๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
"อ้าว..เฮ้ย..ตื่นๆๆๆๆ นี่ได้เวลานัดแร้ว เด๋วไอ้ป่องมันก็มารับที่หน้าบ้านแร้ว" เสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความง่วงเหงาหาวนอนของเพื่อนๆอีกสองคน อันประกอบไปด้วย หนึ่งหนุ่ม(ไม่แท้) และอีกหนึ่งสาว(แท้)
"โห่...ไรว้า..กี่โมงเนี่ย ตีสี่..แล้วหรอ" เสียงงัวเงียฟังไม่ได้ศัพท์ของวี ตอบมิวไป พร้อมๆกับการบิดตัวอย่างสุดแสนขี้เกียจของนังเก่ง
"นี่ๆนังเก่ง ไม่ต้องมาบิดตัวเรย ลุกเด๋วนี้ ช้านให้เวลาอีกสิบห้านาที ทุกคนต้องอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย แล้วลงไปยืนคอยพวกไอ้ป่อง นี่มันปาเข้าไปตีสามแล้วว่อย นัดกันอ่ะ ตีสามครึ่ง ไม่ใช่ตีสี่กว่าจะออกเดินทาง เด๋วก็ไปถึงสายหรอก" พูดเสร็จ มิวก็เดินเจ้ากี้เจ้าการไปลากเอาผ้าห่ม ผ้านวมต่างๆออกจากตัวของทั้งสอง ทำให้ทั้งเก่งและวี ต้องจำใจลุกขึ้นนั่ง แล้วค่อยๆเกี่ยงกันเดินไปปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จ
-----------------------------------------------------------------------
หลังจากที่ทุกคน ขึ้นรถพร้อม อันได้แก่ มิว วี เก่ง และสองหนุ่มที่มารับ คือ ป่องและอาน ซึ่งป่องมาแนะนำทีหลังว่า ความจริงอานไม่ได้จะมาด้วยตั้งแต่แรก แต่ที่ต้องไปชวนอานมาเพิ่ม เพราะว่ามั่นใจในฝีมือการขับรถของอาน และไม่แน่ใจในฝีมือการขับรถของมิว ซึ่งเป็นเจ้าของรถและเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก
"โห่...เหยียดเพศกันน่าดูนะยะ คิดหรอว่าช้านจะขับรถไม่เก่งเท่าผู้ชาย"
มิวคิดออกไปซะดังเลยแหละ แต่ก็ได้รับการปลอบประโลมกลับมาว่า ที่จริงไม่ได้เหยียดเพศเร้ยยย..แต่ว่า อยากให้นั่งไปสบายๆ หรือจะหลับไปก็ได้ เพราะเราก็เดินทางกันตอนกลางคืน จะได้ไม่ต้องอดหลับอดนอน ไปถึงโน่นตอนเช้าๆ จะได้ออกเที่ยวกันได้เลย ส่วนอานนั้นไม่ต้องห่วง เพราะอาสามาเป็นคนขับรถให้เราแค่นั้น เรื่องเที่ยวไม่ค่อยเท่าไหร่
"ถ้าคิดอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร แล้วนี่อานขับรถมานานหรือยังล่ะ" มิวยังไม่วาย ถามเพิ่มเพื่อกันพลาด
"ก็ปกติอ่ะนะ ..เราขับรถบรรทุกอยู่แล้วอ่ะ" ๐_๐ ทั้งมิว วี และเก่ง ตาโตหันมามองอานเป็นจุดเดียวกัน
"ขับรถบรรทุกเนี่ยนะ !!!" จากนั้นมิวก็หันไปหาป่อง
"นี่ ป่อง เทอคิดว่าช้านจะใช้งานหนักขนาดนั้นเลยหรอ"
"ไม่ช่าย ก็เห็นว่าเราต้องออกกันตั้งแต่มืดๆแบบนี้ ใช่ป่ะ? พวกเราไม่มีใครชำนาญทางไปจันทบุรีกันเลย แล้วก็ง่วงกันซะขนาดนี้ มีหวังได้หลับในกันแน่ๆ นี่ดีนะ ที่อานมันไม่ได้เรียนแล้วอ่ะ" ป่องมาอธิบายทีหลังว่า อานเป็นเพื่อนตั้งแต่เรียนมัธยมมาด้วยกัน พอป่องมาต่อมหาลัย อานจึงแยกไปเรียนที่อื่นซักพัก แล้วตอนนี้ก็ดรอปอยู่
การเดินทางดำเนินไปเรื่อยๆ แต่มวลหมู่ภมรและอัปสรยังไม่หยุดจ้อ เรื่องนั้นก็แล้ว เรื่องนี้ก็เข้ามาใหม่ จนรถผ่านมาได้เกือบครึ่งทางแล้ว ภายนอกรถยังคงปกคลุมไปด้วยความมืด อานไม่ค่อยคุยอะไรเท่าไหร่ อาจจะด้วยสาเหตุ เป็นเพื่อนใหม่หรืออีกอย่างอาจจะกำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถฝ่าความมืดออกไปข้างหน้า ปล่อยให้เสียงเจื้อยแจ้วเป็นของเก่ง กับวีและป่องเสียเป็นส่วนใหญ่ อ้อ..ลืมบอกไป ความจริงแล้ว วีกับป่องเนี่ย เขากิ๊กกันอยู่นะ เขาเริ่มคบกันตั้งแต่ก่อนเข้ามหาลัยแล้ว ไปเจอกันตอนสอบเข้าหรือไงเนี่ยแหละ ด้วยความที่วีเป็นคนใต้ ไม่เคยใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯเลย แล้วนี่ก็เป็นการเข้ามาอยู่กรุงเทพฯเป็นครั้งแรกด้วยตัวคนเดียวของวี ช่างบังเอิญเสียจริงๆ ที่ได้มาพานพบกับป่อง และแล้ว ป่องก็ขันอาสาเป็นผู้พิทักษ์ คอยปกป้องวีมานับแต่บัดนั้น
ส่วนมิวหรอ จริงๆแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวยทีเดียว สวยขนาดเป็นดาวมหาลัยเลยก็ว่าได้ แต่เธอไม่ได้ต้องการเข้าประกวดหรือสรรหาตำแหน่งอะไร อีกทั้งความเป็นสาวมั่นของเธอก็ได้ทำให้บทสรุปลงที่ ยังไม่มีหนุ่มไหนกล้าเข้ามาคอยเป็นผู้พิทักษ์ให้แก่มิวซักที อย่างมากก็แค่ มีจดหมายรักพร้อมเบอร์โทรมาเสียบไว้ที่หน้ารถมิวเกือบทุกวัน แค่นั้นเอง
ด้วยเหตุนี้ มิวจึงมักเป็นที่พักพิงของเพื่อนเสมอ วีย้ายออกจากหอมาอยู่บ้านมิวโดยถาวร เพราะเหตุผลข้างต้น เวลาไปไหนๆ มิวก็จะมีแต่เพื่อนๆๆๆๆๆ หอบกันไปเต็มคันรถ เพราะยังไง ทุกคนก็สบายใจ ว่า มิว โ ส ด ดดดดดด....
"เออ..เฮ้ย..เมื่อคืนชั้นฝันไม่ค่อยดีด้วยว่ะ" เสียงนังเก่งดังขึ้นมาทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ
"ฝันไรวะ ฝันเห็น:-)หรอ ฮ่าๆๆๆๆๆ" ฮากันตรึมค่ะ ด้วยเสียงเบรคของป่อง
"อีบ้า ให้มันมีมาจับจริงๆเหอะย่ะ กลัวจะไม่มีอ่ะดิ แต่นี่...ผีจริงๆนะเว้ย ชั้นฝันเห็นผีจริงๆด้วย" ท่าทางนังเก่งอยากเล่าเอามากๆ เหมือนกำลังจะเริ่มเรื่องที่ตัวเองรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
"หรอ แล้วแกฝันยังไงอ่ะเก่ง แบบว่าโดนอำหรอ เฮ้ย..บ้านชั้นไม่มีผีสิงนะเว้ย บอกไว้ก่อน แกก็เคยมานอนหลายครั้งแล้วนี่หว่า" มิวออกตัวก่อน ที่จะได้ยินเรื่องผีอำ ซึ่งขอบอกว่า เ บื่ อ ค่ะ
"ไม่ใช่ ไม่ได้โดนอำย่ะ ฝันแบบน่ากลัวมากเลย ในฝันอ่ะ เหมือนชั้นเดินอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วชั้นก็เห็นคนข้างหน้า ชั้นเลยรีบที่จะเดินเข้าไปหาเขา" เก่งหยุดช่วงเพื่อพักกลืนน้ำลายอึกใหญ่
"แต่ชั้นเดินยังไงก็เหมือนเขาห่างออกไปเท่าเดิม ไม่เห็นใกล้เข้าไปเลย จนชั้นเหนื่อยอ่ะ ชั้นเลยลองเรียกเขาดู เออ..แล้วเหมือนเขาได้ยินนะ เขาก็หยุดว่ะ ชั้นเลยเดินเข้าไปได้ใกล้เขามากขึ้น แต่เขาก็ยังไม่หันหน้ามานะ"
"หรอ แล้วไงๆ" วีกับมิว ซักต่อด้วยความสงสัยใคร่อยากรู้
"พอชั้นไปยืนข้างหลังเขาแบบใกล้ๆแล้วนะ ชั้นก็เรียกเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาค่อยๆหันหน้ามาหาชั้นทีละน้อยๆอ่ะ แต่ว่า...แต่..."
คราวนี้ นังเก่งยกมือยกไม้ขึ้นมาปิดใบหน้าพร้อมกับสั่นหัวไปมา ทำท่าเหมือนไม่อยากจะคิดถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งได้ประสบมา ทำเอาคนทั้งรถพลอยหมั่นไส้ไปตามๆกัน ป่องทนไม่ได้ จึงบรรจงตบกะบาลไปหนึ่งที นั่นแหละ นังเก่งถึงได้ยอมเอามือออกจากปาก แล้วเริ่มเล่าต่อ
"ก็เขาหันมาน่ะใช่ แต่เขาหันมาแต่หัวอ่ะดิ ตัวเขาไม่ได้หันมาด้วย แล้วหนำซ้ำนะ ชั้นยังจำหน้าเขาได้รางๆด้วย หน้าเขาเหมือนลุงที่มาเช่าบ้านชั้นอยู่เลย แกเพิ่งตายไปอ่ะ ที่แกโดนโจรลวงไปฆ่าปาดคอ เพื่อจะเอารถแท๊กซี่กับเงินไง จำได้ป่ะ???" พูดจบ เก่งก็หันไปหามิว ซึ่งรู้เรื่องบ้านเช่าของเก่งดีมากกว่าคนอื่นๆ เพราะเคยไปบ้านเก่งมาหลายครั้งแล้ว
"เออๆ ใช่ๆ จำได้ ชั้นรู้ข่าวนิดหน่อยเอง ไม่นึกว่าจะเป็นลุงคนเดียวกะที่อยู่บ้านเช่าของแก โห..แย่ว่ะ อย่างงี้เขาก็คิดถึงแกแย่เลยดิ มิน่า ถึงได้มาหาแกก่อนเนี่ยไงเก่ง แล้วแกจะทำไงวะ อย่างนี้เขาเรียกว่า ผีมีความกังวลนะเว่ย" มิวต่อให้ซะยาว ตอนนี้ เก่งไม่ตลกซะแล้ว นั่งทำหน้าวิตกจริตอย่างหนัก
จากนั้น ทั้งวี ทั้งป่อง และมิว ต่างก็เสนอแนวความคิดต่างๆนาๆ ให้กับเก่ง เกี่ยวกับการแก้เคล็ด แถมยังเพิ่มเรื่องสยองอื่นๆตามมาสมทบอีก เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและสพรึงกลัวอย่างที่เก่งควรจะได้รับ แต่หารู้ไม่ ว่าคนทั้งห้านั่นแหละ ที่ได้รับพร้อมๆกัน แต่ทุกคนไม่มีใครกล้าแสดงออกได้เท่ากับเก่ง เพราะเก่งเป็นเจ้าของเรื่อง แต่คนอื่นๆเป็นคนปลอบ เพราะฉะนั้นคนปลอบ ไม่มีสิทธิกลัว เอ๊ะ..ใครตั้งกฏนี่วะ??
ก่อนที่เรื่องจะลุกลามไปกันใหญ่ อานซึ่งนั่งเงียบมานานจึงได้เอื้อนเอ่ยออกมาคำหนึ่ง
"เอ่อ..เราว่านะ .. เวลาเดินทางกันตอนกลางคืนเนี่ย เขาไม่ให้พูดกันถึงเรื่องผีๆนะ มันไม่ดีอ่ะ"
.......เงียบ..... ทุกคนหันมองหน้ากันไปมา สักสามสิบแปดจุดแปดวินาที มิวก็ทนไม่ได้ โพล่งขึ้นมาก่อน
"แล้วมันจะเป็นยังไงหรอ อาน เล่าให้ฟังมั่งดิ อยากรู้ๆ"
"มันก็ไม่เป็นยังไงหรอก ถ้าบังเอิญเราไม่ไปลบหลู่ หรือพูดจาไม่ดีกับสิ่งที่มองไม่เห็นน่ะ"
"โห..อธิบายได้ชัดเจนมากเลยนะ แล้วนี่เราไปลบหลู่อะไรใครหรือยังวะ ป่อง แกได้ยินชั้นลบหลู่อะไรใครหรือป่าววะ" มิวหันไปหาพรรคพวกต่อ
"ชั้นว่านะ เราอย่าพูดถึงมันอีกเลยดีกว่าว่ะ รู้สึกหนาวๆยังไงไม่รู้แล้วอ่ะ นี่ถ้าอานไม่บอกก็ไม่รู้สึกอ่ะนะ แต่พออานบอก เริ่มรู้สึกเลยอ่ะ ไม่เอาแล้ว ชั้นนอนดีกว่า" ว่าแล้ว วีก็ทำท่าจะหลับตา เอนหัวพิงพนักข้างหลัง เนื่องจากวีเป็นสาวร่างเล็ก จึงสะดวกสบายเวลาจะนั่งหรือจะนอน
ส่วนเก่ง ป่อง และมิว ต่างมองหน้ากันไปมา อยู่พักหนึ่ง ป่องซึ่งนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับนั้น หันหน้าเข้ามาด้านเบาะหลังตั้งนานแล้วล่ะ ตั้งแต่เริ่มเรื่องเล่าๆกันนั่นแหละ และขณะนี้ ทำท่าเหมือนยอมรับโดยดุษฏี ค่อยๆหันหน้ากลับไปนั่งหน้าตรง ตามองออกไปนอกถนนตามทางอย่างที่ควรจะเป็น จากนั้น ความเงียบ(จริงๆ) จึงได้ก่อตัวขึ้นอีกสักพัก
ผ่านไปอึดใจหนึ่ง ท่าทางป่องจะรู้สึกว่าเงียบผิดปกติ จึงควานหาเทปมาใส่วิทยุ แล้วเปิดเบาๆเพื่อทำลายความเงียบที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างน่ากลัว เสียงเพลงรักค่อยๆบรรเลงขึ้นอย่างแผ่วเบา ฟังแล้วกลับทำให้บรรยากาศเงียบเหงาเข้าไปอีก ทุกคนจึงหันมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพด้านนอกตอนนี้ รายล้อมไปด้วยภูเขาลูกใหญ่ๆแล้ว แต่ความมืดก็ยังคงแผ่คลุมไปทั่วบริเวณ
แล้วทันใดนั้น..สายตาทุกคู่ก็ต้องเพ่งมองออกไปสู่จุดเดียวกัน
"....เฮ้ยยย..!!!..."
เสียงของทุกคนประสานกันได้แค่นั้นเอง จากนั้น ทุกคนก็ได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจของกันและกันดังต่อมาเป็นระยะๆ ความเงียบครั้งนี้ เงียบลึก และรอคอยมากกว่าครั้งไหนๆ เหงื่อเม็ดบางๆซึมมาตามไรผมของเก่ง สายตาของแต่ละคนเบิ่งโตและเลิ่กลั่ก แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดอะไรออกมา
--------------------------------------------------------------------
จากคุณ :
mmlovekkcute
- [
23 พ.ย. 48 13:42:55
A:58.11.64.3 X:
]