CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    รักคนบ้านใกล้....หัวใจติดกัน ตอนที่ 1

    อยากให้พี่ๆช่วยติชม มาเยอะๆนะค๊ะ รับฟังได้ค่ะ
    เพราะว่ายังเขียนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ฮิฮิ เพราะคนเขียนเนี่ยจินตนาการเพ้อฝันเก่ง แต่พอเรียบเรียงเป็นตัวอักษรเนี่ยแป้กทุกทีเลย จะเอาปรับปรุงค่ะ
    ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะค๊ะ

    ตอนที่ 1
    เช้าวันเสาร์ เป็นวันที่ฝ้ายรักที่สุด ก็เป็นวันที่ไม่ต้องตื่นแต่เช้าฝ่าการจราจรอันแสนน่าเบื่อที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของชาวกรุงเทพฯไปซะแล้ว แต่วันนี้เธอต้องตื่นแต่เช้าไปซื้อกับข้าวให้คุณนายแม่นะซิ ยัยแจ๋วนะยัยแจ๋วจะลาวันอื่นก็ไม่ได้ ฮึ ดันมาลาวันที่เธอจะพักผ่อน พลอยให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย คิดถึงเมื่อเช้าแล้วสยอง

    “น้องฝ้ายขา ไปซื้อกับข้าวหน้าปากซอย ให้คุณแม่หน่อยค่ะ” เสียงหวานๆของคุณนายแม่ดังมาจากชั้นล่างแต่เช้า แต่ตอนนี้เสียงหวานๆกลายเป็นเสียงขมๆสำหรับเธอแล้ว ไม่รู้ไม่ชี้ดีกว่า เดี๋ยวเสียงเรียกก็เงียบไปเองแหละ ร่างเล็กในผ้าห่มคิดแล้วก็หลับต่อสบายใจเฉิบ

    “น้องฝ้าย ลงมาหรือยังค๊ะ คุณแม่จะรีบทำกับข้าวค่า”
    เงียบ_________________ ไม่มีเสียงตอบรับ
    ต่อจากนั้นเสียงเรียกน้องฝ้ายก็ดังเป็นระยะ แต่เจ้าของชื่อไม่รู้ร้อนรู้หนาว (รู้แต่นอนอย่างเดียว ฮิ) เพราะตอนนี้เธอมีสำลีอุดหูไว้แค่นี้ก็เรียบร้อย โธ่ คุณแม่ตามเธอไม่ทันหรอก

    แต่แล้ว “โครม” เสียงน้ำถังใหญ่สาดเข้ามาที่ตัวเธอ ตอนแรกคิดว่า เธอฉี่รดที่นอน แต่เอไงเปียกทั้งตัวหว่า แต่พอลือตา หวาย ฝันร้ายหรือเปล่าเนี่ย หน้าแม่ของเธอเขียวเป็นพระอินทร์ด้วยความโกรธ “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ออกไปซื้อของให้แม่ได้แล้ว ยัยฝ้าย” คุณแม่ของเธอพูดด้วยหน้าตาเรียบเฉย แต่แววตานี่สิแทบจะกินเธอได้ทั้งตัว นี่แหละสาเหตุที่เธอต้องมาปั่นจักรยานไปปากซอยตั้งแต่เช้าแทนที่ตอนนี้จะได้นอนสบายอยู่ที่บ้าน

    “หงุดหงิด เฟ้ย” ฝ้ายตะโกนเสียดังลั่นซอย จนหมาเห่ารับเสียงเป็นเกลียว

    คนหงุดหงิดหลับหูหลับตาปั่นจักรยานอย่างเร็วเหมือนกับระบายความหงุดหงิดลงมาที่สองล้อคันนี้ จนไม่ได้รู้ตัวเลยว่ารถของตัวเองมันข้ามแดนไปกลางถนนแล้ว

    เอี๊ยด! โครม

    เสียงรถยุโรปหรูสีดำ เบรกอย่างกะทันหัน ก่อนที่จะไปชนเข้ากับจักรยานของฝ้าย คนขับเปิดกระจกชะโงกหน้ามองหญิงสาวที่ลงไปกลิ้งกองกับจักรยานพร้อมกับบรรดากับข้าวที่เพิ่งซื้อมาจากปากซอย ผมที่ยาวยุ่งเหยิง ผิวขาวเนียนตอนนี้เป็นสีแดง แต่หน้านี่สิงอจนคางจะชนกับหน้าผากอยู่แล้ว ปากสีชมพูถูกเม้มไว้ด้วยความโกรธ

    “นี่นาย ขับรถภาษาอะไร ทำไมไม่ดูตามาตาเรือ ขับรถก็แพง แต่ทำไมไม่เปลี่ยนแว่นตา” พอพยุงตัวลุกขึ้นได้ปุยฝ้ายก็เดินดิ่งเข้าไปชี้หน้าต่อว่า เจ้าของรถคันงามทันที
    ‘ ฮึ แดดก็ไม่มีดันใส่แว่นตาดำ สติบ้าบอหรือเปล่าเนี่ย’ ฝ้ายฮึดฮัดในใจ
    คนถูกต่อว่ายังเฉย พร้อมกับเปิดกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่หน้ารถ

    “อ่ะ ค่าเสียหาย” ธนบัติแบงค์พันบาทถูกยื่นมาตรงหน้าของฝ้าย

    “นี่นาย แค่นี้มันไม่หายเจ็บหรอกนะ ขอโทษน่ะพูดเป็นมั๊ยขอโทษ”คราวนี้ฝ้ายตะโกนเสียงดัง

    “นี่คู๊ณณณ...คนที่ผิดน่ะไม่ใช่ผม แต่เป็นคุณต่างหาก มัวแต่ใจลอยจนขับรถมากินเลนคนอื่นเค้าแล้วจะมาโวยวายอีก จะเอาไม่เอา ผมเสียเวลา” ชายหนุ่มชักเงินกลับ

    “แล้วทำไมนายเห็นแล้วนายไม่บีบแตร หรือเห็นว่าไอ้คนที่ปั่นจักรยานมันเหมือนหมาเหมือนแมว ข้างถนน นายถึงขับมาชนฉันอย่างนี้ ‘นายต้องขอโทษฉัน’”

    “ไม่! ผมไม่ผิด”

    “นายต้องขอโทษฉัน ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ คำนี้พูดเป็นมั้ย” ฝ้ายเถียงหน้าดำหน้าแดง ไม่รู้แหละถึงเธอจะขี่จักรยานกินเลนคนอื่น แต่นายคนนี้ทำท่าทางหน้าหมั่นไส้ คนอะไรหน้าตาก็ดี กะอีแค่คำว่าขอโทษแค่นี้พูดไม่เป็น
    “เอาล่ะ ผมไม่เถียงกับคุณแล้ว ผมไปล่ะนะ ยัยแจ๋ว”
    ยัยแจ๋ว หรอ “นายเรียกใครว่าแจ๋ว” ก่อนที่ฝ้ายจะพูดอะไรมากกว่านี้ รถเก๋งคันงามก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างหน้าตาเฉย
    “ไอ้บ้า..... นายมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน นายหล่อนักหรือไง คนทุเรศ” ฝ้ายตะโกนไล่หลังรถที่เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ เหมือนเป็นการเยาะเย้ยว่าเธอทำอะไรเขาไม่ได้ คนในรถโบกมือบ๊าย บายอย่างอารมณ์ดี
    “นายเยาะเย้ยฉันใช่มั้ย เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่” แล้วไข่ที่แม่ฝากซื้อเมื่อเช้า ซึ่งตอนนี้แตกละเอียดเพราะแรงกระแทก ก็ถูกเหวี่ยงไปบนหลังคารถคันงามแม่นอย่างกะจับวาง ฝ้ายหัวเราะคิกด้วยความสะใจและภูมิใจในฝีมือของตัวเอง ตอนนี้รถสีดำถูกแต่งแต้มสีสันด้วยสีเหลืองอย่างไม่ตั้งใจ


    “ต๊าย น้องฝ้ายขา ไปฟัดกับแมวที่ใหนมาค๊ะ ทำไมสภาพเป็นอย่างนี้ล่ะ ดูสิ อุ๊ยเป็นแผล ด้วย โถ ๆๆ มามะเดี๋ยวคุณแม่ทำแผลให้นะค๊ะ เดี๋ยวผิวเนียนๆของน้องฝ้ายเสียหมด ต้องรีบทายานะค๊ะเดี๋ยวเป็นแผลเป็น” เสียงคุณแม่เจื้อยแจ้ว เป็นเรื่องธรรมดาของเธอซะแล้ว เวลาที่แม่ของเธอจะตกใจกลัวผิวของลูกตัวเองจะไม่สวย นี่แหละคุณแม่ของเธอ “คุณอรชร” ถึงแม้ตอนนี้อายุจะย่างเข้าปีที่ 43 แล้ว แต่ด้วยความที่ดูแลตัวเอง และอารมณ์ดีอยู่เสมอ ทำให้อรชรยังดูเหมือนแค่อายุสามสิบต้นๆเท่านั้น

    จากคุณ : ดาวบนพื้นทราย - [ 11 พ.ย. 48 14:27:06 A:203.151.33.220 X: TicketID:074719 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป