CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    กรรมของหญิงบริการ (บันทึกของคนเดินเท้า)

    บันทึกของคนเดินเท้า

    กรรมของหญิงบริการ


    กว่าที่กิจการนวดแผนโบราณจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จนแพร่หลายออกไปยังต่างประเทศ และหวนกลับมาโด่งดังในนามของสถานเสริมสวยครบวงจร และหญิงผู้ให้บริการได้รับการยกย่องอย่างดีในสังคมไทยนั้น

    เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนสมัยที่สถานอาบอบนวด ได้เฟื่องฟูเป็นที่ชื่นชอบ แก่เหล่าชายชาตรีทั้งหนุ่มมากและหนุ่มน้อย แต่สตรีซึ่งมีหน้าที่ให้บริการในด้านต่าง ๆ นั้น กลับไม่มีผู้ยกย่องเท่าใดนัก แม้ว่าจะทำรายได้ให้แก่คุณเธออย่างเป็นกอบเป็นกำ

    จนบางแห่งในลานจอดรถจะมีรถเก๋งของหมอนวดมากกว่าลูกค้าเสียด้วยซ้ำ เธอจึงมักจะมีเรื่องไม่ค่อยโสภา ปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ ดังเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้  ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔

    เมื่อ ๒๖ เมษายน เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. นายร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากโรงพยาบาลเพชรเวช คลองตัน ว่ามีคนกระโดดตึกจากชั้น ๔ ของแฟลต ในซอยสุขุมวิท ๓๘ แขวงคลองตัน เขตพระโขนง ถึงแก่ความตาย ขณะนี้ศพอยู่ที่โรงพยาบาล ให้ไปทำการสอบสวนชันสูตรพลิกศพด้วย

    นายร้อยเวรพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญู จึงรีบรุดไปที่โรงพยาบาลก็พบศพของหญิงสาวผู้หนึ่ง  อายุประมาณ ๓๐ ปีเศษ ในสภาพคอแขนขาหักหลายท่อน กระโหลกศีรษะยุบมีเลือดโทรมกาย อยู่ในชุดเสื้อติดกับกระโปรงดำดอกขาว

    ภายหลังการสอบสวนได้ความชื่อ น.ส.ประยงค์ (นามสมมุติ)อดีตนางแบบถ่ายภาพศิลปของนิตยสารรายเดือนฉบับหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพนักงานนวดเบอร์ ๒๒๒ ประจำสถานอาบอบนวด ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง

    ซึ่งได้เช่าอยู่ที่ห้องพักหมายเลข ๑๘ของแฟลตที่เกิดเหตุ

    หลังจากมอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำไปส่งโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสอบปากคำ นายวิชัย (นามสมมุติ) อายุ ๒๗ ปี ซึ่งอยู่ในห้องเดียวกัน ได้ความว่า

    นายวิชัย กับ น.ส.ประยงค์ ได้อยู่กินกันอย่างลับ ๆ มาได้ ๙ เดือนแล้ว ต่อมาในระยะหลังทั้งคู่มักจะมีเรื่องระหองระแหงเป็นปากเสียงกันเสมอ เพราะฝ่ายหญิงเกิดความหึงหวงระแวงว่าฝ่ายชายจะไปมีรักใหม่

    จนกระทั่งคืนวันเกิดเหตุ นายวิชัยได้ไปรับ น.ส.ประยงค์ หลังเลิกงานแล้วพากันไปกินอาหารดื่มเหล้าจนเมาทั้งคู่ แล้วก็กลับมาที่ห้องพัก แต่แทนทั้งคู่จะพากันหลับนอนต่างก็เปิดฉากทะเลาะกัน ด้วยเรื่องเดิมอีก

    จนในที่สุดนายวิชัยเกิดความรำคาญจนทนไม่ไหว เลยบอกว่าจะเป็นฝ่ายไปเอง แล้วลุกขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า น.ส.ประยงค์เห็นดังนั้น จึงบอกว่ากับนายวิชัยว่าไม่ต้องไปหรอก ตนจะไปเอง

    แล้วก็เดินออกจากห้องในชุดที่กลับจากทำงาน แล้วก็หายเงียบไป

    กระทั่งครู่ใหญ่ต่อมานายวิชัยเกิดเอะใจ เห็น น.ส.ประยงค์ออกจากห้องไปนานไม่กลับมา จึงเที่ยวออกเดินตามหาบนแฟลตทุกชั้นก็ไม่พบตัว จึงลงไปที่ชั้นล่างก็พบว่า น.ส.ประยงค์ นอนอยู่ที่พื้น

    นายวิชัยคิดว่ายังไม่ตายจึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาล แต่เธอได้สิ้นใจเสียแล้ว

    สาเหตุที่ น.ส.ประยงค์ ได้โดดตึก ๔ ชั้นฆ่าตัวตายครั้งนี้ นอกจากมีเรื่องโกรธเคืองกับนายวิชัยแล้ว เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากความกลัดกลุ้ม เกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่ดินบ้านเดิมที่จังหวัดอยุธยา ซึ่งได้ขายไปแล้วแต่ผู้ซื้อไม่ยอมจ่ายเงิน ซ้ำแฟนกำลังจะทิ้งไปอีก ทำให้กลุ้มใจหนักเข้า จึงหาทางออกด้วยการจบชีวิตตนเอง อย่างน่าอนาจเช่นนี้

    อีกรายหนึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา ๑๙.๓๐ น.ของวันที่ ๑๗ เมษายน นายร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าเกิดการระเบิดขึ้นในสถานอาบอบนวด แถวศูนย์การค้าราชดำริอาเขต ริมคลองแสนแสบ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบท้องที่ จึงรีบไปยังสถานที่เกิดเหตุดังกล่าว ก็ได้พบว่าภายในห้องเลขที่ ๑๑๕ มีหญิงสาวคนหนึ่งนอนจมกองเลือด ร้องครวญคราง อยู่ข้างศพของชายคนหนึ่งนอนเปลือยกายสิ้น ชีวิต อยู่บนเตียงนวด ท่ามกลางสิ่งของที่พังเกลื่อนห้อง

    ส่วนห้องถัดไปหมายเลข ๑๑๔   มีหญิงสาวผู้หนึ่งบาดเจ็บแขนขวาขาดเกือบถึงข้อศอก และมีศพชายอีกผู้หนึ่งนอนคว่ำหน้า บริวณท้องแหลกกระจุย ขาซ้ายขาด สิ้นชีวิตอยู่บนเตียง  สภาพของห้องเช่นเดียวกับห้องแรก เจ้าหน้าที่จึงนำสองสาวไปส่งโรงพยาบาลตำรวจ ให้แพทย์ช่วยเหลือโดยด่วน เพราะอาการสาหัส

    หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหลักฐานทั้งสองห้อง ก็พบสลักระเบิดแบบเอ็ม.๒๖ หนึ่งอันตกอยู่ในห้องหมายเลข ๑๑๔ ในกระเป๋าสีน้ำตาลแบบสะพายมีรูปภาพของชายคนตาย ขนาดโปสการ์ด เขียนไว้ที่ด้านหลังว่า “ถ่ายขณะยังมีชีวิตอยู่” และเขียนชื่อกำกับไว้ว่า  นายศักดิ์

    ส่วนห้องหมายเลข ๑๑๕ เจ้าหน้าที่พบบัตรประจำตัวของชายที่ตายเป็นของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คณะรัฐศาสตร์ปีที่ ๒ ชื่อนายไพบูลย์ และมีนามบัตรระบุว่าทำงานเป็น ช่างพิมพ์ อยู่ที่สำนักงานแถวสีลม  สภาพศพถูกสะเก็ดระเบิดเต็มตัวเหมือนกัน

    จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ได้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายศักดิ์ ได้มาเที่ยวที่สถานอาบอบนวดแห่งนี้ และเรียก น.ส.กอบแก้ว(นามสมมุติ) ขาประจำไปหาความสุขกันตั้งแต่ ๑๘.๐๐ น. ในห้องหมายเลข ๑๑๔

    ส่วนนายไพบูลย์ก็มาอาบน้ำกับ น.ส.ทองพูน(นามสมมุติ) ในห้องหมายเลข ๑๑๕ หลังจากปฏิบัติงานแล้ว น.ส.กาบแก้ว ก็ขอตัวกับนายศักดิ์ออกไปกินข้าว ส่วนนายไพบูลย์กับ น.ส.ทองพูนยังคงนั่งจู๋จี๋กันอยู่

    เมื่อ น.ส.กาบแก้ว กลับเข้ามาในห้องของตน ขณะที่เอื้อมมือไปเปิดประตูห้อง เสียงระเบิดก็ดังมาจากเตียงนอนของนายศักดิ์ดังสนั่น สะเก็ดระเบิดปลิวมาตัดแขนของเธอขาดกระเด็น ได้รับบาดเจ็บสาหัส

    และแรงระเบิดได้ทำให้นายไพบูลย์กับ น.ส.ทองพูนซึ่งอยู่ในห้องติดกันได้รับผลของการระเบิดครั้งนี้ด้วย โดย น.ส.ทองพูน บาดเจ็บสาหัส ส่วนนายไพบูลย์ได้ถึงแก่ความตายโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวและไม่ทันได้สั่งเสียไปด้วย

    เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะนายศักดิ์มาติดพัน น.ส.กาบแก้ว ถึงขั้นหลงรัก อย่างรุนแรง แต่ น.ส.กาบแก้วไม่เล่นด้วย จึงนำระเบิดมาหวังจะฆ่าตัวและหญิงสาวให้ตายไปด้วยกัน

    เมื่อ น.ส.กาบแก้ว ออกไปจากห้องนายศักดิ์ ก็นำระเบิดออกมาถอดสลักระเบิดเตรียมการ ครั้นเมื่อ น.ส.กอบแก้ว เปิดประตูห้องจะเข้ามา นายศักดิ์จึงพยายามจะซ่อนระเบิดโดยนอนคว่ำทับไว้แต่ ลูกระเบิดได้ทำงานก่อน จึงเกิดเหตุสยองขวัญขึ้นดังกล่าว

    ผู้ที่คิดจะฆ่าตัวตายเพราะเรื่องไม่สมหวังในความรัก ควรจะจำไว้เป็นอุทาหรณ์ว่า  การฆ่าตัวตายนั้น ทำอย่างไรจึงจะไม่พาให้ผู้คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ต้องพลอยบาดเจ็บและเสียชีวิตไปด้วย อย่างในกรณีนี้

    รายสุดท้ายของหมอนวดผู้เคราะห์ร้าย เกิดขึ้นเมื่อเวลา ๐๐.๓๐ น. ของวันที่ ๓๑ มีนาคม นางบุญคง(นามสมมุติ) อายุ ๒๖ ปี หมอนวดสาวประจำอยู่สถานอาบอบนวด ย่านเพชรบุรีตัดใหม่ เบอร์ ๘๘๘ ได้เข้าแจ้งความต่อนายร้อยเวร สถานีตำรวจนครบาลคลองตันว่า

    ก่อนหน้านี้ไม่นานตนได้ถูกคนร้ายคนหนึ่งในคราบของนักเที่ยว ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ ซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือ ๑ เรือน  แหวนทองคำ ๓ วง ต่างหู ๑ คู่ สร้อยคอซันฟลาวเวอร์ ๑ เส้น และเงินสด ๑,๒๐๐ บาท รวมราคาทรัพย์สินประมาณ ๕,๗๐๐ บาท ในโรงแรมม่านรูดในเขตพระโขนง  ห้องหมายเลข ๑๙๒  จากนั้นคนร้ายได้ขึ้นรถแท็กซี่ สีส้มหลบหนีไป

    จนกระทั่งเด็กประจำโรงแรมมาช่วยแก้มัด พร้อมกับแจ้งหมายเลขทะเบียนรถให้ทราบ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามคนร้ายให้ด้วย

    นายร้อยเวรจึงวิทยุให้สายตรวจนครบาล สกัดจับรถแท็กซี่คันดังกล่าว ต่อมาอีกไม่นาน เจ้าหน้าที่สายตรวจประจำสถานีตำรวจพลับพลาไชย เขต ๑ ก็สกัดจับรถคันนั้นได้ และจับกุมคนร้ายไว้ได้โดยละม่อมตามเคย  

    ค้นตามตัวคนร้ายก็ได้ทรัพย์สินของกลางตามที่ได้รับแจ้ง และอาวุธปืนลูกซองสั้น ไม่มีกระสุนได้อีกหนึ่งกระบอก เจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้นำคนร้ายมามอบให้ นายร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาลคลองตันสอบสวน ได้ความว่า

    คนร้ายชื่อนายฟุ้ง อายุ ๒๐ ปี เป็นเสี่ยหนุ่มลูกเจ้าของร้านชำอยู่ที่เขตพระนคร แต่ตนเองพักอยู่ที่แขวงบางยี่ขัน เขตบางกอกน้อย ในวันเวลาที่เกิดเหตุนั้น ตนได้ไปเที่ยวสถานอาบอบนวด และซื้อชั่วโมงนางบุญคง ออกมานั่งคุยด้วย

    หลังจากนั้นก็ชักชวนให้ออกไปหลับนอนด้วยกัน โดยยอมจ่ายค่าตอบแทนให้ ๘๐๐ บาท หลังจากที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ตนจึงพานางบุญคงไปขึ้นรถแท็กซี่ซึ่งตนจ้างไว้บริการในระหว่างไปเที่ยวในราคา ๖๐๐ บาท แล้วก็พากันไปหลับนอนที่โรงแรมม่านรูดดังกล่าว

    เมื่อเสร็จกิจกรรมแล้วตนจึงได้ใช้ปืนลูกซองสั้น จี้ปลดทรัพย์สินของนางบุญคง และใช้ผ้าปลอกหมอนอุดปากมัดมือมัดเท้า ให้นอนคว่ำหน้าบนเตียง แล้วก็ออกมาขึ้นแท็กซี่ หลบหนีไป แต่ก็ไม่พ้นมือตำรวจสายตรวจดังกล่าว

    เมื่อผู้ต้องหารับสารภาพแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองต่อไป

    เหตุที่เกิดขึ้นทั้งสามราย ต่างกรรมต่างวาระกันนี้ ผู้เคราะห์ร้ายเป็นหมอนวดเหมือนกันทั้งสิ้น รายแรกนั้นความรักเป็นพิษ หญิงสาวที่คิดจะกลับตัวกลับใจ มีครอบครัวเป็นตัวตนแต่ไม่สมหวัง จึงเอาชีวิตของตนเป็นเครื่องสังเวยความรัก

    รายที่สองนั้นก็เป็นเพราะความรักอีกเช่นเดียวกัน แต่ตรงข้ามฝ่ายหญิงไม่ต้องการเปลี่ยนอาชีพที่เบาสบายและมีรายได้ดี ก็ถูกชายผู้ผิดหวังทำอันตรายจนพิการไม่สามารถประกอบอาชีพเดิมอีกได้ ต้องไปขายผลไม้เลี้ยงชีวิตต่อไป

    ส่วนรายหลังนี้ไม่เกี่ยวกับความรักแต่อย่างใด คงมีแต่ความโลภเมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว แทนที่ฝ่ายชายจะจ่ายค่าตอบแทน กลับปลดเอาทรัพย์สินของฝ่ายหญิงไปจนหมดตัว เป็นกำไรแถมไปเสียอีกด้วย

    นับว่าเป็นเวรกรรมของหมอนวดแท้ ๆ ทีเดียว.

    จากคุณ : เจียวต้าย - [ 19 พ.ย. 48 07:43:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป