เช้าวันอาทิตย์
-1-
เป็นเวลานานทีเดียวที่ผมไม่ได้ตื่นนอนเวลาเช้าตรู่วันอาทิตย์--
เช้าวันนี้ผมตื่นนอนเมื่อเวลาราวเจ็ดนาฬิกาครึ่ง ตื่นมาด้วยความสดชื่นแต่ไม่กระปรี้กระเปร่าสักเท่าไรนัก เนื่องจากเช้าวันหยุดนี้อากาศค่อนข้างเย็นสบายชวนให้น่าล้มตัวลงนอนสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มนวมอีกครั้ง
สายลมเย็นพัดโบกโบยกรูเล็ดลอดเข้ามาจากช่องประตูระเบียง ผมล้มตัวลงนอนพร้อมกับเมียงมองดูลำแสงแดดอ่อนๆที่เล็ดลอดผ่านเข้ามาทางช่องประตูนั้น
ลำแสงสว่างสาดส่องตัดกับความมืดสลัวภายในห้องพักจนแลเห็นความแตกต่างระหว่างพื้นที่ 'มืด' และ 'สว่าง'
ผมเห็นและรู้สึกถึงความงาม--ความกลมกลืนระหว่างสิ่งขัดแย้ง
-2-
อากาศซึ่งเย็นและแห้งอย่างนี้มักชวนให้ผมหวนระลึกนึกคิดถึงวันเก่าก่อน--
เช้าวันอาทิตย์เช่นนี้ผมมีเวลามากพอที่จะนอนคิดย้อนนึกถึงเรื่องอะไรต่อมิอะไรไปได้มากมายต่างๆนานา
- นึกถึงสมัยวัยเรียน จำได้ว่าประมาณช่วงปลายปีซึ่งเป็นฤดูหนาว ครั้งหนึ่งผมและเพื่อนๆต่างเคยหอบหิ้วสัมภาระเดินทางขึ้นภูกระดึงซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร และสภาพอากาศเย็นจัดในยามเช้าประมาณ 2 องศาเซลเซียส.
- สมัยเริ่มทำงานครั้งแรก ทุกๆวันหลังเลิกงานผมจะขับรถมอเตอร์ไซค์จากสำนักงานย่านบางลำภูไปรับเพื่อนซึ่งทำงานย่านตลิ่งชัน-ถนนสวนผักแวะกินดื่มตามอัธยาศัย..คิดถึงบรรยากาศระหว่างสองข้างทางถนนที่เต็มไปด้วยสวนผัก สวนผลไม้ และความสดชื่นจากอากาศบริสุทธิ์ สายลมหนาวเย็นสบาย โชยมาจากเถือกสวน-ท้องทุ่ง.
- คิดถึงบ้านสวน-บ้านเดิมย่านตลิ่งชัน นึกถึงบรรยากาศในยามเช้าที่มักจะได้ยินเสียงนก-กา-ไก่ขันเมื่อแรกแสงตะวันสาดส่อง และครั้นตกเย็น เสียงเหล่านี้นั้นก็จะหวนกลับมาอีกครั้ง..กลับมายังรังนอนของพวกมันเมื่อแสงตะวันใกล้สิ้นลับขอบฟ้า.
- นึกถึงหญิงสาวผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งผมได้รู้จักกับเธอในงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนในปีหนึ่งกลางเดือนพฤศจิกายนเช่นนี้ ซึ่งเราได้มีความสัมพันธ์ฉันเพื่อนต่อกันเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น..หลังจากเรียนจบและทำงานผมกับเธอก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย.
- คิดถึงพ่อ.
- คิดถึงเพื่อน.
ฯลฯ
-3-
ผมชอบบรรยากาศเช่นในวันอาทิตย์นี้--ฤดูหนาว
ชอบที่ทำให้ผมได้หวนคิดถึงวันเก่าๆ วันที่มีความสุขมากกว่าวันที่มีความทุกข์
แน่ละ ความทุกข์ต่างๆที่เคยเผชิญยังคงอยู่ ผมไม่เคยลืม..ไม่ลืมที่จะเก็บเอาไว้เป็นบทเรียนว่า ถึงวันนี้ 'เรา' ก็ผ่านพ้นเล็ดรอดมันมาได้
หากชีวิตในวันพรุ่งนี้ 'ความทุกข์' ต่างๆจะมาเยี่ยมเยือนอีกบ้างก็คงไม่หนักหนามากเกินพอที่จะรับมือ
สายวันอาทิตย์
-1-
แม้ว่าอากาศจะยังเย็นน่าซุกตัวนอนต่อเพียงใด ผมไม่กะจิตกะใจที่จะหลับต่อไปอีกได้เนื่องจากมีเสียงร้องตะโกนโหวกๆสลับกับเสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ที่วิ่งแล่นผ่านไปมาจากลานจอดและถนนเบื้องล่างที่พักอาศัย
เป็นเสียงสัญญาณของการเริ่มต้นชีวิตอีกวันหนึ่ง..
วันนี้เป็นวันหยุดของผม แต่ยังเป็นวันทำงานของใครต่อใครอีกหลายคนอยู่เหมือนกัน
-2-
สายลมเย็นพัดโบกโบยกรูเข้ามาจากช่องประตูระเบียงอีกครั้ง เหมือนสัญญาณบ่งบอกว่า 'ฤดูหนาว' กำลังเริ่มขึ้นอีกครั้ง--แม้ว่าจะมาช้าไปสักนิดสำหรับปีนี้ก็ตาม
ผมลุกขึ้นจากเตียงนอน เดินออกไปชะโงกดูภาพความงาม--สรรพชีวิตเบื้องล่าง
สักพักจึงเดินกลับเข้าห้อง เลื่อนบานประตูให้เหลือเพียงช่องระบายอากาศเล็กน้อยแล้วมุ่งตรงมายังโต๊ะทำงานเขียนข้อเขียนของสัปดาห์นี้
ด้วยความรู้สึก 'รัก' วันอาทิตย์นี้อย่างจับใจ .
ด้วยมิตรภาพ.
21 พฤศจิกายน 2548
kopkop90@hotmail.com
จากคุณ :
อานันท์-โจนาธาน
- [
21 พ.ย. 48 23:38:03
]