ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีครับ อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๔๖ ๏๏ โคลงไม่ร้จบ ๏๏  ได้จารึกโคลงกลอน ความเห็น การเสวนากันระหว่างสมาชิกมาจนถึงเวลาที่ควรจะเปิดกระทู้ใหม่แล้ว ยังมึนอยู่กับงานที่ผ่านมาไม่หายเลยครับ ยังไม่รู้จะเขียนอะไรเปิดกระทู้เหมือนกัน ถ้า ไม่หลงไปเกาะสีชังเมื่อวานนี้  เอาไว้จะลงรูปประกอบโคลงกลอน ไปเรื่อย ๆ เป็น การเพิ่มยอดกระทู้ให้จบเร็ว ๆ   กระทู้นี้ใช้ชื่อ ๏๏ สวนน้อยพันหอม ๏๏  เพราะเอาชื่อกระทู้  “สวนห้อมล้อมดาว” มาเปิดสมองส่วนอาศรมชาวโคลง ท่านที่เริ่มเขียนโคลง และต้องการมุมมองส่วนตัวจากผม โปรดระบุให้ชัดด้วยครับ วางโคลง ฉันท์  กาพย์  กลอน  กันตามปกติครับ อาศรมภาค ๑๔๖ ๏๏ โคลงไม่ร้จบ ๏๏   http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3862950/W3862950.html แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 48 18:43:24 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 21 พ.ย. 48 18:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สวน........กระแสอำนาจร้อน........ระเริงบาป น้อย........ใหญ่กินประเทศราบ......เรียบร้อย พัน..........หมื่นร่วมแช่งสาป.........อำนาจรัฐ หอม........ศพผู้นำคล้อย.................ถ่อยถ้อยประจานตนฯ เอ่อ.... อ่า...... ไปไหนมา....สามวาสองศอก กระป๋ม โคลงเคลงเหมือนเดิม ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 21 พ.ย. 48 20:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คม...คนคาบกระทู้...........พันตน ค้อม...จิตหวนทุกหน.........เร่งร้อน ย้อม...เยือกหยั่งยวนยล....ยามเป่า..ร้องเฮย ใจ...จักปลิดล่อนจ้อน.......จวกแจ้งจู่โจม แวะมาเยี่ยมกระทู้เพิ่งเปิดเข้ามาเห็นท่านลงพอดี จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 21 พ.ย. 48 21:07:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เพราะรับจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงส่งเธอกลับต่างประเทศที่ไปทำงาน    โดยให้เลือก ที่กินตามใจชอบ ..สุพรรณฯ .. สระบุรี ..จนนั่งในรถแล้วจึงตกลงว่า  ไปพัทยา อาหารเช้าที่มอเตอร์เวย์   อิ่มแล้วไปพัทยา    ก็...ตามใจ  วิ่งวนที่พัทยาจนเกือบ สิบเอ็ดโมง จนมีคนบอกว่าไปเกาะสีชังดีกว่า  จอดรถไว้ที่ปลายสะพาน   เสียง เรือเที่ยวสิบเอ็ดโมงเรียก  รีบลงเรือถึงเกาะสีชังเกือบเที่ยง...ได้เวลามื้อกลางวัน ที่ร้าน “เล็กหน้าวัง” (ตามรูป)  มีเวลาเที่ยวไม่กี่ชั่วโมง ต้องรีบกลับ  เพราะเธอ ขอไปหม่ำมื้อเย็นที่อ่างศิลา...(กลับถึงกรุงเทพฯ สี่ทุ่มกว่า..) ไปเกาะสีชังครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมที่ไม่ได้คิดไว้ก่อน  ภาพที่ถ่ายมาให้ดูแค่พอ เล่าเรื่องนิดหน่อย  กระทู้เกาะสีชังที่ดีกว่านี้  โดยชาวโคลงคณะใหญ่ก็มีอยู่แล้ว ถือว่าเดินตามรอยเท้าเพื่อนอาศรมชาวโคลงโดยบังเอิญก็แล้วกัน ๏  นานาปลาหมึกกุ้ง          หอยปู ร้าน “เล็กหน้าวัง” หรู         อร่อยล้ำ มือนิ่มฉีกก้ามชู                ชวนหวั่น เกรงอกชายจักช้ำ             ฉีกคล้ายปูปลา   ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 21 พ.ย. 48 23:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ๏  เพชรร่วงล้อคลื่นน้ำ          แกมมณี ทาบแผ่นทองแพรสี              ส่องสล้าง นาวาแห่งชีวี                        วนว่าย รอคลื่นลมแล่นล้าง               ล่มท้องทะเลกรรม    ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 21 พ.ย. 48 23:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ๏ ปูม้าเผาจิ้มพริก         น่าชม กลิ่นไข่เจียวชวนดม      ชิดใกล้ ผัดผักมิใช่ขนม            วางอยู่ เคียงนอ ผัดฉ่าทะเลชวนให้         แค่น้ำลายสอ ๏ จักรออยู่ย่อมแห้ว      รับประทาน จีงล่องเรือซมซาน         ใฝ่ค้น หาปลาอยู่เนิ่นนาน         ต้องกลับ นาพี่ เพราะเบ็ดอวนวางพ้น      บ่ได้ใส่เรือ บารนี โฮโฮ ซิกซิก จากคุณ : แดงน้อยลอยคอ (Little Red) - [ 22 พ.ย. 48 01:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สองวรรคนี้ เยี่ยมยอดครับ มือนิ่มฉีกก้ามชู                ชวนหวั่น เกรงอกชายจักช้ำ             ฉีกคล้ายปูปลา   ๚ จากคุณ : สดายุ... - [ 22 พ.ย. 48 08:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ๏  ทะเลดูเวิ่งว้าง                พิกล เรือโดดเดี่ยวกลางชล          เหว่ว้า ปลาบ่ว่ายเวียนวน               เหินห่าง อาทิตย์ตกจากฟ้า               สุดช้ำกรรมใด แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 48 14:58:34 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 22 พ.ย. 48 09:11:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อาศรมฯ สวนน้อยน้อยของใคร หอมคำวรรณยุกต์ไทยเพื่อนพ้อง พบเพื่อน พบคำพร่ำเพลงจอง มุมน้อยสวนซ้องบทกวี. สวัสดีครับพี่คัมภีร์ฯ และมิตรสหายทุกท่าน ช่วงนี้จะเขียนกลอนสั้นๆ เนื่องจากดาวพุธเลือกที่จะเดินถอยหลังลงคลอง. อิๆ จากคุณ : . (Ar@p) - [ 22 พ.ย. 48 10:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ป อู ปู ดูน่ากิน อยากลองลิ้มชิมสักครั้ง เนื้อขาวขาวมีมนต์ขลัง อยากนั่งห้อมล้อมวง(ด้วย)จัง... แฮ่! อาการน้ำลายไหลกำเริบ เห็นใจคนอยู่ป่าอยู่ดอยเท้อะ เห็นอาหารทะเลแล้วน้ำตาจะไหล จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 22 พ.ย. 48 10:46:22 A:unknown X:202.129.0.33 TicketID:062433 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ม่านฟ้า ตาวันสาดแสงผ่านสู่ม่านฟ้า ดนตรีป่าเริ่มบรรเลงเพลงขับขาน พู่กันแดดระบายศิลป์เติมวิญญาณ ม่านฟ้าค่อยเปิดม่านสายธารทอง จากผาสูงรินธารสู่ด้านต่ำ โรยสายน้ำมองผ่านเป็นม่านผ่อง กระทบหินกระเซ็นชั้นเป็นควันฟอง จึงละอองวับวาวอยู่พราวพราย เมื่อม่านน้ำปรายปรอยเป็นฝอยฟ่อง กระเซ็นต้องสายแดดที่แผดสาย แพรสายรุ้งค่อยคลี่สีระบาย บอกนิยายผ่านธารสายม่านฟ้า เป็นนิยายเรื่องราวเล่าสรรพสิ่ง ธรรมชาติใหญ่ยิ่งและยิ่งกว่า อันมนุษย์กระจิริดอนิจจา ยังอวดกล้าผยองไม่มองตน เขียนทีเดียวแปะได้สองกระทู้ ฮิ ฮิ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 48 13:34:03 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : จอมยุทธเมรัย - [ 22 พ.ย. 48 13:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ๏  ทอดเท้าลงทาบเท้า            ถมรอย ถมทับเพรงกาลพลอย             ผ่านพ้น                           แมกไม้ร่วงใบผลอย                ผลอยหล่น ทบร่างสู่โคนต้น                      แต่งพื้นคืนดิน  ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 13:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ๏  เจียมกายเป็นดั่งหญ้า           คลุมดิน แต้มแต่งตามเหวหิน                ห่างร้าง           ไร้กลีบแกร่งกร้านชิน             ชาโลก                     เพียงหนึ่งดอกผู้สร้าง               เสกฟ้าป่าเขา ๚ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 48 17:34:58 แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 48 17:34:17 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 13:12:12 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นจอมยุทธ์ มาไวไว โปรดบรรยายภาพนี้ ถ้าว่าง จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 13:16:12 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ๏  รอยธรรมพระมุ่งโพ้น          นฤพาน                             หมายสัตว์ล่วงสังสาร-             วัฏสิ้น รอยรักบ่วงกิเลสมาร               หมองหม่น คล้องหมื่นสัตว์มนุษย์ดิ้น         เดือดไท้สะเทือนพรหม  ๚ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 48 17:36:17 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 13:28:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 วางรูปไม่ตามลำดับ เย็น ๆ ค่อยเปิดห้องรับแขก จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 13:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ๏  ลมละเมอคลื่นครื้น               ครืนคราง                             ฟ้าเหม่อมองเมฆจาง                 จากฟ้า                 ทะเลลุ่มลึกลาง                       เลือนหลับ รักเท่านั้นจึ่งกล้า                      ตื่นเพ้อละเมอถึง ๚ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 48 17:37:49 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 13:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เพิ่งได้โผล่หน้าเข้ามาในอาศรมฯ  สวัสดีค่ะเฮียคัมฯ ดีใจที่เฮียตั้งกระทู้อาศรมฯ นะคะ โคลงยังเขียนไม่ออก (รอไปก่อน)  กระทู้ตัวเองยังไม่ได้ปิด เลยเอากลอนที่เพิ่งเขียนมาฝากแทน เลียนแบบพี่จอมยุทธเมรัย  เขียนครั้งเดียวแปะสองกระทู้ เอิ้ก ๆ                ๏ ๏ ๏ ลมหนาว...ม่านฟ้า...ผาสายน้ำไหล ๏ ๏ ๏                ลมหนาว...                ริ้วรายกรูกราวประกาศกล้า                หยอกเย้ายอดไม้อยู่ไปมา                หวีดหวิวเหว่ว้าเจียนวางวาย                ภูผา...                หนักแน่นเบื้องหน้าหนึ่งจุดหมาย                หลบเร้นเรื่องทุกข์ซ่อนซุกกาย                ฝ่าข้ามคืนร้ายของบางใคร                                ม่านฟ้า...                ราวม่านน้ำตาเมื่อหวั่นไหว                หลังม่านความฝันของวันวัย                ซุกซ่อนหัวใจอันจ่อมจม                สายน้ำ...                แสนชื่นเย็นฉ่ำสาดผสม                ผืนไพรขับเขียวจนเข้มคม                ซับรอยแล้งตรมเมื่อวันวาน                ลมหายใจ...                มีอยู่เป็นไปเพื่อพบผ่าน                ผูกพันแนบแน่นอยู่เนานาน                ข้ามฝ่าฤดูกาลกลางผู้คน                                ลมหนาว....                ริ้วรายกรูกราวทุกแห่งหน                วันชื่นคืนเศร้าคละเคล้าปน                ฤๅเพียงผ่านพ้นเพื่อเติมเต็ม - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                    . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 22 พ.ย. 48 14:06:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 แวะมาอ่านกะมาดูรูปขอรับ จากคุณ : บอยน์ ใบร่อน - [ 22 พ.ย. 48 14:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ช่วงนี้ชาวอาศรมชีพจรลงเท้ากันทั่วหน้า เว้นแต่ข้าเจ้าคนเดียวที่ชีพจรใกล้ขาดสะบั้น เอาแต่ส่งใจไปเที่ยวด้วยทุกทริป อิจฉา ๆ จากคุณ : ปะหล่อง - [ 22 พ.ย. 48 14:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุยต่ออีกนิด  มองเห็น "มัคคุเทศก์" น้อยของเฮียฯ เลยว่าจะส่งข้อความหลังไมค์ไป แต่โปรแกรมฟ้องว่า ไม่สะดวกรับข้อความ ไม่แน่ใจว่าข้อความเต็มกล่องหรือเปล่า จับพลัดจับผลูเขียนโคลงกระทู้มาได้อีกหนึ่งบท  ก่อนจะหนีไปทำงานที่ท่วมหัวท่วมตัวต่อค่ะ ๏ สวน อักษรสื่อสร้าง           มิตรภาพ น้อย นิดยังอิ่มอาบ                อุ่นห้อม พัน หมื่นกรุ่นกำซาบ             คำเกี่ยว หอม แห่งไมตรีล้อม              ยากแล้เลือนสหาย ๚ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                    . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 22 พ.ย. 48 14:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ๏ หอม หวนชวนชื่นชู้        สุขสม พัน ก่ายกายเริงรมย์         เร่าร้อน น้อย หนาวห่มเนื้อผสม      จึงอุ่น สวน ซ่านรสสวาทซ้อน      แนบเนื้อนวลละมุน แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 48 15:11:24 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 22 พ.ย. 48 15:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สวน  สวยงามมากแม้น                 เมืองแมน น้อย  แต่ใบดอกแทน                   ม่วงแท้ พัน  พาผูกใจแขวน                      มองหม่น หอม  บ่หอมรักแม้                       อยู่พ้นมือถึง. เขียนตามภาพ ช่อง ๒๑ ครับครูคัมภ์ จากคุณ : เจียวต้าย - [ 22 พ.ย. 48 17:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ๏  ดาวไฟเดินผ่านฟ้า                 ฟากสรวง แผดผ่าวผิวโลกดวง                   เดือดไหม้ ดาวใจระอุทรวง                        ซมโศก เผาพร่าตัวเองให้                       ห่างสิ้นสิเนหา  ๚ ....ตะวันสีสดใกล้จะลับเกาะสีชัง  ถ่ายจากท้ายเรือขากลับ คลื่นแรงมาก ควบคุมเส้นระดับน้ำทะเลไม่ให้เอียงได้ยาก.... แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 48 16:58:41 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 17:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ๏  เราเดินทางท่องห้วง            มหรณพ ล่องคลื่นอันตรภพ                  ผ่านโพ้น รอนแรมมิรู้จบ                       วัฏฏะจักร เวียนว่ายแต่ฟากโน้น              ฝั่งน้ำอนันตกาล    ๚ ...กำลังหามุมถ่ายภาพบนโขดหินสูง ใกล้ ๆ หาดถ้ำพัง  มีคนพายเรือเล่น ได้จังหวะเก็บภาพมาหลายมุม  สีน้ำทะเล สีเสื้อชูชีพ  สีลำเรือ  ตัดกันเหมาะเจาะดี... แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 48 17:01:24 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 17:51:08 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ๏  ทะเลเอยงามดั่งแก้ว            ผกายใส คลี่คลื่นผืนแพรไหม                ห่มน้ำ สายลมอย่าหยุดไกว               เปลกล่อม   ขอเพ่งทิพโลกล้ำ                   แหล่งพื้นปถพี  ๚   ทดแสงลงมาก ๆ ให้เหมือนเวลาเย็น  แสงก็ยังแข็งอยู่  ถ้าจำไม่ผิด ก็แถวช่องเขาขาด  จะรีบไปขึ้นเรือกลับแล้ว แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 48 17:07:57 แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 48 17:04:22 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 17:53:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ๏  ดูกรปวงท่านทั้ง                  หลายเอย     เหง่งหง่างระฆังเผย                  เพรียกพ้อ   เจดีย์เสียดยอดเสย                  ฟ้าโศก   สงฆ์หน่ายพระธรรมท้อ             เทศน์ให้ใครฟัง  ๚   ตอนถ่ายภาพนี้ลืมสังเกตไปว่า มีเรือลอยลำตรงกับส่วนยอดเจดีย์ มองดูรกตา กดชัตเตอร์มั่ว  คงเสียงเรียกให้ถ่ายรูปใกล้หู เลยเสียสมาธิ ..โทษคนอื่นไว้ก่อน แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 48 19:26:36 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 22 พ.ย. 48 18:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 28 .^ _ _ __ _ _ _^ จากคุณ : เอ่อ่อ่ะนะคะ - [ 22 พ.ย. 48 21:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 29 my name is kala... เพิ่งได้เปิดตาประจักษ์... ที่นี่รื่นรมย์ยิ่งนัก... กะลาข้า บัดนี้หงายขึ้น... จากคุณ : เซ่อ.... xers - [ 23 พ.ย. 48 02:18:36 A:58.10.128.222 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ลืมฝากตัวครับ ฝากตัวและขอศึกษากระบวนยุทธ ขอให้ทุกท่านแนะนำด้วยครับ จากคุณ : เซ่อ.... xers - [ 23 พ.ย. 48 02:21:01 A:58.10.128.222 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อีกทีครับ ไม่ทราบต้องหาข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ภาษา สัมผัส ฉันทลักษณ์ หรือที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ไหนครับ จากคุณ : xers - [ 23 พ.ย. 48 02:46:32 A:58.10.128.222 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 32 หนาว หนาวลมห่มผ้าอุ่น ..... .สบายกาย หนาวจิตห่มใดหาย ..... ...ห่อนได้ วูบหวั่นค่ำเช้าสาย.. .... ...มิหยุด เรียมทรุดสะอื้นไห้ . . เทวษไข้ใจหวาม ถามดาวที่สั่นนั้น . ...หนาวหรือ เงียบมิตอบหรือคือ ... .. .เช่นนั้น ถามจันทร์ที่ซีดฤา . .เพราะโศก คราโกรกลมกระชั้น ..สั่นสะเทิ้มมากไหม ถามใจที่เจ็บนั้น . .หนาวหรือ เงียบมิตอบคงคือ ... ..เช่นนั้น โอสถทิพย์เธอถือ .ได้โปรด บดโขลกเพื่อเคี่ยวคั้น ..กลั่นน้ำทิพย์สรวง รอร่วงทิพย์จากเจ้า.... .คือรัก แต้มอกที่ไห้หัก .. ....กลับฟื้น ร้อยชนร่วมชิงชัก .พี่หมด น้องเอย รอแต่ทิพย์ชุ่มชื้น ......จากชม้อยชโลมเรียม แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 48 03:51:04 จากคุณ : เหล็กขี้อ้อน (mildsteel) - [ 23 พ.ย. 48 03:14:34 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ช่วงนี้อุณหภูมิติดลบฮะ ถ้ามะได้แต่งโคลงคงมะหายหนาวอ่ะ อิอิ เพิ่งแต่ง ๆ อยู่เฮียเปิดกระทู้พอดีเลย ว่าแต่ผมมีอารมณ์เดียวตลอดอ่ะ อะไรปังปังคะพิสัยเนี่ย เหมือนพี่ทิวาเลย เอิ๊ก ๆ จากคุณ : เหล็กฮะ (mildsteel) - [ 23 พ.ย. 48 03:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ห้องรับแขก 1/147 ว่าจะเปิดห้องรับแขกแต่เมื่อวานก็ถูกบังคับให้ไปตามนัดที่เมเจอร์ รัชโยธิน เลยอยู่ดึกไม่ไหว  ง่วง... นายทิวา   (2)   สวน..กระแสอำนาจร้อน          ระเริงบาป น้อย..ใหญ่กินประเทศราบ       เรียบร้อย พัน..หมื่นร่วมแช่งสาป             อำนาจรัฐ หอม..ศพผู้นำคล้อย                  ถ่อยถ้อยประจานตน ฯ เป็นตัวอย่างโคลงฉีกกระทู้ที่มือใหม่หัดเขียนโคลงควรอ่านอย่างพินิจพิจารณา มองรูปแบบให้ชัดเจน แล้วลองเขียนดู ที่ตั้งกระทู้อาศรมฯ ไว้คือ “สวน น้อย พัน หอม”  ในเบื้องต้นคือล้อมาจากกระทู้ “สวนห้อมล้อมดาว” (คิดอะไรไม่ออกในตอนนั้น)  ข้อสองต้องการให้เป็นกระทู้ หน้าบาทได้พอดี  ข้อสาม “สวนน้อย”  หมายถึงอาศรมฯ ชมรมคนเขียนโคลงกลอน เล็ก ๆ สบาย ๆ แห่งนี้  “พันหอม”  หมายถึงบทประพันธ์ทุกบททุกรูปแบบที่หลาก หลายของทุกท่านนั่นเอง โคลงฉีกกระทู้  ผมได้ข้อชี้แนะจากครูหนอนสุรา  มือใหม่ลองเขียนโคลงตามความ หมายของกระทู้     และฉีกความหมายไปจากกระทู้ให้ได้ดังใจนึกก็จะเก่งไปอีกขั้น หนึ่งอย่างเห็นได้ชัด  ส่วนเนื้อความที่จะเขียนอัดใครต่อใครนั้นเป็นอคติ ....แหะ แหะ มติส่วนตัวของแต่ละท่าน  ผมไม่เกี่ยว.... ........................................................................................................................ tiki_ทิกิ  (3) คม...คนคาบกระทู้...........พันตน ค้อม...จิตหวนทุกหน.........เร่งร้อน ย้อม...เยือกหยั่งยวนยล....ยามเป่า..ร้องเฮย ใจ...จักปลิดล่อนจ้อน.......จวกแจ้งจู่โจม เป็นสุภาพสตรีที่เขียนได้ทั้งโคลงกลอน  ตั้งกระทู้หน้าบาทเอง “ คม ค้อม ย้อม ใจ” ชักชวนเพื่อนให้ร่วมทำบุญที่กระทู้ติดกัน “บอกบุญ....ตาลปัตร” ขอเชิญท่านผู้มี จิตศรัทธาทุกท่านครับ บริการหลังไมค์ของคัมภีร์ฯ ท่าจะขัดข้อง ไม่ทราบเพราะเหตุไร กล่องข้อความก็ว่าง เปล่าครับ   วานศาลาไทยลองทดสอบดูหน่อย ......................................................................................... แดงน้อยลอยคอ (Little Red)  (6) ๏ ปูม้าเผาจิ้มพริก         น่าชม กลิ่นไข่เจียวชวนดม      ชิดใกล้ ผัดผักมิใช่ขนม            วางอยู่ เคียงนอ ผัดฉ่าทะเลชวนให้         แค่น้ำลายสอ ฯ คุณแดงน้อยชาวโคลงขวัญใจของผมเขียนถึงอาหารให้น้ำลายสอได้จริง ๆ  ร้าน “เล็กหน้าวัง” นี่คนขับรถสกายแล็บพามาครับ สาว ๆ เป็นคนสั่งอาหาร  ส่วนผม มัวสนใจบังกาโลที่พักฝั่งตรงข้าม  ราคาถูกดี   .................................................................................. สดายุ  (7) แหะ แหะ  ทำไมมาชมกันเอง  รอโคลง กลอน  หรือ ฉันท์  มาส่งกลิ่นหอมให้ อาศรมชาวโคลงอยู่ครับ ชวน น้าราม  พี่รมย์  ให้ด้วยครับ ....................................................................................... จำปูน (อ่างหยก)  (8) ๏  ทะเลดูเวิ่งว้าง                พิกล เรือโดดเดี่ยวกลางชล          เหว่ว้า ปลาบ่ว่ายเวียนวน               เหินห่าง อาทิตย์ตกจากฟ้า               สุดช้ำกรรมใด  ฯ ชื่อนี้ผมไม่คุ้น แต่เขียนโคลงบรรยายภาพได้ดี จัดระเบียบเนื้อความได้แน่น และ นิ่ง ไม่เฉไฉออกนอกเรื่อง   ถือว่าเก่งมากแล้วนะครับ มีอยู่คำในบาทแรก วรรคหน้า ที่เลือกใช้ได้ให้เหมาะสมขึ้น  เช่น  “ว่างเวิ้ง   หรือ เวิ้งว่าง”   เขียนโคลงด้วยหู  ตรวจดูด้วยตา  ครูสอนไว้อย่างนี้ครับ .................................................... (Ar@p)  (9)   ยังไม่มีเวลาไปเยี่ยมหาอะไรอ่านที่มายบล็อคของอาพี  เขียนบทความได้เก่งมากแล้ว ต่อไปอาศรมฯ คงไม่พอมือน้องท่านอาพีเป็นแน่ ชวนทั่นหมีเซอะมาวางโคลงหน่อย  เอาโคลงแสบ ๆ ชนิดไม่พาดพิงรัฐบาล น่ะ มีไหม? ......................................................... ซอมพอแดง  (10) ฮิ ฮิ  ซอมพอแดง  สงสัยจะเป็นพวกเดียวกับสาวนักชิม..ชิมไปสั่งไป.. มื้อกลางวันกินกัน พอสมควรแก่เวลาเพราะห่วงเที่ยว  แต่พอไปมื้อค่ำที่อ่างศิลา ขับรถหาร้านอาหารที่ชื่อ วัง......อยู่พักใหญ่  ใครว่าผู้หญิงกินไม่จุ.... .......................................................................... จอมยุทธเมรัย  (11) “ม่านฟ้า”  ที่เป็นภาพและบทกลอนโดยจอมยุทธเมรัย   จะเฉียบแค่ไหนก็ขอเชิญไป เยี่ยมชมและอ่านได้ที่กระทู้  “ริ้วรอย-ริ้วลม-ฤดูใจ (สวนห้อมล้มดาว ๒) กระทู้ติดกัน นี่และครับ ถ้ามีกลอนที่เขียนได้ใหม่จะไปร่วมกระทู้ด้วยอีกครั้ง  ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าภาพน้ำตก ที่เขาใหญ่ผมเก็บไว้ที่ไหน   .......................................................................... ภาพ วัดอัษฎางคนิมิตร ถ่ายตอนบ่ายแดดจัดมาก อันเดอร์แสงลงเพื่อให้องค์เจดีย์สีขาวไม่จ้าเกินไป เธอคนซ้ายมือนั่นแหละจะกลับไปทำงานปลายเดือนนี้ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 48 17:31:23 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 23 พ.ย. 48 11:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เสมือนว่า แปดโมงเช้า เราเข้าคอก สี่โมงเย็นออกจากคอกขัง วัฏจักรชีวิต ไม่ปิดบัง ใครหวัง ใครวาด ฟาดเข้าไป.  (เออ..เอาให้พอ) สวัสดียามเที่ยงครับพี่คัมภีร์และมิตรสหาย วันนี้มีอันต้องไปขึ้นศาลทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ได้มีปัญหากับใคร เพียงแต่ตามเพื่อนฝูงไปซักคู่กรณี ถ้ามีอะไรน่าสนใจ  มาเล่าให้ฟัง  ,  ถ้าไม่น่าสนใจ ก็จะทำเป็นลืม  อิๆ จากคุณ : Ar@p - [ 23 พ.ย. 48 12:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ชาวนาสัญจร..... อ่อนแรงแหล่งล้า... เยือนกาย หวังคลายทุกโศก... ลูกหล้า บ่หายตระหนก... วังวน วิกฤติชนชั้นเมือง... เกลือกกลั้ว ตัวตาย ขอน้อมคาราวะ ท่านคัมภีร์ที่แนะนำ จากคุณ : เซ่อ - [ 23 พ.ย. 48 12:32:30 A:58.10.129.226 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อาจมีกลิ่นการเมืองติดมาจากราชดำเนินต้องขอโทษด้วย เพียงเห็นใจชาวนาที่มีลูก ที่กำลังจะคิดการใหญ่ อาจถ่ายทอดมาไม่ได้หมดจด รู้ว่ามีที่ผิด ขอคำแนะนำ ติฉินนินทามาได้ครับ มือใหม่ อยากมีส่วนร่วมกับพวกท่านทั้งหลาย ถือว่าเป็นสหายให้คำชี้แนะ นะครับ จากเซ่อ ที่แปลคล้ายกับว่า ซุ่มซ่าม จากคุณ : xers - [ 23 พ.ย. 48 13:57:57 A:58.10.129.226 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณท่าน อังศนา ที่ให้ลิ้งค์นี้มา http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P3851698/P3851698.html ตอนแรกคิดว่าโชว์ห่วย พอไปอ่านแล้วรู้สึกว่า โชว์เฮ้ยยยย ห่วยกว่าที่คิดอีกนะเรา เซ่อ... น้อมบันทึก จากคุณ : xers - [ 23 พ.ย. 48 14:50:52 A:58.10.129.226 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ห้องรับแขก 2/147 เซ่อ.... xers  ( 29, 30, 31,  36, 37, 38 ) สวัสดีครับ คุณ เซ่อ.... xers   อาศรมชาวโคลงยินดีต้อนรับครับ  ขอโทษที่เปิด ห้องรับแขกช้าไปหน่อย   ลองมาดูบทกวีที่วางรูปแบบโคลงสี่สุภาพ (36) ที่เขียน ไว้กันก่อนครับ ชาวนาสัญจร..... อ่อนแรงแหล่งล้า... เยือนกาย หวังคลายทุกโศก... ลูกหล้า บ่หายตระหนก... วังวน วิกฤติชนชั้นเมือง... เกลือกกลั้ว ตัวตาย ลองแต่งโคลงสี่สุภาพแบบเรียนรู้ด้วยตัวเองก่อนครับ  ตอนแรกนี่อย่าไปสนใจ ข้อปลีกย่อยมากนัก เอาเท่าที่จำเป็นก่อน  ดังต่อไปนี้ 1.  โคลงสี่สุภาพมีสี่แถว ตามที่เขียนไว้แล้ว (แต่และแถวเรียกเป็นบาท มีสี่บาท) 2. แต่ละบาทมี 2 วรรค คือ วรรคหน้า 5 คำ  วรรคหลัง 2 คำ (ยกเว้นวรรค    สุดท้าย มี 4 คำ) รวมทั้งหมด 30 คำ (ไม่นับสร้อยคำ ) 3. บังคับให้ใช้คำที่มีรูปวรรณยุกต์เอก (ไม้เอก) 7 คำ   โท (ไม้โท) 4 คำ    ดูตามผังโคลงสี่สุภาพในรูปข้างล่าง  แล้วลองเขียนอีกครั้ง  เอาเทียบกับ     บทชาวนาสัญจรดู  ว่าจะเก่งขึ้นทันตาเห็นหรือไม่ เขียนโดยดูผังโคลงสี่สุภาพเป็นหลัก   แล้วส่งมาเลยครับ  จะมีคนช่วยบอก ช่วยดูให้ได้ทุกท่าน แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 48 17:32:42 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 23 พ.ย. 48 16:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ชาวนาสัญจร..... อิดอ่อนแรงแหล่งล้า... เยือนกาย หวังทุกโศกคลี่คลาย... ลูกหล้า ตระหนกอกบ่หาย... ว้าวุ่น วังวน วิกฤติชนชั้นเชื้อ... เกลือกกลั้ว ตัวตาย ขอบคุณที่แนะนำครับ ท่านคัมภีร์ เห็นดีอย่างไร ช่วยติง ต่อเติม แต่งแต้ม ระบายสี เซ่อ.... น้อมบันทึก จากคุณ : xers - [ 23 พ.ย. 48 17:52:49 A:58.10.129.226 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ห้องรับแขก  3 / 147 ชาวนาสัญจร.....(ฉบับปรับปรุงใหม่) อ่อนแรงแหล่งล้า... เยือนกาย หวังคลายทุกโศก... ลูกหล้า บ่หายตระหนก... ว้าวุ่น  วังวน วิกฤติชนชั้นเมือง... เกลือกกลั้ว ตัวตาย คุณ xers ครับ  โคลงที่ปรับปรุงใหม่  ทำได้ดีแล้ว  ยังมีจุดสำคัญที่ต้องปรับแก้ อีก 2 แห่ง และปรับปรุงอีกนิดหน่อย  ครับ (1) อิดอ่อนแรงแหล่งล้า....... เยือนกาย (2) หวังทุกโศกคลี่คลาย....... ลูกหล้า  (สังเกตและจำคู่โท “หล้า”) (3) ตระหนกอกบ่หาย.......... ว้าวุ่น (วังวน  สร้อยคำตรงนี้ทิ้งไว้ก่อนอย่าเพิ่งใส่มา) (4) วิกฤติชนชั้นเชื้อ ( “เชื้อ” ผิดสัมผัสคู่โท  คำนี้ต้องรับกับ “หล้า” เช่น  ข้า , กล้า)     ............. เกลือกกลั้ว ตัวตาย  (เขียนติดกัน ..เกลือกกลั้วตัวตาย  ฯ) ลองจัดวางตามรูปแบบให้คล้ายกับโคลงโบราณ  ตัดสร้อยคำ(วังวน) ออก และแก้คู่โทให้ถูกต้อง ๏  อิดอ่อนแรงแหล่งล้า      เยือนกาย หวังทุกข์โศกคลี่คลาย         ลูกหล้า ตระหนกอกบ่หาย               ว้าวุ่น วิกฤติชนชั้นกล้า                 เกลือกกลั้วตัวตาย  ๚ ดูท่าคุณจะมีพื้นฐานการประพันธ์โคลงกลอนมาบ้างแล้ว ลองหัดเขียนจน แม่นตำแหน่ง เอก โท  แล้วค่อยมาปรับเรื่องเนื้อความ และเรื่องอื่น ๆ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 48 18:36:36 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 23 พ.ย. 48 18:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ๏ แอบเก็บเล็กจดน้อย... คอยตาม แอบปรับนิดแต่งงาม... คล้อยเจ้า ข้าผิดนิดคิดทราม... ปรามบ่อย ข้าจักค่อยคอยก้าว... สืบท้าวเดินตาม ๚ น้อมรับคำสอนสำหรับ ชาวนาสัญจร ครับ พื้นฐานคือลิ้งค์ที่ คุณอังศนาให้มาข้างบน C.38 และ ที่คุณคัมภีให้ C.39 และอีกครั้งสำหรับ หัวใจที่ไม่เบื่อหน่ายในการสอน ลกเจี๊ยบหัดเดินกำลัง จดจำเส้นทางตามรอย ปราชญ์ ทุกท่าน เซ่อ.... น้อมบันทึก จากคุณ : xers - [ 23 พ.ย. 48 20:05:41 A:58.10.130.177 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ห้องรับแขก  4 /147 Xers   (42) (1)  แอบเก็บเล็กจดน้อย... คอยตาม (2) แอบปรับนิดแต่งงาม... คล้อยเจ้า  (คล้อย  ต้องใช้วรรณยุกต์  เอก..ไม้เอก..ครับ   ตามผังคือ  อ่ อ้     ตัวอย่าง   ..ดั่งเจ้า...เช่นเจ้า....   (3) ข้าผิดนิดคิดทราม... ปรามบ่อย (4)  ข้าจักค่อยคอยก้าว... สืบท้าวเดินตาม ๚       (คู่โท  เจ้า  กับ  ก้าว ฟังแต่เสียงใช้ได้  แต่ผิดรูปครับ  อาจใช้  ไต่เต้า  ฯลฯ)   ๏   แอบเก็บเล็กจดน้อย... คอยตาม แอบปรับนิดแต่งงาม.......... ดั่งเจ้า ข้าผิดนิดคิดทราม............... ปรามบ่อย ข้าจักค่อยไต่เต้า................. สืบท้าวเดินตาม ๚ เขียนมาอีกครับ ครั้งละสองสามบทก็ได้  เพื่อให้แม่นฉันทลักษณ์  ตำแหน่ง เอก โท เขียนจนไม่มีผิดฉันทลักษณ์และค่อยก้าวไปทีละขั้นตอน  เอาใจช่วยครับ เพื่อน ๆ ชาวอาศรมฯ ที่ว่าง  ช่วยกันต้อนรับคุณ Xers  หน่อยครับ  มีอะไรแนะนำ หรือพูดคุยก็เชิญเลย...... ........................................................................ ศาลาไทย  (18, 21) ยังไม่ได้อ่าน ๏ ๏ ๏ ลมหนาว...ม่านฟ้า...ผาสายน้ำไหล ๏ ๏ ๏  โดยละเอียด  ยังไม่มี เรื่องแกล้ง  แต่ขอเสนอหน้าออกความเห็นเรื่องภาพถ่ายฝีมือศาลาไทยหน่อย  เก่งขึ้น เยอะ  น่าจะมีพี่เลี้ยงดี   ภาพสายน้ำตกนุ่มนวลคงต้องใช้ขาตั้งกล้อง  ภาพดอกไม้ทิ้งฉาก หลังได้เด็ดขาด  ...ระวังติดถ่ายภาพมากไป จะทำให้เขียนอะไรไม่เก่งเท่าเดิม... ............................................................... บอยน์ ใบร่อน  (19) เข้าไปอ่านที่กระทู้ “พรุ่งนี้จะเป็นอีกวันที่ฉันรักเธอ” มาแล้วครับ  แต่ยังไม่ได้ลงชื่อ เยี่ยม  ขอบคุณครับที่มาทักทาย .............................................................. ปะหล่อง  (20)   เขียนโคลงกลอนได้เฉียบอยู่แล้ว แม้เพียงมาทักทายกันก็ปลื้ม...... ที่ว่าชีพจรใกล้ขาด สะบั้น ..จะขาดเอง  หรือใครช่วยทำให้ขาด... ................................................................ จำปูน (อ่างหยก)  (22) หอม หวนชวนชื่นชู้        สุขสม พัน ก่ายกายเริงรมย์         เร่าร้อน น้อย หนาวห่มเนื้อผสม      จึงอุ่น สวน ซ่านรสสวาทซ้อน      แนบเนื้อนวลละมุน เขียนโคลงกระทู้ถอยหลัง  เนื้อความติดเรทอาร์ เกือบจะ เอ๊กซ์  (คิดถึงผู้เฒ่าสามเอ๊กซ์ ขึ้นมาเลยเชียว)  แม้จะเขียนยากแต่ฝีมือดีก็จะเดินเรื่องได้ดี  มีคำคู่สัมผัสที่น่าสนใจคือ สุขสม  และ  ผสม  น่าจะลองนำมาเสวนากันเพื่อเป็นประโยชน์และเพิ่มความรู้ลึกเรื่อง ฉันทลักษณ์ให้มากขึ้นไปอีก .................................................................... เจียวต้าย  (23) สวน  สวยงามมากแม้น                 เมืองแมน น้อย  แต่ใบดอกแทน                   ม่วงแท้ พัน  พาผูกใจแขวน                      มองหม่น หอม  บ่หอมรักแม้                       อยู่พ้นมือถึง ชอบบาทสุดท้ายจังครับ “หอม  บ่หอมรักแม้          อยู่พ้นมือถึง”   บรรยายภาพได้ละเอียดดีแล้ว   ขอให้เขียนมาก ๆ เขียนเรื่อย ๆ เพื่อเพิ่มความ ชำนาญ  ยิ่งเขียนมากก็จะยิ่งเขียนได้ดังใจอยากสื่อความหมาย เรื่องของการฝึก หัดเป็นเรื่องเฉพาะตัว  ไม่ทำก็ไม่เก่ง ............................................. ภาพแอบถ่าย หน้าเรือนไม้ เกาะสีชัง  ตัวแบบใส่เสื้อสีแดง นั่งริมทะเล ดูเหงา ๆ ดี จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 24 พ.ย. 48 08:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 44 [/u]+++ อ้อมแขน +++[/u] ๏ แขนอ้ายคล้ายอ่าวโค้ง........โอบประคอง คิดชื่นชมชลสนอง.................สนิทเนื้อ นางช่างอย่างชลมอง..............เมื่อเปรียบ.....เทียบอา มาอยู่ครู่แล้วเมื้อ...................เมื่ออ้ายหมายถนอม ฯ ====================================== เอาภาพสมัย อาศรมฯสัญจร ไปเกาะสีชังมาร่วมรายการครับผม จากคุณ : วฤก (วฤก) - [ 24 พ.ย. 48 09:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 45 +++ เสียงโคลง +++ ๏ นั่งเงียบไหนเงียบได้........ดับเสียง ในโสตนาทสำเนียง............เสนาะซึ้ง ขานโคลงขับจำเรียง...........จำรด ใจอดฤๅอรรถอึ้ง................อะคร้าวคำขาน ฯ ================================= นั่งกินกาแฟยามเช้า กับชาวโคลง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : วฤก - [ 24 พ.ย. 48 10:03:50 ]

ความคิดเห็นที่ 46 จันทร์เศร้า -------------- จันทร์สวยอย่างนั้นจันทร์เพ็ญ ผ่องงามมองเห็น ยิ่งนึกยิ่งนวลยวนใจ คืนนี้จันทร์งามเผื่อใคร แสงนวลเรืองไร พร่ำเพรียกเรียกหามาชม ข้างฉันเมื่อคนตาคม เคียงราวใจรม ระรวยภายในไหวรอ คืนนี้หนังลุงพังจอ นายหนังหน้างอ MK มาล่อไม่ฟัง ประกาศกราดคำมุ่งหวัง ชัดชัดประดัง ต้องโออิชิมิรอ ฉันบอกเงินมีไม่พอ มือไม้เข้าคลอ พูดดีหลอกล่อให้ยอม วิกฤติผิดจังหวะออม รู็ทันว่าปลอม เธอชี้หน้าว่าคารม ชิชะ งกจนระทม อดอยากปากขม รักไหนจะยอมก้มหัว ฯลฯ คำเธอน่าทึ่ง น่ากลัว ฉลาดเกินตัว แววเกียรตินิยมคมคาย สำนวนหลั่งมาเป็นสาย ฉันครับครับหมาย เธอเหนื่อยที่สุดหยุดเอง ผิดคาด เธอคึกเต็มเพลง เทศนาน่าเกรง ยืดยาวราวรามเกีียรติ์ ฉันง่วงสัปโงกโยกเวียน หาวหวอดเสถียร ตั้งท่าจะหลับพับคอ เธอไว คำว่าด่าทอ "ห้ามหลับ..จงรอ" รู้ฟัง รู้ความตามจริง สุดท้ายเธอหวานพาดพิง "รักนะ" จริงจริง ที่พูดที่ว่ามายาว คู่รักมักมีเรื่องราว เป็นครั้ง เป็นคราว สุข_เศร้าเคล้าวุ่นหมุนเวียน รักกันอย่าได้แปรเปลี่ยน ทะเลาะ..จงเพียร ผ่อนหนัก ผ่อนเบาเข้าใจ. 24-11-2548-1 สวัสดียามเช้าพี่คัมภีร์และมิตรสหายทุกท่าน จากคุณ : Ar@p - [ 24 พ.ย. 48 10:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อรุณสวัสดิ์  แวะมาทักทาย มิตรสหายทุกท่าน เห็นชื่อหลาย ๆ คนแล้วชื่นใจ... คุณ xers ขยันจริง ๆ รอว่างอีกหน่อย จะแวะมาเขียนด้วยเยอะ ๆ link เกี่ยวกับฉันทลักษณ์  ถ้าว่างลองไปดูที่นี่ได้  มีร้อยกรองอื่นให้ลองเขียนอีกค่ะ http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/index.html เฮียคัมฯ - - - คุยกันเช้า ๆ ก่อนหนีไปทำงาน  ปลายปีนี่งานเยอะเหลือใจจริง ๆ หลัง ๆ ศาลาไทยเขียนงานตามแรงบันดาลใจน้อยลง  งานหนักไปทางงานที่ถูกบังคับเขียน พยายามปรับเข้าหากัน  ด้วยการเอางานถูกบังคับเขียนเดินทางไปกับตัวเองตามที่ต่าง ๆ พร้อม ๆ กับผ่อนคลายด้วยการหัดถ่ายรูปอย่างที่เอาภาพมาฝากกันครั้งหลัง ๆ เวลาไปไหน ถ่ายน้ำตก - -  คราวก่อนไป  "แจ้ซ้อน"  น้ำเยอะสวย แต่ถ่ายน้ำไม่เป็น ออกมาเหมือนน้ำป่า กลับมาเอารูปไปอวดเขา  พี่ ๆ ในแผนกพูดเป็นเสียงเดียวกัน --เสียดายน้ำ-- (แง ๆ) ไปคราวนี้เลยลองดู  เขาว่ายังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ถ่ายมือเปล่าไม่ใช้ขาตั้งได้  เท่านี้ก็ยิ้มได้ ๏ ลมหนาวผ่าวม่านฟ้า   ผาสูง ใครเล่าชวนกันจูง             ล่องน้ำ     ชมไม้ยอดยางยูง              ยืนหยัด เหมือนมิตรไมตรีค้ำ          แหล่งเกื้อกูลกัน ๚ เอารูป  "แจ้ซ้อน"  ที่ว่ามาอวดให้แกล้ง เอิ้ก ๆ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                    . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 24 พ.ย. 48 10:14:39 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ร่วมกระทู้   "นิรมิต"  ของคุณสด่ายุ  ....เพลงจากต้นโพธิ์... ๑ ลมลำน้ำลิ่วล่องคลองหน้าวัด ผะแผ่วพัดอดีตกาลนานแล้วหนา ใบโพธิ์ ซัดส่ายใบอยู่ไปมา เสียงซู่ซ่าโศกซึมดั่งพึมพำ ๒ ที่ลานโพธิ์ทึบทึมร่มครึ้มเขียว เคยไล่เลี้ยวเล่นซนอยู่จนค่ำ เล่น ตี่จับ ไม้หึ่ง เสียงอึงอำ ยังจดจำผองเพื่อนนับเดือนปี   ๓ มีอ้ายโหน่งจอมแก่นแสนทะโมน ปีนต้นโพธิ์ผาดโผนไปยืนฉี่ ปัจจุบันโปรดทราบสุภาพดี เป็นเศรษฐีค้าหมูอยู่เนิ่นนาน ๔ ส่วนอ้ายชิดทะลึ่งเล่นพิเรนคน ชอบเปิดผ้าอีฝนกับอีหวาน บวชเป็นสงฆ์เรียนธรรมชำนะมาร เป็นสมภารเจ้าวัดพัฒนา ๕ และอ้ายโต้งชอบหาปลากัดสวย ใส่อ่างใส่กระบวยงามหรูหรา กลายเป็นกลุ่มอนุรักษ์พิทักษ์ปลา เคยเห็นหน้าทาง ที.วี. ก็ดีใจ ๖ คือเพื่อนในตำนานแห่งลานโพธิ์ ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ ต่างชีวิตก็ต่างเส้นทางไป ชีวิตใคร ใครลิขิตไม่ปิดบัง ๗ ผม อ้ายใหญ่ หัวโจกจอมบงการ แต่จะเรียกอันธพาลไม่ผิดหวัง การพนัน เสพติดทำผิดพลั้ง จนคลุ้มคลั่งปล้นฆ่าหาเงินใช้ ๘ ติดตะรางเป็นประจำธรรมดา หลุดออกมาตั้งตัวทำชั่วใหม่ จะเรียกผมว่าโจร ก็เรียกไป ถึงตำรวจหน้าไหนก็ ไม่เกรง ๙ วันนี้ข่าวฆาตกรรมโจรสำคัญ วิสามัญฯ อ้ายใหญ่ คนเคยเก่ง วิญญาณผมได้พบศพตนเอง นอนฟังเพลงใบโพธิ์เพียงลำพัง ๑๐ ลมลำน้ำลิ่วล่องคลองหน้าวัด ผะแผ่วพัดชีวิต น่าผิดหวัง ใบโพธิ์ ซัดส่ายใบแกว่งไกวดัง คอยคนฝังศพอ้ายใหญ่ ไร้ญาติโยม  ฯ ....... คัมภีร์  ๒๔ พ.ย. ๔๘ ...... แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 48 11:50:52 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 24 พ.ย. 48 11:47:51 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ๏ ทอดกายหมายชื่นเช้า... เย้ายวน กายกลับกอดขอดม้วน... ยากเยื้อง หมายซึมซับนับหวน... อื่นล้ำ ชื่นรุกกล้ำจากเฟื้อง... หล่มนี้ยะเยือก๚ ตื่นเช้าแต่ส่งงานมาเที่ยงเลย กว่าจะร้อยได้ ล้ามากๆ สวัสดีตอนเที่ยงก็ไม่เข้ากะกลอน เอาเป็นว่าแต่งเช้าเสร็จเที่ยงครับ สวัสดีครับคุณ ศาลาไทย (salathai) เห็นผลงานงามๆ ทั้งภาพและกลอน สวัสดีท่าน Ar@p ที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายเมือง และท่านวฤก ขอรบกวนการสดับรับฟัง ของท่าน ขอบคุณท่านคัมภีร์ เซ่อซ่าเป็นภาระให้ติอีกครั้ง เซ่อ..... น้อมบันทึก จากคุณ : xers - [ 24 พ.ย. 48 13:19:07 A:58.10.129.139 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณ xers ครับ  เรียกผมว่า "ท่านอาร์พี" นี่  ผมคงรับไม่ได้ เนื่องจาก ผมแค่ยี่สิบห้ากว่าๆ  น่าจะหน้าอ่อนกว่าคุณด้วยซ้ำ ขอให้เรียกผมแค่ "อาร์พี" ก็พอครับ "ท่าน" นี่ ใช้กับคุณคัมภีร์  คุณวฤก คุณทิวา  คุณจอมยุทธ ฯลฯ   เพราะอายุเขาถึง แจ้งให้ทราบเพื่อมิให้เข้าใจผิด  อิ อิ ถ้าคุณเซอร์อยากเล่นกับร้อยกรองจริงๆ ก็ถือว่า มาถูกที่แล้วล่ะครับ หลักง่ายๆ ก็คือเขียนมาวางได้เลย ข้อที่อยากขอความร่วมมือก็คือ พยายามเกลาด้วยตัวเองให้ดี เสมือนว่า ทำงานชิ้นนั้น ส่งสำนักพิมพ์  เมื่อนำมาวางแล้ว เพื่อนๆ ที่พอมีเวลาก็จะช่วยดูให้และแนะนำไปตามหลักวิชาที่เรียนมาจากครู ก็คงจะช่วยให้คุณเซอร์ได้อุ่นใจขึ้นมาบ้าง ส่วนเอกสารประกอบ เช่น  สำเนาบัตรประชาชน  สำเนาทะเบียนบ้าน   ทะเบียนสมรส ฯลฯ  อันนี้เราไม่ใช้กันครับ เพราะเล็งเห็นแล้วว่า คงช่วยอะไรได้ไม่มาก สวัสดียามบ่ายครับ. อิ อิ จากคุณ : Ar@p - [ 24 พ.ย. 48 14:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ๏ หนาวกายคลายเหน็บเนื้อ.....นั่งผิง- ไฟกรุ่นไออุ่นอิง...................อาจได้ หนาวใจยากไขจริง...............ใจเหน็บ เผาผ่าวเพลิงผลาญไหม้.........ไม่พ้นกมลหนาว ฯ =================================================== สวัสดีครับ xers สมาชิกใหม่ผู้ขยันขันแข็ง โคลงที่เขียนมาโดนใจวฤกมากเลยครับ ขอนแก่นตอนเช้า ๆ อากาศหนาวเย็นมาก ไม่อยากลุกจากผ้าห่มอุ่น ๆ เลย เห็นว่า "ขอรบกวนการสดับรับฟัง" จึงขอแจ้งผลการรับฟัง นะครับ ๑) คำ: ๏ ทอดกายหมายชื่นเช้า... เย้ายวน กายกลับกอดขอดม้วน...... ยากเยื้อง หมายซึมซับนับหวน........ อื่นล้ำ ชื่นรุกกล้ำจากเฟื้อง.......... หล่มนี้ยะเยือก๚ ตำแหน่งของคำว่า "ม้วน"  .... เป็นคำสุภาพคือคำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์ ตำแหน่งของคำว่า "ล้ำ" ....... เป็นคำเอก หมายถึงคำรูปวรรณยุกต์เอก หรือคำตาย ช่วงเขียนโคลงแรก ๆ อาจยังไม่แม่นเสียง ใช้วิธีดูผังโคลงตาม #39 บ่อย ๆ นานไปจะจำได้แม่นยำขึ้นเองครับ อีกคำหนึ่ง คือคำท้ายวรรคหลังบาทสี่ "ยะเยือก" ในการเขียนโคลงเพื่อขับนั้น ใช้คำตายแบบนี้ เวลาอ่านโคลงจบ เสียงโคลงอาจสั้น ๆ กุด ๆ ไป ไม่สามารถอ่านทอดเสียงลงจบได้อย่างโหยหวน เอ๊ย! อ่อนหวานกินใจ นักโคลงบางท่านอาจใช้สร้อยคำช่วย อย่างเช่น "-ยะเยือก    ยิ่งเฮย ฯ" ซึ่งจะช่วยในการทอดเสียงลงจบได้อย่างน่าฟังขึ้น .... (ท่านว่าอย่างนั้น) อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่บังคับจริง ๆ จัง ๆ หรอกนะครับ จะจบอย่าง "ยะเยือก" ก็ได้ วฤกจำคลับคล้ายคลับคลา ว่าโคลงกระทู้ "ตู ตี เต่า ตาย" จะจบบทด้วย "อย่าไว้ใจมนุษย์ ฯ" (ตอนนี้ตำหรับตำรา ขนไปไว้ที่บางใหญ่หมด แต่ตัวเองอยู่ขอนแก่น เลยค้น เรฟเร้น ให้ไม่ได้) สหายชาวโคลง หากจะหยิบประเด็นนี้มาพูดคุยกันหน่อยก็น่าจะดีนะครับ ๒) ความ: ชอบ: บรรยายสภาพอากาศหนาวได้โดยไม่มีคำว่า "หนาว" เลย ..... วิทยายุทธสูงส่งจริง ๆ ข้าน้อยนับถือ ๆ ไม่ชอบ: (อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ หากต้องการข้อคิดเห็นเพิ่มเติม คุยกันหลังไมค์ดีกว่าครับ) จากคุณ : วฤก - [ 24 พ.ย. 48 14:37:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 หนาว... 2 ทอด... กายหมายชื่นเช้า... เย้ายวน กาย... กลับกอดขอดมวน... ยากเยื้อง หมาย... ซึมซับนับหวน... อื่นสิ่ง ชื่น... รุกกล้ำจากเฟื้อง... หล่มนี้เหน็บใจ๚ ยินดีที่รู้จักครับอาพี ครั้งหน้าจะทำดีที่สุดจะได้ไม่เปลืองกระทู้ด้วยครับ น้อมรับคำสอนท่าน วฤก แก้มาแล้วครับ ขอโทษอีกครั้ง ยังไม่เก่งครับ เปลืองอีกกระทู้ และอ่าหลังไมค์ไงครับ จากคุณ : xers - [ 24 พ.ย. 48 15:15:58 A:58.10.129.139 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีครับคุณ คัมภีร์ ** ชื่อนี้ผมไม่คุ้น  ** ก็คงไม่คุ้นจริงๆแหละเพราะเพิ่งเข้ามาร่วมแจม ได้เมื่อเร็วๆนี้เอง อย่างไรฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ๏ หนาว เหน็บเพียงห่มผ้า     หายหนาว หนาว    จิตกอดอวบขาว      อุ่นร้อน หนาว    หนี้ผ่อนยืดยาว       ดอกดก หนาว    สิ่งสุดซับซ้อน        เล่ห์ร้ายรายวัน แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 48 15:31:51 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 24 พ.ย. 48 15:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 55 สาว..โบราณนุ่งผ้า..........ซิ่นลาย น้อย...ค่าราคาขาย........จ่ายซื้อ พัน...พลูหมากรอชาย....หมายจีบ หอม..กรุ่นทุกวันมื้อ......ค่ำเช้าขจรไกล สาว...ยุคใหม่นุ่งผ้า............เอวลอย น้อย...นิดปิดบังรอย..........ร่องเว้น พัน...สายเดี่ยวปมปอย.....เหม่หมิ่น หอม...กลิ่นกายเนื้อเต้น...เร่าร้อนล่อตะโขง สวัสดี ครับ โพสยากจังแฮะ พันทิบเป็นอะไร ? มาแจม..ครับ ชอบคำแนะนำของคุณคัมภีร์ฯ และท่านอื่นๆ ในอาศรมฯ เป็นประโยชน์ครับ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 48 18:33:58 จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 24 พ.ย. 48 18:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สาว......สมัยใหม่อวดโอ้........อินเทรน น้อย.....นิดปิดพุงเอน............อวดโอ้ พัน.......ร่างรัดจัดเจน............พุงโผล่ หอม.....หึ่งผึ่งพุงโก้...............กรีดก้อยปล่อยพุงฯ บันดาลใจจาก "ลำน้ำ C" คคห. ๕๕ ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ ชะแวบ ไปล่ะ.... จากคุณ : นายทิวา - [ 24 พ.ย. 48 18:36:36 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โอว...ข้าพเจ้าอ่าน สวนน้อยพันหอม เป็น สาวน้อยพันหอม ไปเสียแล้ว ขออภัย ครับ // เลยตามเลย  แหะ แหะ ********************** เห็นสายหมอก หยอกล้อ คลอลมหนาว อ้อยอิ่งราว สาวหนุ่ม สุมรักก่อ ช่างแสนสุข คลุกเคล้า พะเน้าพะนอ รั้งรีรอ  อิงแอบ แนบกายา ทุ่งรวงทอง งามอร่าม ยามเก็บเกี่ยว ข้าวคอยเคียว พี่เก็บใจ ไว้รอท่า ใบไม้ปลิว เธอบิดพลิ้ว คำสัญญา หลั่งน้ำตา ปนไอหมอก ไยหลอกลวง สายลมหนาว ร้าวราน วิมานรัก พี่จมปลัก รักเก่า เฝ้าแหนหวง อยากจะฝาก คำหนึ่ง ถึงพุ่มพวง ไม่รักห่วง พี่บ้าง หรืออย่างไร... พยายามจะไม่ให้กลอนพาไป แต่แต่งทีไร จะออกมาในแนว “ดาวเดือนเกลื่อนฟ้าดาดาว “ ทู้กที ครับ แหะ แหะ จากคุณ : ลำน้ำ C - [ 24 พ.ย. 48 18:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ห้องรับแขก  5 /147 เอ่อ่อ่ะนะคะ  (28) แหะ แหะ  ขอบคุณที่แวะเข้ามาครับ ................................................... เหล็กขี้อ้อน (mildsteel)  (32-33) ถามใจที่เจ็บนั้น . หนาวหรือ เงียบมิตอบคงคือ ... เช่นนั้น โอสถทิพย์เธอถือ ...ได้โปรด บดโขลกเพื่อเคี่ยวคั้น ..กลั่นน้ำทิพย์สรวง รอร่วงทิพย์จากเจ้า.... .คือรัก แต้มอกที่ไห้หัก .. ..กลับฟื้น ร้อยชนร่วมชิงชัก ..พี่หมด น้องเอย รอแต่ทิพย์ชุ่มชื้น ......จากชม้อยชโลมเรียม คุณเหล็กฯ  ส่งบทโคลง “หนาว” มาจากต่างประเทศ 4 บท  ผมยกมาให้ย้อนอ่าน กันตรงนี้ 2 บท  อ่านแล้วหัวใจจะหยุดเต้น  ตรงนี้ “โอสถทิพย์เธอถือ ...ได้โปรด บดโขลกเพื่อเคี่ยวคั้น ..กลั่นน้ำทิพย์สรวง” และ “รอแต่ทิพย์ชุ่มชื้น ......จากชม้อยชโลมเรียม” แหะ แหะ สงสัยตามผมจะไม่ดี เลยอ่านเป็น “บดโขยกเพื่อเคี่ยวคั้น ..กลั่นน้ำทิพย์สรวง” คุณเหล็กฯคงเขียนกลอนอ้อนสาวตามปกติ  แต่ผมคงคิดทะลึ่งไปเอง..... ........................................... อาพี  (35, 46, 50) อ่าน  “จันทร์เศร้า”  แล้วอมยิ้มขำเนื้อความที่เขียน  อีกขำหนึ่งคือขำผู้เขียน เหมือนผู้เฒ่าให้โอวาทคู่บ่าวสาว ทั้งที่อายุปาไปถึง 25 ปีแล้ว คุณ xers คงไม่ทราบว่าอาพีกำลังรับน้องใหม่อยู่  อยู่ในอาศรมฯไปอีกสักพัก ก็จะพบผู้อาวุโสประจำพรรคอีกหลายท่าน  ส่วนอาพีถ้าจะเปรียบคงไม่พ้นเป็น เฒ่าทารก เมื่อไรจะ  “เขียนถึง” สักทีละนี่ ? ......................................................... วฤก (44 – 45, 51) ๏ หนาวกายคลายเหน็บเนื้อ.....นั่งผิง- ไฟกรุ่นไออุ่นอิง...................อาจได้ หนาวใจยากไขจริง...............ใจเหน็บ เผาผ่าวเพลิงผลาญไหม้.........ไม่พ้นกมลหนาว ฯ คุณหมอวฤกเขียนโคลงที่ใช้เป็นตัวอย่างได้ทุกบท  มือใหม่อ่านโคลงบทนี้แล้ว ลองสังเกตสัมผัสในซึ่งใช้ลักษณะเดียวกับสัมผัสในบทกลอน  สุดยอดนักกลอน ที่ใช้สัมผัสในบทโคลงก็ท่านสุนทรภู่   ขอบคุณที่ช่วยผลัดกันติวคุณ xers ให้ด้วย  จึงมอบรูปนี้เป็นการขอบคุณ แบบที่ท่านว่า ยืมดอกไม้บูชาพระ.... แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 48 19:52:11 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 24 พ.ย. 48 19:49:14 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ๏ สวน หลังบ้านดอกไม้...........ตูมบาน น้อย นิดผลิโฉมสคราญ...........ซ่อนไว้ พัน แสนหมื่นพบพาน..............ตรึงจิต หอม กลิ่นกุหลาบไซร้.............สะกดต้องมนตรา ฯ ๏ แสน โศกาพร่ำเพ้อ.............โอดครวญ ตรอม จิตซ้ำย้ำยวน................ยืดเยื้อ ตรม หมองทุกข์ระทมชวน........หายจาก ใจ หนึ่งปราศจากเชื้อ..............จุดไหม้ชนวนรัก ฯ ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลแล้วสีมันเพี้ยนๆยังงัยไม่รู้สิครับ... สวัสดีครับเฮียคัมฯ (ขออณุญาตทำตัวสนิทสนม เรียกตามพี่ศาลาไทยครับ) ขออนุญาตแจมนะครับ... มาเป็นนักเรียนคอยเลคเชอร์แบบท่านเซ่อร์อีกคนครับ... เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับพี่สดายุครับ... หวั่นไหวจริงๆ.... มือนิ่มฉีกก้ามชู                ชวนหวั่น เกรงอกชายจักช้ำ             ฉีกคล้ายปูปลา   ๚ และขออนุญาตขอมุมมองส่วนตัวจากเฮียคัมฯ อาศรมที่แล้วท่านอาร์พีชิ่งไม่ยอมเป็นอาจารย์มาทีแล้วครับ... ขอเป็นแค่เพื่อน(ผู้คอยประสิทธิประสาทวิชาให้)เท่านั้น.... ขอบคุณครับ... แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 48 21:34:50 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 48 21:32:17 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 24 พ.ย. 48 21:25:20 ]

ความคิดเห็นที่ 60 คุณคัมภีร์โบราณ ขอยืมคำว่า  หอม  มาใช้สักครั้ง ขอยืมรูป  ใบโพธิ์  ที่ถ่ายได้งดงามถูกใจนัก มาใช้สักครา ๐ เพียงผืนผ้าเหลืองส้มปลิวลมปะ ก็รู้ว่าวันพระมาอีกหน พอสิ้นเสียงสาธุ บรรลุตน ก็เหมือนป่นโมหะจนละลาย ๐ ทิวแถวท่านผู้ขอเคลื่อน/รอ/หยุด เหมือนคอยฉุดเถื่อนถ่อยให้ลอยหาย ก้าวย่างนั้นคืบเค้นความเป็นตาย อันวิญญาณทั้งหลายเทียวว่ายเวียน ๐ หน้าก้มเพียรกอปรบุญเข้าอุ่นอก ผลักวิตกโศกศัลย์ให้หันเปลี่ยน หวังเท่าหวังทางธรรมจักจำเนียร เพื่อถอนเสี้ยนวงกรรมหักทำลาย ๐ พอสิ้นเสียงสาธุบรรลุโสต ก็ปราโมทย์ซ่านไปดั่งใจหมาย คือสวรรค์ลอยล่างลงข้างกาย อุบัติ-วายด้วยจิตสัมฤทธิ์รู้ ๐ ข้าวเหลือขันหอมใส่จนใจหอม ทั้งห่อหอมแนบให้หอมใจอยู่ แถวผู้ขอลับตอนเกินย้อนดู กลับย้อนสู่ด้วยมรรคแปดหลักนั้น ๐ ชั่วเพียงบาลีก้องทำนองแว่ว จิตก็แผ้วผ่องใสสิ้นไหวหวั่น พอใบโพธิ์พลิกรับแสงวับวัน ก็วาบสั่นยอแสงเข้าแทงใจ. แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 48 09:56:36 จากคุณ : สดายุ... - [ 24 พ.ย. 48 21:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ๏ หอมหอบฟ้า         ฟุ้งหาว เย็นเยือกดาว           เด่นเร้า ไอหมอกพราว         พร่างพุ่ง ตื่นเช้าเช้า              ชื่นใจ หอมห่มหอมหอบฟ้า   ฟุ้งหาว เย็นเยือกน้ำค้างพราว   เด่นเร้า ไอหมอกห่มแสงดาว    พุ่งพร่าง ยามตื่นขึ้นเช้าเช้า        ชื่นแท้หัวใจ๚     สวัสดีทุกท่านครับ อู้มานาน วันนี้เอามาแปะนิดๆครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 24 พ.ย. 48 22:32:16 ]

ความคิดเห็นที่ 62 อ่า.... เพียงลมพัดระบัดหญ้า       โยกไกว ใจหนึ่งใจก็ไหว                หวั่นบ้าง ลมเอยฝากบอกใคร          คนหนึ่ง ใจหนึ่งใจหวั่นร้าง             ห่างเจ้าเยาวมาลย์ แหะแหะ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 48 08:29:15 จากคุณ : คนเดินดินกินข้าวแกง - [ 25 พ.ย. 48 08:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สวน ไผไผเสกไว้                          เย้ยสวรรค์ น้อย ใช่น้อยน้อยขวัญ                    ทนุเฝ้า พัน หมื่นหมื่นจาบัลย์                      หากพบ พรากนา หอม ยิ่งหอมหอมเย้า                      ยิ่งย้อมยวนใจฯ (ยิ้ม) แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 48 10:44:18 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 25 พ.ย. 48 10:35:57 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ห้องรับแขก  6 /147 ศาลาไทย  (47) ๏ ลมหนาวผ่าวม่านฟ้า        ผาสูง ใครเล่าชวนกันจูง             ล่องน้ำ     ชมไม้ยอดยางยูง              ยืนหยัด เหมือนมิตรไมตรีค้ำ          แหล่งเกื้อกูลกัน ๚ โคลงบรรยายภาพน้ำตกแจ้ซ้อนโดยศาลาไทย       เอามาให้เพื่อนที่เข้าอาศรมฯ มาใหม่ ๆ อ่าน และสังเกตดูว่า บังคับจังหวะระหว่างวรรคหน้า (5 คำ) กับวรรค หลัง (2 คำ) นุ่มนวล เสียงไม่กระโดด   คำสุดท้ายของบทโคลงนิยมเสียงสามัญและเสียงจัตวา และเป็นคำสุภาพหนึ่ง ใน 4 คำ ที่ไม่ใส่รูปวรรณยุกต์ อีกอย่างหนึ่งคือคือการแอบใช้คำส่ง-รับสัมผัสยาก ..สูง..จูง..ยูง  พวกสระ อูง หรือ สระ อีน  ถ้าเขียนโคลงได้คล่องมือดีแล้วก็ลองเล่นดู ส่วนภาพน้ำตกท่านสอนว่าจะถ่ายอย่างไรให้เห็นว่าน้ำไหล แต่โขดหิน ต้นไม้ คมชัด  ภาพนี้จัดองค์ประกอบภาพแน่นจนดูอึดอัด  รกตา และน้ำมากไป หาเรื่องตินั้นพอได้  ไปถ่ายเองก็ไม่ดีไปกว่านี้...เพราะฉะนั้น  ไม่ต้องท้า.... ............................................................. จำปูน (อ่างหยก)   (54) ๏ หนาว เหน็บเพียงห่มผ้า     หายหนาว หนาว    จิตกอดอวบขาว      อุ่นร้อน หนาว    หนี้ผ่อนยืดยาว       ดอกดก หนาว    สิ่งสุดซับซ้อน        เล่ห์ร้ายรายวัน สวัสดีครับคุณ จำปูน (อ่างหยก)  ยินดีที่ได้รู้จักครับ  การได้อ่านโคลงกลอนกัน บ่อย ๆ ก็เป็นการทำความรู้จักกันได้ดี  บางทีแค่เห็นลีลาการเขียนไม่ต้องดูชื่อก็ ทราบได้แล้วว่าผู้เขียนคือใคร โคลงกระทู้ความเดียว “หนาว” เป็นตัวอย่างที่ดี เวลาเขียนก็สนุกไปอีกแบบ นี่ก็ ใกล้วันพ่อแล้ว  เขียนโคลงกลอนวันพ่อกันก็น่าจะเข้าบรรยากาศ เชิญส่งโคลงกลอนมาลงบ่อย ๆ ครับ ................................................................ ลำน้ำ C  (55, 57) สาว...ยุคใหม่นุ่งผ้า............เอวลอย น้อย...นิดปิดบังรอย..........ร่องเว้น พัน...สายเดี่ยวปมปอย.....เหม่หมิ่น หอม...กลิ่นกายเนื้อเต้น...เร่าร้อนล่อตะโขง เลียนชื่อกระทู้ได้คมคายและสนุกดี  เขียนโคลงเก่งอยู่แล้ว ทำให้เสียดสีการ แต่งตัวของสาวรุ่นใหม่บางกลุ่มได้สะใจ แต่ว่าของที่วางโชว์เราก็ดูผ่าน ๆ เท่านั้นเอง   ส่วนของที่ปิดสนิทเราก็ไม่ดู แต่ที่วับ ๆ แวม ๆ .....ทำไม  อดใจไม่ไหว.... .................................................................... นายทิวา  (56) สาว......สมัยใหม่อวดโอ้........อินเทรน น้อย.....นิดปิดพุงเอน............อวดโอ้ พัน.......ร่างรัดจัดเจน............พุงโผล่ หอม.....หึ่งผึ่งพุงโก้...............กรีดก้อยปล่อยพุงฯ ............................นายทิวา............................... สาว......มิสาวอวดโอ้                อินเทรนด์ น้อย.....ดั่งไข่ดาวเอน                อกโอ้ พัน.......ตาหนุ่มพิเรน              โลมร่าง หอม..... หึ่งผึ่งพุงโก้                จุ่นน้อยสะดือนาง  ฯ ..............................คำผี......................... ...................................................................... ณ มิตร (59) ๏ สวน หลังบ้านดอกไม้...........ตูมบาน น้อย นิดผลิโฉมสคราญ...........ซ่อนไว้ พัน แสนหมื่นพบพาน..............ตรึงจิต หอม กลิ่นกุหลาบไซร้.............สะกดต้องมนตรา ฯ ๏ แสน โศกาพร่ำเพ้อ.............โอดครวญ ตรอม จิตซ้ำย้ำยวน................ยืดเยื้อ ตรม หมองทุกข์ระทมชวน........หายจาก ใจ หนึ่งปราศจากเชื้อ..............จุดไหม้ชนวนรัก ฯ คุณ  ณ  มิตร  ขอมุมมองส่วนตัวไว้จากโคลง 2 บทข้างบน   (1)  ผู้เขียนศึกษาและฝึกเขียนโคลงมาดี โดยดูจากฉันทลักษณ์โดยรวมและการ      ร้อยกระทู้หน้าบาทที่ถูกต้อง  ..สวนน้อยพัน “หอม”..........แสน “ตรอม”       ตรมใจ” (2) คำส่งสัมผัสทั้ง 2 บท ใช้คำสามัญทั้งหมด ......บาน-สคราญ-พาน  และ      ครวญ-ยวน-ชวน  ทำให้เสียงโคลงเรียบ ๆ ไปหน่อย  สามารถเพิ่มระดับเสียง      ได้โดย ส่งด้วยเสียงสามัญและรับด้วยเสียงสูง  หรือส่งสูงรับสามัญสลับกัน หนาวกายคลายเหน็บเนื้อ.....นั่งผิง- ไฟกรุ่นไออุ่นอิง...................อาจได้ หนาวใจยากไขจริง...............ใจเหน็บ เผาผ่าวเพลิงผลาญไหม้.........ไม่พ้นกมลหนาว ฯ    (วฤก)      ส่งสูงรับสามัญ  (ผิง – อิง) สาว..โบราณนุ่งผ้า..........ซิ่นลาย น้อย...ค่าราคาขาย........จ่ายซื้อ พัน...พลูหมากรอชาย....หมายจีบ หอม..กรุ่นทุกวันมื้อ......ค่ำเช้าขจรไกล   (ลำน้ำ  C )       ส่งสามัญรับสูง  (ลาย – ขาย) (3)  เขียนโคลงตามกระทู้ทั้งสองบท  การเชื่อมคำหน้าบาทกับคำขยายในบทโคลง     เช่น .... สวน-หลังบ้าน,   น้อย – นิด,   พัน - แสน,  หอม – กลิ่น.....เป็นการ     ผูกเชื่อมคำที่คุ้นเคยและคาดเดาได้ ทำให้ผู้อ่านประทับใจยากเพราะพอเดาได้ว่า     จะใช้คำอะไรมาต่อคำกระทู้หน้าบาท   ลองดูโคลงที่เขียนฉีกกระทู้ สวน........กระแสอำนาจร้อน........ระเริงบาป น้อย........ใหญ่กินประเทศราบ......เรียบร้อย พัน..........หมื่นร่วมแช่งสาป.........อำนาจรัฐ หอม........ศพผู้นำคล้อย.................ถ่อยถ้อยประจานตนฯ (นายทิวา)     ตัวอย่างของการผูกต่อคำที่น่าสนใจให้รสชาติ เช่น ..สวน – กระแส,  หอม – ศพ (4) การเลือกคำมาใช้  ควรดูและอ่านตัวอย่างจากคนที่เขียนโคลงเก่ง ๆ  ฝึกหัดได้โดย      การย้อนกลับไปอ่านโคลงเก่าที่เขียนผ่านมาแล้วก็เห็นคำที่เราจะปรับปรุงให้ดีขึ้น      กว่าเดิมได้   การเลือกใช้คำ  เช่น ๏ สวน หลังบ้านดอกไม้...........ตูมบาน   น้อย นิดผลิโฉมสคราญ...........ซ่อนไว้ พัน แสนหมื่นพบพาน..............ตรึงจิต หอม กลิ่นกุหลาบไซร้.............สะกดต้องมนตรา ฯ  ลองเลือกคำมาใช้ใหม่ ๏ สวน หลังบ้านดอกไม้             แอบบาน   น้อย ดอกแต่กลิ่นหาญ                ห่มฟ้า พัน เทพหมื่นพรหมมาร             หมายชื่น หอม กลิ่นกุหลาบข้าฯ                กรุ่นเคล้ากายนาง ฯ   (5) การเลือกใช้คู่โททั้ง 2 บท ...ไว้ – ไซร้,  เยื้อ – เชื้อ  ถือว่าเสียงดี  ลองเลือก         คำคู่โทตัวแรกเป็นเสียงสูง  ตัวรับ  เป็นเสียงต่ำดู  เช่น   ฟ้า – ข้า  จะช่วย        เรื่องเสียงโดยรวมของทั้งบทโคลงได้มาก  แต่ถึงอย่างไรควรเลือกเอาเนื้อ       ความดีไว้ก่อนครับ (6) โคลง 1 บท มี 30 คำ ควรใช้แต่ละคำเพื่อสื่อความหมายให้มาก อย่าใช้คำเปลือง       โดยเนื้อความยังอยู่กับที่  เช่นในบทที่ 2 เนื้อความ โอดครวญพิรี้พิไรเกินไป        ทำให้น่ารำคาญมากกว่าน่าสงสาร (แหะ แหะ ขอโทษ  ขอทำตัวเป็นหมอผ่าตัด        เจ็บหน่อย  แต่จะหายเร็ว)  เช่น        “ตรม หมองทุกข์ระทม” เป็นคำที่มีความหมายเดียวกันก็ว่าได้  ทำให้การเดิน          เรื่องไม่ไปไหน   วันนี้คุยเท่านี้ก่อนครับ  มีอะไรอยากคุยกันต่อก็ยินดี  หรือจะคุยกับท่านอื่นบ้างก็จะ ได้หลายมุมมองมากขึ้น  อย่าเพิ่งเข็ดไปก่อนก็แล้วกัน  ไม่ตีเหล็กก็ไม่ได้มีดสวย... ลองเอารูปดอกกุหลาบไปปรับในโฟโต้ชอปนิดหน่อย  ลองเปรียบเทียบดูครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 48 11:44:25 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 25 พ.ย. 48 11:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ๏ สวน หมัดซัดถูกหน้า     ตรงตรง น้อย ศอกกลับคิ้วคง        แตกแล้ว พัน เสียงเรียกให้ลง         เลิกเหอะ หอม กลิ่นเงินไม่แคล้ว      ถูกจ้างล้มมวย จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 25 พ.ย. 48 11:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เฮียคัมฯ มาเขียนอีกค่ะ  - - คราวหน้าจะพยายามถ่ายรูปน้ำให้สวย ๆ จะได้เอามาอวดได้ เอิ้ก ๆ ๏ สวน กระแสรีบทุ่มสร้าง     ตึกสูง น้อย เม็ดเงินชักจูง                 ปั่นหุ้น พัน หมื่นทักว่าฝูง                   อะไรเห่า หอม แต่คำเลียคุ้น                 อยู่ฟ้าลืมดิน ๚ เสาร์-อาทิตย์นี้  ทำงานอย่างเคย  ตั้งใจว่าจะถ่ายรูปดอกทานตะวันกับรุ่นน้องคงอด - - รอไปก่อน ศาลาไทยชอบเพลงทานตะวัน  รื้อ ๆ หาโน้ตขลุ่ยไม่เจอ - - ขัดใจ - - แง ๆ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                    . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 25 พ.ย. 48 12:27:39 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ๏ ขอบเขตโคลงปมล้ำ.........คมจิต คุณประสิทธิ์ประดิษฐ์วิทฯ.....คิดรู้ ทุกบทคู่บาทผลิต...............ปราชญ์กู่ ท่านสู่ข้ารับสู้..............ปลดเปลื้อง โศกคลาย ๚ สวัสดีครับ ท่าน จำปูน (อ่างหยก) '54 ผู้ซ่านซึ้ง ตรึงทรวง ด้วยบทกวี ท่าน ลำน้ำ C '55 ที่ซ่อนสาวน้อยไว้ในสวน ท่าทางจะคิดถึงไคร ท่าน นายทิวา '56 ผู้แอบมองสาวน้อยของ ท่าน C ท่าทางจะสวยน่าดูนะครับ ท่าน ณ มิตร '59 ผู้แฝงกายถ่ายภาพในสวน ดีใจนั่งเรียนด้วยกัน ผม "เซ่อ" ครับ มิใช่ เซอร์ มิกล้าแอบอ้างครับ ท่าน สดายุ '60 ผู้ใช้ธรรมนำทาง ท่าน โกฏิดารา '61 ที่หอบเอาไอเย็นมาแบ่งปัน ท่าน คนเดินดินกินข้าวแกง '62 ผู้เต็มไปด้วยความคะนึง ท่าน พิราบเงิน '63 ที่ลึกลับครับ ท่าน คัมภีร์ '64 ที่ไม่ต้องคอยพลิกอ่าน แต่ขับขานกล่อมเกลาให้ ครับ ท่าน ศาลาไทย (salathai) ที่ชอบถ่ายภาพแต่งโคลงเป็นอาจิณ ส่งโคลงมาให้ต้มยำ... อีกแล้วครับ ช้าตามเคย และถึงท่าน วฤก เรื่องหลังไมค์ผมเข้าไม่ได้ เพราะเป็นบัตรผ่าน ตอนนี้สมัครสมาชิกแล้วครับ แต่ต้องรออีเมลยืนยัน แล้วจะเข้าไปขอคำแนะนำนะครับ เซ่อ... น้อมบันทึก จากคุณ : xers - [ 25 พ.ย. 48 14:00:21 A:58.10.129.95 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 68 +++ ทอดกายหมายชื่น +++ ทอด....ปลาหมาชะเง้อ.......ง่านตะ- กาย.....ป่ายปัดคว่ำกะ-.......ทะร้อน หมาย...ปลาฉ่าโชกชะ-.......โลมลวก ชื่น......แฉ่สิเอ๋งสะท้อน.......สะทึกก้องร้องเสียง ฯ ================================= รับทราบครับ ทั่นเซ่อร์ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 48 14:22:57 จากคุณ : วฤก - [ 25 พ.ย. 48 14:16:08 ]

ความคิดเห็นที่ 69 +++ Easy Bye +++ สวน.....ทางทุนท่านชี้..............ชวนฟัง น้อย....จ่ายน้อยระวัง...............รัดไว้ พัน......สิ่งพร่าสินยัง...............ยั้งเถิด หอม....ดอกเบี้ยขูดใช้.............ใช่เจ้าเขาหอม ฯ ================================= มาปั่นกระทู้ และลาสหายอาศรมฯ ที่จะหายไปเป็นคนสวนอีกสองวัน วันจันทร์จะกลับมาใหม่ ครับผม แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 48 15:02:57 จากคุณ : วฤก - [ 25 พ.ย. 48 14:56:45 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ๏ วางมือคีย์บอร์ดแล้ว     หลับตา พักผ่อนเอนกายา            ซะบ้าง วันศุกร์ร่ำสุรา                 ชวนดื่ม อาทิตย์เสาร์เมาค้าง        ดวดซ้ำจำถอน จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 25 พ.ย. 48 16:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ห้องรับแขก  7 /147 สดายุ  (60) ๐ ชั่วเพียงบาลีก้องทำนองแว่ว จิตก็แผ้วผ่องใสสิ้นไหวหวั่น พอใบโพธิ์พลิกรับแสงวับวัน ก็วาบสั่นยอแสงเข้าแทงใจ. ถ้าอ่านด้วยตาก็เพียงจะได้อ่านบทกลอนบทหนึ่ง  จะชอบหรือไม่ก็แล้วแต่ใจของท่าน ถ้าอ่านด้วยใจก็จะสัมผัสบทปรัชญา ซึ่งอยู่เหนือความชอบ-ชังทั้งปวง ................................................... โกฏิดารา  (61) สงสัยว่าจะติดเรียนจนไม่ค่อยมีเวลา  แต่ฝีมือเฉียบจริง ๆ เอาบทโคลงสองแบบมาผสานกัน ชอบตรงนี้เหลือหลาย “ไอหมอกห่มแสงดาว    พุ่งพร่าง ยามตื่นขึ้นเช้าเช้า           ชื่นแท้หัวใจ” .........ถ้อยคำเรียบง่าย    ความหมายงดงาม................. .......................................................................... คนเดินดินกินข้าวแกง   (62) เพียงลมพัดระบัดหญ้า       โยกไกว ใจหนึ่งใจก็ไหว                หวั่นบ้าง ลมเอยฝากบอกใคร          คนหนึ่ง ใจหนึ่งใจหวั่นร้าง             ห่างเจ้าเยาวมาลย์       เขียนโคลงเล่นคำได้ดีจังครับ  อ่านแล้วประทับใจ  คัดไปฝากสาวน่าจะเวิร์ค (ถ้าเธออ่านโคลงเป็น   แหะ แหะ ......) ...................................................................... พิราบเงิน  (63) สวน ไผไผเสกไว้                         เย้ยสวรรค์ น้อย ใช่น้อยน้อยขวัญ                    ทะนุเฝ้า พัน หมื่นหมื่นจาบัลย์                     หากพบ พรากนา หอม ยิ่งหอมหอมเย้า                      ยิ่งย้อมยวนใจฯ พิราบเงินเป็นชาวโคลงพันธุ์แท้  ฝีมีการเขียนดี ออกไปลงสนามใหญ่ข้างนอกอาศรมฯ ได้แล้ว   จะเป็นหนังสือหรือวารสารใด ๆ ก็ขยันส่งบ่อย ๆ  และอย่าเบื่อถ้ายังไม่ได้ลง เหมือนโคลงกลบทอะไรสักอย่าง  ถ้าไม่ใช่ก็คงจะเป็นกลบทส่วนตัว  สนุกดีครับ ................................................................. มีหลายท่านวางโคลงฉีกกระทู้    อ่านแล้วตื่นเต้นดี  ว่าจะมาลีลาไหน จำปูน (อ่างหยก)       (65) ๏ สวน หมัดซัดถูกหน้า      ตรงตรง น้อย ศอกกลับคิ้วคง          แตกแล้ว พัน เสียงเรียกให้ลง          เลิกเหอะ หอม กลิ่นเงินไม่แคล้ว      ถูกจ้างล้มมวย ศาลาไทย   (66) ๏ สวน กระแสรีบทุ่มสร้าง     ตึกสูง น้อย เม็ดเงินชักจูง               ปั่นหุ้น พัน หมื่นทักว่าฝูง                อะไรเห่า หอม แต่คำเลียคุ้น                อยู่ฟ้าลืมดิน ๚ วฤก  (69) สวน.....ทางทุนท่านชี้..............ชวนฟัง น้อย....จ่ายน้อยระวัง...............รัดไว้ พัน......สิ่งพร่าสินยัง...............ยั้งเถิด หอม....ดอกเบี้ยขูดใช้.............ใช่เจ้าเขาหอม ฯ .................................................................................... xser  (67) ๏ ขอบเขตโคลงปมล้ำ.........คมจิต   (ปมล้ำ – ปม  ตกเอก คุณประสิทธิ์ประดิษฐ์วิทฯ.....คิดรู้   (วิทฯ    -  วิทย์  ?) ทุกบทคู่บาทผลิต...............ปราชญ์กู่ ท่านสู่ข้ารับสู้.....................ปลดเปลื้อง โศกคลาย ๚                                                 (ปลดเปลื้องโศกคลาย – เขียนติดกัน) ................................................................................. วฤก  (68) +++ ทอดกายหมายชื่น +++ ทอด....ปลาหมาชะเง้อ.......ง่านตะ- กาย.....ป่ายปัดคว่ำกะ-.......ทะร้อน หมาย...ปลาฉ่าโชกชะ-.......โลมลวก ชื่น......แฉ่สิเอ๋งสะท้อน.......สะทึกก้องร้องเสียง ฯ นาน ๆ จะได้อ่านโคลงอารมณ์ดีจากคุณหมอวฤก   รูปแบบก็โคลงก็ดีนัก ขอเก็บเป็นตัวอย่างไปเขียนบ้าง ...................................................................................... จำปูน (อ่างหยก)   (70) ๏ วางมือคีย์บอร์ดแล้ว      หลับตา พักผ่อนเอนกายา             ซะบ้าง วันศุกร์ร่ำสุรา                 ชวนดื่ม อาทิตย์เสาร์เมาค้าง            ดวดซ้ำจำถอน โคลงบทนี้ถูกใจใครหลายคน  บทโคลงเรียบง่ายแต่ฝีมือชั้นครู พี่(ครู)เล็ก   อิศรา   อยู่ไหนครับ     คิดถึง...... แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 48 18:55:33 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 25 พ.ย. 48 18:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 72 สุนัข....มองคนร้ายลึก.......หรือไร หมาย..สิ่งแล้วขัดใจ.........ด่า(ม้า)... ปลา....มันโปรดเหลือไป....ปันแบ่ง ทอด...ถึงจิตแท้แท่ง........รับใช้นายเฮย ขอยืมมุข ท่านวฤก '68 มาใช้บ้างและขอให้มีความสุขกับสวน แล้วอย่าลืมสวนสุข แห่งนี้นาครับ จากคุณ : xers - [ 25 พ.ย. 48 19:14:21 A:58.10.129.95 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เช้าวันที่มีหมอกเคลียดอกไม้ ทุกลมไล้ราวมีดมากรีดผิว ต้นลมแล้งระย้าช่อล้อลมปลิว เรียงเป็นทิวทักทายริมรายทาง คือว้าเหว่แห่งวันอันเหน็บหนาว บนช่วงก้าวที่ไร้ใครเคียงข้าง คิดถึงคนเคยปลอบใจบอบบาง บัดนี้ห่างเกินหวงแม้ห่วงใย น้ำค้างพรมลมพลิ้วก็หวิวหวาด จนมิอาจสะกดกลั้นความหวั่นไหว อยู่ปลายโลกโศกรุมสุมหัวใจ สะอื้นไห้ทุกคราวลมหนาวเยือน ................................................... จากคุณ : เวทย์ - [ 25 พ.ย. 48 20:59:32 A:202.28.245.51 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 ขอลาไปศึกษา อักษร ที่ตอนครูสอนแล้วไม่หมั่นก่อนนะครับ ไม่อยากส่งโคลง ขาดๆ ด้วนๆ มาระคายโสด ทุกท่าน ขอ จด จด จด ไปซุ่มโป่ง สัก สองสาม เพลา พอได้อมยิ้มจะมาใหม่ ขอรับ จากคุณ : xers - [ 25 พ.ย. 48 22:48:01 A:58.10.129.95 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ๏ คุณคัมภีร์ชมบ่อยแล้ว      ชักเขิน เรียงร่ายโคลงขาดเกิน         มั่วมั้ง เขียนตกเอกโทเพลิน          วางผิด กระชับยืดบางครั้ง              หมั่นแก้นำเสนอ   ๏ สวน นี้มิเกลียดขึ้ง           กินแหนง น้อย โกรธโทษสำแดง        สักก้อย พัน   มิตรช่วยลงแรง          สอนสั่ง หอม โหนกแก้มแดงพร้อย   ฟอดนี้ขอบคุณ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 25 พ.ย. 48 23:16:19 ]

ความคิดเห็นที่ 76 โปรยโปรยหิมะคล้อย........คลุมดิน เตลิดร่ำอารมณ์ถวิล..........ห่วงแก้ว หนาวเหน็บพี่ชาชิน...........แล้วแม่ ห่วงแม่ผิว์ลมแผ้ว.............ผ่านเนื้อจะพลอยหนาว หวนคราวคราโอบเนื้อ........นวลถนอม น้อยหนึ่งเพียงแรงออม......อุ่นใกล้ เกลี้ยงกลิ่นสุคันธ์หอม........หวนสวาท หอมบ่หายเหือดให้............สูดซึ้งซ่านทรวง โอ้ดวงดอกฟ้าแห่ง.............บางกอก รักนิรันดร์มิบอก................แม่รู้ พี่ห่างแต่เมืองนอก.............บ่มินอก ใจนา มุ่งเร่งเรียนเพียรสู้..............เพื่อจะคล้อยคืนนวล จากคุณ : เหล็กละมุน (mildsteel) - [ 26 พ.ย. 48 02:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 77 หิมะเพิ่งตกครับ ขอให้เป็นหิมะแรกของหนาวสุดท้ายเถอะ สาธุ อยากกลับบ้านเร็ว ๆ แล้ว โคลงสีชังเฮียสุดยอดมากครับ เป็นบทเดียวที่อลังการและเต็มไปด้วยลูกเล่นแพรวพราว (ภาษาผมเ้ค้าเีรียกว่า “ป๋าโคด”) รอเฮียรวมเล่มส่งซีไรต์นะครับ ทำเป็นเล่นไป ผมว่างานเฮียมีลุ้นเลยล่ะ เท่าที่พอจำได้ ผมว่ากลอน "แม่น้ำี้มีนามว่าความ....."(อะไรสักอย่างเี่นี่ย) กับโคลงวันแม่ เ้ข้าั้ั้ัขั้นงานคลาสสิคเลยครับ ฝากสวัสดีน้องศาลาไทย  เฮียจอมยุทธ  คุณ ณ มิตรมือทรัมเปต  พี่หมอวฤก  คุณพิราบเงิน  พี่รสา(ถ้าแวะมาอ่าน) รวมถึงพี ๆ้ น้อง ๆ อาศรมโคลงท่านอื่น ๆ ด้วยนะครับ (ขออภัยที่ไม่ได้ออกนามครบทุกท่าน) แฮ่ะๆ ทำตัวเป็นเจ้าบ้านเลย เผ่นก่อนดีกว่า หาเรื่อง อิอิ :) จากคุณ : เหล็กครับ (mildsteel) - [ 26 พ.ย. 48 02:43:38 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สวน - กระแสเสียดซ้ำ.........ประชา น้อย - นิดหนึ่งเงินตรา..........ขอดหุ้น พัน - ล้านรี่ระริกรา...............รับร่วม หอม - ปากหอมจัดจุ้น.........จับจ้องประเทศไทย แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 48 10:06:26 จากคุณ : mere - [ 26 พ.ย. 48 10:03:05 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สวน...ทวารโล่งตลอดไส้............ล้างสะอาด น้อย...อกน้อยใจอนาถ..............จิตแท้ พัน....ลึกหมึกยำสาด.................พิษใส่ หอม...ใหญ่ยังพ่ายแพ้...............กลิ่นร้ายเหลวไหล จากคุณ : หางดาบ - [ 26 พ.ย. 48 10:35:03 A:61.91.66.239 X: TicketID:033340 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สวน ทวารตลอดไส้           ล้างพิษ น้อย มากดีท็อกซ์คิด         แนะไว้ พัน  สูตรชีวจิต                 นำประโยชน์ หอม กรุ่นกาแฟให้            สอดล้างโล่งสบาย มาเลียนแบบคุณหางดาบครับหวังว่าคงไม่ทำให้เลอะเทอะ เปรอะกระทู้นะครับ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 26 พ.ย. 48 11:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 81 สวน..สัตว์เขาจัดโต้..................ราตรี น้อย..เถอะซาฟารี...................ซ่อนร้าย พัน..พัวประโยชน์มี..................ใครเขมือบ หอม..แห่งเงินตราคล้าย............ครอบพื้นไผทสยาม จากคุณ : เวทย์ - [ 26 พ.ย. 48 13:15:02 A:58.147.88.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 82 สวัสดีทุกท่าน แอบเข้ามาเซฟ จด จด... แว๊บ แล้วจะมาใหม่ขอรับ จากคุณ : xers - [ 26 พ.ย. 48 20:53:17 A:58.10.130.142 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ๏ สวน สนุกปั่นปลุกเร้า...........ความหลัง น้อย อัฐน้อยวัยยัง.................อุตส่าห์ได้ พัน พัวผูกผู้บัง-.....................คับเครื่อง เล่นนา หอม จุ๊บตรงแก้มไซร้.............เพื่อได้เล่นฟรี ฯ ฉีกแนวหน่อยครับ.... ส่งการบ้านใหม่เฮียคัมฯครับ... จากมุมมองเฮียนี่ผมได้ประโยชน์อีกเยอะเลยครับ... ขอบคุณมากครับ... ช่วงนี้กำลังอ่านย้อนกระทู้อาศรมเก่าๆเพื่อยัดเยียดคำสวยๆใส่ไว้ในหัวอยู่ครับ... จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 27 พ.ย. 48 09:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 84 สวน  หลังบ้านรกครึ้ม...........เป็นใจ น้อย  ดอดมาคราใด...............แดดิ้น พัน  เกี่ยวกระหวัดไว...........เมียตื่น หอม   กลิ่นเปลี่ยนแป้งสิ้น..........ว่าแล้วเมียฉงน จากคุณ : mere - [ 27 พ.ย. 48 12:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 85 **   พึ่งเข้ามาครั้งแรกในรอบหลายเดือน ครับ ขอร่วม สะบัดพู่กัน สักเจ็ดส่วน *** สวน...ความคิด สวนได้             ควรสวน น้อย...แก่ใจ หรือควร               ไป่แม้น พัน.....ดอกละลานชวน             หมองหม่น หอม...ม่วงหอมจนแค้น             ก่นฟ้า   สาปดิน แหะๆๆ  หวังว่าคงรับกระบวนท่าได้ ทุกท่านนะครับ เพราะว่า  ไม่ค่อยได้ฝึกปรือสักเท่าไร จากคุณ : หงส์ชาด (hongrimnam) - [ 27 พ.ย. 48 13:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ่า มาขาดๆหายๆ กระปริบกระปรอย ดีแท้น้อ ข้าเจ้า - - สวัสดีทุกท่านที่นับถือเด้อครับ ๏ สวน    กระแสเร่งเร้า           รีบขาย น้อย    สักหน่อยบ่ตาย        ดอกเจ้า พัน      พัวมั่ววุ่นวาย            ผลประโยชน์ หอม    กลิ่นเงินร้อนเร้า        แจกหุ้นกฟผ.   หอม   ศีลสัตย์ไซร้ค่า        เกินพัน พัน      เหตุผลอ้างอัน           กระจิดน้อย น้อย    กว่าประโยชน์ธรรม์     ประเทศอยาก สวนนอ สวน    สัตว์เสร็จเจ็ดร้อย        แจ่มหน้าเขาดินวนา๚ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 48 21:40:28 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 27 พ.ย. 48 21:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ห้องรับแขก  8 /147 Xers  (72, 74, 82) สุนัข....มองคนร้ายลึก.......หรือไร หมาย..สิ่งแล้วขัดใจ.........ด่า(ม้า)...    (คู่โทตัวแรก    ม้า) ปลา....มันโปรดเหลือไป....ปันแบ่ง ทอด...ถึงจิตแท้แท่ง........รับใช้นายเฮย  (คู่โทตัวที่สองใช้ แท่ง ไม่ได้                                                                    ต้องรับสัมผัสกับ    ม้า) คุณ  xers  ครับ  เขียนโคลงสี่สุภาพธรรมดาในเรื่องที่อยากเขียนไปก่อน โคลงกระทู้หน้าบาทต่าง ๆ  ค่อยมาเขียนทีหลัง  เพราะโคลงกระทู้จะทำให้ ควบคุมเนื้อความได้ยากกว่าโคลงธรรมดา ใกล้วันเฉลิมฯ แล้ว  ลองเขียนเรื่อง  “พ่อ”  ดูน่าจะดี   กระทู้หน้าก็คงจะเข้า เรื่องนี้พอดี   กำหนดตำแหน่ง  เอก ๗  โท ๔  ให้แม่น   สัมผัสคู่โทเป็นตำแหน่งที่สำคัญ มาก  ไม่ควรเผลอพลาด   สัมผัสระหว่างบาท หนึ่ง สอง สาม  ทำได้ดีแล้ว  (ไร  ใจ  ไป)   เขียนเสร็จแล้วอย่ารีบส่งทันที  ตรวจให้ละเอียดก่อน โดยดูตามผังโคลงที่มี เป็นตัวอย่างไว้แล้ว  อ่านมาก ๆ เขียนมาก ๆ  แล้วเขียนออกมาจากใจที่อยาก จะเขียน   .............................................................. ลุงเวทย์  (73) เช้าวันที่มีหมอกเคลียดอกไม้ ทุกลมไล้ราวมีดมากรีดผิว ต้นลมแล้งระย้าช่อล้อลมปลิว เรียงเป็นทิวทักทายริมรายทาง คือว้าเหว่แห่งวันอันเหน็บหนาว บนช่วงก้าวที่ไร้ใครเคียงข้าง คิดถึงคนเคยปลอบใจบอบบาง บัดนี้ห่างเกินหวงแม้ห่วงใย น้ำค้างพรมลมพลิ้วก็หวิวหวาด จนมิอาจสะกดกลั้นความหวั่นไหว อยู่ปลายโลกโศกรุมสุมหัวใจ สะอื้นไห้ทุกคราวลมหนาวเยือน (81) สวน..สัตว์เขาจัดโต้..................ราตรี น้อย..เถอะซาฟารี...................ซ่อนร้าย พัน..พัวประโยชน์มี..................ใครเขมือบ หอม..แห่งเงินตราคล้าย............ครอบพื้นไผทสยาม บทกลอน (73) พออ่านวรรคแรกแล้ว  คนอ่านก็จะอ่านต่อไปจนจบเพราะความ ไพเราะสละสลวย   เข้ากับบรรยากาศหนาวเย็น   การเลือกใช้คำในบทกลอนได้ อย่างนี้เป็นตัวอย่าง  หรือเป็น แบบอย่าง  ของการเขียนความรู้สึกที่เราจะอ่านได้ เสมอ  ถ้าผู้เขียนชื่อ  “เวทย์”  ...................... บทโคลง (81)  ถ้าลองอ่านดัง ๆ หรืออ่านแบบขับทำนองก็จะเพราะมาก  การโยง คำระหว่างวรรคหน้ากับวรรคหลัง ผู้เขียนได้ผูกยึดโดยการเพิ่มรับ-ส่งคำที่จะคุม จังหวะทำนองให้บทโคลงได้ชัดเจน  เช่น โต้-ตรี, รี – ร้าย, มี – เขมือบ รู้สึกเป็นเกียรติและอบอุ่นที่ลุงเวทย์มาเยี่ยมอาศรมฯ  ขอบคุณมากครับ ....................................................... จำปูน (อ่างหยก)     (75) ๏ สวน นี้มิเกลียดขึ้ง           กินแหนง น้อย โกรธโทษสำแดง        สักก้อย พัน   มิตรช่วยลงแรง          สอนสั่ง หอม โหนกแก้มแดงพร้อย   ฟอดนี้ขอบคุณ   (80) สวน ทวารตลอดไส้           ล้างพิษ น้อย มากดีท็อกซ์คิด         แนะไว้ พัน  สูตรชีวจิต                 นำประโยชน์ หอม กรุ่นกาแฟให้            สอดล้างโล่งสบาย คนเขียนที่ชำนาญก็จะเขียนได้หลากหลายและสนุกสนานอ่านไม่เบื่อ บทที่ 80 บาทที่ 3 วรรคหน้า  “พันสูตรชีวจิต”  จะแบ่งคำอ่านอย่างไร (1) พัน / สูตร / ชี / วะ / จิต   - แบบนี้คำว่า  ชี  จะตกเอก (2) พัน / สูต / -ตระ / ชี / วจิต   - แบบนี้ไม่ตกเอก (3) พัน / สู / ตะระ / ชี ว / จิต   - แบบนี้ลองแบ่งเล่นดู อาจอ่านไม่ได้ ชอบแบ่งอ่านตามจังหวะ   พัน-สูต- ตระ-ชี .....วจิต   ....................................................... เหล็กละมุน (mildsteel)  (76 – 77) โปรยโปรยหิมะคล้อย........คลุมดิน เตลิดร่ำอารมณ์ถวิล..........ห่วงแก้ว หนาวเหน็บพี่ชาชิน...........แล้วแม่ ห่วงแม่ผิว์ลมแผ้ว.............ผ่านเนื้อจะพลอยหนาว หวนคราวคราโอบเนื้อ........นวลถนอม น้อยหนึ่งเพียงแรงออม......อุ่นใกล้ เกลี้ยงกลิ่นสุคันธ์หอม........หวนสวาท หอมบ่หายเหือดให้............สูดซึ้งซ่านทรวง โอ้ดวงดอกฟ้าแห่ง.............บางกอก รักนิรันดร์มิบอก................แม่รู้ พี่ห่างแต่เมืองนอก.............บ่มินอก ใจนา มุ่งเร่งเรียนเพียรสู้..............เพื่อจะคล้อยคืนนวล โคลงประดับหิมะหนาวเย็น  แต่บอกความรู้สึกเร่าร้อนถึงคนรัก    3 บทนี้  ลองอ่าน เน้น ๆ แล้วจับความรู้สึกคนเขียนดูสิครับ คู่โท 3 คู่  แก้ว-แผ้ว,   ใกล้-ให้,     รู้-สู้    สัมผัสระหว่างบาท  เสียงเพราะทั้งหมด แม้ แต่บทที่ 3 แม้จะส่งสัมผัสด้วยคำว่า บางกอก  แต่มีตัวรับสัมผัสที่ 3  นอก ทำให้เสียง ดี ช่วยให้เสียงโคลงทั้งบทดีเป็นพิเศษ "พี่ห่างแต่เมืองนอก.............บ่มินอก ใจนา”   อ่านแล้วถูกใจการเอาคำธรรมดามาวางและเล่นคำให้ดูเท่   ภาษาคนสมัยก่อน  คำหนึ่งในหลายคำเรียกคนรักว่า  แม่   แม่เอย   ออกจะน่ารักและ ให้เกียรตินักหนา   ไม่รู้ว่าจะเป็นเฉพาะภาษาการประพันธ์หรือไม่ อยากอ่านโคลงโดยหญิงแท้  เขียนโต้คุณเหล็กฯ  ไม่รู้มีไหม ? ....................................................... มีโคลง ฉีกกระทู้ดี ๆ ที่ควรอ่านเปรียบเทียบกันหลายสำนวนครับ Mere  (78) สวน - กระแสเสียดซ้ำ.........ประชา น้อย - นิดหนึ่งเงินตรา..........ขอดหุ้น พัน - ล้านรี่ระริกรา...............รับร่วม หอม - ปากหอมจัดจุ้น.........จับจ้องประเทศไทย ชื่อ  Mere  นี่ไม่ทราบว่ามีความหมายตามการออกเสียงเหมือนคุณ  xers  หรือไม่ กำลังนึกอยู่ว่าเคยได้อ่านโคลงกลอนมาก่อนหรือยัง   ท่าทางจะเป็นคนเก่งอีกคนหนึ่ง ต้องขออ่านไปอีกสักพัก ว่าแต่ว่าโคลงบทที่ 84 สวน  หลังบ้านรกครึ้ม...........เป็นใจ น้อย  ดอดมาคราใด...............แดดิ้น (แด ? ด่วน, ดูด...) พัน  เกี่ยวกระหวัดไว...........เมียตื่น หอม   กลิ่นเปลี่ยนแป้งสิ้น..........ว่าแล้วเมียฉงน อ่านแล้วฮาดีจัง  เกิดจินตนาการขึ้นมามากมาย หางดาบ   (79) สวน...ทวารโล่งตลอดไส้............ล้างสะอาด น้อย...อกน้อยใจอนาถ..............จิตแท้ พัน....ลึกหมึกยำสาด.................พิษใส่ หอม...ใหญ่ยังพ่ายแพ้...............กลิ่นร้ายเหลวไหล เขียนได้แสบมันสะใจเหมือนใครบ้างคนในอาศรมฯที่อยู่มานาน  แต่นาน ๆ มา ใครจะลองตีความโคลงบทนี้ดูบ้าง  หรือจะให้คุณหางดาบเฉลยเอง ณ  มิตร (83) ๏ สวน สนุกปั่นปลุกเร้า...........ความหลัง น้อย อัฐน้อยวัยยัง.................อุตส่าห์ได้ พัน พัวผูกผู้บัง-.....................คับเครื่อง เล่นนา หอม จุ๊บตรงแก้มไซร้.............เพื่อได้เล่นฟรี ฯ บรรยายภาพวัยเด็กได้ดี  ใช้คำดีจริง  “น้อยอัฐ น้อยวัย”   หอมจุ๊บ เสียงได้  แต่รูปตรี หอมฟอด  ความหมายก็จะใกล้เคียงกัน ลองเปรียบเทียบดูจะเห็นว่าดีกว่ากระทู้ที่  59 จนเกือบจะเหมือนว่าเป็นคนละคนเขียน เขียนเล่าเรื่องได้แบบนี้ จากโคลงกระทู้ ต้องคนเก่งทีเดียวครับ ....................................................................... หงส์ชาด  (85) สวน...ความคิด สวนได้             ควรสวน น้อย...แก่ใจ หรือควร               ไป่แม้น พัน.....ดอกละลานชวน             หมองหม่น หอม...ม่วงหอมจนแค้น             ก่นฟ้า   สาปดิน “สวนความคิด”  คำนี้ยอดเยี่ยม    “ก่นฟ้าสาปดิน”  นิยมเขียนติดกันครับ ............................................................................ สวน    กระแสเร่งเร้า           รีบขาย น้อย    สักหน่อยบ่ตาย        ดอกเจ้า พัน      พัวมั่ววุ่นวาย            ผลประโยชน์ หอม    กลิ่นเงินร้อนเร้า        แจกหุ้นกฟผ. หอม   ศีลสัตย์ไซร้ค่า        เกินพัน พัน      เหตุผลอ้างอัน           กระจิดน้อย น้อย    กว่าประโยชน์ธรรม์     ประเทศอยาก สวนนอ สวน    สัตว์เสร็จเจ็ดร้อย        แจ่มหน้าเขาดินวนา๚ คุณโกฏิดารามาแบบโคลงส่งประกวดหรือไงครับนี่   บาทสุดท้ายวรรคหลัง นับดูแล้วคำเกิน  ลองใส่สร้อยคำดูดีไหม  หรือคำว่า  เขาดิน ก็สื่อความดีแล้ว ........................................................................ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 48 09:11:29 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 28 พ.ย. 48 09:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เขียนเล่น ๆ ก่อนไปกินข้าวเที่ยง ๏ รินรินลมเรื่อยริ้ว                  เปลี่ยนฤดู ใบร่วงรายปรายปรู                  ลับไม้ คนเคยร่วมชื่นชู                       เชยชิด แสนห่วงยามห่างไห้                พี่ร้างลืมนวล ๚ ๏ หวนคราวเคยอุ่นเนื้อ         เรียมถนอม น้อยหนึ่งผ่อนแรงยอม             หยอกแก้ว อวลกลิ่นว่าเคยหอม               คงจืด จางแฮ หอมสิหายเหือดแล้ว               ลิ่วคว้างกลางหน ๚ ๏ คำคนสามตะกร้า             ปามะกอก คำรักฤคำหลอก                    ยากรู้ ห่วงคนอยู่เมืองนอก              ฤๅมินอก ใจนา ปีผ่านเกินใดกู้                       เคลื่อนคล้อยยากคืน ๚ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                    . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 28 พ.ย. 48 12:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ๏ สวน เสียดเบียดแต่เช้า    ทำงาน น้อย รถเมล์คอยนาน          เนิ่นช้า พัน  ท่อพ่นพิษพาน           ลมใส่ หอม เหงื่อไคลพี่ป้า           นี่แหละจ้าคนเมือง จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 28 พ.ย. 48 13:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ๏ อากาศยังผิดเพี้ยน        เฉไฉ เดี๋ยวแดดฝนหนาวไป       เปลี่ยนสิ้น ปากว่ารักแล้วไฉน           สำส่อน คีมคีบปากลากลิ้น           ปลิดให้ไฟเผา   ๏ มะกอกสามตะกร้า        ปามิถูก ยามรักจูบจมูก                จรดเท้า ยามชังสิตบลูก               -ตากลับ แรกรักมักทูนเกล้า           สุดท้ายหายต๋อม คิดเองไม่ค่อยเป็น เลยขอเลียนแบบคุณศาลาไทยบ้างนะครับ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 48 14:00:30 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 28 พ.ย. 48 13:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 91 แรงลมแลแล่นล้อ-...............โลมใบ- หลิวร่วงลงราวไพร.............พฤกษสล้าง                       หวิวหวิวหวั่นหวามใน............หัวอก พราวพร่างน้ำค้างค้าง..........ยอดหญ้ายามหนาว แก้ไขเมื่อ 28 พ.ย. 48 20:26:01 จากคุณ : กวินทรากร - [ 28 พ.ย. 48 20:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 92 แวะมาอ่านค่ะ เยี่ยมๆๆๆๆๆ อลังการงานสร้างมั่กๆๆๆๆ (เปลืองไม้ยมก ซะงั้น)  ข้าน้อยขอคารวะ จากคุณ : สหายสันติ - [ 28 พ.ย. 48 21:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 93 แว่วแว่วเสียงเรียกก้อง......กังวาน ตรู๊ดตรู๊ดกระโจนทะยาน....รับว่อง คิกคักว่าอ่อนหวาน..........ขานบอก หวิววาบใจทุกห้อง...........เมื่อค้างค่าโทรฯ ร้อนรี่ตรงดิ่งทิ้ง...............งานการ เร่งรุดอย่างลนลาน..........ขัดข้อง รีบรีบควักจ่ายปาน...........ลมกรด เลยล่วงกำหนดต้อง.........อดเข้าออนไลน์ โอยพึ่งไปจ่ายมา ค้าง 2 เดือน ค่าเน็ตด้วยเกือบโดนตัดจวนเจียน -------------------------------------------------------- สวัสดีครับทุกท่าน เอาการบ้านมาส่งแบบท่าน ณ มิตร แรกๆสงสัยเสพทฤษฏีหนักไปเลียนแบบ ทำให้ต้องบังคับตัวเองที่ยังไม่แม่น ภาษา ลองเขียนเรื่อยเปื่อยตามคำแนะนำ ของท่าน คัมภีร์ รู้สึกสบายใจดี ขอรับ ย้อนไปอ่าน '66 ของท่าน ศาลาไทย รู้สึกมีกำลังใจกับเพลงทานตะวัน แอบไปอ่านมา ขอบคุณบทกวีของ ท่านจำปูน '75 ที่เปี่ยมไปด้วยกำลังใจ สวัสดีท่าน โกฏิดารา ท่าน mere ท่าน หงส์ชาด ท่านเวทย์ ท่านเหล็ก mildsteel ที่ผมพึ่งได้เจอ ขอรับ จากคุณ : xers - [ 28 พ.ย. 48 23:59:45 A:58.10.129.9 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 94 งานหนักก็ต้องพักเสียบ้าง  แวะมาทักทายกันอีกรอบ  กระทู้ใกล้ครบร้อยแล้วนะคะเฮียคัมฯ สวัสดีค่ะคุณจำปูน (อ่างหยก) - อนุญาตให้เลียนแบบได้ เอ... หรือคิดค่าลิขสิทธิ์เป็นเฝ้าอาศรมฯ ภาคใหม่ สวัสดีค่ะคุณ xers - ศาลาไทยชอบเพลงทานตะวันค่ะ คืนก่อนเมื่อไม่นานมานี้ยังฟังใครบางคนเป่าเม้าท์ออร์แกนอยู่เลย ๏ สวน ทางต่างทบถ้อย         มิถนอม น้อย นิดเพียงหนึ่งยอม          ผ่อนบ้าง พัน เกี่ยวกลับคืนตรอม          ตรมโศก หอม เมื่อวานกลายร้าง         ขื่นร้าวยาวนาน ๚ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -             . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 29 พ.ย. 48 03:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 95 สวัสดีอีกรอบครับ สวน...อักษรปลูกสร้าง       สมาคม น้อย...แต่เร้นคารม            ร่วมด้วย                 พัน...ประโยคสั่งสม           สมานจิต หอม...ยิ่งหอมตราบม้วย     หมื่นล้านเจรจา จากคุณ : สดายุ... - [ 29 พ.ย. 48 05:50:56 ]

ความคิดเห็นที่ 96 สวัสดีทุกๆท่านครับ ขอบคุณมากๆสำหรับคำติชม อย่างที่บอกคือคิดไม่ค่อยออก เลยขอลอกแบบหน่อยคงมิขัดข้องนะครับ แหม พูดเองเออเองเลยนิ ๏ ฝัน ได้พบคู่แท้         ตุนาหงัน ฝัน ว่ากอดรัดกัน          แน่นแฟ้น ฝัน จุมพิตพัวพัน          ดูดดื่ม ฝัน ไม่จบสุดแค้น         โธ่แท้เพียงฝัน  ๏ ฝัน เลขเด็ดงวดนี้     ถูกหวย ฝัน เกิดเป็นคนรวย        คับฟ้า ฝัน คนชอบเพราะสวย    ฝันบ่อย ฝัน เฟื่องเรื่องบ้าบ้า       กว่านี้ยังฝัน จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 29 พ.ย. 48 08:38:47 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ห้องรับแขก  9 /147 จำปูน(อ่างหยก)    (89 – 90, 96) ๏ สวน เสียดเบียดแต่เช้า    ทำงาน น้อย รถเมล์คอยนาน          เนิ่นช้า พัน  ท่อพ่นพิษพาน           ลมใส่ หอม เหงื่อไคลพี่ป้า           นี่แหละจ้าคนเมือง ๏ อากาศยังผิดเพี้ยน        เฉไฉ เดี๋ยวแดดฝนหนาวไป       เปลี่ยนสิ้น ปากว่ารักแล้วไฉน           สำส่อน คีมคีบปากลากลิ้น           ปลิดให้ไฟเผา   ๏ มะกอกสามตะกร้า        ปามิถูก ยามรักจูบจมูก                จรดเท้า ยามชังสิตบลูก               -ตากลับ แรกรักมักทูนเกล้า           สุดท้ายหายต๋อม ยกบทโคลงโดยคุณจำปูน(อ่างหยก)ทั้ง 3 บท มาดูตัวอย่างว่า จุดที่เรามักให้ความ สำคัญน้อยและมักจะบกพร่องอยู่เป็นประจำคือ บาทที่ 3 วรรคหลัง สองคำที่เรา มักชอบเติมสร้อยคำกันมากจนบางทีก็มากเกินความจำเป็น ความเห็นจากครูหนอนสุรา  ให้ใช้ คำ 2 คำ ที่ลงตัวทั้งความหมายและเสียงที่ สัมพันธ์กับ  5  คำจากวรรคหน้า  ถ้าไม่จำเป็นที่สุดก็ไม่ควรเติมสร้อยคำ คุณจำปูนทำได้ดีทั้งความหมายและเสียงที่ลงตัว พัน  ท่อพ่นพิษพาน           “ลมใส่” ปากว่ารักแล้วไฉน           “สำส่อน” ยามชังสิตบลูก               “-ตากลับ” ท่านเติมสร้อยคำเพื่อให้เนื้อความสมบูรณ์   เพื่อปรับเสียงให้ดีขึ้น  เพราะความ เคยชิน  หรือเพราะคิดว่าต้องใส่  ลองทบทวนดูครับ (96) ๏ ฝัน ได้พบคู่แท้         ตุนาหงัน ฝัน ว่ากอดรัดกัน          แน่นแฟ้น ฝัน จุมพิตพัวพัน          ดูดดื่ม ฝัน ไม่จบสุดแค้น         โธ่แท้เพียงฝัน ๏ ฝัน เลขเด็ดงวดนี้     ถูกหวย ฝัน เกิดเป็นคนรวย        คับฟ้า ฝัน คนชอบเพราะสวย    ฝันบ่อย ฝัน เฟื่องเรื่องบ้าบ้า       กว่านี้ยังฝัน อ่านสนุกเพราะดูท่าเขียนตอนอารมณ์ดี  คนอ่านก็สนุกตาม  ตรงใจผมและ อีกหลายท่าน  คือ “ฝัน ไม่จบสุดแค้น         โธ่แท้เพียงฝัน” ..................................................................... กวินทรากร  (91) แรงลมแลแล่นล้อ-...............โลมใบ- หลิวร่วงลงราวไพร.............พฤกษสล้าง                       หวิวหวิวหวั่นหวามใน............หัวอก พราวพร่างน้ำค้างค้าง..........ยอดหญ้ายามหนาว บทโคลงที่เขียนโดยผู้ชำนาญโดยคุณกวินทรากร  ที่ควรศึกษาพิจารณากันของ ผู้เริ่มเขียนโคลง  คือการเติมคำให้สมบูรณ์โดยไม่ใช้สร้อยคำในบาทแรก แต่มา ต่อคำ    “ใบหลิว”  ให้เต็มในบาทที่ 2 อีกคำที่มือใหม่ไม่ค่อยกล้าใช้  “น้ำค้างค้าง....ยอดหญ้า”   ซึ่งก็คือ  “น้ำค้าง..ค้าง ยอดหญ้า”    “ค้าง”  เกือบเหมือนคำชิงสัมผัส  แต่ใช้แล้วเสียงเพราะและดูเท่... .................................................................. สหายสันติ  (92) สวัสดีครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยม  คราวหน้าไม่ต้องมาเยี่ยม แต่ขอเชิญมาร่วมเขียน โคลงกลอนกัน จะได้นับว่าเป็นสหายชาวอาศรมฯ อีกท่านหนึ่ง .......................................................... xers (93) แว่วแว่วเสียงเรียกก้อง......กังวาน ตรู๊ดตรู๊ดกระโจนทะยาน....รับว่อง  (ตรู๊ด รูปตรี   ว่อง  เสียงโท  แต่รูปเอก) คิกคักว่าอ่อนหวาน..........ขานบอก หวิววาบใจทุกห้อง...........เมื่อค้างค่าโทรฯ (บทนี้   ว่อง – ห้อง  คู่โทผิด    ห้ามใช้โดยเด็ดขาด  ระวังให้มากที่สุด) ร้อนรี่ตรงดิ่งทิ้ง...............งานการ เร่งรุดอย่างลนลาน..........ขัดข้อง รีบรีบควักจ่ายปาน...........ลมกรด เลยล่วงกำหนดต้อง.........อดเข้าออนไลน์ (บทนี้ดีครับ  เดินความดี  คู่โท  ข้อง – ต้อง  ทำได้ได้ดี  ควรเขียนให้ได้อย่างนี้ครับ) .......................................................... สดายุ   (95) สวน...อักษรปลูกสร้าง       สมาคม น้อย...แต่เร้นคารม            ร่วมด้วย                 พัน...ประโยคสั่งสม           สมานจิต หอม...ยิ่งหอมตราบม้วย     หมื่นล้านเจรจา แหะ แหะ   เขียนโคลงกระทู้ไว้ 1 บท  กะใช้ตอนปิดกระทู้  ขึ้นต้นว่า   สวน..อักษร   เช่นกัน   เอาเป็นว่าขอยืมคำจากท่านชายมาใช้ 1 คำ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 29 พ.ย. 48 08:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 98 โคลงสำนวนชายจากแดนไกลโดย เหล็กละมุน (mildsteel)  ส่งฝ่าพายุหิมะ มาอาศรมชาวโคลง  และบทโคลงสำนวนหญิงโดยศาลาไทย  เขียนในลักษณะ ซ้อมมือกันสนุก ๆ  ขอเอามาวางเทียบให้อ่านกัน   หาคู่ซ้อมไว้ฝึกกระบวนโคลงก็น่าจะทำให้เขียนโคลงได้มากขึ้น  ฝีมือก็จะรุด หน้าไปโดยเร็ว   เชิญอ่านเทียบสำนวนโคลงครับ เหล็กละมุน (mildsteel)  (76) โปรยโปรยหิมะคล้อย........คลุมดิน เตลิดร่ำอารมณ์ถวิล..........ห่วงแก้ว หนาวเหน็บพี่ชาชิน...........แล้วแม่ ห่วงแม่ผิว์ลมแผ้ว.............ผ่านเนื้อจะพลอยหนาว หวนคราวคราโอบเนื้อ........นวลถนอม น้อยหนึ่งเพียงแรงออม......อุ่นใกล้ เกลี้ยงกลิ่นสุคันธ์หอม........หวนสวาท หอมบ่หายเหือดให้............สูดซึ้งซ่านทรวง โอ้ดวงดอกฟ้าแห่ง.............บางกอก รักนิรันดร์มิบอก................แม่รู้ พี่ห่างแต่เมืองนอก.............บ่มินอก ใจนา มุ่งเร่งเรียนเพียรสู้..............เพื่อจะคล้อยคืนนวล ศาลาไทย   (88) ๏ รินรินลมเรื่อยริ้ว                  เปลี่ยนฤดู ใบร่วงรายปรายปรู                  ลับไม้ คนเคยร่วมชื่นชู                      เชยชิด แสนห่วงยามห่างไห้                พี่ร้างลืมนวล ๚ ๏ หวนคราวเคยอุ่นเนื้อ         เรียมถนอม น้อยหนึ่งผ่อนแรงยอม           หยอกแก้ว อวลกลิ่นว่าเคยหอม              คงจืด จางแฮ หอมสิหายเหือดแล้ว              ลิ่วคว้างกลางหน ๚ ๏ คำคนสามตะกร้า             ปามะกอก คำรักฤคำหลอก                  ยากรู้ ห่วงคนอยู่เมืองนอก             ฤๅมินอก ใจนา ปีผ่านเกินใดกู้                     เคลื่อนคล้อยยากคืน ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 29 พ.ย. 48 08:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 99 นับถอยหลัง  ทั้งปั่นและฉีกกระทู้ ๏  สวน..นงนุชรกร้าง              ลืมดู   แลฤา                                                                       น้อย..แอ่งน้ำคลองคู               ขุ่นคล้ำ                                                           พัน..ธุ์พืชแผ่พื้นชู                   ยอดยุ่ง   หอม..กลิ่นถิ่นเถื่อนถ้ำ             ทุ่งฟ้าป่าหิน  ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 29 พ.ย. 48 09:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขอเชิญสหายชาวโคลงเปิดกระทู้ใหม่ได้แล้วครับ  ท่านที่ยังไม่เคยทำหน้าที่นี้ อยากมีประสบการณ์  หรือท่านที่เคยเฝ้ากระทู้มาแล้วแต่พอมีเวลาก็กรุณามา เปิดกระทู้ใหม่ได้เช่นกัน   สวัสดีครับ   ๏  สวน..อักษรหมื่นซึ้ง            ใจผสาน                             น้อย..ค่าเพียงเพลงขาน            แค่นร้อง                                                           พัน..ธมิตรแห่งโคลงการ         ขับกล่อม   หอม..ท่วมรักพี่น้อง                ร่วมน้ำใจเสนอ  ๚ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 29 พ.ย. 48 09:14:48 ]

ความคิดเห็นที่ 101 สวน..เกษารกครึ้ม...........หฤหรรษ์ น้อย..เรื่อยลงทุกวัน.........อกสะท้าน พัน..กลีบดอกอัญชัน.......ตะบันเด็ด..ถูทา..ถูทา..      ... หอม..กะโหลกกะลาล้าน..อย่างน้อยยังหอม สวน..ลุมฯรุมอกร้อน.........รุมอก..ฮะฮา น้อย..ก็หนึ่งในหก............สิบล้าน พัน..ทุจริตถูกยก.............โยงแผ่ หอม..หลักฐานแทบสะท้าน..สะทกสะท้อนความเหม็น สวน..อาศรมฯมากถ้อย......ทำนองเสนาะ น้อย..เรื่องการเมืองเพราะ..พี่ย้ำ พัน..อกระกำเกาะ.............ใครจะแกะ..เล่าพี่ หอม..ย่อมหอมเนื่องซ้ำ......หากเนื้อในหอม แว้บ :P --------------- แว้กกกก....เข้ามาแก้คำผิด.... เขียนคำว่า "ทุจริต" เป็น "ทุรจริต" เฮ้อ..แบบว่าคนไม่เค้ยยย..ไม่เคยย.. ปล.เว็บพันทิป เวลาแก้ข้อความ น่าจะให้มีพรีวิวนะ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 48 11:18:32 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 48 11:15:05 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 48 11:02:01 จากคุณ : mz (หมีเซอะ) - [ 29 พ.ย. 48 10:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 102 คุณ xers /๖๗ สวัสดีครับ .............................. .............................. ท่าน พิราบเงิน '63 ที่ลึกลับครับ สวัสดีครับ ยินดีที่รู้จัก (ยิ้ม) ------------------------------------------------------------------------------------------------------ ท่านคัมภีร์ฯ /๗๑ สวัสดีครับ ขอบคุณครับ สำหรับกำลังใจ เรื่องส่งงานตามหน้านิตยสาร หรือเวทีใด ๆ ก็ทำอยู่ ลงพิมพ์บ้าง ลงถังบ้าง (ยิ้ม) ช่วงนี้ ไม่ค่อยได้ส่ง เพราะไม่ค่อยมีเวลานักขอรับ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 29 พ.ย. 48 10:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ใกล้จะอำลากระทู้แล้วหรือครับ ๏ สวน จำนรรจ์จากแล้ว    หรือไร น้อย หนึ่งโคลงขานไข     รับรู้ พัน ความคิดวิไล            บรรเจิด หอม กระทู้จากผู้             ร่วมร้อยถ้อยเรียง จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 29 พ.ย. 48 13:14:30 ]

ความคิดเห็นที่ 104 สวน ทางทางหนึ่งนั้น..........ทางสวน น้อย หนึ่งน้อยกระบวน.......หนึ่งน้อย พัน จริตคิดทบทวน...........พันจริต หอม กว่าหอมพร่างพร้อย...หมื่นร้อยคำหอมฯ สวน ร่ำหอมร่ำล้อม..........ประจงสงวน น้อย หนึ่งน้องนางนวล.....แนบข้าง พัน สตรีใดไป่ชวน..........ปลื้มจริต เท่าฤๅ หอม นุชหอมบ่ร้าง..........กลิ่นเนื้ออนงค์ผสมฯ แวะมาเยี่ยมเยียนครับ เทพกร จากคลับสุนทราภรณ์ขอรับท่าน จากคุณ : เทพกร - [ 29 พ.ย. 48 13:19:32 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ขอบคุณคำติชมท่านคัมภีร์โบราณมาก อาจเป็นมือใหม่สำหรับการเข้ามาเขียนในเว็บบอร์ดนี้ แต่ก็เคยเขียนมาบ้างจากที่อื่น ๆ ครับ บางครั้งพิมพ์ผิดโดยไม่ตั้งใจ  ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ช่องที่ให้พิมพ์ในช่องความคิดเห็นทำอย่างไรให้ตัวอักษรมันใหญ่ขึ้นล่ะครับ ช่วยชี้แนะหน่อย เช่นพิมพ์ว่า แค่ดิ้น  มองเห็น เป็น แดดิ้น ยังงี้ มันก็ผิดเอกโท หน่ะครับ ช่วยด้วยอยากสนุกด้วยคนครับ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 48 14:54:39 จากคุณ : mere - [ 29 พ.ย. 48 14:51:48 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ๏ ดาษดื่นด้วยดอกไม้........ในสวน อิ่มอุ่นอันอบอวล.............มิน้อย หมู่มิตรร่ายขับขาน..........พันร้อย ร่วมเกี่ยวก้อยถักถ้อย.......กลิ่นคล้อยหวลหอม ๚ ส่งงานเก่าครับท่านคัมภีร์ เดี๋ยวงานหน้าจะเป็น กลอนพ่อครับ สวัสดีทุกท่าน ขอรับ สวัสดีท่านหมีเซอะ ยินดีที่ได้รู้จักครับท่าน พิราบเงิน จากคุณ : xers - [ 29 พ.ย. 48 15:05:21 A:58.10.129.156 X: TicketID:111674 ]

ความคิดเห็นที่ 107 กระทู้เกินร้อยไปแล้ว... ณ มิตร ขออณุญาตทุกท่านเปิดกระทู้อาศรมฯใหม่ ๏ ๏ เพียง ฟ้า จด ดิน ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3915615/W3915615.html เชิญครับ... แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 48 15:49:28 จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 29 พ.ย. 48 15:41:06 ]

ความคิดเห็นที่ 108 สักวาหอมอื่นในหมื่นสวน ไม่หอมหวนเท่ากระทู้ผู้สืบสาน พันหมื่นความคิดค้นด้นกลอนกานท์ โคลงขับขานกาพย์ฉันท์บันเทิงใจ จะเขียนมาน้อยหรือมากหลากรูปแบบ ทั้งเจ็บแสบรักหวานเกินขานไข มีผู้รู้คอยแนะแกะเกลาไป ชื่นหทัยในทุกครามาเยือนเอย จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 29 พ.ย. 48 15:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อธิษฐาน จิตใจน้องวุ่นว้า......................วกวน ด้วยพี่ห่างเสียจน....................จิตเศร้า นานเนิ่นไม่มายล....................เยือนเยี่ยม รักหากอยู่วอนเว้า...................อย่าเฝ้าห่างหาย ชายใดหมายมั่นน้อง................นวลนาง หากมิใช่พี่จักวาง.....................ห่างไว้ ดำรงมั่นมิเลือนราง.................รอพี่ ขออย่าทิ้งน้องให้......................อยู่ห้วงระทมหวัง ขอพลังแห่งรักนี้........................มิคลาย มีพี่อยู่เคียงกาย...........................มิอาจร้าง ผ่านนานใช่ทำลาย.....................มั่นอยู่ เสมอนา อาจสักครั้งจิตคว้าง....................หากใกล้คงสลาย อธิษฐานหวังพี่ได้.........................หวนคืน รักจักคงหยัดยืน............................อยู่พร้อม ขอเพียงพี่มิคิดฝืน..........................ใจอยู่ รักจักคงรายล้อม...........................จิตนี้สราญเสมอ จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 29 พ.ย. 48 19:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ร้าว โหยหาคราห่างไร้...........รักเรา เย็นเฉียบไม่บรรเทา........จิตล้า อยากกอดพี่เหมือนเรา.....ไม่ห่าง  กันเฮย แต่คงมิอาจคว้า...............ประคับไว้เคียงกาย รักที่มีมากล้น..................ถมทวี หากเทียบผิดที่มี...............ไม่ได้ เจ็บปวดยิ่งกว่าตรี..............เฉือนร่าง  กายเฮย รดหลั่งกลางจิตไซร้...........เปี่ยมล้นน้ำตา จากคุณ : กรวี - [ 29 พ.ย. 48 21:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 111 แวะมาชมปิดท้ายครับ คิดถึง จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน - [ 17 ธ.ค. 48 20:47:51 ]