ความคิดเห็นที่ 1
เฮ้อ! ไม่ทันฝนจนได้สิน๊า ฝนตกรถก็ติดทุกที มันน่าเบื่อไหมเนี่ย จักรินทร์บ่นเมื่อออกมาจากร้านขายของแล้วเป็นจังหวะที่ฝนเริ่มลงเม็ดมาอย่างหนัก เขาเพิ่งเสร็จจากการซื้อของอย่างสุดท้ายและกำลังขับรถจะกลับบ้านรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ กับสภาวะรถติดยาวเป็นแพ แต่สยามสแควร์ยามเย็นก็ไม่ได้เลวร้ายมากเกินไปสำหรับเขา นัก เพราะว่าเวลาหลังเลิกเรียนแบบนี้ถึงแม้จะมีสายฝนโปรยปรายลงมาแต่ก็ยังพอมีเด็กวัยรุ่นนั่งเล่นกันอยู่ในร้านอาหารหรือยืนเลือกของจุกจิกแบบที่ผู้หญิงชอบกันอยู่ในร้านกิ๊ฟชอปหรือร้านเสื้อผ้าอยู่พอควร นอกจากที่นี่จะมีโรงเรียนกวดวิชาอยู่มากมายแล้ว ก็ยังเป็นแหล่งรวมแฟชั่นเครื่องแต่งกาย หรือทุกสิ่งที่อินเทรนด์ให้เด็กวัยรุ่นในเมืองกรุงแบบนี้ได้ออกมาอัพเดตให้ทันตามยุคตามสมัย สยามสแควร์จึงเป็นศูนย์รวมของเหล่าผู้นำแฟชั่น(วัยรุ่น)ทั้งหลายเดินกันให้ขวักไขว่ เด็กสาวๆ หน้าใสๆ แต่งตัวน่ารักๆ ที่เขาดูแล้วช่างสบายตาซะเหลือเกิน ไม่เสียแรงที่อาสาเป็นคนออกมาซื้อของแทนน้องสาว 'อ๊ะๆ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเขาเป็นพวกเฒ่าหัวงูหรือโรคจิตอะไรนะ เขาก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ ที่ชอบมองของสวยๆ งามๆ แค่นั้นเอง ยิ่งฝนก็ตกรถก็ติดแบบนี้แล้ว มีอะไรเจริญหูเจริญตาผ่านมาให้ดูก็ไม่เห็นจะแปลก เขาไม่ได้คิดจะเข้าไปทำอะไรสักหน่อยนี่นา' ขับรถอยู่เพลินๆ สายตาที่ไม่ค่อยชัดเจนนักเพราะสายตาสั้นของชายหนุ่มเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนนึงเดินอยู่ริมถนนอย่างรางๆ เอ๊า! แม่คุ๊ณ ฟุตบาทมีให้เดินไม่เดิน ลงมาเดินข้างถนน เดี๋ยวรถก็ได้เฉี่ยวตายหรอก แล้วนี่ฝนตกด้วย ยังมาเดินเป็นนางเอกมิวสิคไปได้ สติดีหรือเปล่าว่ะเนี่ย ก้มลงเปิดเก๊ะหน้ารถเพื่อหยิบแว่นตาออกมาใส่จังหวะที่เงยหน้าขึ้นมานั้นก็ต้องตกใจสุดขีดเหยียบเบรคกะทันหัน เฮ้ย!!!..... เอี๊ยด!!!... โครม!!!
และทุกอย่างก็สงบนิ่งลงในที่สุด เมื่อตั้งสติได้ก็รีบลงจากรถมาดูคู่กรณีทันที เฮ้ย!! ยัยนี่เองเหรอ ก็ตะกี้เดินอยู่ริมถนนอยู่เลยไม่ใช่เหรอเนี่ย แล้วไหงจู่ๆ มาตัดหน้ารถเราแบบนี้ล่ะ ตายป่าวว่ะ คุณๆๆ เป็นอะไรหรือเปล่าคุณ ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายนอกจากอาการนอนนิ่งไม่ไหวติง เฮ้อ!! ทำไมซวยอย่างนี้เนี่ย ยิ่งรีบๆ อยู่ด้วย จักรินทร์มองไปรอบๆ ตัวเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจจะลงมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะฝนเริ่มตกหนักมากขึ้น แล้วรถเขาก็จอดเกือบจะขวางทางคนอื่นอยู่จึงตัดสินใจอุ้มหญิงสาวที่สลบไม่ได้สติอยู่ขึ้นรถไป เอาว่ะ ไปส่งโรงพยาบาลก่อนแล้วกัน ไม่รู้เลือดคั่งในสมองหรือเปล่า แต่ก็ไม่เห็นมีเลือดออกเลยล่ะเนี่ย เฮ้อ!! ฟื้นขึ้นมาแล้วค่อยว่ากันอีกที ทำไมวันนี้ดูซวยๆ อย่างนี้น๊า มองตัวปัญหาที่ตอนนี้มานั่งคอพับคออ่อนอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับเรียบร้อยแล้วอย่างเซ็งๆ ก่อนจะรีบขับรถเพื่อไปที่โรงพยาบาลทันที
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลหญิงสาวนิรนามถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินไปทันที จักรินทร์ได้แต่นั่งรออยู่ข้างนอกด้วยความกระวนกระวาย 'เพราะกลัวตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายโดยไม่ได้ตั้งใจน่ะสิ' สักพักหมอก็เดินออกมาจากห้องตรวจคนไข้
คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากนะครับ แค่ตกใจจนเป็นลมไปเท่านั้นเอง
ไม่มีบาดแผลอะไรนะครับ คุณหมอเช็คสมองเธอแล้วนะครับ จักรินทร์ถามเพื่อความแน่ใจ
หมอยิ้มน้อยๆ กับอาการของคนตรงหน้า ไม่มีบาดแผลอะไรครับ แล้วสมองก็ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรด้วย เธอไม่ได้โดนชน เพียงแค่ตกใจจนเป็นลมไปเท่านั้นเอง ตอนนี้ฟื้นแล้วนะครับ คุณเข้าไปดูแฟนคุณที่ห้องพยาบาลได้เลยครับ จักรินทร์อ้าปากจะอธิบายว่าเขาไม่ใช่แฟนของคนที่อยู่ในห้องพยาบาลแต่ก็ทำไม่ได้เมื่อหมอหันไปคุยกับพยาบาลแล้วทั้งคู่ก็เดินจากไปอย่างที่เขาไม่ทันได้อธิบายอะไรให้เข้าใจ จักรินทร์ได้แต่ถอนหายใจเดินหน้ายุ่งเข้าไปในห้องพยาบาลเตรียมระเบิดกับหญิงสาวเต็มที่ นี่คุณทำไมคุณต้องมาเดินตัดหน้ารถผมด้วยเนี่ย นี่ดีนะที่ผมไม่ชนคุณตายน่ะ ไม่งั้นคงซวยกว่านี้แน่ หญิงสาวที่เพิ่งฟื้นจากการสลบและกำลังนั่งสำรวจตัวเองอยู่ในห้องพยาบาลก็ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างตกใจกับคนที่เดินเข้ามาแล้วโวยวายใส่ไม่ยั้งแบบนั้น ก่อนที่จะทำหน้าสำนึกผิดแล้วเอ่ยกับคนตรงหน้า ฉันขอโทษนะคะที่เดินไม่ระวังแบบนั้น ฝนมันตกหนักแล้วฉันก็ไม่ทันมองว่าคุณขับรถมา ก็เลยเดินตัดหน้ารถคุณไป ต้องขอโทษจริงๆ นะคะที่ทำให้เดือดร้อน แต่ตอนนี้ฉันก็ไม่เป็นไรแล้วนี่ค่ะ ไม่ตายแล้วด้วย คุณก็ไม่ซวยแล้วไง หญิงสาวนิรนามยิ้มให้อย่างรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย
ยังจะมาพูดเล่นอีกนะคุณ เอาเถอะ คุณคงกลับบ้านได้แล้ว งั้นผมก็ขอตัวก่อนแล้วกันนะ จักรินทร์ตัดบทแล้วจะเดินออกจากห้องพยาบาลไปแต่หญิงสาวก็เรียกเขาไว้ซะก่อน
เอ่อ..เดี๋ยวค่ะคุณ อย่าเพิ่งไป
อะไรอีกล่ะคุณ เดี๋ยวผมออกไปจ่ายค่ารักษาให้น่า แล้วคุณก็โทรหาญาติคุณนะให้เขามารับ เอ่อ..หรือว่าคุณจะให้ผมไปส่งที่บ้าน ก็ได้นะถ้าจะเอาอย่างนั้นน่ะ เมื่อรู้สึกตัวว่าออกจะใจร้ายกับหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ไปสักหน่อยจักรินทร์จึงเปลี่ยนท่าทีให้อ่อนโยนลงบ้างโดยเฉพาะเมื่อมองหน้าหญิงสาวนิรนามตรงหน้านี้อย่างเต็มตาแล้วก็พบว่า ก็น่ารักเหมือนกันแฮะ ตัวเล็กๆ ดูบอบบางราวกับเป็นคุณหนูไฮโซบวกกับผิวที่ดูขาวละเอียด ผมยาวที่ถูกปล่อยให้คลอเคลียอยู่ที่ไหล่เปียกฝนเล็กน้อยยิ่งทำให้หญิงสาวตรงหน้าดูน่ารักปนเซ็กซี่เล็กๆ เฮ้!! เดี๋ยวๆ มันไม่ใช่เวลาที่เขาจะคิดอะไรเลยเถิดไปอย่างนั้นเลยนะ
หญิงสาวทำท่าอึกอักก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองจักรินทร์ด้วยสายตาน่าสงสาร ฉันจำไม่ได้ว่าบ้านอยู่ไหนค่ะ
ทันทีที่จบประโยคนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงมาตรงหน้าเห็นๆ จนทำให้จักรินทร์ที่กำลังจะเคลิ้มกับความคิดของตัวเองต้องถึงกับตาโตแทบถลนทำหน้าเหมือนเห็นเอเลี่ยนขับจานบินมาร่อนตรงหน้ายังไงยังงั้น เฮ้ย!! คุณอย่ามาพูดเล่นน่า หมอบอกว่าคุณแค่ตกใจจนเป็นลมไปเท่านั้นเองนะ ไม่ได้หัวกระแทกพื้นถึงกับความจำเสื่อมเลยนะคุณ
ก็ฉันจำไม่ได้จริงๆ นี่ ความจริงฉัน...ฉันจำอะไรไม่ได้ตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะถูกคุณขับรถชนแล้วล่ะ
ผมไม่ได้ชนคุณ คุณมาเป็นลมที่หน้ารถผมต่างหากเล่า รีบโวยวายขึ้นมาทันทีเพื่อแก้ความเข้าใจผิดก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบซะอีก
ก็นั่นแหล่ะค่ะ ฉันจำอะไรไม่ได้มาตั้งนานแล้ว จำไม่ได้ว่าบ้านตัวเองอยู่ไหน ก็เลยเดินเรื่อยเปื่อยไปจนเจอคุณไงคะ
จักรินทร์มองด้วยสายตาเริ่มไม่ไว้ใจคนตรงหน้า นี่คุณพูดจริงหรือเปล่าเนี่ย แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้เป็นพวกสิบแปดมงกุฎที่แกล้งมาทำเป็นถูกรถชนแล้วจะหลอกเอาเงินคนอื่นง่ะ ผมไม่โง่หลงกลคุณง่ายๆ หรอกนะขอบอกเอาไว้ก่อน
นี่คุณ.... หญิงสาวแว้ดขึ้นมาทันทีเมื่อถูกกล่าวหาแต่ก็รีบเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงน่าสงสารอย่างเดิม โธ่..คุณคะ เชื่อฉันเถอะค่ะ ฉันจำอะไรไม่ได้จริงๆ จำไม่ได้ว่าบ้านตัวเองอยู่ที่ไหน จำไม่ได้แม้กระทั่ง...ตัวเองชื่ออะไรน่ะคะ จักรินทร์พยายามอย่างยิ่งที่จะระงับอารมณ์โมโหที่เริ่มเดือดปุดๆ แล้วคิดหาทางออกให้กับหญิงสาวนิรนามอย่างไม่ยอมแพ้กัน ถึงแม้ตามปกติแล้วเขาจะเป็นโรคแพ้สาวขี้อ้อนก็เถอะ แต่มาเจอสถานการณ์แบบนี้เรื่องอะไรจะยอมใจอ่อนหลงเชื่อให้โดนหลอกง่ายๆ ล่ะ อยู่ๆ มาเล่นมุขนี้ก็ต้องสู้กันให้ถึงที่สุดแหล่ะ งั้นกระเป๋าตังค์คุณอยู่ไหน ในนั้นน่าจะมีบัตรประชาชน เอามาดูก็ได้นี่ว่าคุณเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนน่ะ เดี๋ยวผมพาคุณไปส่งบ้านเอง
หญิงสาวนิรนามนิ่งไปอีกรอบก่อนจะค่อยๆ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าคนที่ได้ฟังต้องรู้สึกสงสารอย่างที่สุด เอ่อ..คือว่า..ก่อนจะมาเจอคุณ ฉันโดนล้วงกระเป๋าคะ กระเป๋าตังค์เลยหายไปแล้ว ฉันไม่มีเงินติดตัว ไม่มีหลักฐานอะไรติดตัวเลยสักอย่างที่จะทำให้ฉันรู้ว่า ฉันเป็นใคร มาจากไหนน่ะค่ะ อะไรกันเนี่ยคุณ คุณเดินเรื่อยเปื่อยไปตามถนนทั้งๆ ที่ตัวเองไม่มีหลักฐานอะไรติดตัวเลยสักอย่างเนี่ยนะ แล้วญาติคุณเขาปล่อยให้คุณออกมาจากบ้านได้ยังไงเนี่ย ผมไม่เข้าใจจริงๆ เลย โอ๊ย!! จะบ้าตาย ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย จักรินทร์แทบอยากจะเอาหัวโขกกำแพงกับตัวปัญหาที่กำลังนั่งทำตาปริบๆ อยู่ตรงหน้า เขาใช้ความคิดอย่างหนักอีกครั้งว่าจะจัดการยังไงดีจนนึกขึ้นมาได้ งั้นเดี๋ยวผมพาคุณไปสถานีตำรวจแล้วกัน ให้เขาช่วยประกาศตามหาญาติให้คุณ เดี๋ยวคุณก็ได้กลับบ้านแล้วล่ะ
ไม่เอานะคะ คุณจะเอาฉันไปทิ้งไว้นี่นั่นน่ะเหรอ ฉันไม่ไปนะคะ น่ากลัวจะตาย
แล้วคุณจะเอายังไง ในเมื่อคุณยังจำอะไรไม่ได้ก็ต้องไปตามหาญาติ หรือว่า...คุณเป็นสิบแปดมงกุฎจริงๆ ถึงได้กลัวตำรวจน่ะ จักรินทร์เริ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาจับผิดบวกกับเอาจริง
หญิงสาวนิรนามรีบส่ายหัวพรืดพร้อมกับละล่ำละลักบอก ไม่ใช่นะคะ ฉันยืนยันว่าฉันไม่ได้เป็นพวกหลอกลวง ไม่ได้เป็นสิบแปดมงกุฎ แต่ฉันไม่อยากขึ้นโรงพักนี่ แล้วคุณจะทิ้งฉันไว้กับพวกตำรวจบนโรงพักน่ะเหรอคะ ไม่เอาหรอก ฉันเป็นผู้หญิงฉันก็กลัวนะคุณ โรงพักน่ะผู้ชายทั้งนั้น อย่าพาฉันไปโรงพักเลยนะคุณนะ นะคะ ฉันขอร้อง จักรินทร์มองสีหน้าและแววตาอ้อนวอนนั้นด้วยความรู้สึกเซ็งสุดขีดกับปัญหาที่เกิดขึ้น
จากคุณ :
กันตกวี (กันตกวี)
- [
18 พ.ย. 48 11:07:24
]
|
|
|