ดูท่าทางพี่จะรักแฟนพี่มากเลยนะ ไม่ยอมไปเที่ยวไหนเลย สาวรุ่นน้องที่ทำงานเก่าเคยถามผมแบบนี้ ก็ไปบ้างแต่ไม่บ่อยนัก แต่เรื่องรักนะมันตายจากพี่ไปนานแล้ว เธอทำหน้างง ๆ มันก็น่าอยู่หรอก
ผมเคยคิดว่ามันคงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตั้งแต่ผมจากเธอคนนั้นมาอย่างคนที่สิ้นศรัทธาต่อความรัก จนสาวน้อยอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิตผม เข้ามาทำตัวซนๆ และทำให้ห่วงในความใสซื่อมองโลกในแง่ดีของเธอ จนรู้สึกไม่อยากให้เธอห่างจากสายตา แต่มันเป็นความรู้สึกแบบพี่กับน้อง ผมมั่นใจว่าเป็นอย่างนั้น เธอเองก็คงรู้สึกได้เช่นกัน เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกนี้ที่ผมได้ซับน้ำตาบนอกอุ่นที่แสนจะอาทรห่วงใย และเป็นคนเดียวที่บอกกับผมว่าอยากเห็นผมเดินตามความฝันได้สำเร็จ และจะอยู่เคียงข้างผมเสมอ เพียงเท่านี้ผมก็ไม่สามารถปล่อยให้เธอหายไปจากชีวิตของผมได้อีก
เราเหมือนม้าคู่หนุ่มสาวที่ทะยานออกไปในทุ้งหญ้าแห่งความฝัน มุ่งมั่นจนแทบจะลืมกินลืมนอน ลืมที่จะใช้ชีวิตลืมที่จะสัมผัสความรัก เพียงเพื่อที่จะประสบความสำเร็จด้วยการสร้างครอบครัวเล็กๆ ที่มั่นคงแบบเราที่ฝัน
แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด บางครั้งเหนื่อยสับสนจนไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร มันก็แค่เปลือก ข้างในเรากลวงโบ๋ เคยไหมกอดกันแล้วบอกเหงา เราคุยกันเรื่องนี้เสมอ เรื่องของความรัก เราคงจะรักกันได้สักวันด้วยความดี ความใส่ใจของเราที่มีให้กัน แต่ไม่หรอก เวลาผ่านไปสี่ปีกว่า เรากลับเหมือนพี่กับน้องกันมากขึ้น แต่ละอย่างกลายเป็นหน้าที่เป็นสิ่งที่ต้องทำ เป็นความรับผิดชอบ
มองย้อนกลับไปในเวลาที่หายไปสี่ปีกว่า ผมเหลือเพื่อนสนิทในชีวิตแค่คนสองคนที่ยังไปมาหาสู่ ส่วนใหญ่เพื่อนจะมาหา ผมไม่เคยให้เวลากับเพื่อนๆ นอกจากเธอกับงาน และก็งาน ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่ต้องการจะเติมชีวิตให้เต็มด้วยสิ่งเหล่านี้ แต่กลับมีหลายสิ่งหลายอย่างขาดหายไปจากชีวิตของเรา ที่สำคัญเหมือนเรายังไปได้ไม่ถึงในในสังคมวกวนนี้
ในที่สุดเราล้มเลิกความคิดที่จะแต่งานกันไป เพราะไม่อยากให้ลูกเกิดมาในครอบครับที่ไม่มีความรัก ผมพร้อมเปิดทางถ้าเธอพบคนที่ถูกใจ เธอเองก็เช่นกัน แต่จนวันนี้ผมก็ยังมีเธอให้คอยแกล้งอยู่ได้ทุกวัน เธอก็ยังงอแงกับผมอยู่เช่นเดิม
เธอยังคงฝันว่าสักวันจะได้พบกับไออุ่นของความรัก เมื่อเรายอมรับความจริงกันมากขึ้นว่าสิ่งที่เราฝันร่วมกัน ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้เรามีความสุขร่วมกันได้ตลอดไป แต่มันมันก็คงไม่ง่าย เธอขังตัวเองอยู่กับผมนานเกินไป ไม่เคยออกนอกสายตา เรายังซื่อสัตย์ต่อบทบาทหน้าที่เสมอ ทั้งที่ไม่ได้เรียกร้อง
ในอีกด้านของความรู้สึกผมเคว้งคว้างขาดเป้าหมาย รออะไรบางอย่าง เวลาผ่านไป ผม เธอ งาน เวลาก็เคลื่อนไปเหนื่อยและเริ่มรู้สึกมืดมนลงทุกที
จนวันหนึ่งเหมือนมีแสงสว่างเกิดขึ้นตรงหน้า เมื่อใครคนหนึ่งก้าวผ่านเข้ามาในชีวิตการงานของผม คนที่ผมสบตาได้แว๊บเดียวแล้วก็ต้องหลบเร้นซ่อนความหวั่นไหวภายในใจ ไม่รู้จะก้าวขาไหนก่อนดี ระหว่างซ้ายกับขวา เอามือไว้ตรงไหนถึงจะดูดี
เคยคิดว่าความรักตายจากผมไปแล้วไม่น่าเป็นได้ขนาดนี้ มันเร็วไป รักแรกพบเหรอ ถ้าจะบ้า ผมไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแล้วนะ ผมสบสน กลับบ้านอยากเขียนหนังสือ อยากเล่นกีต้า อยากวาดรูป อยากอยู่กับตัวเอง มันไม่ได้เลย
ผมแอบอุ่นในความรู้สึกเวลาที่ทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งได้เรียนรู้เธอมากขึ้นทีละนิด ก็ยิ่งคิดว่ามันคงไม่ใช่หรอก
ผู้หญิงที่ชอบทำตัวเป็นดาวเด่น เซ็กซี่ เริศหรู น่ามั่นไส้จะตาย ไม่ใช่คนในแบบที่ผมคิดแน่ๆ ที่สำคัญผมรักอิสระ ไปไหนไม่อยากให้คนมาสนใจ และผมก็ติดดิน ถึงจะใช่ในแบบที่ผมรับได้ผมก็เอื้อมเธอไม่ถึงอยู่ดี
แต่ก็นั่นแหละแม้จะมีเหตุผลมาหักล้างได้มากแค่ไหนก็ตาม ภาพของเธอก็ยังวนเวียนอยู่ในความคำนึงตลอดเวลา
ทำไงดี ที่รู้สึกหวั่นไหวมากไปกว่านั้นก็คือ ผมไม่ใช่เด็กแล้วมันพอจะรู้สึกได้เวลาสบตาเธอแล้วพบว่ามีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่ เราทั้งคู่สนิทกันช้ามากในขณะที่กับคนอื่นๆ เรากล้าที่จะเล่นหัวกันจนคุ้นเคย อาการแบบนี้
เพื่อนๆ ก็เริ่มจะดูออกแล้วมั้งผมรู้สึกแบบนั้นจริง และเพื่อนๆ ทุกคนก็รู้ว่าผมมีแฟนแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีใครรู้มากไปกว่านี้
ไม่รู้ต้องทำอย่างไร คงได้แต่ปล่อยให้ความฝันโบกโบยไปอย่างทรมานในแต่ละคืนกว่าจะหลับลงได้
คืนนี้ จูบพิษที่เปลือกตาน้องสาว ห่มผ้าให้เธอ แล้วก็ลุกขึ้นมาเขียนความเรียงเพราะอยากระบายออก อย่างที่ไม่ได้คิดจะเรียบเรียงอะไรมากนัก ขอบคุณที่เข้ามาร่วมรับรู้นะครับ คงจะมีผิดตกอยู่บ้างต้องขออภัยครับ
จากคุณ :
superb man
- [
10 พ.ย. 48 01:42:42
A:58.10.125.74 X: TicketID:111116
]