CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ด้วยเหตุผลและเจตนา

    ผู้คนและรถราที่ลัดเลาะไปตามซอกซอยซึ่งทะลุระหว่างถนนสายหนึ่งสู่
    ถนนอีกสายหนึ่งของเมืองผ่านหน้าบ้านร้านค้าที่ไม่ต้องคร่ำเคร่งมากนัก
    กับวันหยุดพักผ่อนเช่นนี้ แดดที่พาดหลังคาตึกเป็นเงาทาบบนพื้นคอนกรีต
    ทำให้รู้สึกรื่นรมณ์อยู่บ้าง แต่อย่างไรไอแดดร้อนระอุก็ยังปะทะใบหน้าของ
    ชายชราที่นั่งดูการผ่านไปผ่านมาของผู้คนและรถราซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปตามสายถนน
    เขานั่งจิบน้ำชาอยู่หน้าร้านกาแฟและเม่อมองออกไปสู่ถนนขณะที่หนังสือพิมพ์ฉบับ
    วันพรุ่งนี้กางอยู่บนโต๊ะฝั่งตรงข้ามร้านกาแฟผู้คนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อกราบไหว้สิ่ง
    ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเชื่อกันว่าอยู่ในต้นโพธิ์ริมฟุตบาท บางคนซื้อนกมาปล่อยให้มันเป็นอิสระ
    หวังจะได้บุญหรือแก้เคล็ดบางอย่างของตน เสียงนกร้องระงมแข่งกับเสียง
    ไม้ในกระบอกกระทบรัวเสี่ยงทายดวงชะตาในอนาคต เสียงเหล่านั้นก็ยังไม่สามารถ
    ทำให้ชายชราผู้นี้รู้สึกรำคาญ เพราะเขาได้ยินเสียงนั้นมาเกือบ 50 ปี จึงทำให้เขาคุ้นเคย
    กับมันจนเหมือนกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว

    “เถ้าแก่กาแฟแก้วนึงครับ”
    สิ้นเสียงเด็กหนุ่มวัยฉกรรณ์เดินไปที่เตายกกาแฟรินอย่างคล่องแคล่ว แล้วนำมา
    เสริ์ฟที่โต๊ะด้านในใกล้กับชายชรานั่งอยู่
    “อ้าว ! เถ้าแก่ไม่ทำแล้วหรือครับ”
    “ขาข้าที่ค่อยดีเจ็บออด ๆ แอด ๆ เลยให้ลูกชายมันทำ ว่าแต่ว่ามาบนอะไรอีกล่ะ” ชายชราหันมาพูด
    “ก็บนให้สอบติดน่ะ ไม่รู้ว่าคราวนี้จะเป็นอย่างไร”
    “แล้วคราวนั้นล่ะสำเร็จไหม บนอะไรนะข้าจำไม่ค่อยได้”
    “อ๋อ…คราวนั้นมาบนให้น้องคราวนี้เลยมาบนให้ตัวเองบ้าง” เด็กหนุ่มตอบอย่างมั่นใจ
    “เขาประกาศผลเมื่อไหร่ล่ะ” ชายชราถามต่อ
    “พรุ่งนี้”

    ชายชราพยักหน้าแล้วหันกลับไปที่โต๊ะพลิกดูหน้าหนังสือพิมพ์ คล้ายกับว่าไม่สนใจ
    เรื่องราวของเด็กหนุ่มสักเท่าไหร่ คนที่มากราบไหว้หรือมาบนบานขอให้ตนประสบ
    ความสำเร็จน้อยคนนักจะเดินข้ามถนนมากินน้ำหรือกาแฟที่ร้านนี้ เขาก็ได้แต่นั่งมองจะกวักมือร้องเรียก
    อย่างสมัยก่อนก็ไม่ใช่เรื่องหรือจะไปวอนขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ดูจากผู้คนพอ
    จะรู้ได้ว่าแค่คนละเรื่องวันหนึ่ง ๆ ก็มีเรื่องราวมากมายอยู่ในที่ตรงนี้ เขาก็ได้แต่คิดว่าถ้า
    ไอร้อนพอจะเผาผานเรื่องราวให้น้อยลงบ้าง คงจะประสบความสำเร็จกันอยู่ไม่ใช่น้อย
    เด็กหนุ่มบอกลากับชายชราก่อนเดินออกจากร้าน ซึ่งสวนทางกับชายวัยกลางคนที่กำลัง
    ถอดหมวกและเดินเข้ามา

    “วันนี้ขายดีหน่อย” ชายวัยกลางคนพึมพรำพร้อมกับนั่งลงและสั่งกาแฟ
    ชายชรามองไปที่แผงล็อตเตอร์รี่ที่วางอยู่บนโต๊ะของชายผู้นั้นก่อนที่เขาจะพับเก็บ
    หนังสือพิมพ์และหยิบไปวางบนโต๊ะที่เด็กหนุ่มเคยนั่งอยู่ แล้วเดินออกไปหน้าร้าน
    มองไปที่ฝั่งตรงข้ามภาพนี้ช่างชินตาเขาเหลือเกินชายชรานึกถึงตอนที่เขาย้ายมา
    อยู่ใหม่ ๆ ต้นโพธิ์ต้นนี้ยังไม่มีใครมากราบไหว้ รากของมันชอนไชริมฟุตบาทจน
    ทางการต้องมาซ่อมไม่รู้กี่ครั้ง ถ้าอยู่ฝั่งนี้เขาต้องเสียเงินซ่อมเองแน่ ๆ และตั้งแต่
    มีคนมากราบไหว้ร้านกาแฟร้านนี้ก็ยังปะทังอยู่รอด รวมทั้งยังมีแม่ค้ามา
    ตั้งโต๊ะขายพวงมาลัยอีกทำให้บรรยากาศตั้งแต่วันนั้นจนทุกวันนี้ดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเยอะ
    ผ้าสีต่าง ๆ มีคนโชคดีและได้ความสำเร็จจากคำอธิษฐานมาผูกเพิ่มขึ้นทุกวันจึงดู
    ใหม่ตลอดเวลาเขายืนมองผ้าผืนเก่าผืนนั้นที่ยังผูกอยู่เหมือนเดิมตลอดระยะเวลาที่
    ร้านนี้เปิดมา

    ถ้าเขาไม่มีลูกที่จะสืบทอดร้านนี้ต่อไปเขาก็คงจะบอกผู้คนเหล่านี้ว่าเขาเองเป็น
    คนผูกผ้าให้ต้นโพธิ์ต้นนี้เป็นคนแรก เพื่อให้ที่นี่มีคนเยอะ ๆ แต่คงไม่มีใครเชื่อเขาเป็นแน ่
    เพราะสิ่งที่พวกเขาเชื่อนั้นมันฝังลึกเป็นเวลายาวนาน
    และกลายเป็นสิ่งที่พวกเขายึดมั่นเสียแล้ว ถ้าหากที่นี่ไม่มีผ้าผืนนั้นก็คงจะไม่มีผู้คน
    ไม่มีความฝัน ความหวัง ไม่มีโต๊ะขายพวงมาลัย ไม่มีเด็กหนุ่ม ไม่มีชายขายล็อตเตอร์รี่
    และคงจะไม่มีร้านกาแฟร้านนี้
    ตราบใดที่ยังมีต้นโพธิ์ต้นนี้อยู่ ครอบครัวของเขาและอีกหลายคนคงจะอยู่รอด เขาออกจะ
    ภูมิใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่ลงทุนไปแค่ผ้าผืนเล็กผืนเดียว และเขาก็ยังรู้สึกชื่นชม
    กับผู้คนที่ร่วมมาลงทุนกับเขาที่ต้นโพธิ์ต้นนี้ ถ้าหากผู้คนยัง
    ศรัทธาในความเชื่อต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่ ร้านกาแฟร้านนี้ก็คงจะอยู่รอดต่อไปและคนเร ่
    ขายของก็จะดำรงอยู่รอดต่อไปเช่นกัน นอกเสียจากที่ดินตรงนี้จะถูกเวนคืนเพื่อขยายถนน
    ต้นโพธิ์ต้นนี้ก็คงจะถูกย้ายไปปลูก
    ที่อื่นหรืออาจจะถูกโค่นลง เขาเองก็เริ่มหนักใจถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ
    วันรุ่งขึ้นเขาเปิดร้านแต่เช้าหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้มาอ่านพร้อมกับจิบน้ำชาไปพลาง
    ผู้คนยังหนาตาเหมือนเดิมที่ฝั่งตรงข้าม จนถึงเวลาบ่ายชายชราเห็นเด็กหนุ่มคนเดิมเดิน
    ถือพวงมาลัยมาหลายพวงเขาจึงเดินออกไปนอกร้านและข้ามไปฝั่งตรงข้าม
    เขาปลดผ้าผืนที่เก่าที่สุดออกพร้อมกับเหลือบมองเด็กหนุ่มก่อนที่จะข้ามฝั่งกลับไป
    ไม่มีใครรู้เลยว่าผ้าผืนนี้ผูกมานานสักเท่าไหร่และไม่รู้ด้วยว่าผูกด้วยเหตุผลอะไร
    แต่พวกเขาก็ยังยินดีกราบไหว้และขอพรต่อไปด้วยแรงศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    คำอธิษฐานมากมายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังได้ผ่านเข้ามาที่ต้นโพธิ์แห่งนี้ตลอด
    ระยะเวลาเกือบ 50 ปี และจะคงอยู่ต่อไปอีกแม้ว่าผ้าผืนนั้นจะถูกปลดออกแล้วก็ตาม.

    http://www.nokhookmai.com/write/nokhookmai/nokhookmai003.htm

    แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 48 22:04:39

    จากคุณ : นกฮูกไม้ - [ 21 พ.ย. 48 22:03:57 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป