ถ้าหากย้อนหลังไปสัก...หลาย...หลายปี อาจจะมีคนเคยได้อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้ เพราะเคยโพสต์ที่นี่...นานมาแล้วค่ะ
วันนี้พอดีรื้อๆ อะไรออกมา...ปัดฝุ่น เลยเจอเรื่องนี้
เอามาเกลาๆ แก้นิดๆ หน่อยๆ แล้วก็โพสต์ให้อ่านกันอีกครั้งน่ะค่ะ
************************************
::: โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น :::
เสียงเพลงเบาบางลอยล่องมา เคล้าคลอกับอากาศเย็นชื่นจากเครื่องปรับอากาศ
.
เมื่อชีวิตยังรักที่จะฝัน และบอกกับใจทุกวันที่ผ่านมา
ด้วยปีกแห่งฝันจะโบยบินไปถึงฟ้า หวังจะไปถึงในสักวัน
เนื้อเพลงนั้นฉุดสำนึกของชายหนุ่มให้ประหวัดถึงหญิงสาวผู้หนึ่ง ครั้งนั้นเขากับเธอกำลังนั่งจิบกาแฟมองภาพผู้คนบนท้องถนนเช่นวันนี้ แตกต่างกันแต่เพียงว่า
วันนี้ ไม่มีเธอ
เขายังจำประโยคที่เธอพูดในขณะที่สายตามองเหม่อดูผู้คนขวักไขว่บนท้องถนนภายนอกหน้าต่างกระจกบานใสของร้านกาแฟเล็กๆ นั้นได้ดี
นล...นลดูสิ นลดูคนที่เดินขวักไขว่บนถนนนั่นสิ บนถนนเส้นเดียวกันแท้ๆ แต่จุดมุ่งหมายของแต่ละคน...ไม่เหมือนกัน เพราะทุกคนต่างก็มีความฝันของตัวเอง ถ้าเรามีกล้องพิเศษนะนล เราจะเห็นว่าเหนือท้องถนนที่มีผู้คนเดิน จะมีความฝันหลากหลายล่องลอยอยู่ในมโนสำนึกของแต่ละคน แล้วกี่ความฝัน...ที่จะลุล่วงสมปรารถนา ก่อนที่ชีวิตจะสูญสิ้น แล้วอีกกี่ความฝันที่สูญสลายก่อนที่จะได้เริ่มต้น
แล้วมายล่ะ ฝันอะไร
เขาเอ่ยถามออกไปสั้นๆ ง่ายๆ
รู้อยู่ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยความฝัน จนเขาเองอดแปลกใจไม่ได้ ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะมีความฝันมากมายซุกซ่อนอยู่ได้อย่างไร
เยอะแยะค่ะ นล
เธอตอบ พลางจิบกาแฟในถ้วยอย่างละเลียด รอยยิ้มผุดพรายที่มุมปาก ดวงตาฉายประกายระยิบ
มายชอบอยู่ในโลกของความฝันมากกว่าโลกแห่งความจริงค่ะ ความฝันไม่ทำให้เราเจ็บปวดเหมือนความจริง มายเลยมีฝันเยอะแยะ
แต่สุดท้ายไม่ว่าเราจะมีฝันมากมายแค่ไหน ขาของเราก็ต้องยืนติดพื้นดินนะ มาย คนเราก็ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความจริง
เขาบอกเธอไป เธอหันกลับมาสบตาเขา แววตากรุ่นฝันเปลี่ยนมาทอแสงเอาจริงเอาจัง
ค่ะ มายรู้
บางครั้งเขาสับสนกับความเป็นเธอ บางคราเธอดูอ่อนแอปวกเปียก หากบางคราเธอกลับเข้มแข็งอย่าไม่น่าเชื่อ
รู้มั้ยคะ ทำไมแม่ถึงตั้งชื่อ มาย ว่า มายา
อยู่ๆ เธอก็ถามขึ้นมา เขาได้แต่ส่ายหน้า แล้วรอฟังคำตอบของเธอ
แม่บอกว่าทุกอย่างเป็นเพียงภาพมายา ไม่แน่นะคะ
โลกที่เรายึดมั่นถือมั่นว่าเป็นความจริงเสียยิ่งกว่าจริงนี่ อาจเป็นแค่ความฝันก็ได้นะคะ
เขาผงกศีรษะรับ ทวนชื่อเธอแผ่วเบา
..มายา..
ค่ะ มายา ท้ายเสียงที่เอ่ยชื่อตัวเองแผ่วเบา แม่คงอยากจะเตือนสติมายมั้งค่ะ เพราะท่านเองก็โดนความจริงเล่น
งานเสียยับเยิน
มาถึงตรงนี้ แววตาของเธอโศกสลด
แม่ของมายาเป็นเพียงผู้หญิงชาวบ้านธรรมดาที่เลี้ยงตัวเองและลูกโดยลำพังด้วยความยากลำบาก อยู่ได้ด้วยการขายข้าวแกง พ่อของเธอไม่เคยให้ความช่วยเหลือสองแม่ลูกเพราะ...
ภรรยาคนแรกไม่ยินยอม !
แม่ของมายาตกอยู่ในสภาพเป็นเมียรอง หลังจากที่แต่งงานจดทะเบียนกับพ่อของเธอมาได้ปีเดียว ตอนนั้นแม่เพิ่งตั้งครรภ์ได้สองเดือน เมื่อภรรยาของพ่อตามมาถึงเชียงใหม่ แล้วนำใบทะเบียนสมรสมาเป็นหลักฐานยืนยันว่า การสมรสของพ่อแม่หล่อนเป็นโมฆะ และจะไม่มีการยินยอมหย่าขาดจากผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายโดยเด็ดขาด
แม่ของเธอแทบจะล้มทั้งยืน ความหวานชื่นของชีวิตสมรสหายวับไปกับตา พ่อของเธอจำต้องกลับไป แต่มายาบอกว่า ถึงภรรยาของพ่อไม่มาตาม สักวันพ่อก็คงไปอยู่ดี พ่อคงทิ้งภรรยาหลวงไปไม่ได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นคือขุมทรัพย์ของเขา บ่อเงิน บ่อทอง...ที่จะทำให้มีความสุขชั่วชีวิต
แรกๆ พ่อก็ยังส่งเงินทองมาให้แม่กับหล่อนซึ่งยังเล็กอยู่บ้าง ทว่าจากการระรานของภรรยาทำให้เขาค่อยๆ หายไปทีละน้อย
จนนานวันเข้ากาลเวลาก็กลืนทุกสิ่ง
เมื่อเธอเติบโตจนจำความได้ ก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวจากพ่อเลยสักครั้ง ในชีวิตคุ้นเคยก็แต่กับแม่เท่านั้น
คำว่า พ่อ
เป็นคำที่ไม่เคยคุ้นปาก
และยิ่งกว่านั้น ใจไม่เคยยอมรับ !
มายาไม่ยอมรับคนที่หลอกลวงน้ำใจของผู้หญิงเช่นนั้นเป็นพ่อเด็ดขาด
กว่าชีวิตจะพ้นไปอีกวัน อีกกี่ความฝันที่ฉันจะไขว่คว้า
อีกกี่คำถามที่รอคอยการค้นหา แล้วถึงรู้ว่ามันไม่มีจริง
เสียงเพลงยังคงบรรเลงต่อไป เหมือนชีวิตของคนกรุงที่ยังคงวุ่นวายไม่จบ ชายหนุ่มส่งสัญญาณให้บริกรคิดเงิน เขาควรจะรีบกลับบ้านก่อนที่รถราจะติดจนขยับเขยื้อนไปไหนได้ยากลำบาก แล้วเขาจะต้องเสียเวลาอยู่บนรถโดยเปล่าประโยชน์
หนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าบาทครับ
บริการหนุ่มน้อยบอกเขา ด้วยรอยยิ้มเอาใจแขก
เขาส่งธนบัตรใบละร้อยให้สองใบ
ไม่ต้องทอนนะ
บริการหนุ่มยกมือไหว้ขอบคุณ เขาพยักหน้าให้ ก่อนจะลุกเดินออกจากร้านไปเขายังแว่วเสียงตามหลังมา
คราวหน้ามาใหม่นะครับ
มายา..บอกว่าเธอชอบโลกแห่งความฝันมากกว่าโลกแห่งความจริง เพราะว่ามันไม่ทำให้เธอเจ็บปวด ทว่า..โลกแห่งความฝันคลับคล้ายผ้าผืนเก่าคร่ำที่กัดกินตัวมันเองจนขาดวิ่น แล้ววันหนึ่งเมื่อถึงกาลสิ้น โลกแห่งความฝันก็แตกสลายไม่เป็นชิ้นดี
.
โลกแห่งความจริง ฉันเป็นเหมือนคนตาบอด
โลกแห่งความฝัน ฉันมองเห็นวันสดใส
แต่ในวันนี้ โลกแห่งความฝัน ทอดทิ้งฉันไปไหน
โลกไม่สดใสเหมือนวันก่อน
.
เมื่อวงล้อแห่งโชคชะตาเล่นตลก เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับแม่ของมายากลับย้อนรอยมาทางเดิม มายาช้ำเสียยิ่งนัก เธอมาหาเขาในวันหนึ่ง พร้อมดวงตาที่บอบช้ำจากการร้องไห้มาอย่างหนัก
มาย เป็นอะไร ทะเลาะกับเขามาเหรอ
เธอส่ายหน้า แล้วโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขา น้ำตาของคนที่สูญสลายพรั่งพรูออกมาพร้อมๆ กับคำพูดปนสะอื้น
เขามาบอกมายว่า
เขาแต่งงานแล้ว
เธอพูดได้เพียงเท่านั้น
นาน
กว่าเธอจะหยุดยั้งน้ำตาเหล่านั้นได้ เขารอคอยอย่างใจเย็น ปลอบโยนเธอเท่าที่จะทำได้ ตอนนั้นเองที่เขา
ตระหนักว่า ผู้หญิงที่เข้มแข็งเสียเหลือเกิน แท้จริงแล้วอ่อนแอยิ่งกว่าสิ่งใด เธอจึงต้องห่อหุ้มตัวเองไว้ด้วยความฝัน สร้างมันให้เป็นปราการคุ้มภัยให้เธอ หวังเพียงว่ามันจะทำให้เธอปลอดภัยอยู่ในโลกของความฝัน
โลกที่เธอเชื่อว่าไม่มีความเจ็บปวดมากรายใกล้
นานหรือยัง
เขาถามเธอ เมื่อเห็นว่าสงบลงแล้ว
ห้าปี เขาแต่งงานมาห้าปีแล้ว
น้ำเสียงของเธอแห้งผาก ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาอีกครั้ง
เค้าปิดมายมาตลอดเวลาสามปีที่คบกันเลยเนี่ยนะ แล้วนึกยังไงถึงเพิ่งจะมาบอกล่ะ
เมียเขาท้อง เขาก็เลย.. คำพูดของเธอขาดหายไปเสียเฉยๆ เขาจึงต่อให้เสียเองด้วยสุ้มเสียงกรุ่นโกรธ
อยากกลับตัว ว่างั้นเหอะ...ไอ้สารเลว !
คำสบถ...เยียบ...เย็น...ดูแคลน
ในใจนั้นอยากจะกล่าวอะไรมากกว่านั้น แต่ก็เกรงว่าคนฟังจะสะเทือนใจมากไปกว่านี้ แค่คำว่าสารเลวคงไม่พอหรอก สำหรับผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นว่า ระยะเวลาสามปีที่ผู้หญิงคนหนึ่งทุ่มเทหัวใจ ให้ความรัก และสร้างฝันนั้น เป็นเพียงอารมณ์ที่พัดผ่านมาชั่วคราว
มายา
ใช่ ! เป็นเพียงมายา
แล้วสำหรับมายาล่ะ เธอจะเหลืออะไร !
วันนั้นมายาพกพาหัวใจบอบช้ำกลับไป หลังจากที่ร้องไห้อีกหลายครั้ง
มาย มาได้ทุกเมื่อนะ ไม่ต้องเกรงใจ นลยินดีเสมอ
ยิ้มขอบคุณของเธอยิ้มแห้งแล้ง เธอก็ก้าวขึ้นรถขับออกไป
แล้วมายาก็ยืนหยัดอยู่ได้ในโลกแห่งความฝันที่แตกสลายของเธอ ทว่าด้วยร่างที่ไร้หัวใจ
จากหญิงสาวที่ร่ำรวยฝัน เธอกลายเป็นคนที่ไม่มีกระทั่งความหวัง จ่อมจมกับเศษซากความฝันที่แตกกระจัดกระจายอยู่รายรอบ
มายาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน !
(มีต่อค่ะ)
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 48 20:30:56
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 48 20:30:29
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 48 20:28:33
จากคุณ :
คีตาญชลี
- [
12 พ.ย. 48 20:27:59
]