CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    =[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 93 บั้นปลายคุนหลุน

    โพสต์ไม่จบตอนนะครับ >_< ลืมท่อนที่แต่งเอาไว้ที่ทำงานหลายหน้าอยู่ อุตสาห์แอบแต่งตอนพักกลางวัน

    ขอค้างไว้ก่อน เอาไปเท่านี้ก่อน



    อาหารอันโอชะถูกจัดวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ประกอบด้วยกับข้าวแปดอย่าง มีทั้งเป็ดย่างที่ถูกย่างจนหนังของมันกรอบเป็นมันวาว ที่ชั้นน้ำมันบางเบาสีทองเคลือบฉาบอยู่บนหนังของมัน มีปลานึ่งทั้งตัวขนาดใหญ่ซึ่งนึ่งกับบ๊วยเค็ม จากนั้นนำขิงซอย ต้นหอม และผักแกล้มอีกหลายชนิดโรย และจัดวางมาด้วยในตัวจาน ที่ด้านข้างยังมีน้ำซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว น้ำส้มสายชู พริกสดสีเขียวที่หั่นซอยวางอยู่อีกถ้วย ใช้สำหรับกินคู่กับปลานึ่งดังกล่าว อีกจานเป็นผัดผักประกอบด้วย ผักกาดขาว ผักปวยเล้ง และผักอีกหลายหลากชนิด ผัดเข้ากับเห็ดหอมสด ราดด้วยน้ำมันหอยน่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง ที่เหลือก็เป็นปูนึ่ง หูฉลามน้ำแดง ซาละเปาสอดไส้เนื้อวัวอย่างดี กระเพาะปลาน้ำแดง และเนื้อแพะย่างไฟ ตามลำดับ

    หลี่ซังซังแม้ถูกเลี้ยงดูมาแบบคุณหนู อาหารเหล่านี้ยิ่งมิต้องสงสัยเลยว่านางเคยรับประทานมาก่อน ถึงขนาดนั้นยังอดเหม่อมองอย่างตะลึงลานมิได้ แต่เหตุผลกลัมิได้อยู่ที่ความเลิศหรู และรูปลักษณ์อันโอชะของอาหารทั้งแปดจาน แต่เป็นเพราะว่าของเหล่านี้ล้วนเป็นของที่นางชมชอบรับประทานทั้งสิ้น!!!

    "บิดาท่าน..." หลี่ซังซังเอ่ยขึ้นมาเหมือนจะกล่าวอะไร แต่แล้วก็มิสามารถกล่าวออกมาได้จนจบประโยค ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ

    หลี่เทียนเล้งเห็นเช่นนั้นพลันกล่าวเสียงนุ่มนวลปรานี

    "ซังเอ๋อ ของเหล่านี้ล้วนเป็นของชอบของเจ้าทั้งสิ้น ปูนี่เราสั่งคนจับมาจากบึงเอี้ยงเท้งโฮ้ว บรรจุในกล่องไม้ลำเลียงมาทั้งยังมีชีวิตอยู่ ค่อยให้พ่อครัวฝีมือดีปรุงเป็นอาหาร ส่วนปลากระพงนี่จับจากลำน้ำซ้งกัง ทั้งสดทั้งใหม่ เนื้อหอมหวาน เจ้าลองรับประทานสักคำ" กล่าวพลางคีบเนื้อปลาให้แก่นาง มิเพียงเท่านั้นยังใช้ช้อนเล็กตักซีอิ๊วเล็กน้อยราดลงบนเนื้อปลาคำนั้น ตามด้วยตะเกียบคีบเต้าเจี้ยววางลงบนเนื้อปลา และพริกสดที่ซอยระเอียดวางลงตามอีกขั้นหนึ่ง

    หลี่ซังซังนึกมิถึงอีกฝ่ายมิเพียงจดจำออกว่านางชอบรับประทานปลากระพงนึ่ง กระทั่งวิธีในการรับประทานก็จดจำได้ทั้งหมดมิขาดตกบกพร่อง น้ำตาสองสายประดุจไข่มุกเม็ดงามที่ขาดร่วงหล่นจากสาย พลันไหลรินอาบแก้มขาวนวลประดุจหยกเนื้อดีของหญิงสาว นางรีบคีบปลาชิ้นนั้นใส่ปาก ขบเคี้ยวช้าๆ คล้ายกับต้องการซึมซาบรสชาติของปลาชิ้นนั้นให้เต็มอิ่ม ทั้งยังคล้ายมิต้องการให้เวลาแห่งความสุขนี้ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว นี่กลับมิทราบว่าเหตุผลที่หลี่ซังซังทำเช่นนั้น เป็นเพราะหญิงสาวโปรดปรานเนื้อปลากระพงนึ่งชิ้นนั้นเป็นพิเศษ หรือเป็นเพราะชมชอบบรรยากาศแห่งความสุขในตอนนี้ มิใคร่อยากให้ผ่านพ้นไปกันแน่?!

    "อร่อยหรือไม่?" หลี่เทียนเล้งถามเสียงนุ่มนวล สีหน้าท่าทางเป็นห่วงเป็นใย เฝ้ารอคำตอบของบุตรี ด้วยท่าทีกระสับกระส่ายอยู่บ้าง

    หลี่ซังซังเห็นท่าทีกระวนกระวายของอีกฝ่าย น้ำตาก็พลันทะลักออกมาจากเบ้าตาของนางมากยิ่งขึ้น ผงกศีรษะติดต่อกันมิหยุดยั้ง ปากพร่ำพูด "อ...อร่อย นี่....นี่...นี่จึงเป็นเนื้อปลาที่เอร็ดอร่อยที่สุดในชีวิตข้าพเจ้า เทียบกับเมื่อครั้งยังเป็นเด็กแล้วนับว่าประเสริฐเลิศกว่ามาก เพียงมีรสขมอยู่บ้าง แต่รสหวาน และความสดใหม่นับว่ามากมายยิ่งแล้ว"

    หลี่เทียนเล้งรับฟังพลันมีสีหน้าตะลึงตะลาน อดกล่าวทวนคำ "ไฉนปลามีรสขม?" ตัวมันอดมิได้คีบรับประทานคำหนึ่ง

    กล่าวอย่างงุนงง "ปลานี่มิเห็นมีรสขมแต่อย่างใด เอ...หรือว่าบางทีเจ้าไปกินโดนส่วนที่ขม"

    หลี่ซังซังส่ายศีรษะไปมา ปฏิเสธอย่างสุดชีวิต กล่าวว่า "มิ..มิใช่ ความขมที่ว่าบางทีอาจเป็นความขมขื่นจากการพลัดพราก ต...แต่ ต่อไปนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว!" พลางผวาเข้ากอดผู้เป็นพ่อ ร่ำไห้ออกมาอย่างสุดเสียง

    หลี่เทียนเล้งได้แต่ลูบศีรษะของบุตรสาว น้ำตาของมันเอ่อคลอที่ดวงตา สิบกว่าปีมานี้นับว่าทั้งสองผ่านวันเวลามาอย่างยากลำบาก ผ่านความขมขื่นไม่น้อย
    หลี่เทียนเล้งปลอบโยนบุตรีอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยดันตัวหลี่ซังซังออกห่าง กล่าวว่า "เจ้าทานเยอะๆ บิดารับรองต่อไปย่อมมิมีรสชาติที่ขมอีก!"

    หลี่ซังซังผงกศีรษะรับคำ ตนเองคีบเนื้อแพะย่างใส่ปาก ขบเคี้ยวอย่างรวดเร็ว ค่อยเอ่ยชมเชย จากนั้นคีบเนื้อปูให้แก่หลี่เทียนเล้ง พลางกล่าวว่า "ข้าพเจ้ายังจดจำได้ว่าท่านชอบทานปู ลองทานสักคำดีหรือไม่?"

    หลี่เทียนเล้งเหม่อมองเนื้อปูในจาน น้ำตาแทบทะลักออกจากดวงตาทั้งสอง มันมิทราบรอคอยเนื้อปูชิ้นนี้มานานเท่าใด? วันนี้จึงมีโอกาสได้รับประทานอีกครั้ง มันใช้ตะเกียบในมือยื่นไปคีบเนื้อปูชิ้นดังกล่าว รู้สึกว่ามือของตนเองสั่นเทาอยู่บ้าง จากนั้นคีบใส่ปากขบเคี้ยวช้าๆ

    "บิดา? อร่อยหรือไม่?" หลี่ซังซังถามด้วยน้ำเสียงสดใส

    หลี่เทียนเล้งผงกศีรษะ กล่าวว่า

    "อร่อย เอร็ดอร่อยยิ่ง"

    ทั้งสองพ่อลูกทางหนึ่งสนทนาไปพลาง อีกทางหนึ่งรับประทานไปพลาง บรรยากาศสนิทสนมกลมเกลียวเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายอดสนทนาถึงความเป็นไปของแต่ละฝ่ายมิได้ หลี่ซังซังเล่าว่า หลังจากที่บิดาหายไป ตัวนางก็อาศัยอยู่ในสำนักใหญ่ของพรรคฉิกจับอิด ในเวลานั้นตนเองยังมิรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับบิดา รู้แต่เพียงว่าอีกฝ่ายหายสาบสูญไปเท่านั้น หลี่เฉินเชียงเองก็มิได้ข่มเหงอันใดนาง ทั้งยังรักใคร่เอ็นดูราวกับบุตรีในไส้ นางมีแต่ได้รับความสะดวกสบาย หามีความทุกข์อันใดไม่ แต่ถึงอย่างไรตัวนางก็ยังหวังจะตามหาผู้เป็นบิดา ดังนั้นลอบออกจากสำนัก เข้าผจญภัยในยุทธจักร

    เพราะสาเหตุนี้ตนเองจึงได้พบประสบการณ์แปลกใหม่ ได้พบผู้คนจำนวนมากมาย ทว่าหลี่ซังซังก็มิได้บอกเล่าเรื่องราวของพวกฮั่นตง และเสี่ยวซาออกมา ที่นางบอกกลับเป็นเรื่องราวของตั๋วล่ายสุก?!

    "บิดา เจ้าคนผู้นี้ชั่วร้ายนัก ถึงกับทำร้ายข้าพเจ้า ท่านต้องจัดการมันให้กับข้าพเจ้านะ" เด็กสาวกล่าวด้วยความไม่พอใจ

    หลี่เทียนเล้งได้ยินเช่นนั้นได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ กล่าวอ้อมแอ้มออกมา "ตั๋วล่ายสุกมันผู้นี้คงมิทราบว่าเจ้าเป็นบุตรีของเรา หากมันทราบ บิดาคิดว่ามันคงมิกล้าแล้วล่ะ ฮาฮา" ตอนท้ายพาลหัวเราะกลบเกลื่อน

    หลี่ซังซังขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กล่าวว่า "มิได้ ข้าพเจ้ามิยินยอม บิดาท่านต้องจัดการมันให้แก่ข้าพเจ้า"

    หลี่เทียนเล้งแม้รู้สึกลำบากใจ ทว่าเมื่อเห็นบุตรีทำท่าแง่งอนก็อดที่จะเอ็นดูมิได้ กล่าวว่า "เจ้ามิต้องสนใจคนผู้นี้ มันตอนนี้มิอาจทำอันใดได้แล้ว เนื่องเพราะมันมิมีชีวิตอยู่อีกแล้ว!!!!"

    หลี่ซังซังได้ยินพลันอุทานออกมา "อะไร! มันตายแล้ว?! ไฉนมันถึงตาย?" เด็กสาวแม้ต้องการลงมือล้างแค้นอีกฝ่าย แต่ยังมิถึงกับต้องการเห็นความตายของผู้อื่น ในที่สุดมิอาจเก็บอาการตกใจเอาไว้ได้

    หลี่เทียนเล้งจึงบอกเล่าเรื่องราวที่ตั๋วล่ายสุก ปะทะกับฝ่ายฉิกจับอิด นำโดยสามมารตลบเมฆ สุดท้ายตั๋วล่ายสุกเสียชีวิตไปภายใต้เงื้อมมืออีกฝ่าย แน่นอนทั้งหมดเป็นเรื่องที่หลี่เทียนเล้งแต่งขึ้น เพื่อลบชื่อของตั๋วล่ายสุกออกไป และผงาดขึ้นด้วยศักดิ์ฐานะของ "เฒ่ามากวาสนา" นั่นเอง

    หลี่ซังซังผงกศีรษะรับทราบ หญิงสาวรู้สึกว่าตนเองเกลียดชังการแย่งชิงอำนาจระหว่างค่ายพรรค และสำนักต่างๆ มากขึ้นทุกที จากนั้นนางถามถึงเรื่องราวของพรรคฉิกจับอิด

    หลี่เทียนเล้งยิ้มอย่างสาแก่ใจ กล่าวด้วยเสียงทุ้มหนัก "ฉิกจับอิดเดิมทีเป็นของบิดา เวลานี้เพียงแค่นำกลับสู่เจ้าของเดิม ฉิกจับอิดสูญสิ้นแล้ว เวลานี้มีเพียงพรรค 'เฮียงเน้ย' ของเราเท่านั้น!"

    หลี่ซังซังจับจ้องมองบิดาด้วยสาตาตื่นตะลึง หญิงสาวมีความรู้สึกราวกับเห็นภาพของหลี่เฉินเชียงในกาลก่อน ซ้อนทับเข้ากับร่างของหลี่เทียนเล้ง เด็กสาวรีบสะบัดหน้าขับไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป เด็กสาวคิดไปว่าคงเป็นเพราะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายทำให้ตนเองรู้สึกสับสน เลยพาลรู้สึกเช่นนี้ขึ้นมา ดังนั้นเปลี่ยนเป็นถามหลี่เทียนเล้งว่า ระหว่างสิบกว่าปีนี้อีกฝ่ายหายไปอยู่ที่ใดมา

    หลี่เทียนเล้งจึงเล่าความเป็นมาตั้งแต่ที่ตนรอดชีวิต โดยปิดบังเรื่องที่หลิวหยงเคอให้การช่วยเหลือชีวิตมันไว้ และเรื่องที่มันปลอมตัวเป็นตั๋วล่ายสุกลอบเข้าสู่คุนหลุน จนถีบตัวขึ้นเป็นเจ้าสำนัก และลอบฝึกวิชาของคุนหลุน จนในที่สุดสามารถดัดแปลง "ฝ่ามือมังกร" เข้ากับเคล็ดวิชาดั้งเดิมของคุนหลุน กำเนิดเป็น "สิบเจ็ดฝ่ามือใจเปลี่ยนแปลงมิสิ้นสูญ" และยังสามารถคิดค้นฝ่ามือที่สิบแปดซึ่งเป็นกระบวนท่าที่ใช้สังหาร "หลี่เฉินเชียง" อีกด้วย!

    มันเพียงเล่าเรื่องราวที่ตนเองปลอมแปลงเป็น "เฒ่ามากวาสนา" อาศัยกำลังทรัพย์ที่บอกกล่าวกับผู้อื่นว่าได้มาโดยโชคช่วย จากการพบเหมืองทอง ก่อตั้ง "เฮียงเน้ย" ขึ้นมา แล้วก็ค่อยติดตามก่อกวนฉิกจับอิด ขยายการค้า แย่งชิงกิจการค้าของอีกฝ่าย จากนั้นสั่งสมกำลังรอคอยวันที่ฉิกจับอิดจะพลาดท่า และวันนั้นก็มาถึง

    หลี่ซังซังกล่าวว่าตนมิสนใจเรื่องราวเหล่านั้น เพียงสนใจว่าหลี่เทียนเล้งผ่านวันเวลาที่มิมีตนเอง และมารดามาได้อย่างไร หลี่เทียนเล้งได้ยินก็มีน้ำตาเอ่อคลอ กล่าวปลอบบุตรสาว ทั้งสองต่างฝ่ายต่างเล่าเรื่อง ต่างปลอบโยนซึ่งกันและกันโดยมิได้สนใจสิ่งรอบข้าง และวันเวลาว่าจักผ่านไปเท่าใดแล้ว?! ในที่สุดย่างเข้าสู่ยามวิกาล!

    ..........
    ..........................

    ที่นอกหน้าต่าง ไกลออกไปจากที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ประมาณสี่ห้าวา มีเงาดำบางอย่างไหววูบวาบอยู่ด้านหลังของพุ่มไม้ กลับเป็นคนผู้หนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าชุดดำ แฝงอยู่ในเงามืด ลอบแอบฟังสองพ่อลูกพูดคุยกัน มิหนำซ้ำดวงตาของคนผู้นี้ยังเปล่งประกายอำมหิตแรงกล้าเมื่อจับจ้องยังร่างของหลี่เทียนเล้งอีกด้วย!

    มันที่แท้เป็นผู้ใดกัน? เหตุใดลอบฟังสองพ่อลูกแซ่หลี่พูดคุยกัน? และมันมีความอาฆาตแค้นอันใดกับหลี่เทียนเล้งกันแน่?!

    จากคุณ : มันตั้ม(น้องมันตรัย) - [ 17 พ.ย. 48 22:54:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป