยักไย่ในตาเลยไปตรวจดู หมอเจ้าของ รพ. มาตรวจให้ด้วยตัวเอง ตรวจอยู่ 4 ชม. หมอไม่รับเงิน ไปกี่ครั้งหมอก็ไม่รับเงิน พอหมอใหญ่เสียชีวิต ก็ยังสั่งหมอว่าไม่ให้รับเงินอีก ตอนลุงไปผ่าต้อกระจก ขอจ่ายเงิน พูดอยู่นาน หมอเลยยอม แต่ขอลดราคา พอลดแล้วก็ขอทำบุญต่อ
หมอโทโคดะ เจ้าของรพ. ในญี่ปุ่น ซื้อเครื่องล้างไตให้ 11 เครื่อง เมื่อลุงเปิดศูนย์รักษาไต และบอกจะซื้อให้อีก 50 เครื่อง ราคา 25 ล้าน แล้วก็ต้องเปลี่ยนระบบกันไฟฟ้าดับ ระบบน้ำ รวมแล้ว 60 กว่าล้าน หมอคนนี้ชอบลุงมาก ๆ ประทับใจที่ลุงเป็นคนเสียสละ ทำประโยชน์ให้สังคม ตามหาลุงมา 10 ปี ไปเจอกันที่งานมอบรางวัลแมกไซไซที่ฟิลิปปินส์ ตอนคุณโสพณรับรางวัล
มีคนให้ที่ลุงทำสวนไผ่ ไม่รับค่าเช่า ค่าที่อะไรทั้งนั้น วันเกิดลุงซื้อรถใหม่ให้ลุงอีก ลุงบอกว่าลุงกับภรรยาไปนั่งรอรถไฟสามเสน มีคนมอง บางคนมองลุงว่า ตกต่ำ นี่เหรอ คนเคยเป็นรองนายก เป็นรัฐมนตรี คนที่เคยเป็นผู้ว่ากทม.แมกไซไซ แต่ลุงคิดว่า แล้วแต่ใครจะมอง ไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ชีวิตทุกวันนี้มีความสุขแล้ว ลุงเล่าถึงการต่อต้านการนำบริษัทเหล้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ ลุงเขียนจดหมาย 8 พันฉบับ ถึงส.ส. สอ. ผู้อำนวยการโรงเรียน กระทรวงศึกษาฯ ตอนนี้ลุงเสนอให้ออกกฎหมายห้ามนำ บ.อบายมุข เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยการให้ช่วยกันลงชื่อ ต้องถ่ายบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านด้วย
ภาคบ่าย ไปสัมภาษณ์คุณอารี ยงวณิชย์ เขาทำงานอยู่เยอรมัน อายุ 37 ปี เป็นวิศวกรไฟฟ้า สัมภาษณ์ในแง่เกี่ยวกับมังสวิรัติ จะเอาไปลงวารสารดอกบัวน้อยน่ะ ตอนแรกหาเขาไม่เจอ ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้ามีบุญที่จะได้สัมภาษณ์เขา ขอให้เจอเขา ปรากฏว่า เจอเขาตอนไปทำอาหารตอนเช้า
รายการตอบสุด ๆ จนหลุดเทวนิยม โดยสมณะโพธิรักษ์ มีคนถามว่า ต้องช่วยพ่อแม่ขายอาหารเนื้อสัตว์ เป็นบาปไหม พ่อท่านตอบว่า อาชีพห้ามซื้อขายเนื้อสัตว์เป็นอาชีพที่พระพุทธเจ้าห้ามอยู่แล้ว ก็ต้องบาป มีเด็กน้อยอายุ 5-6 ขวบ ถามว่า ทำไมหนูต้องทุกข์ด้วย พ่อท่านตอบว่า เพราะเรายังไม่ใช่พระอรหันต์ ถ้าเป็นพระอรหันต์ก็ไม่ทุกข์
ธรรมะเอามาฝาก
-ทานที่สูงสุด คือ ให้ธรรมะเป็นทาน บุญที่สูงสุด คือ การชำระกิเลส
-ข้อผิดพลาดไม่ต้องไปหา เพราะทำไม่ดี มันเป็นของคนนั้นอยู่แล้ว
ภาคค่ำ รายการวิสาขรำลึก ปี 24 โดยสมณะชาตวโร มีข่าวว่า จะมีการจัดงานวิสาขบูชาปีนี้ ที่พุทธมณฑลทางศูนย์คุณธรรมเป็นผู้จัด จะมีการเชิญชาวอโศกไปร่วมงานนี้ด้วย คืนนี้จึงมีการเล่าถึงตอนไปร่วมงานวิสาขบูชาที่สวนลุมพินี ในปี 2524 จัด 3 วัน สมัยนั้น นายสัญญา ธรรมศักดิ์เป็นประธานการจัด สมณะจะไปนอนปักกลดที่นั่น มีการแสดงธรรม ทำบุญตักบาตร แจกโรงบุญอาหารมังสวิรัติ มีการทำโศลกธรรมไปติดต้นไม้เยอะมาก เรียกว่า ต้นไม้พูดได้ เป็นต้น มีการฉายโปรเจคเจอร์ภาพประวัติศาสตร์ให้ดูกัน
คืนนี้มีคนมาร่วมรายการภาคค่ำเยอะมาก ๆ
สิกขมาตรินฟ้า เล่าว่า ท่านประทับใจการเดินธรรมญาตร นำโดย พ่อท่าน สมณะ สิกขมาต และญาติธรรม เดินงามมาก เท้าพร้อมกัน เดิน 2 สาย มีญาติโยมมาถามธรรมะเยอะมาก พอจบงานก็ยังมีการไปปักกลดช่วงเสาร์-อาทิตย์ต่อเนื้อ แต่ต่อมาเลิกไป เพราะมีหนุ่มสาวมานั่งจู๋จี๋กันเยอะ เลยคิดว่าไม่เหมาะที่นักบวชจะไป
สมณะโสรโจ ตอนนั้นท่านเพิ่งบวชได้ 1 พรรษา ท่านเล่าถึง คืนสุดท้ายที่มีการเวียนเทียน มีคนมาเยอะมาก พอเวียนเทียนเสร็จ จะมีพระจากทุกแห่งมาประวาทะกันจนถึงเช้าเลย สนุกมาก ตอนเช้าท่านไปบิณฑบาตเกือบตายเพราะท่านเดินหลับ ไม่ได้นอนทั้งคืน เดินออกไปนอกแถวเกือบชนคนอื่น
สมณะนรวีโร ท่านมาพบอโศกที่สวนลุม งานวิสาขบูชานั่นเอง ท่านเล่าว่า ตอนนั้นบวชเป็นพระข้างนอกมา บวชเพราะว่าจะแต่งงาน ท่านคิดว่าไหน ๆ บวชแล้ว ก็แสวงหาพระที่เคร่งครัด วันหนึ่งนอนดูทีวีอยู่ที่กุฎิ ได้ยินประกาศว่าจะมีงานวิสาขบูชา จะมีพระมาทั่วประเทศ พอดูจบก็ชวนเพื่อนพระไป ท่านก็เดินทางไป ไม่รู้ว่าต้องเอาอะไรไปบ้าง เอาแต่ย่ามกับเงินไป ไปเจอโยมคนหนึ่ง(ไม่รู้จักกันเลย) ถามว่า ท่านจะไปไหน มีกลด มีบาตรรึเปล่า ท่านก็งงว่าต้องเอามาด้วยเหรอ โยมก็จัดหาให้หมดเลย ไปถึงพระเยอะมาก ดยมก็เยอะ ตอนนั้นไม่รู้จักอโศก พ่อท่านเทศน์ถึงพระที่เป็นฤาษี ท่านก็สะดุ้งเพราะท่านไปนั่งหลับตาเป็นฤาษีมา เห็นจุฬามณีมาแล้ว ท่านก็ไม่รู้เรื่อง ในงานนั้นห้ามรับเงิน ห้ามใส่เนื้อสัตว์ ท่านประทับใจญาติโยมอโศกมาก มีโยมเอาเงินมาให้ได้เยอะมาก อาหารเยอะมาก ท่านเก็บนมไว้ 1 ลัง ได้คุยกับโยมคนหนึ่งเป็นชาวอโศก แต่งตัวมอซอ ขยันทำงาน คุยกันถูกคอ เพราะเคยเป็นครูเหมือนกัน คุยไปคุยมาท่านก็เอานมออกมาให้โยม โยมบอกว่าผมกินมื้อเดียว ท่านเลยสะดุ้งเป็นรอบที่สอง โยมพาไปดูนิทรรศการ เอาเงินไปซื้อชาวอโศกก็ไม่ขาย ท่านเลยเอาเงินให้โยมซื้อให้ พอเปิดเทอม ต้องไปสอนหนังสือ ทางโรงเรียนบอกให้สึก ท่านก็ไม่อยากสึก ตอนนั้นก็ไปฝึกกินมังสวิรัติ กินมื้อเดียวเลย ได้ไปพบพ่อท่านว่าจะสึกเกี่ยวกับฤกษ์มั้ย พาโยมแม่ไปด้วย เพราะโยมแม่เชื่อเรื่องโชคยาม พ่อท่านตอบว่า การสึกคือการเลิกถือศีลปฏิบัติธรรม ไม่เกี่ยวกับการห่มผ้าเหลือง ท่านเลยสว่างโล่งเลย จึงลาสึกไปสอนหนังสือต่อ ซื้อเทปไปฟัง พาญาติพี่น้องมาปฏิบัติธรรม เริ่มไม่ใส่รองเท้า พาแฟนมาด้วย(เป็นแฟนกันมา 10 ปี) กินมังสวิรัติและกินมื้อเดียว เกิดความรู้สึกอยากคบแฟนแบบพี่น้อง วันหนึ่งได้ฟังเทศน์พ่อท่านถามว่า ขอชาติหนึ่งได้ไหม ท่านเกิดสะดุดใจทันที ตอนนั้นลาออกจากราชการครูแล้ว ตอบพ่อท่านในใจว่า ได้ครับท่าน ตัดสินใจสมัครเป็นอารามิก(คนวัดชาย) ทันทีเลย แล้วบวชจนมาถึงทุกวันนี้
ลุงจำลอง ศรีเมือง สมัยนั้นลุงเป็นเลขาธิการนายกฯ สมัยท่านเปรมเป็นนายก มีคนมาชวนช่วยกันจัดงานวิสาขฯ ท่านก็ไปนิมนต์พระทุกวัดเลยมางานนี้ ในสมัยนั้น ชาวอโศกไปร่วมงาน 700 ชีวิต ตอนนี้ลุงเป็นประธานสูนย์คุณธรรม ท่านนายกหันมาบอกลุงว่า ขอให้จัดงานวันวิสาขฯ ให้ยิ่งใหญ่ที่สุด อยากให้ชาวพุทธต่างประเทศเดินทางมาประเทศไทยเลย แต่ต้องจัดตามแนวท่านพุทธทาสนะ ลุงเห็นว่า ควรให้คุณหมอจักรธรรม(เป็นลูกชายของนายสัญญา ธรรมศักดิ์) ที่เป็นประธานศูนย์พุทธศาสนาแห่งชาติ มาเป็นประธานในการจัดงานวันวิสาขฯ จะจัดให้ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนามากที่สุด ในงานก็จะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพุทธศาสนา มีการจำหน่ายสื่อธรรมะ จะจัดงานให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของทุกคนที่ไปงาน จะมีการตั้งสัจจะอธิษฐาน อยู่ ๆ ไฟก็ดับหมดเลย แต่เสียงยังดังใช้ได้อยู่ จะให้มีการใส่เสื้อขาวกันทั้งหมดในวันที่ 22
เกิดปัญหาเรื่องการใส่เสื้อขาว เพราะชาวอโศกส่วนใหญ่ไม่มีเสื้อขาว และเราต้องไปทำงานใช้แรงงาน ทำความสะอาดต่าง ๆ ไปทำ 5 ส เป็นต้น คงไม่เหมาะ มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เกิดการถกกันอยู่นาน พ่อท่านเป็นกลางมาก ฟังเหตุผลทั้งสองฝ่าย ในที่สุดก็ตัดสินได้ งานนี้ใครมีอัตตามากน้อย ก็ต้องดูตัวเองกันล่ะ แต่ฉันก็คิดว่า ตามเหตุผลก็ยอมรับได้ เพราะควรทำตามมวลใหญ่มากกว่า
8-4-48
ตื่นตี 3.19 น. มากราบพระทัน ถ้าสุขจะทำให้กิเลสอ้วนขึ้น ถ้าทุกข์ กิเลสก็อ้วนขึ้น เรียกว่า ปุถุชน เช้านี้ก็ยังสู้กับความง่วงไม่ไหวอยู่ดี ไม่รู้เป็นอะไรไม่ตื่นเลยแฮะ เสร็จก็ไปใส่บาตร ออกกำลังกาย ช่วยแยกอาหาร วันนี้มีงานให้ทำเยอะดี ชอบ สนุก มีความสุข แล้วมาขึ้นศาลา
จากคุณ :
ริเศรษฐ์
- [
7 พ.ย. 48 21:59:33
]